ซู หลิงหยุน (แม่ถังซิ่ว)

เฉิง เยี่ยนหนาน( ผญ ที่ปกป้อง ถัง ซิ่ว ในห้องเรียน)

หยวน ชูหลิง(ไออ้วนเพื่อนสนิท)

หยวนเจิ้งซวน(พ่อไออ้วน)

เซ่าจิง(แม่ไออ้วน)

โอหยางไฮ่เฟิง(ไอเครา)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เหมือนกับที่ถังซิ่วได้คาดไว้,โต๊ะของเขาถูกล้อมรอบด้วยนักเรียนคนอื่นๆหลังเลิกเรียนพวกเขากำลังแสดงความขอบคุณและอยากรู้ว่าเขามีความแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไงบางคนถามเกี่ยวกับรายละเอียดของอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว

ด้วยความพยายามอย่างมากถังซิ่วได้ใช้เวลาพอสมควรในการให้นักเรียนที่ชอบสงสัยพวกนี้กลับไป

“ถังซิ่วนายคิดว่าแก๊งของโอหยางไฮ่เฟิงจะมาหาพวกเราและแก้แค้นในโรงเรียนหรือไม่?”

เฉิงเยี่ยนหนานที่นั่งอยู่ข้างหน้าหันกลับมาและถามเบาๆเมื่อไม่มีใครอยู่ที่โต๊ะของเขา

“หลังจากผ่านเหตุการณ์วันนี้,ฉันคิดว่าทั้งตำรวจและโรงเรียนจะเพิ่มความปลอดภัยแก๊งพวกนี้ไม่น่าจะกล้ามาโรงเรียน ”

ถังซิ่วคิดครู่หนึ่งก่อนทที่จะตอบด้วยท่าทางจริงจัง

“ขอบคุณ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเฉิงเยี่ยนหนานดูเหมือนว่าจะโล่งใจมาก

ถังซิ่วได้แต่จะตะลึงในขณะที่เขาเห็นแสดงออกของเฉิงเยี่ยนหนานที่แสดงออกอย่างแตกต่างของจากตัวตนของเธอเป็นอย่างมาก

แต่ถังซิ่วคิดได้อย่างรวดเร็วว่าเฉิงเยี่ยนหนานนั้นก็เป็นเด็กหญิงอายุต่ำกว่า18ปีเท่านั้น

เธอเพิ่งผ่านการถูกลักพาตัวโดยฆาตกรและเกือบจะเสียชีวิต ถ้าเกิดเป็นคนอื่นพวกเขาอาจจะสูญเสียวิญญาณของเขาไปแล้ว

เมื่อถังซิ่วคิดถึงเรื่องนี้เขาก็มองไปที่หยวนชูหลิงซึ่งได้ร่วมโต๊ะกับเขา,เขานั้นแตกต่างจากตัวตนปกติของเขาและเงียบมากเขายังไม่ค่อยพูดตอนที่ตำรวจกำลังสอบถามข้อมูลและท่าทางของเขาซีดเป็นอย่างมากและเหม่อลอยในตอนนี้

“เจ้าอ้วน,นายสบายดีไหม ?”

ถังซิ่วผลักแขนหยวนชูหลิงขณะที่เขาถามเขาด้วยความกังวล

“ฉัน … ฉัน … ฉันสบายดี … ”

หลังจากได้สะดุ้งตื่นขึ้นอย่างกะทันหันร่างของเขาสั่นขณะที่มองไปรอบๆด้วยท่าทางที่ว่างเปล่า,ตระหนักว่าเขากำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนเขารีบส่ายหัว

“ไม่เป็นไรงั้นหรอ?เสื้อกั๊กของนายเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ”

เมื่อมองจากปฏิกิริยาของหยวนชูหลิง,ถังซิ่วกลั่นกรองคำพูดของเขาและพูดเบาๆว่า

“เจ้าอ้วน,ทุกสิ่งทุกอย่างได้ผ่านไปแล้วเราก็ปลอดภัยแล้ว”

“พี่,บอกฉันหน่อยสิ มันยากขนาดนี้เลยหรอที่จะเห็นคนตาย?เมื่อชายคนหนึ่งตายแล้วความจริงที่ว่าวิญญาณของเขาหายไปจริงๆหรือไม่ ”

หยวนชูหลิงถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้อง

“เฮ้อ,ฉันไม่รู้หรอกทำไมไม่กระโดดหน้าต่างและลองด้วยตัวเอง? ”

ถังซิ่วเอนหัวและคิดชั่วครู่หนึ่งและเขาก็แนะนำด้วยท่าทางที่จริงจังมาก

“นาย … ไปลงนรกซะ, เย็*มึงสิ !”

หยวนชูหลิงเห็นได้ชัดว่ายังไม่ฟื้นตัวจากความกลัวของเขา,เขาอยู่ในความงุนงงเป็นเวลานานและหลังจากถังซิ่วล้อเลียนเขา,เขาก็ปล่อยหมัดไปที่ถังซิ่ว

“ไม่มีทาง,ฉันจะไม่อยากรู้คำตอบของปัญหาที่ลึกลับแบบนั้นหรอก?ดังนั้นฉันจะมอบงานที่มีเกียรตินี้ให้กับนาย มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนายนะ,จริงๆ ”

ถังซิ่วหยุดกำปั้นของหยวนชูหลิงขณะที่เขายิ้มและทำให้เขาสนุก

“พี่,ฉันเคยคิดว่าฉันนั้นแข็งแกร่งมากฉันมีทั้งความแข็งแรงและความกล้าหาญฉันคิดว่าวันหนึ่งฉันจะเป็นพระเอกที่ยิ่งใหญ่แต่เมื่อนักคนนั้นใช้เฉิงเยี่ยนหนานเพื่อขวางโต๊ะของฉันและฉันก็ไม่มีทางที่จะหยุดหรือเปลี่ยนทิศทางได้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีประโยชน์จริงๆ ”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเลงคนนั้นแทงกริชของเขาที่ฉัน ไม่มีทางที่นายจะสามารถรู้ว่าฉันหมดหวังในเวลานั้นแค่ไหน ”

“…”

หลังจากที่ถังซิ่วล้อเลียนเขาไม่กี่ครั้ง,หยวนชูหลิงก็ค่อยๆเปิดใจขณะที่เขาโยนสิ่งที่อยู่ลึกในใจของเขาออกมา

ถังซิ่วรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าหยวนชูหลิงหลุดออกมาจากบาดแผลทางจิตใจอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ถังซิ่วไม่ทราบว่าเฉิงเยี่ยนหนานผู้ที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้แอบฟังบทสนทนาของพวกเขาแม้ว่าเธอจะไม่หันกลับมา

เมื่อได้ยินการกลั่นแกล้งที่เขาทำกับหยวนชูหลิงไหล่ที่บอบบางของเธอก็สั่นสะเทือนเธอแทบจะระเบิดเสียงหัวเราะสักสองสามครั้งออกมาแต่เนื่องจากยังคงอยู่ระหว่างชั้นเรียนเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับการหัวเราะของเธอ

แม้ว่าฮั่นชิงหวูใช้เวลา45นาทีในการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาแก่นักเรียนทุกคนและความกลัวของทุกคนส่วนใหญ่ก็หายไปแล้วแต่นักเรียนหลายคนยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอย

เหตุการณ์จับตัวประกันในวันนี้กลายเป็นหัวข้ออันดับหนึ่งที่โรงเรียนในวันนี้โดยเฉพาะถังซิ่ว,เฉิงเยี่ยนหนานและหยวนชูหลิงเป็นจุดเน้นของการพูดคุยเหล่านั้น

ผ่านไปวันหนึ่งโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น,การพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นค่อยๆลงลงภายใต้การกระทำโดยเจตนาของเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน คนในอาคารที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้เคียงโรงเรียนได้วางกล้องส่องทางไกลของเขาลงอย่างเงียบๆขณะที่จิตสังหารของเขาถูกปล่อยออกมาทางสายตาของเขา

“ตำรวจบอกว่าพี่ชายคนที่สามถูกสังหารโดยนักเรียนที่ชื่อถังซิ่วแต่ฉันนึกได้อย่างนึงว่าเรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล? ไม่มีทางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถรู้เรื่องการจับกุมและวางกับดักของเราได้ ”

ชายวัยกลางคนใส่แว่นตาไร้กรอบในหมู่พวกเขาถือภาพถังซิ่วในขณะที่เขามองดูซ้ำๆอีกหลายครั้งเขาขว้างมันทิ้งไปเขาพูดด้วยความรู้สึกสับสน

“เรารู้ว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพี่ชายสามอาจจะไม่มากที่สุดในหมู่พวกเราทุกคนแต่พลังของเขามีมากที่สุดทำไมเขาถึงถูกคว่ำลงโดยเด็กนักเรียนชั้นมัธยมที่อ่อนแอเช่นนี้? ”

วันรุ่นที่มีเสื้อลายเชอร์รี่แอปเปิ้ลก็พูดด้วยความรู้สึกงงงวยเหมือนกัน

“นายรอสักหน่อยฉันได้รวบรวมข้อมูลทั้งสามคนนั่นและข้อมูลครอบครัวแล้วมันกำลังจะได้แล้ว”

คนที่แว่นตาไร้กรอบได้พูดอย่างมั่นใจพร้อมกับเสียงที่พิมพ์คีย์บอร์ด

“พี่ชายสามตายแล้วเราต้องแก้แค้นให้เขาไม่ว่าใครก็ตามที่ฆ่าเขาไอเวรนั้นจะต้องโดนฆ่าตั้งแต่ตำรวจได้จงใจเปิดเผยความตายของพี่สามไปยังสื่อข่าวแล้วพวกเขาก็ต้องวางกับดักที่โรงเรียนเราจะทำตรงกันข้ามกับความคิดของพวกเขาและไม่ทำนักเรียนของโรงเรียนนั่น ”

“ตำรวจโง่เหล่านั้นไม่รู้ว่ามีหนอนอยู่ในพวกมัน,ฉันสามารถบอกได้ว่าขณะนี้พวกมันกำลังรอให้เราเดินเข้าไปในกับดัก ”

ส่วนคนอีกสองคนที่กำลังถือกล้องส่องทางไกลและมองไปทางห้องสิบของโรงเรียน,บรรยากาศเย็นยะเยือกถูกปล่อยออกมาจากร่างกาย

“ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับถังซิ่ว,หยวนชูหลิง,เฉิงเยี่ยนหนานและสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาออกมาแล้ว! ลองมาดูพวกเขาแล้วเราจะพูดถึงเป้าหมายของเราที่จะจู่โจม ! ”

ทันใดนั้นคนที่สวมแว่นตาไร้กรอบโบกมือที่ถือกระดาษไว้ในมือและตะโกนเรียกทุกคนในห้อง,เมื่อได้ยินคนสวมแว่นตาไร้กรอบทุกคนก็รีบมาอย่างรวดเร็วและมองไปที่ข้อมูลที่พึ่งพิมพ์ออกมา

“เด็กหญิงตัวดีนี้เป็นน้องสาวอีดอกทองนั่นไม่น่าแปลกใจที่เธอกล้าที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของเรา ”

ผลการทดสอบกีฬาของถังซิ่วล้มเหลวเป็นเวลานานเขาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีที่แล้วและอยู่ในสภาพโง่งม? ”

“ไอห่าเอ๋ย !!! จะต้องเป็นไอเหี้ยอ้วนนี้แน่นอนฉันแน่ใจจริงๆแล้วว่านี่ต้องเป็นไออ้วนนี้เขาดูเรียบง่ายแต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาเป็นลูกหลานพวกเศรษฐีปลอมตัวมานอกจากนี้เขายังได้เรียนมวยจีนและเทควอนโด้และมีพลังมากๆ ”

“…”

ทั้งห้าคนที่อ่านข้อมูลของถังซิ่ว,หยวนชูหลิงและเฉิงเยี่ยนหนานซ้ำๆได้โยนข้อมูลของถังซิ่วและเฉิงเยี่ยนหนานทิ้งจากนั้นก็อ่านข้อมูลของหยวนชูหลิงอย่างละเอียด

เป็นเพราะข้อมูลของถังซิ่วและเฉิงเยี่ยนหนานนั้นธรรมดาเกินไปถังซิ่วมาจากสังคมชั้นต่ำเขามีแม่เพียงอย่างเดียวคือซูหลิงหยุนซึ่งมาจากหมู่บ้านชนบท

พวกเขายังพบว่าถังซิ่วไม่เพียงแต่อ่อนแอทางร่างกายเท่านั้นแต่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับสมองอีกด้วยเพราะฉะนั้นเขาไม่อาจเป็นผู้ร้ายที่ฆ่าโอหยางไฮ่เฟิงได้นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาเป็นอันตรายต่อพวกเขาด้วยเหตุผลนี้พวกเขาได้ทิ้งความคิดที่จะจัดการกับแม่ของถังซิ่ว

สำหรับเฉิงเยี่ยนหนานเธอยิ่งแปลกขึ้นกว่าเดิมข้อมูลของเธอบันทึกเฉพาะพี่สาวของเธอเท่านั้น

เฉิงเยี่ยนหนานมีความพลังในการต่อสู้ที่ดีเธอดูเหมือนว่าจะได้เรียนรู้การชกมวยของทหารแล้วความสำเร็จของเธอก็ค่อนข้างลึกซึ้งทีเดียวอย่างไรก็ตามตั้งแต่โอหยางไฮ่เฟิงสามารถที่จะจัดการกับเธอได้ก่อนหน้านี้เพราะฉะนั้นเธอไม่ควรจะเป็นหนึ่งคนที่สามารถจะฆ่าโอหยางไฮ่เฟิง

อีกอย่างคือพี่สาวของเธอนั้นเป็นตำรวจแม้ว่าพวกคนร้ายพวกนี้มีความกล้าขึ้นมาอีกหน่อย แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะโจมตีตำรวจ

“เวรเอ๋ย,พ่อของหยวนชูหลิงมีความซับซ้อนเป็นอย่างมากบริษัทบังหน้าของเขาเป็นเพียงบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูงเท่านั้นแต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลถึงขนาดที่กำไรจะมีนับร้อยล้านหยวนนอกจากนี้บริษัทยังมีหนังสือรับรองทางธุรกิจที่ให้คำปรึกษาด้านความลับทางทหารสำหรับบริการรักษาความลับบริษัทของเขาทำอะไรกันแน่? ”

“เหี้*เอ๋ยมันแปลกเกินไปแล้วนี่มันน่ากลัวเกินไปเราต้องไม่ไปสร้างความขัดแย้งกับทหาร!แต่ประวัตินี้แสดงให้เห็นแค่ว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่โดดเด่นเท่านั้นกิจของเขาต้องมากกว่าการสำรวจและทำแผนที่เท่านั้นอาจเกี่ยวข้องกับความลับของหน่วยสืบราชการลับของเมืองและการเฝ้าระวังด้วย ”

“ฉันรู้เกี่ยวกับแผนที่การสำรวจแต่อะไรเกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับของเมืองเหล่านี้และการเฝ้าระวัง?”

เมื่อพวกเขาอ่านถึงข้อมูลของพ่อหยวนชูหลิง,หยวนเจิ้งซวนพวกเขาไม่สามารถที่จะคิดอะไรออกและไม่สามารถชี้แจงสถานการณ์จริงเหล่านี้ได้

“ภรรยาของหยวนเจิ้งซวน-เซ่าจิงนั้นเป็นที่น่าทึ่งมากเธอไม่ได้พึ่งพาหยวนเจิ้งซวนแต่ได้สร้างบริษัทอุตสาหกรรมหนักที่เป็นอิสระด้วยตัวเอง นอกจากนี้บริษัทของเธอพึ่งเข้ามาทำธุรกิจเมื่อเร็วๆนี้แม้ว่ากำไรในปัจจุบันจะไม่สามารถเทียบกับบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูงของหยวนเจิ้งซวนแต่แนวโน้มในระยะยาวของบริษัทอุตสาหกรรมหนักของเธอไม่มีทางจะด้อยกว่าบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงของหยวนเจิ้งซวน

“เซ่าจิงดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถและมีบุคลิกที่เข้มแข็งเมื่อเธอได้ยินว่าหยวนเจิ้งซวนเข้าใกล้กับผู้หญิงคนอื่นแม้ไม่มีหลักฐานชิ้นใดๆ เธอก็หย่าขาดจากเขาโดยตรงความกล้าหาญนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาจะมีได้ ”

“ฉันไม่รู้ว่าสมองของคนสองคนทำงานอย่างไรเป็นเรื่องยากมากที่จะเปรียบเทียบว่ามีใครมีพลังมากกว่าเงินที่พวกเขาสามารถทำได้มากยิ่งกว่าที่เราจะได้รับตลอดชีวิต เหี้*เอ๋ยเมื่อเปรียบเทียบเรากับพวกเขามันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะบ้า ”

“ต้องโทษพวกเขาที่หาทางทำเงินให้พวกเราเองเอาล่ะเราจะใช้เซ่าจิงตราบเท่าที่เราได้ตัวเธอหยวนเจิ้งซวนจะกินเหยื่อเอง ”

หลังจากมีการพูดคุยในกลุ่ม,คนร้ายเหล่านี้ก็เลือกเป้าหมายของพวกเขาและเริ่มวางแผน

ที่ห้องสิบของโรงเรียนถึงแม้ว่าถังซิ่วกำลังอ่านหนังสืออยู่แต่ในความเป็นจริง,ใจของเขาก็กำลังครุ่นคิดอยู่เกือบตลอดเวลา

ไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้มีผลกระทบต่อเขา แต่เป็นเพราะเขากำลังคิดหาโครงการทำเงิน

ถังซิ่วอยู่และใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งเดือนในโรงเรียนและห้องสมุดจังหวัดและอ่านหนังสือเกือบทั้งหมดที่นั่น

สิ่งที่เขาต้องทำคือการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดในสมองของเขาเขาจำเป็นต้องวิเคราะห์การทดแทนวัตถุดิบทำยาจากดินแดนแห่งนิรันดร์เพื่อมาปรับใช้กับวัตถุดิบที่โลกเพื่อที่เขาจะสามารถรู้ไดว่ายาตัวไหนจะสามารถสร้างขึ้นได้ที่โลกบ้างและตัวไหนที่จะสร้างกำไรให้เขาอย่างมหาศาร