…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฮ่องกงเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่มีความเจริญรุ่งเรืองระดับโลกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ไข่มุขเม็ดงาม” ซึ่งมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ที่นี่นั้นเป็นทำเลทอง เป็นที่ที่มีอาหารระดับโลก เป็นสวรรค์ของผู้ซื้อและเป็นฝันของใครหลายคน

เรือสำราญที่หรูหราได้ทอดสมอที่อ่าววิคตอเรียพร้อมกับเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบๆหาดเพราะราคาของเรือลำนี้แพงกว่าเรือหลายๆลำที่จอดอยู่ตามท่า

“”บอสครับ รถของเราได้มาถึงแล้ว

โม่อาเหวินได้โทรศัพท์พร้อมกับเดินมาหาถังซิ่วแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบ

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจว่า

“เรามีคนของเราอยู่ที่นี่ด้วย ? ”

โม่อาเหวิงเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ที่นี่มีธุรกิจของเราอยู่ ในประเทศแห่งนี้มีสาขาย่อยของเราอยู่ที่เกาะฮ่องกง เกาะดงอ้อ เมืองหลวงและเซี่ยงไฮ้ ก่อนหน้านี้เราได้มาที่นี่และเปิดสาขาเอาไว้ ”

“อืม”

ถังซิ่ได้พยักหน้าตอบ

การที่ห้องอาหารร้อยงานฉลองสามารถมีเงินทุนได้มากขนาดนั้นก็แสดงให้เห็นว่าธุรกิจเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก หลักจากที่เงียบไปครู่หนึ่งก็ได้พูดออกมาว่า

“นอกจากห้องอาหารแล้วยังทำอะไรอีกบ้าง ? ”

โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาว่า

“มีอัญมณี ค้าของโบราณและอสังหาฯครับ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“มันเยอะขนาดนั้นเลยหรอ ? กู่เสี่ยวเสวี่ยเป็นคนคุมงานทั้งหมด ? ”

โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“มันไม่ใช่อย่างงั้นครับ บอสน้อยทำหน้าที่แค่ควบคุมโดยรวมเพราะแต่ละที่เองก็มีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว อย่างเช่นธุรกิจห้องอาหารที่เกาะฮ่องกง เกาะดงอ้อ เมืองหลวงและเซี่ยงไฮ้นั้นจะถูกรับผิดชอบโดยเทียนหลี่ ส่วนเรื่องอัญมณีนั้นเฮาเหล่จะเป็นคนรับผิดชอบ ธุรกิจของโบราณนั้นเฉินเซ่าฮั่วเองก็รับไปส่วนอย่างสุดท้ายธุรกิจอสังหาฯจะเป็นจินเฉิงที่รับผิดชอบครับ”

ทันใดนั้น

ถังซิ่วเองก็ได้พบกับผู้มีควบคุมเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหาร เทียนหลี่ เธอเป็นหญิงอายุประมาณ40ปีขณะที่ใส่แว่นกรอบสีทอง ปล่อยผมยาวสลวยและปลดปล่อยกลิ่นอายออกมา

“บอส !”

เมื่อเทียนหลี่ได้เห็นถังซิ่วแล้วนั้นเธอก็ได้จ้องมองไปที่เขาด้วยความตกตะลึงเพราะถังซิ่วนั้นยังเด็กอยู่มาก

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า

“ต้องรบกวนด้วย เอาล่ะอย่างแรกก็ช่วยหาที่พักให้เราก่อน วันนี้เราจะอยู่ที่เกาะฮ่องกงนี่แล้วกลับไปในวันพรุ่งนี้ ”

“เราได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ”

เทียนหลี่ได้เปิดประตูรถให้กับถังซิ่วพร้อมกับพูดออกมาด้วยความเคารพ

“สวัสดี หัวหน้าเทียน ? ”

ทันใดนั้นเสียงที่รู้สึกประหลาดใจก็ได้ดังขึ้นมาจากบริเวณใกล้ๆพร้อมกับชายวัยกลางคนๆหนึ่งที่วิ่งเข้ามา ข้างหลังของเขานั้นก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวตามมาด้วย

เทียนหลี่เองก็ได้หันกลับไปพร้อมกับต้องขมวดคิ้วทันทีเพราะคนที่มานั้นคือนายใหญ่ของบริษัทโฆษณาฮงเฟิงชื่อว่าฮงฟู เขาเป็นลูกค้าประจำของห้องอาหารร้อยงานฉลอง เธอได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“สวัสดีค่ะบอสฮง”

ฮงฟูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่คิดเลยว่าจะได้มาพบหัวหน้าเทียนที่นี่ เมื่อวานนี้ก็ได้ชวนคุณไปตีกอล์ฟแล้วแต่น่าเสียดายที่คุณไม่ว่าง พวกเขาคือ……”

เทียนหลี่เองก็ได้หันไปมองที่ถังซิ่วด้วยความลังเลพร้อมกับพูดออกมาว่า

“นี่คือบอสของฉัน เราค่อยพูดเรื่องตีกอล์ฟกันทีหลังแล้วกัน บอสของฉันเพิ่งมาถึงที่นี่และรู้สึกเหนื่อยมากดังนั้นฉันคงไม่สามารถอยู่คุยได้ ต้องขอตัวก่อน ”

ฮงฟูเองก็ได้ชะงักไปทันทีพร้อมกับจ้องมองไปที่ถังซิ่ว เขารู้เรื่องห้องอาหารร้อยงานฉลองดีแต่ไม่คิดเลยว่าบอสใหญ่ของที่นั่นจะอายุน้อยขนาดนี้ หลังจากที่ผ่านไปไม่กี่วินาทีเขาก็หยิบนามบัตรออกมาพร้อมกับเดินไปตรงหน้าถังซิ่วแล้วพูดว่า

“สวัสดีผมฮงฟูนายใหญ่ของบริษัทโฆษณาฮงเฟิง ช่างเป็นเกียรตินักที่ได้พบคุณในวันนี้……เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณมีชื่อว่า ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้รับนามบัตรของเขามาแล้วไม่ได้เหลือบไปมองด้วยซ้ำก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“สกุลถัง ขอโทษด้วยที่ผมไม่มีนามบัตร”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฮงฟูได้จางหายไปทันทีแต่ไม่นานก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เขารู้ว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นที่ถังซิ่วไม่มีนามบัตรแต่จริงๆแล้วเพียงเพราะถังซิ่วไม่ต้องการให้นามบัตรกับเขาและไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยต่างหาก

“ไม่เป็นไรหรอก คุณถังนั้นเป็นถึงนายใหญ่ของห้องอาหารร้อยงานฉลองที่น่าลึกลับ ก่อนหน้านี้เราเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายใหญ่ของที่นั่นจะหน้าตาเป็นอย่างไรแต่ไม่คิดเลยว่าจะเด็กขนาดนี้ ในเมื่อบอสถังเพิ่งมาถึงที่ฮ่องกงได้ไม่นานงั้นผมก็จะไม่รบกวนคุณแล้ว หากว่าวันหลังบอสถังมีเวลาว่างก็สามารถไปดื่มกับผมได้ทุกเมื่อ”

ฮงฟูเองก็ได้แสดงท่าทีที่เรียบง่ายออกมาด้วยรอยยิ้ม

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะหันหลังกลับไปแล้วนั่งบนรถ

ขณะนั้นเองรถยนต์สองคันก็ได้ขับหายไปสุดสายตา

หนุ่มสาวที่เดินตามมาข้างหลังฮวงฟูนั้นได้ถอนสายตากลับมาพร้อมกับพูดว่า

“คุณฮง ไอ้เด็กนั่นมันบ้ามากเลยนะ ทำไมถึงต้องไปพูดจาสุภาพกับมัน ? ”

ฮงฟูเองก็ได้หันหน้ากลับมาพร้อมกับฝืนยิ้มแล้วพูดว่า

“เธอคิดว่าเขาเป็นแต่เจ้าของร้านอาหารธรรมดา ? ฮิ ฮิ ห้องอาหารร้อยงานฉลองนั้นแตกต่างกัน”

ชายวัยกลางคนเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“มันแตกต่างกันอย่างไร ? ”

ฮงฟูเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ศูนย์ใหญ่ของห้องอาหารร้อยงานฉลองนั้นอยู่ที่เกาะจิงเหมินและฉันเองก็ได้ไปที่นั่นหลายครั้ง เรียกได้ว่าที่แห่งนั้นเป็นร้านอาหารที่หรูหรามากๆบนเกาะ ห้องอาหารร้อยงานฉลองเองยังมีสาขาย่อยที่เกาะฮ่องกง เกาะดงอ้อ เมืองหลวงและเซี่ยนไฮ้อีกด้วย รายได้ของพวกเขาปีนึงนั้นไม่อาจจะคาดเดาได้เลย”

ชายวัยกลางคนเองก็ได้พูดต่อว่า

“แต่อย่างไรก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมากกับบริษัทโฆษณาของคุณไม่ใช่หรอ ? ”

ฮงฟูเองก็ได้มองไปที่ดวงตาของเขาก่อนที่จะพูดออกมาขณะที่ส่ายศีรษะว่า

“อย่าบอกนะว่าได้ยินคำพูดก่อนหน้านี้ไม่ชัด ? ไม่ใช่ฉันบอกว่าห้องอาหารร้อยงานฉลองนั้นลึกลับ? คิดว่าพวกเขาทำแค่ธุรกิจร้านอาหาร ? ฉันได้สืบเรื่องของพวกเขามาแล้วและพบว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบริษัทอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูน หากจะให้พูดง่ายๆก็คือพวกเขามีนายใหญ่คนเดียวกัน นายคิดว่าบริษัทของฉันจะไปเทียบกับบริษัทอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูนได้หรอ ? ”

“อะไรนะ ?”

ท่าทางของชายวัยกลางคนและคนอื่นๆเองก็ได้เปลี่ยนไปทันที

บริษัทอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูนนั้นมีสินทรัพย์กว่าหลายพันล้านและคนที่ดูแลมันคือเฮาหลี่ซึ่งเป็นคนที่โด่งดังในวงการธุรกิจ พ่อค้าหลายคนในเกาะนี้เองก็สงสัยเป็นอย่างมากว่าใครกันที่เป็นนายใหญ่ของที่นั่น

“หากว่าบริษัทอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูนและห้องอาหารร้อยงานฉลองนั้นมีนายใหญ่คนเดียวกันก็แสดงว่าสถานะของเด็กคนนั้นมันไม่ธรรมดาเลย ”

ท่าทางการพูดของชายวัยกลางคนเองก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฮงฟูเองก็ได้ถอนหายใจออกมา

“ประเทศจีนนั้นเป็นแผ่นดินใหญ่และคนที่มีความสามารถของก็เยอะเหมือนขนวัวแต่น่าเสียดายที่สกุลถังคนนั้นไม่อยากจะสุงสิงกับเรา”

ชายวัยกลางคนเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ยังไงนี่ก็เป็นการพบกันครั้งแรกเท่านั้น ค่อยๆดูกันไปก็คงจะมีโอกาสที่จะสร้างสัมพันธ์กัน ไปกันเถอะเราจะไปดื่มชากันก่อนที่จะเข้าร่วมงานประมูล!”

“ไปกัน !”

ฮงฟูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ถนนหมายเลข13

วิลล่าราคาหลายพันล้านที่มีพื้นที่กว่า1.8หมื่น ตารางเมตร นอกจากวิลล่าหลักสามหลังแล้วก็ยังมีโกดังเก็บของ ยิม ห้องดื่มชา ห้องซาวน่าและในวิลล่าหลักเองก็ยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย

เมื่อรถหรูสองคันได้ขับเข้ามาถึงแล้วนั้นชายรูปร่างกำยำสองคนที่ใส่ชุดเครื่องแบบสีดำก็ได้ทำความเคารพทันทีพร้อมกับเปิดประตูเหล็กด้วยรีโมท

ที่ลานกว้างหน้าวิลล่าหลัก ข้างๆสวนและสระน้ำนั้นได้มีชายและหญิงกว่า10คนยืนเรียงรายอยู่ตามทางพร้อมกับจ้องมองไปที่รถทั้งสองคันที่กำลังขับเข้ามา

“บอสค่ะ เรามาถึงแล้วค่ะ ”

เทียนหลี่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับนั้นก็ได้ลุกออกจากที่นั่งพร้อมกับเปิดประตูให้ถังซิ่วแล้วพูดด้วยความเคารพ

ถังซิ่วเองก็ได้เดินออกมาจากรถพร้อมกับมองไปที่ชายและหญิงที่ยืนเรียงรายกันอยู่ก่อนที่จะถามออกมาช้าๆว่า

“ที่นี่ที่ไหนกัน ?”

เทียนหลี่เองก็ได้ตอบกลับอย่างเคารพว่า

“นี่เป็นสถานที่ที่บอสน้อยได้ซื้อเอาไว้และในหลายปีมานี้เธอก็ได้มาที่นี่เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น เมื่อวานนี้ดิฉันได้รับสายจากผู้อาวุโสจี่ให้มาเก็บกวาดที่นี่ นอกจากคนของเราแล้วที่แห่งนี้ก็ไม่มีคนนอกอยู่อีกเลย”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านใน

วิลล่านี้หรูหราเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่ถังซิ่วเดินเข้าไปก็ทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ด้อยไปกว่าวิลล่าของเขาที่เมืองประตูทิศใต้เลยแม้แต่น้อย

“บอสค่ะ เราจะพักผ่อนกันเลยหรือว่าคุณมีความประสงค์อื่น? ”

เทียนหลี่ที่ได้เดินตามถังซิ่วมานั้นก็ได้ตอบออกมาด้วยเสียงอ่อนนุ่ม

ถังซิ่วเองก็ได้นั่งลงบนโซฟาในห้องโถงก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“เราพักผ่อนกันก่อนแล้วหลังจากนี้ก็เข้าร่วมการประมูล เธอไปจัดการธุระของเธอเถอะ ! หากว่ามีปัญหาอะไรแล้วฉันจะโทรไปหาเอง”

“ได้ค่ะ !”

เทียนหลี่เองก็ได้พยักหน้าก่อนที่เธอจะเดินจากไป

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่จี่ฉีเหม่ยและพี่น้องโม่ที่ยืนอยู่ข้างๆก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉีเหม่ย ระหว่างที่เจ้ามีเวลาว่างอยู่นี้ก็ช่วยสอนเทคนิคบ่มเพาะให้พวกเขาด้วยแล้วกัน ฉันจะไปพักผ่อน ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็มาเรียกด้วยแล้วกัน”

“ข้าน้อยรับทราบ !”

จีฉีเหม่ยเองก็ได้พยักหน้าด้วยความเคารพ

โม่อาเหวินและโม่อาหวูเองก็ได้ตื่นเต้นทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น พวกเขารู้สึกโชคดีจริงๆที่ได้ถังซิ่วเป็นนายของพวกเขาไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะได้รับเทคนิคบ่มเพาะที่แท้จริงอย่างแน่นอน

“ขอบคุณครับบอส !”

พวกเขาได้คุกเข่าลงพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นจนไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้

ถังซิ่วเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า พวกเจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าสำหรับข้าแล้วความภักดีนั้นเป็นอันดับหนึ่ง ข้าเองก็ได้รับรายงานมาจากเสี่ยเสวี่ยถึงผลงานของพวกเจ้าในหลายๆปีที่ผ่านมาแล้ว เธอพึงพอใจเป็นอย่างมากและข้าเองก็หวังว่าหลังจากนี้พวกเจ้าเองก็จะทำให้ข้าถึงพอใจเช่นกัน”

“ครับผม !”

พวกเขาได้ตอบกลับอย่างจริงจัง

ถังซิ่วเองก็ได้โบกมือของเขาพร้อมกับส่งสัญญาณให้พวกเขาเป็นนัยๆว่าให้พวกเขาออกไปก่อนที่เขาจะขึ้นไปที่ชั้นสอง หลังจากที่เขาเข้าไปแล้วก็พบว่าการตบแต่งภายในนั้นเหมาะสำหรับสตรีและยังมีเสื้อผ้ามากมายของผู้หญิงอีกด้วย ทันใดนั้นเขาก็มั่นใจได้ทันทีว่านี่เป็นห้องของกู่เสี่ยวเสวี่ย

หลังจากนั้น

เขาได้เข้าไปในห้องที่อยู่ถัดไปและเอาเอกสารเกี่ยวกับเกาะส่วนตัวของเขาออกมา ตั้งแต่ที่ซื้อมาแล้วนั้นสิ่งต่างๆก็ได้ถูกโอนมาเป็นชื่อเขาหมดแล้วแต่เพราะว่าช่วงนี้เขามีเรื่องยุ่งมากๆจึงไม่ได้ดูมันเลยแม้แต่น้อยดังนั้นก่อนที่เขาจะไปก็ต้องดูเอกสารเหล่านี้ก่อนเพราะทุกอย่างจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น