นักรบของนกกระเรียนทั้ง 4 กำลังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่กำลังโจมตีจี้ฮ่าว แต่ทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของเจียงเสวีย พวกเขาทั้งหมดได้หยุดโจมตีจี้ฮ่าวทันที
รอยยิ้มหายไปจากหน้าของพวกเขาจนหมด เหลือแต่ใบหน้าที่ซีด เมื่อพวกเขารู้ว่าเจียงเสวียถูกทำร้าย พวกเขาตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่น และรีบวิ่งเข้าไปหาเจียงเสวียทันที พ่อของนางเป็นนักเวทย์ระดับสูงผู้มีอิทธิพลในเผ่านกกระเรียน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางละก็หัวของพวกเขาได้หลุดแน่ๆ

คนร้ายปรากฏตัวขึ้นทันที มันคือชายแก่มายืนคั่นระหว่างนักรบทั้ง 4 กับเจียงเสวีย ชายแก่รูปร่างผอมบางตัวเตี้ย สูงเพียงแค่ 2 ฟุต มีงูดำเขาเดียวพันอยู่รอบๆตัวของเขา ผิวซีดๆของเขาเต็มไปด้วยรอยสักรูปงูดำนับ 10

“ถอยไปซะ!” นักรบตะโกนไปที่ชายแก่ มีเปลวไฟลุกขึ้นข้างหลังของเขาและกลายเป็นปีก 2 ข้าง นักรบเพิ่มความเร็วเป็น 2 เท่าและบินไปที่ชายแก่ ในเวลาเดียวกันนั้นก็ใช้ดาบฟันไปที่คอของชายแก่

ชายแก่ยิ้ม เขายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน พร้อมกับสายตาจ้องไปที่นักรบแบบไม่กระพริบ งูที่พันอยู่รอบตัวของเขาชูคอขึ้นแล้วพ่นควันสีดำออกมาจากปากของมัน

นักรบระดับสูงทั้ง 4 ถูกแช่แข็งกลายเป็นน้ำแข็งสีดำสนิท ร่างกายของพวกเขาถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งสีดำหนากว่าครึ่งฟุต เปลวไฟของพวกเขาหายไปในทันที

เจ้ากาที่ยืนนิ่งอยู่บนไหล่ของจี้ฮ่าวมาพักใหญ่ เริ่มกางปีกของมันออกจ้องไปที่งูตัวนั่นแล้วส่งเสียงขู่

งูดำคลายตัวจากชายแก่และขยายร่างของมันอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นอสรพิษขนาดยักษ์ยาวกว่าร้อยฟุตและเริ่มส่งเสียงร้อง อุณหภูมิบริเวณโดยรอบเริ่มลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว มันแช่แข็งต้นไม้ใบหญ้าบริเวณนั่น

“เฮ้ สหายข้า เขาเป็นแค่เด็กทำไมเจ้าวิตกกังวลเกินเหตุ” ชายแก่ถาม อสรพิษที่อยู่ในสภาพพร้อมสู้อย่างเต็มรูปแบบ

อสรพิษยื่นหัวมาใกล้ชายแก่และส่งเสียงอะไรบางอย่าง ชายแก่ท่าทีเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินอสรพิษ เขาหันมาที่จี้ฮ่าวกับเจ้ากาแล้วพูด

“หนุ่มน้อย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพาอีกาอัคคีมาด้วย พวกไอ้แก่ในเผ่าเจ้ามันเป็นบ้าไปแล้วรึ ทำไมถึงให้เด็กน้อยเช่นเจ้าทำพันธสัญญากับอีกาอัคคี สัตว์ศักดิ์สิทธิในตำนาน”

จี้ฮ่าวจ้องมองกลับไป เขาเห็นว่าภูเขาทองคำทมิฬอยู่ห่างออกไปแค่สิบ ไมล์ นี่ยังถือเป็นเขตอิทธิพลของเผ่ากาอัคคี ถ้าเขาส่งเสียงร้องตะโกนไป คนอื่นๆในเผ่าต้องมาที่นี้และฉีกชายแก่นี่เป็นชิ้นๆแน่

จี้ฮ่าวเริ่มมีความมั่นใจเขาหันไปหาชายแก่และพูดว่า

“เรื่องนั้นไม่ใช่ธุระอะไรของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องรู้ ว่าแต่ท่านกล้าดียังไงพาเจ้างูเน่านั้นเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิของพวกเรา”

ชายแก่หัวเราะแล้วพูดว่า

“ดินแดนศักดิ์สิทธิแล้วมันยังไงล่ะ ข้าอยู่ที่นี่นั้นหมายความว่าข้าไม่กลัวพวกเจ้า ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นที่นี่”

เมื่อชายแก่พูดจบ ชายอีกคนโผล่ออกมากจากป่าและพุ่งไปหาเจียงเสวีย ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นหลังชายแก่คนนั้น

เขาคือเจี้ยวนาคาทมิฬกับอสรพิษเขาเดียวของเขา เจี้ยวจับไปที่คอของเจียงเสวียและยกนางขึ้นมา เจียงเสวียกรีดร้องดิ้นรนแต่เจี้ยวตบหน้าของนางอย่างแรงจนนางไม่กล้าจะร้องอีก

เจี้ยวมองดูเจียงเสวีย เขาจับหน้าอกและก้นของนาง ดึงนางเข้ามาใกล้ๆเพื่อดูหน้านางอย่างระมัดระวัง ราวกับคนเลี้ยงม้าเช็คม้าของตัวเองไม่มีผิด เจี้ยวพูด

“เด็กผู้หญิงคนนี้หน้าตาน่ารักเลยทีเดียว ข้าได้ยินว่าพ่อของนางเป็นผู้มีอิทธิพลในเผ่านกกระเรียน นางยังบริสุทธิ์อยู่ซะด้วย ถ้าเราเอานางไปขายให้พ่อค้าทาสคงได้ราคาสูงแน่!”

“ในที่สุดข้าก็ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที การมาดินแดนศักดิ์สิทธิครั้งนี้ไม่สูญเปล่าจริงๆ” เจี้ยวพูดด้วยความตื่นเต้น

“พ่อค้าทาส” จี้ฮ่าวพูดพร้อมกับมองไปที่เจี้ยวที่กำลังตื่นเต้น และมองไปที่เจียงเสวียที่กำลังสั่นด้วยความกลัว มีน้ำตาไหลออกมาจากตาของนาง จี้ฮ่าวขยับถอยหลังมาอย่างระวังตัวแล้วพูดกับเจี้ยวและชายแก่ว่า

“ยินดีด้วย ที่พวกท่านได้อะไรที่ต้องการแล้ว ข้าเองก็ควรจะกลับบ้านแล้วเหมือนกัน ลาก่อน!”

เจี้ยวนิ่งไปชั่วครู่หลังจากที่ได้ยินจี้ฮ่าวพูด ชายเเก่พูดกับจี้ฮ่าว

“เฮ้หนุ่มน้อย นั่นคือสิ่งที่นักรบกาอัคคีเขาทำกันรึ? เจ้าจะหนีไปทั้งๆแบบนี้หรอ?”

“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรอ?” จี้ฮ่าวยักไหล่และจี้ไปที่ชายทั้งสอง

“พวกเจ้าทั้งสองคนเป็นนักรบขั้นสูงก็เห็นๆกันอยู่ และข้าเป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัด แต่คู่หูข้าคืออีกาอัคคีข้าสามารถหนีได้ ข้าจะไม่ยอมตายโดยการเข้าไปช่วยนางเด็ดขาด”

จี้ฮ่าวหัวเราะและพูดต่อ

“ข้าไม่ได้โง่นะ และยิ่งกว่านั้นผู้หญิงคนนั้นนางพยายามจะฆ่าข้า แล้วทำไมข้าจะต้องไปช่วยนางด้วย?”

จี้ฮ่าวถอยหลังไปสิบก้าวอย่างรวดเร็วและชี้ไปที่เจียงเสวียแล้วพูดว่า

“พ่อของนางเป็นผู้อาวุโสเผ่านกกระเรียนและมีอิทธิพลมาก นางยังเป็นอดีตคู่หมั่นลูกชายของจี้ซู หัวหน้านักรบคนปัจจุบันของเผ่ากาอัคคี ถ้าพวกเจ้าใช้นางต่อรองคงได้เงินไม่ใช่น้อย”

ในเวลาเดียวกันจี้ฮ่าววิ่งหนีเข้าไปในป่า เจี้ยวและชายแก่ตามเขาไป ทันใดนั้นเจ้ากาส่งเสียงร้องออกมา ปีกของมันเริ่มส่องแสง เจี้ยวและชายแก่เริ่มลังเล

“ไม่เลวนิหนุ่มน้อย” ชายแก่พูด

“ไม่เคยคิดเลยว่าในเผ่ากาอัคคีจะมีเด็กฉลาดแบบเจ้า”

ชายแก่กัดฟันและมองไปที่จี้ฮ่าว

“เจ้ามันยากจะเอาชนะได้ อาจจะยากกว่าพ่อของเจ้าด้วยซ้ำ เผ่ากาอัคคีช่างโชคดีนัก”

จี้ฮ่าวไม่ตอบสนองเขาหนีหายเข้าไปในป่า เจ้ากาขยายร่างของมันเปลี่ยนเป็นลำแสงพาจี้ฮ่าวหนีหายไป

เจี้ยวและชายแก่พาเจียงเสวียหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาโดดลงไปในลำธารและหายไปกับสายน้ำ

ที่ทุ่งดอกไม้ นักรบทั้ง 4 ที่ถูกแช่แข็ง แตกเป็นเสี่ยงๆ ไอเย็นจากพวกเขาแพร่กระจายไปแช่แข็งทุกอย่างในบริเวณนั้นรวมไปถึงจี้ฮู จี้เฟิงและจี้ซุย

เสียงของชายแก่ก่อนจะหายไปกับสายน้ำ

“ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่ฉลาดไม่น้อย เขาจะต้องเป็นปัญหากับพวกเราในอนาคตแน่ และตอนนี้ดูเหมือนว่าเผ่านกกระเรียนจะเข้ามายุ่งกับเรื่องภายในของเผ่ากาอัคคี พวกเรานาคาทมิฬจะมีโอกาสในอีกไม่ช้านี้

หลังจากนั้น นักรบกาอัคคีก็มาถึงทุ่งหญ้า พวกเขาเห็นทั่วทั้งบริเวณถูกแช่แข็ง มีศพของคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขาโดดลงมาจากหลังอีกาอัคคีและดูที่ร่างศพ

หลังจากนั้นไม่นานเสียงสัญญาณเตือนภัยได้ดังขึ้นทั่วภูเขาทองคำทมิฬ แต่อย่างไรก็ตามเจี้ยวและชายแก่หนีหายไปสักพักแล้วยากที่นักรบกาอัคคีจะพบพวกเขา