ณ เมืองที่จางลั่วเฉินอยู่ในตอนนี้มีนามว่า “หยุนอู มลฑลจุ้น”  ซึ่งเป็นหนึ่งในนับพันเมืองของดินแดนคุนหลุน

ในทุกๆ มลฑล เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนกลาง ในทุกๆปีจะต้องมีการจ่ายส่วยและภาษีให้กับดินแดนกลาง

ผู้ปกครองของ มลฑลจุ้น ก็คือ “ราชาจุ้น”

และสถานะศักดิ์ของจางลั่วเฉินในตอนนี้ก็คือ ลูกชายคนที่เก้าของราชาจุ้นหยุนอู

จางลั่วเฉินที่นอนอยู่บนเตียงไม้แข็งและเย็นเฉียบ ยังคงคิดถึงเรื่องพิธีกรรมของวันพรุ่งนี้

“เจ้าของเก่าของร่างนี้ อายุสิบหกแต่ไม่เคยเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ จะต้องเป็นคนที่ถูกเทพสวรรค์ทอดทิ้งแน่ ข้าต้องทำยังไงกัน ถึงจะมีโอกาสได้เปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์? ”

ในดินแดนคุนหลุน หากต้องการที่เปิดบันทึกสวรรค์ จะต้องได้รับการยอมรับจากเทพสวรรค์

ถูกเรียกว่าสิทธิ์แห่งเทพสวรรค์

ในงานพิธีกรรม ปรากฏแม่น้ำสวรรค์ออกมาระหว่างดินแดนคุนหลุนและดินแดนสวรรค์ที่เชื่อมต่อทั้งสองดินแดน  เมื่อใดที่เทพสวรรค์ได้กินของที่นำมาบูชาแล้วละก็พวกเขาก็จะให้บันทึกสวรรค์ยุทธ์แก่มนุษย์ที่มีพรสวรรค์ มันจะช่วยพวกเขาในเรื่องการเปิดประตูแห่งการฝึกฝนพลัง

ยิ่งคนที่มีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ โอกาศที่จะได้บันทึกสวรรค์ก็มีมากเช่นกัน

ชีวิตก่อนของจางลั่วเฉิน ได้เปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งนั่นคือ ยอดอัจฉริยะ

แต่ในร่างนี้กับมีอายุสิบหกแต่กลับไม่เคยเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์  โดยปกติแล้วคนพวกมักจะเป็นคนที่เทพสวรรค์ทอดทิ้ง ถึงแม้พรุ่งนี้ไปเข้าร่วมพิธีกรรม ก็อาจจะไม่สามารถเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้

จางลั่วเฉินนอนไม่หลับ เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียง ในมือถือหินอัญมณีขาวรูปร่างคล้ายพุทรา ทั้งสองด้านต่างคมกริบ ตรงกลางโปร่งใส ไม่มีอะไรเจือปนแม้แต่น้อย มันบริสุทธ์ชวนคุ้นหายิ่งนัก

เขาเริ่มสังเกตแร่หินอัณญมณีขาวนี้ บางที มันอาจจะสามารถช่วยทำให้เทพสวรรค์ยอมรับ และเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้

แร่หินอัณญมณีขาวเป็นของขวัญอายุครบสิบหกปีที่จักรพรรดิหมิงได้ให้เขามา

จางลั่วเฉินก็ไม่รู้ว่าของสิ่งนี้แท้จริงแล้วคืออะไร เขาเพียงแค่ใส่มันติดตัวเอาไว้ ไม่คิดว่า มาถึงแปดร้อยปีให้หลัง มันยังคงอยู่ที่ตัวของเขา

“ที่ข้ามาถึงแปดร้อยปีหลังได้ ไม่แน่มันอาจจะเกี่ยวข้องกับเจ้าสิ่งนี้ ก็เป็นได้”

จางลั่วเฉินกำแร่หินอัณญมณีขาวเอาไว้ในมือแน่น ดวงตาทั้งสองข้างปิดลง ในหัวปรากฏภาพเงาของพ่อเขาจักรพรรดิหมิง ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของเขาจะยังอยู่บนโลกนี้หรือไม่ ?

คืนนี้ ในเมืองหลวงมีหิมะตกทั่วฟ้า

เช้าวันที่สอง ทั่วทั้งเมืองหลวงปกคลุมไปด้วยหิมะที่หนาแน่น ทั้งที่นั่งพระราชวัง บันได พื้น ล้วนแต่มีหิมะปกคุมอยู่

วันนี้เป็นวันที่หนาวที่สุดของทั้งปี

จอมยุทธ์ของเมืองหลวง ต่างมารวมตัวกันที่ด้านนอกห้องโถง เพื่อที่จะพาราชาจุ้น มาบูชาเทพสวรรค์

ด้านนอกห้องโถง มีโต๊ะหินบูชาโบราณตั้งอยู่ บนโต๊ะนั้น เต็มไปด้วยของบูชามากมาย เช่น วัว แกะ หมู และยังมีสัตว์ขนาดใหญ่อีกหลากหลายชนิด

ผู้ดูแล ผู้ฝึกฝน เจ้าชาย  ต่างๆ มากมายมาเพื่อที่จะมาดูการเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ของเด็กหนุ่มและเด็กสาว ทั้งยังมีทั้งเด็กทารกเข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

พิธีในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ละเมืองต่างๆ ใน มลฑลจุ้น แต่ละเมือง แต่ละหมู่บ้านจะต้องนำของมาบูชา

“ฮ่าฮ่า องค์ชายเก้า เจ้าก็อายุสิบหกแล้ว ถึงแม้จะสามารถเข้าร่วมพิธีได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเปิดบันทีกสวรรค์ยุทธ์ได้หรอกนะ มาเพื่อขายขี้หน้าคนอื่นหรอกหรือ? ”

องค์ชายแปดจางจี้ เอามือทั้งสองทาบไว้ข้างหลัง ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ยออกมา

องค์ชายหกที่ยืนอยู่ข้างๆองค์ชายแปด กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า

“ที่เขาบอกว่ามังกรเก้าชีวิต จะต้องมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน ท่านพ่อเป็นถึงวีรบุรุษ แต่กลับให้กำเนิดขยะแบบเจ้า อายุสิบหกแล้ว แต่ไม่เคยเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ ตระกูลหวังต้องขายหน้าก็เพราะเจ้า เจ้ายังอยู่บนโลกนี้ทำไม ? ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะละ ? ”

คำพูดที่พูดออกมา ล้วนแต่มาจากเสียงในใจขององค์ชายทั้งนั้น

ความสัมพันธ์ของคนในตระกูลจักรพรรดิหวังบอบบางเป็นอย่างมาก ดูจากสถานการณ์นี้น่าจะสะท้อนให้เห็นได้มากที่สุด

ในดินแดนคุนหลุน คนที่สามารถเปิดบันทึกได้มีไม่มาก สิบคนมากสุดก็มีแค่หนึ่งคน พูดได้ว่า จอมยุทธ์แต่ละคนนั้นมีพลังที่สูงส่ง

เมื่อพูดถึงจอมยุทธ์แล้ว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จอมยุทธ์ระดับสูงจะมีสายเลือดที่แข็งแกร่ง พอมาถึงรุ่นหลังก็จะถูกสืบทอดมาทำให้ผู้ที่มีเลือดแข็งแกร่งนั้นแข็งแกร่งมากขึ้น อันตราการเปิดบันทึกก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

ราชาหยุนอูจุ้นมีลูกชายทั้งหมดเก้าคน ทั้งหมดแปดคนสามารถเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้หมด มีเพียงจางลั่วเฉินคนเดียวที่อายุสิบหกแล้ว ยังคงไม่สามารถเปิดบันทึกได้ ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกของราชวงค์

ผู้คนต่างหัวเราะเรียกเขาว่า “บิดาเก่งกาจ แต่ ลูกกลับไม่เอาไหน”

มีทั้งข่าวลือว่าจางลั่วเฉินไม่ใช่ลูกชายของราชาหยุนอูจุ้น ถึงแม้จะเป็นข่าวลวง แต่ก็ทำให้ผู้คนในตระกูลต่างขายหน้า

ดังนั้น องค์ชายคนอื่น ส่วนมากต่างคิดว่าจางลั่วเฉินเป็นตัวอัปยศของตระกูล เดิมที่ไม่อยากจะนับเขาเป็นน้อง อยากจะให้เขาตายไว ๆ

เมื่อไม่กี่ปีนี้

ราชาหยุนอูจุ้นห่างไกลกับจางลั่วเฉินและหลินเฟยเป็นอย่างมาก เขาได้อยู่กับนางสนม พวกองค์ชายจึงได้กลั่นแกล้งเขา เมื่อคืน จางลั่วเฉินและหลินเฟยถูกขับไล่ออกมาจากห้องโถงให้ย้ายไปอยู่ที่ห้องโถงข้างแทน

จางลั่วเฉินได้แต่ยืนอยู่เงียบๆ ไม่สนใจองค์ชายหกแลองค์ชายแปด

หากไม่มีพลังมากพอ ก็จะตกเป็นขี้ปาก คนอื่นก็จะมองดูถูกและเหยียดหยาม

หลินเฟยยืนอยู่กับพระมเหสีองค์อื่น  เมื่อเห็นจางลั่วเฉินที่ถูกรังแก ในใจของนางเจ็บปวดจนถึงที่สุด แต่ว่านางก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย

“พิธีกรรมเริ่มได้ ! ”

คนสนิทของราชาหยุนอูจุ้นยืนอยู่บนแท่นหิน ถือม้วนคัมภีร์ก่อนจะเปิดอ่าน

หลังจากนั้นบนแท่นหิน ก็มีสาวสวยที่มีเสียงสง่างามนางสวมชุดหลากสี มีเครื่องดนตรีต่าง ๆ มากมายนับสิบหกชนิด

จากนั้น เลือดสัตว์ที่วังเวยเริ่มไหลรินออกมาเพื่อเฉลิมฉลองวันบูชา

“ว้าวว~”

เลือดเข้มข้ม กลายมาเป็นเส้นแสงเส้นใหญ่ ทำลายชั้นเมฆ พุ่งไปสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่

ทันในนั้น ได้มีดวงดาว หล่นลงบนคิ้วของเด็กอายุหกปี ก่อนจะรวมเข้าไปในร่าง เป็นสัญลักษ์สีแดง “บันทึกสวรรค์ยุทธ์”

เสียงกลุ่มคน โห่ร้องออกมา

“ลูกชายคนสุดท้องของเซวียตูท่ง แค่หกปีก็สามารถเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้แล้ว ! ”

“ตราสัญลักษณ์สีแดง เท่ากับบันทึกสวรรค์ยุทธ์ระดับสี่ อัจฉริยะจริง ในอนาคตจะต้องมีพลังไร้ขีดจำกัดแน่ๆ! ”

บันทึกยุทธ์สวรรค์มีทั้งหมดเก้าระดับ ตั้งแต่หนึ่งถึงเก้า

บันทึกยุทธ์สวรรค์ระดับหนึ่งจะอ่อนแอมีพลังน้อย บันทึกสวรรค์ระดับเก้าจะแข็งแกร่งและมีพลังเยอะ

ผู้คนต่างมองดูด้วยสายตาอิจฉา จับจ้องไปที่เด็กน้อยอายุหกปี

อายุหกปีก็สามารถเปิดบันทึกสวรรค์ระดับสี่ได้ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ ในภายภาคหน้าจะต้องแข็งแกร่งแน่

ท่ามกลางสายตาจอมยุทธ์ มีผู้ชายร่างกำยำห้าวหาญทุบอกตัวเอง พลางหัวเราออกมาอย่างตื่นเต้น

“ยอดเยี่ยม!สมแล้วที่เป็นลูกชายจองข้า คืนนี้ข้าเลี้ยงเอง พวกท่านทุกคนต้องมาเข้าร่วมนะ ฮ่าฮ่า”

“ว้าว ! ”

บทท้องฟ้า มีดวงดาวหลายดวยล่วงลงมาที่คิ้วของเด็กสาวคนหนึ่ง ปรากฏ สัญลักษณ์สวรรค์ยุทธ์

แต่ในนั้น เป็นบันทึกสวรรค์ยุทธ์ระดับหนึ่งค่อนข้างมาก ระดับสองนั้นก็น้อยมาก คนที่เก่งที่สุดก็คือเด็กหกปีคนนั้น ที่ได้ถึงระดับสี่ ทำให้ผู้คนต่างจับตามอง

คนที่มาเปิดบันทึกได้ มีน้อยมาก มีเพียงแค่สิบเปอร์เซ็นของคนทั้งหมด ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการได้รับการยอมรับจากเทพสวรรค์ เมื่อเปิดประตูสู่วิถียุทธ์

มีชายหนุ่มหญิงสาวบางคนที่ไม่สามารถบันทึกได้พวกเขาพูดไม่ออก พวกเขาเสียใจมาก บ้างก็ร้องไห้โฮออกมา

สายตามองไปที่พิธีกรรมที่ใกล้จะจบลงแต่บันทึกสวรรค์ยุทธ์ของเขาก็ยังไม่เปิดออก

อายุสิบหกปีแต่บันทึกกลับไม่เคยถูกเปิดออก ซึ่งแทบจะไม่มีทางที่จะเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้ ในภายหลังก็เป็นได้เพียงคนธรรมดาสมัญเท่านั้น

ผู้คนต่างไม่สนใจเขา เหมือนกับดวงดาวดวงสุดท้าย ที่ไม่มีใครใส่ใจ

หลินเฟยก็เริ่มขอพรภาวนา หวังว่าจะเกิดปฏิหารย์กับลูกชายของเขา การเปิดสัญลักษณ์ ถึงแม้จะไม่สามารถเป็นจอมยุทธ์ได้ อย่างน้อยแค่มันก็ช่วยให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นก็ดียิ่ง

ในขณะที่พิธีกรรมกำลังจะสิ้นสุด ความหวังของหลินเฟย กลายเป็นความผิดหวังอีกครั้ง

เมื่อจางลั่วเฉินคิดว่าตนไม่มีทางที่จะเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้ แร่หินอัณญมณีขาวก็ส่องแสงขึ้นเล็กน้อย

ก่อนที่จะสิ้นสุดพิธีกรรม ดวงดาวดวงสุดท้าย ร่วงลงมาจากฟ้า ตกลงที่คิ้วของจางลั่วเฉิน ปรากฏสัญลักษณ์สวรรค์ยุทธ์สีขาวขึ้น

“ว้าว!”

ความรู้สึกร้อน จากคิ้วลงมาทั่วทั้งร่างกาย

เปิดได้แล้ว!

จางลั่วเฉินตื่นเต้นมาก ในที่สุดก็เปิดบันทึกได้

เพียงแค่เปิดบันทึกได้ก็พอแล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่ระดับหนึ่ง แต่เขาก็ไม่สนใจ   (เดี๋ยวรู้เทพทรูเป็นยังไง)

เดิมทีไม่มีใครสนใจจางลั่วเฉิน แต่ว่า ขณะที่จางลั่วเฉินเปิดบันทึกนั้นกลับดึงดูดทุกสายตาของคนให้มาจับจ้องที่เขา

“นั่นต้องไม่ใช่องค์ชายเก้า เขาอายุสิบหกแล้ว อีกทั้งร่างยังอ่อนแอ จะเปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้ไงกัน ! ”

ผู้คนส่วนมากต่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง พวกเขามองไปที่จางลั่วเฉิน ด้วยความไม่เข้าใจ ?

องค์ชายหกและองค์ชายแปดที่ยืนอยู่ด้านข้างเขา ต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

หลินเฟยมองไปที่จางลั่วเฉิน เมื่อเห็นสัญลักษณ์ที่คิ้วของเขา น้ำตาเอ่อล้นออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาจางลั่วเฉิน และกอดเขาอย่างแนบแน่น

“เฉินเอ๋อ ในที่สุดเจ้าก็ทำได้แล้ว! ทำได้แล้ว!”

ขันทีคนหนึ่งยืนข้างราชาหยุนอูจุ้น เดินมาด้านหน้าเขาพลางยิ้มและกล่าวว่า

“ขอแสดงความยินดีกับพระมเหสีหลินเฟย ในที่สุดองค์ชายเก้าก็เปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์ได้สำเร็จ! ราชินีต้องการให้เชิญองค์ชายเก้าไปเข้าเฝ้า นางอยากจะดูระดับบันทึกขององค์ชายเก้า!”

“ราชินี!”

สีหน้าของหลินเฟยพลันแข็งทื่อ นางรีบเอาจางลั่วเฉินไปแอบไว้ด้านหลัง

“ท่านแม่ พวกเราไปพบราชีนีกันเถอะ!”

เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลินเฟย เขาคิดในใจว่า ดูเหมือนราชินีจะไม่ใช่คนดีซักเท่าไหร่ จะต้องระวังให้มาก
 

(อ่านได้ที่นี่ที่เดียวนะครับ  WGSD เทพจักรพรรดินิรันดร์กาล – จีนแปลไทย  เพราะแอส่งตรงมาให้จากจีนเลยอิอิ)