…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แต่อาจารย์ของกู่หยินก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ลูกของผู้วิเศษไม่สามารถทำได้แต่เธอทำได้ ผมได้อยู่ในวงการศึกษามากว่า20ปีและได้เห็นคนที่มีพรสวรรค์มามากมายแต่คนที่น่าทึ่งที่สุดยังเทียบไมได้กับขี้เล็บของเธอด้วยซ้ำ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“อาจารย์ฮวง คุณอย่าชมเธอมากไปนะ ระวังเธอจะเหิมเกริมและไม่เชื่อฟังล่ะ”

กู่หยินได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ท่านอาจารย์ หนูจะไม่เหิมเกริมหรือไม่เชื่อฟังหรอกค่ะ”

อาจารย์ ?

เฉินซีซ่งเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ท่านอาจารย์ นี่ ………นี่คือศิษย์ที่ท่านรับมา ? ”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมพูดออกมาว่า

“เธอเป็นศิษย์สายตรงของข้า หลังจากนี้เจ้าก็เรียกเธอว่าศิษย์น้องแล้วกัน”

เฉินซีซ่งได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อกลืนน้ำลายของตัวเองจากอาการช๊อคเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ที่เขาต้องการเป็นศิษย์ของถังซิ่วนั้นกลับถูกปฏิเสธแต่ตอนนี้กลับมีศิษย์น้องแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาเข้าใจถึงความหมายของคำว่า “ศิษย์สายตรงดี”

เขาเป็นแค่เพียงศิษย์อย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น สถานะศิษย์สายตรงของเธอนั้นอยู่สูงกว่าเขามาก !!!

เฉินซีซ่งได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าให้แล้วพูดออกมาว่า

“ศิษย์น้อง นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเรา ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่ไม่รู้ถึงตัวตนของเจ้าจึงไม่ได้เตรียมของขวัญแรกพบมาให้ รอให้ถึงครั้งหน้าแล้วข้าจะเอามาให้เจ้า”

กู่หยินได้แสดงท่าทาง ฮี ฮี ออกมาพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ขอบคุณค่ะศิษย์พี่ !”

โอหยางลูลู่เองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วอย่างแปลกประหลาดพร้อมถามออกมาว่า

“ถังซิ่ว นายสอนอะไรให้พวกเขากันถึงรับศิษย์มากขนาดนี้ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ทักษะของฉันนั้นมากมาย ตราบใดที่ฉันสามารถสอนได้ก็สอน เป็นอะไรไป ? อย่าบอกนะว่าเธอเองก็ต้องการบูชาฉันเป็นอาจารย์ ? เกณฑ์ของฉันนั้นสูงมากนะ มันจำเป็นต้องทดสอบ”

“บ้านนายสิ ใครจะอยากไปเป็นศิษย์ของนายกัน !”

โอหยางลูลู่ได้กรอกตาไปมาขณะที่พูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่อย่างไรก็ตามเธอก็ได้รู้ถึงความไม่เหมาะสมของคำพูดเธอพร้อมมองไปที่เฉินซีซ่งแล้วพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“เฉิน……… ฉันไม่ได้หมายความอย่างงั้นน่ะค่ะ ฉันแค่โมโหกับไอ้คนบ้านี่จึงได้พูดอะไรที่ไม่เหมาะสมออกไป หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะค่ะ ”

เฉินซีซ่งเองก็ได้ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา เขามองไปที่ถังซิ่วและโอหยางลูลู่ด้วยท่าทางผิดปกติเล็กน้อย

เสร็จสิ้นการทานอาหารเย็น

เฉินซีซ่งและคุณครูทั้งหมดก็ได้กลับไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงโอหยางลูลู่ที่ไม่ต้องการกลับไปที่โรงแรมและจึงได้ให้มู่ขวินปิงจัดห้องนอนให้กับเธอ ถังซิ่วก็ได้พูดกับคังเซี่ยนที่รออยู่ที่ห้องนั่งเล่นว่า

“ไปรอที่ห้องของฉัน ! ถ้าแอนดี้มาแล้วฉันจะสอนพวกเธอพร้อมกัน”

คังเซี่ยนได้มองไปที่ถังซิ่วอย่างนอบน้อม

หากเป็นผู้ชายคนอื่นที่บอกให้เธอไปรอที่ห้องนั้นเธอจะต้องเดินหนีอย่างแน่นอนแต่ถังซิ่วนั้นแตกต่าง เธอไม่เคยรู้สึกได้ถึงความสัมพันธุ์ระหว่างชายหญิงสักครั้งที่เธอมองไปที่ถังซิ่วและนั้นมันทำให้เธอรู้สึกโกรธด้วยซ้ำ เธอคิดว่าเสน่ห์ของเธอไม่พอสำหรับถังซิ่ว ?

ห้องที่ชั้นสอง

คังเซี่ยนได้เดินตามหลังถังซิ่วเข้ามาในห้องพร้อมท่าทางที่ประหลาดใจ เธอคิดว่าห้องของผู้ชายนั้นจะต้องรกและสกปรกเหมือนคอกหมูแต่ห้องของถังซิ่วนั้นกลับสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ผ้าห่มเองก็ถูกผับไว้เช่นกัน

แม้กระทั่ง เธอยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมจางๆของดอกไม้

ถังซิ่วได้ชี้ไปที่โซฟาพร้อมพูดออกมาว่า

เธอนั่งรอที่นั่นก่อนแล้วโทรหาแอนดี้เพื่อถามว่าเธอจะมาถึงตอนไหน ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน

“ได้เลย !”

คังเซี่ยนได้หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมมองไปที่ถังซิ่วที่เดินไปที่ห้องแต่งตัวขณะที่กำลังหยิบเสื้อผ้าและเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่จะได้ยินเสียงล๊อคประตูจากด้านใน

“ขะ ขะ เขา ล๊อค…………….ประตูใส่ฉัน ?”

คังเซี่ยนได้จ้องมองอย่างโง่งมขณะที่ใบหน้าที่สวยสง่าของเธอได้แสดงความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ออกมา เธอเป็นถึงหญิงสาวที่สวยงามและหากว่าเป็นผู้ชายคนอื่นก็คงไม่สามารถอดได้ที่จะไม่พุ่งเข้าจู่โจมเธอแต่ไอ้บอสตัวดีคนนี้กลับกล้าล๊อคประตูห้องน้ำใส่เธอ อย่าบอกนะว่าเขาคิดว่าเธอเป็นเสือตัวเมียและคิดว่าเธอจะกินเขา ?

คังเซี่ยนได้ส่ายหัวไปมาขณะที่เธอโทรหาแอนดี้

เมื่อรู้ว่ายังเหลือเวลาอีกหลายสิบนาทีก่อนที่แอนดี้จะมาถึงนั้นเธอจึงได้เก็บโทรศัพท์ไว้พร้อมกับมองดูรอบๆห้องของถังซิ่วอย่างละเอียดก่อนที่สายตาของเธอจะตกลงไปบนเตียงนอนของเขา

ความคิดของหญิงสาวนั้นยากจะหยั่งถึง

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาในห้องของเขาและด้วยความสงสัยของเธอ เธอจึงได้ตรวจดูที่เตียงอย่างละเอียดและสิ่งที่พบก็ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจก็เพราะว่ามันไม่มีเส้นผมของผู้หญิงแม้แต่น้อยหรือแม้กระทั้งขน…….ของถังซิ่วเองก็ตาม

“เป็นชายหนุ่มที่ดี……….ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นเด็กดี ”

คังเซี่ยนได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่สายตาของเธอจะตกลงไปบนรูปภาพที่หัวนอนของเขา มันเป็นรูปภาพของถังซิ่วและหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง

“ก๊อก ก๊อก …….”

เสียงเคาะดังมาจากประตูห้องนอน โอหยางลูลู่ได้เดินเข้ามาและเมื่อเธอเห็นว่าคังเซี่ยนกำลังนั่งมองรูปภาพอยู่บนเตียงของถังซิ่วนั้น คิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากันทันทีพร้อมพูดออกมาอย่างหงุดหงิดว่า

“หากว่าฉันเดาไม่ผิด นี่จะต้องเป็นห้องนอนของถังซิ่วไม่ใช่หรอ ? แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่ ? ”

คังเซี่ยนที่ได้เห็นท่าทางเย็นชาของโอหยางลูลู่นั้นจึงได้เกิดการหมั่นไส้เช่นกันพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่า

“ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ? ”

“เธอ…….”

โอหยางลูลู่นั้นโกรธเป็นอย่างมากแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรดี เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ตะพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า

“ถังซิ่วล่ะ ? ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับเขา”

คังเซี่ยนได้ชี้ไปที่ห้องอาบน้ำพร้อมพูดว่า

“เขาอาบน้ำอยู่นู้นไง”

โอหยางลูลู่จ้องมองขณะที่พูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า

“เธอ…….อย่าบอกนะ………..”

คังเซี่ยนได้พูดออกมาอย่างสงบว่า

“ฉันเองก็คิดจะทำแบบนั้นเหมือนกันแต่น่าเสียดายที่เขาไม่หลงเสน่ห์ฉันเลยแม้แต่น้อย ประตูห้องน้ำได้ถูกล๊อคจากภายใน”

โอหยางลูลู่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า

“เธอมันไม่มีความยางอายเลยหรอ ? ถังซิ่วเป็นบอส ส่วนเธอเป็นลูกน้องนะ ความคิดแบบนี้มันไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม !”

คังเซี่ยนรู้สึกประหลาดใจพร้อมกับพูดออกมาว่า

“บอสและลูกน้องแล้วทำไมล่ะ ? อย่าบอกนะว่าบอสและลูกน้องจะมีความสัมพันธ์กันไม่ได้ ? ”

“นี่…….”

โอหยางลูลู่ได้เหวอไปครู่หนึ่ง

เธอมีความรู้สึกดีๆต่อถังซิ่วและทุกๆครั้งที่เจอเขาเธอก็มักจะแสดงความเป็นผู้หญิงของเธอออกมาแต่เมื่อเจอกับรูปลักษณ์ของคังเซี่ยนและสิ่งที่เธอพูด โอหยางลูลู่ก็คิดว่าผู้ชายของเธอนั้นกำลังจะถูกแย่งไปโดยหญิงอื่นซึ่งมันทำให้เธอรวบรวมความกล้าพร้อมเตะรองเท้าแตะออกไปแล้วกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงของถังซิ่วก่อนที่จะคลุมผ้าห่มขึ้นมาถึงแก้มเธอพร้อมพูดออกมาว่า

“เธอไม่สามารถอยู่ระดับเดียวกับเขาได้ ! ถังซิ่วนั้นเป็นของฉัน !!!! เขาไม่มีทางที่จะรอดพ้นเงื้อมมือของฉันไปได้ในชั่วชีวิตนี้ ต่อให้เป็นคนที่อยู่ในห้องนอนนี้ก็ต้องเป็นฉัน!!”

เมื่อได้ยินทำพูดเช่นนั้น คังเซี่ยนเองก็โกรธจัด จริงๆแล้วเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่เมื่อได้ยินคำยั่วยุจากโอหยางลูลู่ เธอจึงได้หมดความอดทนพร้อมกับถอดเสื้อของเธอออกและเหลือไว้เพียงเสื้อกล้ามพร้อมพูดว่า

“เรามาเทียบกันว่าใครจะได้เขาไป เชื่อไหมว่าฉันจะเดินเข้าไปอาบน้ำกับเขาเลย ? ”

“เธอกล้า……….!!!!!!”

โอหยางลูลู่ได้ลุกขึ้นมานั่งด้วยความโกรธอย่างรวดเร็ว

“เอี้ยดดด…….”

ประตูห้องน้ำได้ถูกเปิดขึ้นพร้อมถังซิ่วที่เดินออกมาจากข้างในและก็ต้องรู้สึกสับสนกับฉากตรงหน้าทันที

ในพริบตานั้น ! ใบหน้าของทั้งสองสาวได้เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย

นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว !

ทั้งสองคนนั้นได้แอบคิดอยู่ภายในใจของพวกเธอและรู้สึกเสียใจที่แข่งกันเมื่อครู่นี้

โอหยางลูลู่ได้ดึงผ้าห่มออกพร้อมกระโดดออกมาจากเตียงของเขาขณะที่แกล้งทำเป็นพูดอย่างจริงจังว่า

“ฉันแค่มาลองดูว่าเตียงของนายนอนสบายไหม ดูเหมือนว่ามันก็พอใช้ได้แต่เทียบไม่ได้กับเตียงห้องรับแขกเลยแม้แต่น้อย”

คังเซี่ยนได้หยิบเสื้อนอกของเธอมาใส่พร้อมกับพูดออกมาว่า

“ที่นี้มันร้อนไปหน่อยน่ะ ”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมพูดขึ้นว่า

“อากาศช่วงนี้ร้อนมาก รีโมทแอร์ตั้งอยู่ที่หัวเตียง เธอสามารถเปิดมันได้เลยส่วนลูลู่ เธอมาที่ห้องของฉันทำไมงั้นหรอ ? ”

โอหยางลูลู่ได้มองไปที่คังเซี่ยนก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“มีเรื่องที่จำเป็นต้องคุยกับนายนิดหน่อยน่ะ”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“เรื่องอะไรงั้นหรอ ? ”

โอหยางลูลู่ได้ตอบกลับไปว่า

“เรื่องส่วนตัว ไม่สามารถให้คนนอกรับฟังได้”

ถังซิ่วได้แสดงถึงความรู้สึกประหลาดใจพร้อมมองไปที่คังเซี่ยนและพูดออกมาว่า

“เธอไปรอที่ห้องทำงานของฉัน บนโต๊ะนั้นมีหุ่นเกี่ยวกับจุดพลังอยู่ เธอไปที่นั่นแล้วเริ่มจำมันซะ หากว่าแอนดี้มาถึงแล้วก็บอกเธอให้เรียนรู้มันด้วย”

“ได้เลย !”

คังเซี่ยนเองก็มองตาขวางไปทางโอหยางลูลู่เช่นกัน อย่างไรก็ตามเธอเองก็ออกไปจากห้องอย่างนอบน้อม

โอหยางลูลู่ถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“ถังซิ่ว นายให้เธอไปมองหุ่นจุดพลังทำไมงั้นหรอ ? ฉันรู้ว่านายเป็นแพทย์แผนจีนอย่าบอกนะว่ายัยสกุลคังนั้นป่วยเป็นโรคประหลาดและนายต้องรักษาเธอ ? แล้วแอนดี้นั่นอีกล่ะ เธอเป็นใครกัน ?”

ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วทันทีพร้อมพูดโกหกออกมาว่า

“คังเซี่ยนนั่นต้องทำงานทั้งวันเกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทและนั่นทำให้สุขภาพของเธอไม่ค่อยดีนัก การที่ฉันจะช่วยรักษานั้นก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วส่วนแอนดี้นั้นก็เป็นพนักงานระดับสูงในบริษัทของฉันซึ่งก็ต้องดูแลเช่นกัน”

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโอหยางลูลู่ทันทีก่อนที่เธอจะพูดออกมาว่า

“ที่นายให้เธอมารอในห้องก็เพื่อจะรักษาเธองั้นหรอ ?”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ก็ใช่สิ ไม่งั้นเธอคิดว่าอะไรล่ะ ?”

โอหยางลูลู่ได้โบกมือไปมาก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ฉันเองก็เผลอคิดไปว่านายจะโดนล่อลวงโดยยั่ยนั่นเข้า ! เห้อ ฉันเป็นกังวลแทบบ้า”

ถังซิ่วเองก็กรอกตาไปมาพร้อมพูดออกมาอย่างหงุดหงิดว่า

“เธอจะล่อล่วงฉันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ ? รีบๆพูดเรื่องที่จะปรึกษามาได้แล้ว ! ”

ไอโง่สมองหมูเอ้ย !

โอหยางลูลู่รู้สึกเสียใจกับคำพูดก่อนหน้านี้จริงๆ ที่ไม่คิดเลยว่าถังซิ่วจะไม่เข้าใจความหมายที่แฝงไปในคำพูดของเธอ

เธอได้พบกับผู้ชายมามากมายแต่ก็ไม่เคยพบใครที่แปลกประหลาดได้เท่าเขามาก่อนเลย

“อย่าบอกนะ…………ว่าเขายังโตไม่เต็มที่ ?”

โอหยางลูลู่มองไปที่เป้าของถังซิ่วก่อนที่มุมปากของเธอจะกระตุกเล็กน้อย เมื่อเธอตระหนักได้ว่าถังซิ่วกำลังจ้องมาที่เธอนั้นก็ทำให้เธอละทิ้งความคิดลามกนี้ไปทันที

“มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือสำคัญอะไรนักหรอก ฉันแค่ต้องการมาถามนายว่านายพอจะมีเวลาว่างไปที่เกาะจิงเหมินกับฉันบ้างไหม ? ”

ถังซิ่วได้ถามออกมาอย่างสับสนว่า

“แล้วจะให้ฉันไปที่เกาะนั่นทำไมกัน ?”

โอหยางลูลู่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“พ่อแม่ของฉันต้องการเชิญนายไปเป็นแขกที่บ้านพร้อมกับส่งฉันมาเป็นคนส่งข่าวนี้ให้กับนาย !!!!”

ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมพูดว่า

“เธอป่วยหรือเปล่า ? ฉันเป็นหมอนะ ฉันสามารถรักษาให้เธอได้ ฉันไม่รู้จักพ่อแม่เธอด้วยซ้ำแล้วพวกเขาจะเชิญฉันไปที่นั่นทำไมกัน ? ”

โอหยางลูลู่ได้คิดคำตอบของคำถามนี้มานานแล้ว เธอได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“อย่าบอกนะว่านายจำเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ได้ ? ที่นายรีบมาช่วยฉันจากเจ้าอันธพาลพวกนั้นน่ะ หากว่าไม่มีนายชื่อเสียงและความบริสุทธิ์ของฉันจะยังอยู่ไหมก็ไม่รู้ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะพบกับนายตัวเป็นๆเพื่อแสดงความขอบคุณ”