…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดออกมาว่า

“เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ ยิ่งไปกว่านั้นคือเวลาของฉันไม่ค่อยมีและในอนาคต…………..”

ถังซิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง

ปรากฏใบหน้าซีดขาวของกู่หยานเอ๋อขึ้นภายในจิตใจของเขาก่อนที่จะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเปลี่ยนไปพูดว่า

“ฉันจะหาเวลาไปยังเกาะจิงเหมินให้เร็วที่สุด เรื่องนี้เราค่อยพูดกันภายหลัง”

โอหยางลูลู่เองก็คิดว่าถังซิ่วนั้นจะปฏิเสธแต่เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของเขานั้นก็ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เอาล่ะ เราจะจัดการเรื่องนี้แล้วไปที่เกาะจิงเหมินในวันพรุ่งนี้ !”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“พรุ่งนี้ฉันไม่มีเวลาว่าง อย่างเร็วสุดก็คงจะเป็นในไม่กี่วันนี้ หากว่าเธอไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปได้แล้ว เมื่อฉันไปถึงที่นั่นแล้วจะติดต่อไปหาเธอเอง”

โอหยางลูลู่ได้พูดต่อว่า

“หน้าที่ของฉันที่ต้องมาเมืองนี้คือการเอาตัวนายกลับไป ! หากว่าพรุ่งนี้นายไม่ไปฉันก็จะอยู่ที่เมืองนี้ ยังไงฉันก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำที่นี่อยู่ดี”

ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยว่า

“เธอมีเรื่องอะไรต้องทำที่เมืองนี้งั้นหรอ ? ”

โอหยางลูลู่ได้เงยหน้าที่มีความสุขขึ้นมาพร้อมพูดว่า

“อย่าบอกนะว่านายลืมเรื่องโครงการของพวกเราไปแล้ว ? ฉันได้ยินมาว่าหลงเจิ้งหยูต้องการซื้อที่ดินรอบๆนั้น ฉันต้องการที่จะช่วยเหลือเขาและคิดว่าจะเอาลูกน้องสักคนมาบริหารพาราไดซ์คลับแทน ฉันคิดว่าอยากจะทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายดูบ้าง แต่จะทำอะไรหรือที่ไหนนั้นฉันเองก็ยังไม่ได้คิด”

ถังซิ่วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เธอเองก็เป็นหญิงสาวที่รวยอยู่แล้วนิ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ! การทำงานร่วมกับพวกเรานั้นต้องไม่มีคำว่าขาดทุนแน่นอน”

โอหยางลูลู่ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“นายมั่นใจขนาดนั้นเชียว ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“อย่าลืมสิว่าพิมพ์เขียวนั่นฉันเป็นคนวาดนะ มันยังไม่รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่ฉันออกแบบเลย ! หากว่าหลังจากสร้างแล้วมันไม่เป็นเครื่องหมายของเมืองนี้ล่ะก็ ฉันเองก็คงไม่มีหน้าไปรับหุ้น10%ได้หรอก ”

หลังจากนั้น

ถังซิ่วได้ส่งเธอเข้านอนพร้อมกับเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เขาได้ยินมาจากมู่ขวินปิงว่าแอนดีได้มาถึงที่นี่แล้ว เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะไปหาพวกเธอแต่กลับเดินไปที่โกดังเก็บของเพื่อเอาสมุนไพรบางชนิดที่ชูยี่หามาให้เขา

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ใบหน้าของถังซิ่วก็ปรากฏถึงความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเพราะสมุนไพรที่ชูยี่หามานั้นล้วนเป็นสมุนไพรป่าชั้นดีและมีอายุมาก เขาคิดว่าจำนวนเหล่านี้ก็น่าจะเพียงพอไปจนถึงขั้นต่อไปเลยด้วยซ้ำ

“ฉันจะต้องรีบเลื่อนระดับไปยังจุดสูงสุดของเขตแดนเสริมสร้างผิวหนังให้ได้และจะต้องตัดผ่านเข้าไปในเขตแดนเสริมสร้างเลือดเนื้อให้ได้ก่อนที่จะถึงวันเปิดเรียนที่มหาวิทยาลัยในวันที่1กันยายน”

ถังซิ่วได้มองไปที่สมุนไพรเหล่านี้ด้วยท่าทางที่แน่วแน่

ในสมองของเขานั้นกำลังคิดถึงสูตรตัวยาหลายชนิดแต่มันกลับไม่มีผลกับเขาในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย เขาจะต้องรีบตัดผ่านระดับนี้ไปให้ได้และมันจำเป็นที่จะต้องบ่มเพาะในที่ที่มีพลังวิญญาณเข้มข้นเพื่อที่จะสามารถดูดกลืนพลังแห่งดวงดาราได้มากขึ้น

พลังวิญญาณ!

มันเป็นสื่อกลางที่จะช่วยผสมและดูดกลืนพลังแห่งดวงดาราได้อย่างราบรื่นขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือพลังวิญญาณเองก็มีผลดีกับตัวเขาตรงที่ว่ามันสามารถบำรุงรักษาอวัยวะภายในพร้อมกับรวมตัวกับพลังแห่งดวงดาราเพื่อเพิ่มความไวในการบ่มเพาะให้กับเขาแต่การทานยาเข้าไปนั้น มันจะไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเขาเลยแต่กลับกัน มันจะช่วยเขาฟื้นฟูร่างกายและทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นและดูดกลืนได้ไวขึ้น

ถังซิ่วได้ออกมาจากโกดังเก็บของพร้อมกับกลับไปที่ชั้นสองของวิลล่า เขาเข้าไปในห้องทำงานและเมื่อเห็นว่าพวกเธอทั้งสองกำลังตั้งใจศึกษาเกี่ยวกับหุ่นจุดพลังนั้นเขาก็ได้ถามออกมาว่า

“เป็นอย่างไรบ้าง ? ”

คังเซี่ยนเองก็ได้ยิ้มออกมาอย่างลมลื่นพร้อมพูดว่า

“บอส จุดเหล่านี้มันมีมากเกินไป แม้ว่าจะให้เวลาเราหลายวันก็คงไม่สามารถจำมันได้ทั้งหมด”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันจะสอนพวกเธอเอง ! เทคนิคบ่มเพาะพลังที่ฉันจะสอนให้พวกเธอนั้นไม่ได้ใช้ไหลผ่านจุดพลังเยอะเท่าไหร่ มันใช้แค่108 จุดเท่านั้น เมื่อถึงเวลาแล้วฉันจะอธิบายมันกับพวกเธอ”

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง

ถังซิ่วได้สอนถึงจุดพลังทั้งหมดบนร่างกายของมนุษย์พร้อมกับเทคนิคการบ่มเพาะให้กับพวกเธอ แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเธอเองก็เป็นเหมือนหุ่นร่างมนุษย์ที่เขาเองก็ต้องกดไปที่จุดตามร่างกายของพวกเธอ มันมีบางจุดที่เป็นที่ซ่อนเร้นแต่เขาเองก็กดมันไปอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก ซึ่งทำให้พวกเธอทั้งสองถึงกับต้องหน้าแดงและตัวสั่นด้วยความอับอาย

“โอเค พวกเธอเลิกคิดเรื่องลามกได้แล้ว จำสิ่งที่ฉันสอนไปทั้งหมดให้ดีแล้วตั้งใจฝึกฝน จำไว้ว่าพวกเธอต้องค่อยสัมผัสถึงการไหลเวียนของพลังฉีแล้วควบคุมมันอย่างช้าๆ พวกเธอจะต้องก้าวเดินบนเส้นทางนี้อย่างมั่นคง”

เรื่องลามก ?

คังเซี่ยนและแอนดี้ได้มองไปที่กันและกันโดยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี พวกเธอจ้องมองไปที่ถังซิ่วอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะพวกเธอเป็นหญิงสาวที่โตเต็มวัยแต่กลับถูกผู้ชายสัมผัสตามตัวนั้นจะไม่ให้พวกเธอรู้สึกเขินอายได้อย่างไรกัน ? เขาคิดมาได้อย่างไร ?

อย่างไรก็ตาม พวกเธอเองก็ไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นเหล่านั้นออกมาเพราะหากพวกเธอจะทำจริงๆก็คงทำตั้งนานแล้ว

หลังจากที่ได้รับการถ่ายทอดเทคนิคบ่มเพาะจากถังซิ่วแล้วพวกเธอก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“อย่าลืมว่าพวกเธอต้องฝึกแบบนี้อย่างน้อยวันละสิบครั้งและยิ่งกว่านั้นคือพวกเธอยังไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนของพลังฉี เพราะฉะนั้นพวกเธอก็ทำตามที่ฉันได้สอนไปแล้วพยายามรู้สึกถึงมันให้ได้พร้อมกับเริ่มควบคุมมันมีละน้อย ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะใช้เวลาไม่เกิน2-3เดือนก็น่าจะรู้สึกถึงมันได้แล้ว”

“2-3เดือน ?”

หญิงสาวทั้งสองได้โห่ร้องออกมาอย่างตกใจ

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“เป็นอะไรงั้นหรอ ? ทนไม่ไหว ? ฉันจะบอกให้นะถ้าหากพวกเธอไม่สามารถทนได้ก็จะเป็นได้แค่คนธรรมดาเท่านั้น หากว่าอยากจะเป็นนิรัด์ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว”

คังเซี่ยนและแอนดีได้มองไปที่กันและกันอย่างแน่วแน่ก่อนที่จะพูดออกมาพร้อมกันว่า

“เราทนได้อย่างแน่นอน!”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ทนได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องของพวกเธอ ฉันได้สอนเทคนิคไปแล้วและหวังว่าพวกเธอจะเป็นมือขวาของฉันส่วนเรื่องที่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรนั้นเราก็ค่อยมาดูกันอีกที เอาล่ะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกเธอรีบๆกลับไปได้แล้ว”

คังเซี่ยนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“บอส คุณไม่ต้องการให้เราค้างคืนที่นี่ ? ”

ถังซิ่วส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า

“จะมานอนที่นี่เพื่ออะไร ? กลับไป ! พรุ่งนี้ยังมีงานมีการต้องทำกันอีกนะ”

คังเซี่ยนได้ถามออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ว่า

“บอส อย่าบอกนะว่าเราไม่น่าหลงใหลจริงๆงั้นหรอ ? อย่าบอกนะว่าการที่คุณเห็นพวกเราแล้วไม่รู้สึกตื่นเต้นหรืออะไรเลยแม้แต่น้อย ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยความสับสนว่า

“ฉันจะตื่นเต้นทำไมล่ะ ? ฉันยอมรับว่าพวกเธอนั้นน่าหลงใหลมากแต่สิ่งที่ฉันต้องการคือผู้ติดตามไม่ใช่ผู้หญิงบนเตียง เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระกันได้แล้ว เอาเวลาไปคิดว่าจะทำเงินกันอย่างไรดีกว่า”

คังเซี่ยนตอบกลับด้วยท่าทางโกรธว่า

“บอส คุณเห็นพวกเราเป็นแค่เครื่องมือทำเงินของคุณอย่างงั้นหรอ ?”

แอนดี้เองก็รีบพูดออกมาเช่นกันว่า

“บอส ! ผู้ชายคนอื่นที่ได้เห็นเราล้วนแต่ใฝ่ฝันว่าจะลากเราขึ้นเตียงได้ ทำไมคุณ……ถึงได้เหมือนหินแบบนี้ ? ใช่ คุณมันเป็นหิน !!!!!”

ถังซิ่วตอบกลับอย่างเรียบเฉยว่า

“ฉันไม่ได้คิดว่าพวกเธอเป็นแค่เครื่องมือทำเงินเท่านั้นแต่เป็นผู้ติดตามของฉันเป็นคนของฉัน เรื่องผู้หญิงเองก็อาจจะจำเป็นแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ในอนาคตฉันอาจจะหาผู้หญิงที่ดูดีสักคนเพื่อแต่งงานแต่เป้าหมายก็เพื่อสืบสกุลเท่านั้น มันเป็นความต้องการของแม่ฉัน เรื่องความผูกพันหรือความรู้สึกรักนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเพราะฉันไม่ต้องการ”

คังเซี่ยนได้ถามกลับด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า

“ไม่รักแล้วจะแต่งทำไม ? แค่เพื่อที่จะสืบสกุลเนี่ยนะ !!!! ? ทำไมคุณถึงได้………….”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“รักที่ซื่อสัตย์นั้นจะถูกกัดกร่อนไปจนหมดตามกาลเวลา ต่อให้เป็นรักที่มากล้นแค่ไหนก็จะถูกทรยศเข้าสักวันหนึ่ง ฉันต้องการผู้หญิงแต่ไม่ต้องการความรักและยิ่งไปกว่านั้นคือหากว่าฉันไม่ตายโดยอุบัติเหตุ ชีวิตของฉันก็จะยืนยาวมากและการมีผู้หญิงอยู่เคียงข้างก็จะเป็นตัวสร้างปัญหาอยู่เสมอ”

คังเซี่ยนและแอนดี้ได้มองไปที่กันและกันอย่างว่างเปล่า

พวกเธอนั้นเป็นคนที่ฉลาดมากและถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีความรักแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยกินหมูจะไม่รู้จักหมู พวกเธอตระหนักดีถึงความหมายลึกซึ้งของคำพูดของถังซิ่วดี เขาจะต้องเคยถูกหักอดโดยผู้หญิงและแผลนั้นก็เป็นอะไรที่ลึกมาก

เธอคือใครกัน ?

หากเทียบตามอายุของถังซิ่ว ?

แอนดี้ได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองที่ถังซิ่วแล้วถามออกมาว่า

“บอส ในสายตาของคุณนั้นคิดว่าฉันสวยไหม ?”

ถังซิ่วได้มองไปที่แอนดี้ด้วยท่าทางแปลกๆพร้อมตอบกลับไปว่า

“ก็ดูดี !”

ถังซิ่วได้พยักหน้า

แอนดี้ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“บอส ในเมื่อคุณบอกว่าฉันหน้าตาดี หากว่าวันไหนคุณต้องการผู้หญิงที่จะมีลูกด้วยก็มาหาฉันได้เลย !!!! แม้ว่ารูปร่างสัดส่วนของฉันจะไม่สามารถเทียบกับพี่สาวคังได้แต่รูปลักษณ์ของฉันนั้นน่ารักและน่าหลงใหลมาก หากว่าเรามีลูกด้วยกันฉันคิดว่าพวกเขาจะต้องน่ารักมากๆแน่นอน โอ้ว ลูกน้อยของเรา”

ถังซิ่วโบกมือพลางพูดว่า

“ก่อนที่จะเรียนจบมหาวิทยาลัยก็อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก่อนเลย พวกเธอรีบๆกลับไปได้แล้ว ! ฉันจะพักผ่อน ”

ทันใดนั้นคังเซี่ยนและแอนดี้ได้รีบกลับออกไปจากวิลล่าของเขา เขาไม่ได้จริงจังกับคำพูดติดตลกของพวกเธอมากนักแต่เรื่องที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง เขาไม่กล้าที่จะเปิดใจให้ใครอีกต่อไปแล้ว เขากลัวที่จะต้องโดนหักหลังอีกครั้ง

ที่ทางเดินชั้นหนนึ่ง

โอหยางลูลู่รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากขณะที่เธอกำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างพร้อมมองไปที่คังเซี่ยนและแอนดี้กำลังเดินออกไปและขึ้นไปบนรถ lamborghini หลังจากนั้นก็ขับออกไป

เธอรู้สึกช๊อคกับรูปลักษณ์ที่ดึงดูดของแอนดี้เป็นอย่างมาก เธอเองก็รู้สึกสับสนในหัวใจเหมือนกันที่ทำไมถึงซิ่วถึงสามารถทนกับรูปร่างและใบหน้าที่ยั่วยวนของพวกเธอได้ ดึกขนาดนี้แล้วยังให้พวกเธอกลับไปอีกงั้นหรอ

อย่างไรก็ตามเธอก็รู้สึกมีความสุขและพึงพอใจเป็นอย่างมาก

“เวรเอ๋ย ฉันกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย ? ถังซิ่วก็ถือว่าโอเคแต่อายุของเขาน้อยกว่าฉันตั้งหลายปี หากว่าจะแต่งงานกับเขาก็คงต้องรออีกหลายปี แหวะ แหวะ……ฉัน ? ใครจะไปแต่งงานกับเขากัน …….”