……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

เหมี่ยวเหวินถังนั้นมีความสุขเป็นอย่างมากพร้อมกับตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า

“ฉันเชื่อว่าเพื่อนเซ่าเองก็จะตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เมื่อเรากลับไปที่เมืองเมื่อไหร่ ฉันจะรีบโอนเงินไปให้นายทันที”

ถังซิ่วพยักหน้าด้วยความถึงพอใจพร้อมกับพูดว่า

“ยาที่นายกลั่นมาก่อนหน้านี้ ? อาการบาดเจ็บของมันนั้นรุนแรงมากและต้องใช้ยานั่น”

“อยู่นี่ !”

เหมี่ยวเหวินถังรีบคว้าเอาขวดยาออกมาจากเสื้อของเขาทันที

ถังซิ่วรับมันมาจากมือของเขาพร้อมกับป้อนให้สัตว์ร้ายดื่มลงไปพร้อมกับส่งคืนให้เหมี่ยวเหวินถัง

“ฉันจะไปเอาค่ายกลออก เรากลับไปกันเถอะ ! พรุ่งนี้เราจะต้องเขาไปยังถ้ำนั่น ฉันหวังว่าเราจะสามารถเก็บเกี่ยวอะไรออกมาได้บ้างนะ ”

เหมี่ยวเหวินถังได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“การที่ฉันสามารถซื้อเทคนิคนี้จากนายนั้นก็ถือว่าเก็บเกี่ยวพอแล้ว ไม่ว่าจะได้อะไรในวันพรุ่งนี้นั้นฉันก็รู้สึกพอใจแล้ว”

ถังซิ่วยิ้มออกมาอย่างสงบพร้อมกับไม่ได้พูดอะไรต่อไป

เหมี่ยวเหวินถังเองก็รู้สึกพอใจและไม่พอใจเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะได้เทคนิคนี้มาโดยบังเอิญนั้นแต่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือแร่ล้ำค่า

เมื่อกลับไปถึงที่แคมป์ เซ่าหมิงเจิ้งก็ได้รีบวิ่งมาต้นรับพวกเขาทันทีก่อนที่จะโห่ร้องมาแต่ไกลว่า

“เป็นอย่างไรบ้าง ?~~~ ได้ฆ่าไอ้……….”

ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าคอของเขาได้ถูกคว้าไว้โดยมือที่มองไม่เห็นและไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เพราะเขาเห็นว่าที่หน้าอกของถังซิ่วนั้นกำลังอุ้มสัตว์ร้ายตัวนั้นอยู่

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้อธิบายเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบให้เซ่าหมิงเจิ้งฟังก่อนที่จะหยอกล้อเรื่องใบหน้าของเซ่าหมิงเจิ้งที่กำลังช๊อคอยู่ในขณะนั้นพร้อมพูดว่า

“เป็นอย่างไร ? ต้องการเทคนิคลับนั่นไหม ? หากต้องการเราก็มาหารกันคนละ500ล้าน ”

เซ่าหมิงเจิ้งได้หายใจถี่ขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดออกมาอย่างไม่ลังเลว่า

“ต้องการสิ ไม่ต้องการก็บ้าแล้ว ! กลับไปที่เมืองเมื่อไหร่ฉันจะรีบโอนเงินให้ทันที”

เขาตระหนักดีว่าสัตว์ร้ายที่อยู่ในอ้อมกอดของถังซิ่วนั้นมีความสามารถในการต่อสู้ที่สูงมากและเขาเองก็เป็นคู่มือของมันไม่ได้ด้วยซ้ำ หากว่าเขาได้มันมาล่ะก็ เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน ตอนนี้เขารู้สึกอิจฉาถังซิ่วเป็นอย่างมาก

เหมี่ยวเหวินถังได้พูดต่อว่า

“ตอนนี้หายนะก็ได้ถูกจัดการไปแล้ว เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่มเสียที อ่อ พรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเขาวงกตของถ้ำสวรรค์และสำรวจมัน”

ถังซิ่วที่ที่ยืนอนยู่ข้างๆนั้นได้พูดขึ้นมาทันทีว่า

“จริงๆแล้วฉันไม่ต้องการที่จะรีบไปที่ถ้ำแห่งนั้น ฉันอยากจะบอกอะไรนายก่อน ”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้แต่ประหลาดใจพร้อมถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ทำไมกันงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ฝืนยิ้มแล้วพูดออกมาว่า

“ก่อนหน้าที่ฉันจะจับเจ้านี่มาได้นั้นฉันเองก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอยู่แล้ว ฉันคิดว่ามันกำลังกลัวฉันแต่หลังจากที่ฉันได้กำราบมันนั้นก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ได้กลัวฉันเลยแม้แต่น้อยแต่กำลังกลัวอย่างอื่น พวกนายจำตอนที่เราได้ไปที่อาณาเขตมังกรแห่งความชั่วร้ายได้ไหม ? ตอนนี้ฉันเองก็รู้สึกแบบเดียวกับที่นั่น ”

เหมี่ยวเหวินถังได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“เพื่อนถัง นายอาจจะคิดผิดไปหรือเปล่า ? อย่าบอกนะว่านายจะยอมแพ้ ?”

ถังซิ่วส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า

“ฉันไม่ได้ยอมแพ้ ในเมื่อเรามาถึงที่นี่แล้วไม่ว่าในนั้นจะมีอะไรเราก็จะฝ่ามันเข้าไปแต่สิ่งที่ฉันจะบอกพวกนายคือเราต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเรามากๆไม่เช่นนั้นเราคงไม่สามารถกลับออกมาได้”

เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเจิ้งได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

สำหรับพวกเขา ถังซิ่วนั้นเป็นคนที่ดูลึกลับเป็นอย่างมากและการที่ได้อยู่กับเขาก็มักจะได้เก็บเกี่ยวอะไรเสมอดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อฟังคำพูดของถังซิ่วอย่างเคร่งครัด

เช้าวันรุ่งขึ้น

แสงแรกของรุ่งอรุณได้สาดส่องมาในยามเช้า เมื่อถังซิ่วออกมาจากเต้นท์ของเขาก็ได้เห็นชายรูปร่างกำยำทั้งหกคนกำลังเตรียมอาหารกันอย่างวุ่นวาย เขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อยอยู่ภายใจใจเพราะว่าผู้ติดตามของพวกเขานั้นเป็นถึงสุดยอดในสุดยอด

เงิน !!!!!

ถึงถังซิ่วจะสามารถหาเงินมาได้ถึงพันล้านนั้นก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมากนักเพราะบริษัทของเขานั้นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากและคังเซี่ยนเองก็ได้ไล่บี้เขาเรื่องนี้อยู่ทุกวันแถมยังติดเฉินซี่ซ่งถึง2.5พันล้าน เงินที่ได้มานี้เขาตั้งใจว่าจะแบ่งครึ่งให้กับคังเซี่ยนและอีกครึ่งให้กับเฉินซีซ่ง

สุดท้าย !

เงินในกระเป๋าของเขาก็เหลือไม่มาก ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ก็ยังพอเหลืออยู่ไม่กี่ล้านแต่ก็ต้องจ่ายค่าครูฝึกแม่บ้านเหล่านั้น ค่าหยกและวัตถุดิบอื่นๆ ตอนนี้ไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย

สนามบินเมืองสตาร์ซิตี้

หลงเจิ้งหยูได้ยืนอยู่ข้างรถสปอร์ตสุดหรูของเขาและมองไปที่ชูยี่ที่กำลังเดินออกมาจากประตูทางออกของสนามบินและพยายามโบกมือเรียกความสนใจ ข้างหลังของเขานั้นมีชายสองคนที่กำลังถือกระเป๋าหนังด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“นายน้อยชู นายมาที่เมืองนี้นั้นก็ไม่เป็นไรแต่ทำไมฉันต้องมาหานายด้วย ? เมื่อวานนี้ฉันเองก็นอนเกือบจะเช้าแล้ว ฉันเกือบจะหลับระหว่างทางมาที่นี่แล้วรู้ไหม ? ”

หลงเจิ้งหยูได้หาวออกมาขณะที่แสดงท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย

ชูยี่ฝืนยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า

“ฉันก็มาเพื่อที่จะทำธุรกิจยังไงเล่า ! นายเห็นกระเป๋าพวกนั้นไหม ข้างในนั้นมันบรรจุไปด้วยของมีค่า !”

หลงเจิ้งหยูได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“อะไรกันล่ะ ? ”

ชูยี่ได้พูดออกมาว่า

“ก่อนหน้านี้จำเรื่องที่ถังซิ่วได้ให้ใบสั่งสมุนไพรมาแก่พวกเราได้ไหม ? ใบสั่งนั้นมีชื่อสมุนไพรอยู่กว่าร้อยชนิดและฉันได้รับมาแค่ไม่ถึงโหลนึงเท่านั้นแต่ไม่คิดเลยว่ามันจะแพงขนาดนี้ ไอสองกระเป๋านี่ฉันใช้ไปกว่า200ล้านเลยรู้ไหม ”

“อะไรนะ ? ”

หลงเจิ้งหยูนั้นไม่ค่อยจะรู้รเองราคาของสมุนไพรมากนักแต่การที่มีราคาถึง200ล้านได้นี่มันจะต้องล้ำค่าขนาดไหนกัน

“ชูยี่ นายเองก็อยู่กับถังซิ่วแล้วทำไมถึงไม่ถามว่าเขาจะเอาของพวกนี้ไปทำอะไร ? ”

ชูยี่ได้ส่ายหัวพร้อมตอบกลับไปว่า

“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเราอย่าไปเสือกเลยดีกว่า ยังไงก็ตามอะไรที่ช่วยเขาได้เราก็ต้องพยายามทำมัน !”

หลงเจิ้งหยูได้พูดออกมาว่าด้วยรอยยิ้มว่า

“นายกำลังประจบเขางั้นหรอ ?”

ชูยี่ได้กรอกตาไปมาพร้อมกับพูดหยอกล้อว่า

“นายล่ะ ไม่ได้ประจบเขางั้นหรอ ห๊า ? ถ้านายไม่ประจบแล้วจะให้วิลล่านั่นไปทำไมกัน ? ”

หลงเจิ้งหยูได้โบกมือไปใพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วว่า

“ฉันจะลองโทรหาเขาดูว่าเขาอยู่ที่ไหน ! เราเอามันไปส่งให้เขากัน ”

ชูยี่ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ฉันลองแล้ว เขาปิดเครื่อง ”

หลงเจิ้งหยูได้พูดออกมาว่า

“หรือว่าเราจะเอาไปส่งที่วิลล่าของเขาดี ? หากว่าเขาไม่อยู่ที่บ้านก็ฝากไว้ที่แม่บ้าน !”

ชูยี่ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ถังซิ่วมีแม่บ้านแล้วงั้นหรอ ? ”

หลงเจิ้งหยูพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“เขามีหลายๆอย่างที่นายไม่รู้เลยล่ะ ! เอาล่ะ เราไปที่วิลล่าของเขากันเถอะแล้วค่อยคุยกันระหว่างทาง”

พื้นที่หรูหราบางแห่งในเมืองสตาร์ซิตี้

ซูชางเหวินกำลังนอนอยู่บนโซฟาและไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในสมองของเขาขณะที่ภรรยาของเขานั่งร้องไห้อยู่ตรงกันข้ามแต่ลูกๆของเขากลับนั่งไม่พูดอะไรแม้แต่น้อยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

บริษัทของเขาเลิกกิจการ !

พวกเขารู้ดีว่าซูชางเหวินนั้นได้ตกลงไปในหลุมที่มครบางคนได้ขุดไว้ก่อนหน้านี้แล้วและเป้าหมายของมันก็เพื่อทำลายบริษัทของเขา

“ต้องเป็นไอเลวถังซิ่วนั่นอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้เขาได้ให้ไอ้ระยำสกุลเฉินนั้นสร้างความลำบากให้แก่ครอบครัวของเรา”

ซูหยางหนิงเองก็ได้โห่ร้องออกมา

ซางเหม่ยหยุนเองก็หยุดร้องไห้พร้อมแสดงถึงความเกลียดชังออกมา เธอตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“ใช่ ต้องเป็นไอ้เด็กเหี้ยนั่นแน่ แม่คนนี้จะไปหาตัวมันและฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ !”

ซูชางเหวินได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า

“หุบปากซะ เธอคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าถังซิ่วมันให้เฉินซีซ่งเป็นคนทำ ? ไหนล่ะหลักฐาน ? ใครเอาหลักฐานออกมาได้บ้าง ? ”

ซางเหม่ยหยุนได้มองไปที่ซูชางเหวินด้วยความโกรธพร้อมตะโกนออกมาว่า

“แล้วจะมาตะคอกใส่ฉันทำไม ? เป็นไงล่ะ อยากจะแกล้งมันมากนักไม่ใช่ ? แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร ? เงินไม่เหลือสักหยวนแต่ยังติดหนี้อีก หากว่าพรุ่งนี้เราหา80ล้านหยวนมาไม่ได้ครอบครัวของเราต้องชิบหายอย่างแน่นอน”

ซูชางเหวินได้ชี้ไปที่ซางเหม่ยหยุนพร้อมด่าออกมาว่า

“ไอ้ผู้หญิงตัวเหม็น เธอกล้าโทษฉัน ? หากว่าเธอไม่ได้ยุให้ฉันต้องลงทุนในธุรกิจใหญ่นั้นแล้วล่ะก็ ฉันจะเป็นอย่างงี้ ? ตอนนี้มาโกรธที่ฉันไม่มีเงินงั้นหรอ ? งั้นก็ไสหัวไปซะ !”

ซางเหม่ยหยุนได้กระโดดขึ้นมาจากโซฟาพร้อมเอาซ้อมชี้ไปที่ซูชางเหวินและกรีดร้องออกมาว่า

“แก ไอ้ระยำนี่ เสียเงินแล้วมาโทษฉันงั้นหรอ ? หากว่าแม่คนนี้บอกให้แกไปกินขี้แกจะไป ? ฉันจะไม่ทนอยู่กับแกอีกต่อไปแล้ว เลิก !!! ต้องหย่า !!!”

“เฮือก”

ซูชางเหวินได้มองไปที่เธอด้วยความไม่อยากจะเชื่อและคิดว่าภรรยาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้ที่บริษัทของเขายังเจริญรุ่งเรืองอยู่นั้นเธอมักจะเชื่อฟังเขาอยู่เสมอพร้อมกับวิ่งกระดิกหางอยู่รอบๆเขา นี่เธอโกรธจนลืมไปแล้วหรอว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ?

และยิ่งไปกว่านั้น……

จะหย่ากับฉัน ?

“ดิ๊ง ด๊อง……”

เสียงกริ่งได้ดังขึ้น

ซูหยานหนิ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธนั้นได้รีบวิ่งไปที่ประตูแล้วเปิดมันออก เธอก็ต้องพบกับตำรวจหลายคนและนั่นทำให้ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปทันที

“พวก………..พวกคุณมาหาใครกัน ? ”

ตำรวจที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นได้ตอบกลับไปว่า

“ซางเหม่ยหยุนอยู่ที่นี่ไหม ? ”

“อยู่ค่ะ!”

ซูหยางหนิงได้ตอบกลับไป

ตำรวจได้ผลักประตูเข้าไปทันทีพร้อมกับเดินเข้าไปพบกับซางเหม่ยหนุนที่กำลังเต็มไปด้วยความโกรธ พวกเขาพูดว่า

“ซางเหม่ยหยุน เราได้รับรายงานมาว่าเมื่อ2ปี6เดือนที่แล้วเธอได้เกี่ยวข้องกับคดีชนแล้วหนี โปรดตามเราไปให้ปากคำกับพวกเรา”

ซางเหม่ยหยุนนั้นช๊อคในทันที ท่าทางของลูกๆเธอเองก็หวาดผวาเช่นกัน

ซูชางเหวินที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นได้หัวเราะออกมาทันทีพร้อมพูดว่า

“ซวงเหม่ยหยุน ซางเหม่ยหยุน ไม่คิดเลยว่าเธอจะจบลงแบบนี้ เป็นไง ? อยากจะเลิกกับฉันไม่ใช่หรอ ? อ๊า ชนแล้วหนีงั้นหรอนี่มันเป็นข้อหาร้ายแรงเลยทีเดียว อยากหย่าใช่ไหม ดี ! งั้นเราหย่ากัน ! ฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเธอจะจบชีวิตยังไงในคุก”

ท่าทางของซางเหม่ยหยุนได้ซีดลงทันทีก่อนที่จะแสดงความหวาดกลัวออกมาแล้ววิ่งไปข้างหน้าซูชางเหวินแล้วร้องไห้ออกมา

“สามี ฉันผิดไปแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันมันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรที่จะพูดเรื่องไร้สาระออกมาเพราะว่าความโกรธมันบังตาฉันเลยพูดไร้สาระออกไป อย่าโทษฉันเลยนะ คุณบอกพวกเขาทีสิว่ามันเป็นแค่การเข้าใจผิดเท่านั้น ฉันไม่ได้ชนแล้วหนีนะ……………”