…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ในป่าแห่งนั้นได้มีเสือโคร่งไซบีเรียตัวใหญ่ได้วิ่งมาทางกองไฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่เสียงคำรามของมันนั้นดังกึกก้องไปทั่วทุกทิศทางทำให้สัตว์ร้ายที่กำลังจะเดินเข้าไปในค่ายกลนั้นได้รีบวิ่งหนีไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว มันใช้เวลาเพียงแค่2-3วินาทีเท่านั้นก็สามารถหายไปจากระยะจิตสัมผัสของถังซิ่วได้ทันที

“เวรเอ้ย !”

ถังซิ่วได้สาปแช่งออกมาเบาๆ

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ถามออกมาว่า

“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันสัมผัสได้ไอ้สัตว์ร้ายนั่นกำลังจะเข้าไปในค่ายกลแล้วเชียงแต่กลับมีเสือโคร่งไซบีเรียตัวเบ้อเร่อวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ มันทำให้ไอ้เจ้านั่นตื่นตัวและหนีไป ฉันเห็นได้ว่าเจ้าสัตว์ร้ายนั่นมีภูมิปัญญาที่ชาญฉลาดเป็นอย่างมาก”

เหมี่ยวเหวินถังได้ถามออกมาทันทีว่า

“แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ ? ไม่ใช่ว่าเราจะรอเสียเปล่าอย่างงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“หากว่าเป็นนายที่ถูกล่อลวงโดยสิ่งหนึ่งแล้วแต่กลับถูกขัดขวางโดยฉับพลันนั้น เป็นนายจะยอมแพ้ ? ”

“ไม่มีทาง !”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ตอบกลับพลางส่ายศีรษะ

ถังซิ่วได้ตอบกลับว่า

“นั่นล่ะ ฉันเองก็คิดเช่นนั้นเหมือน รอไปอีกหน่อย! มันจะต้องกลับมาที่นี่อย่างแน่นอน ฉันเชื่อว่ามันเองนั้นกำลังประเมินสถานการณ์อยู่เช่นกัน”

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง

เสือโคร่งตัวนั้นก็ได้เข้ามาใกล้กับกองไฟนั้น มันกำลังมองหาอาหารอันโอชะของมันที่กองไฟ

“มันกลับมาแล้ว!”

หลังจากที่เขาใช้จิตสัมผัสนั้นรอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาเพราะเขาพบว่าสัตว์ร้ายตัวนั้นได้เข้ามาในระยะ200เมตรอีกครั้งด้วยความระมัดระวัง มันใช้เวลาเพียงพริบตาเท่านั้นที่จะเข้าใกล้กองไฟพร้อมกับซ่อนตัวอยู่ในพุ่งไม้หนึ่ง

ดวงตาของมันได้เปล่งรังสีฆ่ามันออกมาขณะที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันพุ่งออกมาข้างหน้าอย่างว่องไวเหมือนกับนายพรานที่กำลังดักรอเหยื่อพร้อมกับกระโจนใส่เสือโคร่งตัวนั้นทันที ความไวของมันนั้นเรียกได้ว่าเร็วกว่าความไวสูงสุดของถังซิ่วถึงสิบเท่า

ในชั่วพริบตา !

กรงเล็บอันแหวมคมของมันก็ได้ฉีกกระชากคอของเสือโคร่งไซบีเรียที่อยู่ห่างออกไป3-4เมตรทันที

“ฟิ้วววว”

ผิวหนังของเสือโคร่งตัวนั้นถูกฉีกกระชากออกด้วยกรงเล็บอันแหลมคมอย่างง่ายดาย เลือดของมันกระฉูดออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนขณะที่สัตว์ร้ายตัวนั้นเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพร้อมกระโจนใส่เสือโคร่งอีกครั้ง

“โฮ๊กกกกก……”

เลือดได้ท่วมไปทั้งตัวของเสือโคร่งตัวนั้นขณะที่มันพยายามตอบโต้สัตว์ร้ายโดยการกระโจนเข้าใส่มันแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะความเร็วของมันไม่อาจตามทันได้แม้แต่น้อย มันทำได้แค่โดนขนแหลมคมของสัตว์ร้ายเท่านั้น

ได้เวลาแล้ว !

ถังซิ่วกระโดดลงมาพร้อมกับได้วางหินหยกลงตรงค่ายกลทันทีขณะที่พลังแห่งดวงดาราของเขาได้ถูกส่งผ่านไปยังหินหยกเหล่านั้น

ในชั่วพริบตา !

ค่ายกลทั้งหมดก็ได้ถูกเปิดใช้งาน

เหมี่ยวเหวินถังเองก็รีบกระโดดลงมาพร้อมกับยืนอยู่ข้างๆถังซิ่ว เขากำลังมองไปที่ฉากนองเลือดตรงหน้าพร้อมกับแววตาที่ประหลาดใจ หลังจากนั้นเขาก็ได้ถามขึ้นว่า

“เพื่อนถัง นายเปิดใช้ค่ายกล ? นายต้องการจะขังพวกมันไว้ข้างใน ? ”

“ใช่แล้ว !”

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของถังซิ่ว

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พูดต่อว่า

“พวกมันไม่สามารถหนีออกไปได้อีกแล้วส่วนเจ้าเสือโคร่งนั่นต้องตายอย่างแน่นอน นายดูความเร็วของมันสิ ต่อให้ฉันและเซ่าหมิงร่วมมือกันก็คงทำให้มันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นแต่พวกเรากลับบาดเจ็บสาหัส นายจะต้องไม่มองที่รูปลักษณ์กระจ้อยร่อยของมันนะ หากมันปลดปล่อยพลังที่แท้จริงแล้วละก็ ต่อให้ฉันและเซ่าหมิงเองก็ไม่ใช่คู่มือของมันแม้แต่น้อย ”

“แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยความตกใจ

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“แข็งแกร่งมาก ก่อนหน้านี้เจ้านั่นแค่กำลังหยอกล้อกับเสือโคร่งเท่านั้นและยังไม่ได้พลังที่แท้จริงแม้แต่น้อย หากว่ามันเอาจริงแล้วละก็ เสื้อนั่นคงยืนอยู่ได้ไม่ถึงสิบวินาทีด้วยซ้ำ”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“นายออกไปรอข้างนอกค่ายกล ! ฉันจะไปช่วยเจ้าเสือโคร่งตัวนั่น หากว่าเราสามารถสร้างบาดแผลให้เจ้าสัตว์ร้ายนั่นได้ล่ะก็ เราจะจัดการมันได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน”

หลังจากที่พูดจบ!

ถังซิ่วได้ก้าวออกมาข้างหน้าทันทีพร้อมกับคว้าเอายันต์สายฟ้าหลายแผ่นออกมาจากเสื้อของเขา

“ไป!!!….”

ขณะที่เขาโบกมือนั้นยันต์สายผ้าของแผ่นก็ได้ทำงานพร้อมปลดปล่อยสายฟ้าออกไปทางหัวของสัตว์ร้ายตัวนั้น

เปรี้ยง เปรี้ยง!

สายฟ้าได้ฟาดไปที่กลางหัวของมันและทำให้ความเร็วของมันลดลงอย่างมากขณะที่ขนของมันก็ได้ส่งกลิ่นเหม็นไหม้และมีเลือดซึมออกมา

“โฮ๊กกกก…..”

เสือโคร่งตัวนั้นได้กระโจนไปยังสัตว์ร้ายอีกครั้ง ในที่สุดกรงเล็บที่แหลมคมของมันก็ได้ฟาดโดนสัตว์ร้ายพร้อมสร้างบาดแผลให้มันจนกระเด็นออกไป

ถังซิ่วได้พ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับโบกสะบัดยันต์ในมืออีกครั้ง สายฟ้าได้กระหน่ำลงบนตัวของสัตว์ร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า

“เฮือกกกก….”

เมื่อสัตว์ร้ายตัวนั้นได้ถูกโจมตีโดยสายฟ้านับครั้งไม่ถ้วนจึงทำให้มันถึงกับนอนฟุบลงกับพื้นแต่ถังซิ่วเองก็ยังไม่หยุดแค่นั้น เขายังคงโบกสะบัดยันต์สายฟ้าในมือของเขา ตอนนี้เขาเหลือมันอยู่เพียงสิบกว่าแผ่นเท่านั้น

ข้างนอกค่ายกล

ริมฝีปากของเหมี่ยวเหวินถังบิดเบี้ยวไปมาขณะที่มองไปที่ฉากที่เกิดขึ้น เขาเคยได้ยินคำว่าเทคนิคของอันธพาลแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเทคนิคนี้จากถังซิ่ว

เขารู้สึกเสียใจแทนสัตว์ร้ายตัวนั้นเป็นอย่างมากที่ต้องพบเจอกับถังซิ่ว

“เพื่อนเหมี่ยว ระดับพลังบ่มเพาะของนายนั้นสูงกว่าฉัน นายเข้าไปดูหน่อยสิว่ามันตายหรือยัง ”

ถังซิ่วยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับสัตว์ร้ายตัวนั้น เขาจึงได้เช็คเพื่อความแน่ใจก่อนที่เขาจะการทำงานของค่ายกลนี้

“ได้ !”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ตอบตกลงทันทีพร้อมกับเดินเข้าไปในค่ายกลนั้น หลังจากที่เขาได้ก้าวเข้าไปแล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีกำแพงอากาศกำลังกั้นมันเอาไว้ การที่จะเขามานั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากแต่การจะออกไปนั้นถือว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

เขาก้าวไปอย่างไม่เร็วนักพร้อมชักดาบออกมาไว้ในมือก่อนที่จะเดินไปยังสัตว์ร้ายที่นอนไหม้เกรียมจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น เขาได้เอาดาบแทงไปที่มันอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีความเคลื่อนไหว ? ”

หน้าผากของเหมี่ยวเหวินถังเหี่ยวย่นทันทีพร้อมกับยื่นมือไปจับสัตว์ร้ายตัวนั้นไว้ก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“โดนไปขนาดนั้นแล้ว น่าจะตายแล้วมั้ง !”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกำลังจะหยุดการทำงานของค่ายกลขณะที่มองไปที่วาระสุดท้ายของเสือโคร่ง แต่เขาก็ยกเลิกความคิดที่จะหยุดค่ายกลทันทีพร้อมกับเดินไปที่สัตว์ร้ายตัวนั้นและกำลังจะยื่นมือไปแตะมัน ทันใดนั้น ตาของมันที่ปิดอยู่ก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเหวี่ยงกรงเล็บใส่เหมี่ยวเหวินถังทันที

“แขว๊ก….”

เหมี่ยวเหวินถังกำลังกุมมือของเขาพร้อมโห่ร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกว่า

“นี่มันยังไม่ตายอีกหรอ ? มันเป็นแมลงสาปหรือไง ? ” (งงว่าทำไมถึงเหมือนแมลงสาป)

ถังซิ่วเองก็รู้สึกช๊อคเช่นกัน เขาได้เห็นสัตว์ร้ายมามากมายที่ตายยากในดินแดนแห่งนิรันด์มาก่อน เขาได้สะบัดยันต์ทั้งหมดทันทีพร้อมกับปล่อยสายฟ้าฟาดใส่มันอย่างรุนแรง

“เฮือกกกก….”

สัตว์ร้ายที่โดนสายฟ้าฟาดไปก็ยังไม่ตายอยู่ดี ดวงตาสีฟ้าของมันได้เปล่งประกายก่อนที่มันจะคลานไปหาถังซิ่วพร้อมกับคุกเข่าลงแล้วพยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา

“หือ ? ”

คิ้วของถังซิ่วขมวดเข้าหากันพร้อมกับตะโกนออกมาว่า

“นายต้องการยอมจำนนต่อฉัน ? ”

สัตว์ร้ายตัวนั้นพยักหน้าของมันเร็วขึ้นกว่าก่อน

ถังซิ่วเงียบไปครู่หนึ่งพร้อมกับหยุดยั้งสายฟ้าเหล่านั้น เขาคิดอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมาช้าๆว่า

“ในเมื่อแกสามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้และต้องการที่จะยอมจำนนต่อฉัน ก็ดี ฉันจะไว้ชีวิตแกแต่เราต้องมาทำสัญญาชีวิตกัน ฉันคิดว่าระดับของแกน่าจะมีแก่นชีวิตแล้วใช่ไหม ? ”

สัตว์ร้ายตัวนั้นตะเกียกตะกายยืนขึ้นขณะที่ตัวของมันกำลังสั่นไม่หยุดพร้อมกับอ้าปากออกมาแล้วคายวัตถุทรงกลมที่เหมือนเมล็ดถั่วเขียวออกมา

ถังซิ่วได้มองไปที่สัตว์ร้ายตัวนั้นพร้อมกำลังกำยันต์สายฟ้าเอาไว้ ก่อนที่เข้าใกล้สัตว์ร้ายตัวนั้นในระยะสองเมตรและจิ้มไปที่แก่นชีวิตของมันหลายครั้งขณะที่ส่งพลังแห่งดวงดาราเข้าไป

“อู๊วววววววววว…..”

สัตว์ร้ายตัวนั้นได้หอนออกมาขณะที่ร่างกายของมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ตอนนี้ดวงตาสีฟ้าของมันได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความกลัว มันสามารถรู้ได้ว่าตัวของมันและถังซิ่วได้ทำสัญญากันแล้ว

“กลืนมันกลับลงไปซะ !”

ถังซิ่วรู้สึกผ่อนคลายพร้อมกับพูดออกมาอย่างสงบ

เมื่อสัตว์ร้ายตัวนั้นได้กลืนแก่นชีวิตของมันกลับลงไปก็พบว่าแก่นของมันในตอนนี้ได้เปรียบเสมือนระเบิดเวลา หากว่าถังซิ่วต้องการก็จะสามารถฆ่ามันได้เพียงแต่ใช้ความคิดเท่านั้น

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางตกตะลึงก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะกระตุกหลายครั้งแล้วโห่ร้องออกมาว่า

“เพื่อนถัง นายทำอะไรไปงั้นหรอ ? มัน มัน มั……….”

ถังซิ่วพูดออกมาอย่างสงบว่า

“ฉันมีเทคนิคที่สามารถกำราบสัตว์ร้ายได้ ในเมื่อมันต้องการที่จะจำนน ฉันก็ยินดีที่จะรับมันไว้ ! ไม่ต้องกังวลเพราะแค่ฉันคิดก็สามารถฆ่ามันได้แล้ว ”

เหมี่ยวเหวินถังได้พูดออกมาด้วยความตกใจว่า

“มันลึกลับอะไรขนาดนั้นเลยหรอ ? ”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับว่า

“ใช่ !”

เหมี่ยวเหวินถังได้ทำใจแข็งพร้อมพูดขอร้องออกมาด้วยความหวังว่า

“เพื่อนถัง เทคนิคนี้นั้นนายสามารถสอนให้ฉันได้หรือไม่ ? นายสามารถวางใจได้ว่าเราจะไม่เอาผลประโยชน์จากนายแน่นอน นายต้องการอะไรก็สามารถเอ่ยปากมาได้เลย แล้วฉันจะพยายามทำตามความต้องการของนาย”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกมาอย่างช้าๆว่า

“นายรวยมากหรือเปล่า ? ”

เหมี่ยวเหวินถังได้พยักหน้าแล้วตอบว่า

“ก็พอใช้ได้”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เอามาพันล้านแล้วฉันจะสอนนาย หากว่านายไม่สามารถเอามาได้ นายสามารถไปหารครึ่งกับเซ่าหมิงเจิ้งก็ได้หากว่าเขาต้องการ ”