ประชาชนทั้งหมดในเผ่ากาอัคคีเดินทางมาถึงวิหารบรรพชน และกำลังยืนกันอยู่ข้างนอกวิหาร ภายใต้แสงอาทิตย์ เหล่าอีกาอัคคีขนาดใหญ่กำลังส่งเสียงร้อง และบินอยู่เหนือวิหาร

จี้ฮ่าวยืนอยู่ข้างนอกวิหารกับเด็กคนอื่นๆ

วิหารบรรพชนของเผ่ากาอัคคี ไม่เหมือนวิหารทั่วๆไป มันถูกสร้างอยู่ข้างภูเขา มันดูเหมือนถ้ำมากกว่า จี้ฮ่าวและคนอื่นๆกำลังยืนอยู่ตรงจัตุรัสหน้าทางเข้าวิหาร จากปากทางเข้าวิหารจะต้องเดินไปไกลกว่าพันฟุต จึงจะถึงสถานที่สำหรับสักการบูชา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีร่างของบรรพชนฝังอยู่

ผู้คนยืนรออย่างเงียบๆและเป็นระเบียบด้วยสีหน้าจริงจัง บรรดาผู้อาวุโสและบุคคลสำคัญยืนอยู่หน้าขบวนกำลังถือถาดที่ทำจากหยก บนถาดมีทองและของมีค่าอื่นๆ

หลังจากพระอาทิตย์อยู่กลางศีรษะ หัวหน้านักบวชของเผ่ากาอัคคี ‘จี้คุย’ เดินผ่านกลุ่มคนขึ้นมาข้างหน้า เขาสวมเสื้อผ้าที่ทำจากหนังมังกร หมวกทำจากกะโหลกมังกร มือเขาถือมีดที่ทำจากหยกสีแดง เขาเดินเข้าไปในถ้ำพร้อมกับโบกมือทักทายผู้คน

หลังจากนั้นนักบวชทั้งหมด ที่มาจากเผ่าย่อยของกาอัคคีก็เดินมาตั้งแถว และคุกเข่าลงอยู่ด้านหลังของจี้คุย หลังจากนั้นพวกเขาเริ่มสวดภาวนา

จี้ฮ่าวตัวสั่นและมองไปรอบๆ เขาสัมผัสได้ถึงไอเย็นแปลกๆกระจายไปทั่ว ระหว่างที่พวกนักบวชกำลังสวดภาวนา ราวกับว่าเขาถูกล้อมไปด้วยวิญญาณภูตผี

ขณะนั้นเอง จี้ฮ่าวได้ยินเสียงกรีดร้อง และร่ำไห้ จี้เซียและนักรบนับพันเดินนำทาสจำนวนมากจากท้ายหุบเขาเข้ามา ทาสเหล่านั้นผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มีแผลทั่วร่าง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง

“เจ้าพวกสารเลวกาอัคคี พวกเรานาคาทมิฬจะสาปแช่งพวกแกจนวาระสุดท้าย!”

“ไม่นะ อย่าฆ่าข้า พ่อของข้า…พ่อของข้าเป็นผู้อาวุโสของเผ่านาคาทมิฬ!”

“บรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของข้า โปรดเอาวิญญาณของข้าไป อย่าให้เจ้าพวกปีศาจนี่ได้วิญญาณข้า”

ไม่ว่าพวกทาสเหล่านั้นจะตะโกนและดิ้นรนยังไง พวกเข้าก็ไม่สามารถหนีไปจากจี้เซียและคนของเขาได้

จากนั้นชายที่อ้างเป็นลูกของผู้อาวุโสของนาคาทมิฬถูกจับมาตึงไว้กับพื้น ต่อหน้าจี้คุย

“ลูกชายของผู้อาวุโสนาคาทมิฬ บรรพชนเราคงยินดี ที่จะได้วิญญาณของเจ้า” จี้คุยพูดอย่างเยือกเย็น และกดไปที่หน้าอกของทาสคนนั้น ทาสตัวสูงกว่าจี้คุยประมานหนึ่งฟุต เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวดหลังจากที่โดนจี้คุยสัมผัส จี้คุยแทงอกเขาด้วยมีดหยกแดง ทะลุไปที่หัวใจของเขา

ในขณะนั้นจี้ฮ่าวเห็นวงเวทย์อยู่บนมีดเล่มนั้น มันเริ่มส่องแสงออกมา ตัวของทาสคนนั้นบิดไปมา กล้ามเนื้อเขาค่อยๆหดลง จากนั้นก็สลายกลายควันสีดำ และถูกดูดไปที่มีด

เมื่อทาสคนอื่นๆเห็นก็เริ่มดิ้นรนขัดขืนอย่างหนัก และต่างพากันกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว จี้คุยยังใจเย็น เขาเริ่มฆ่าทาสทีละคนๆ หลังจากที่เขาฆ่าทาสไป1000คน วงเวทย์บนมีดก็เริ่มส่องแสงขึ้น อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ

ทันใดนั้น ลมหมุนก็ได้พัดจากหน้าวิหารเข้ามาข้างใน ผ่านกลุ่มคนที่มาชุมนุม

จี้ฮ่าวเริ่มหงุดหงิด เขากำหมัดแน่นและจ้องไปที่จี้คุย พิธีบูชามีแค่สิบปีครั้งเท่านั้น จี้ฮ่าวได้ยินมาว่าในแต่ละครั้ง หัวหน้านักบวชจะฆ่าทาสกว่าพันคนเป็นอย่างน้อย

มีดเริ่มแสดงอภินิหาร หลังจากที่จี้คุยสังหารทาสนับพันด้วยมีดนั่น มันกำลังลอยอยู่ต่อหน้าจี้คุยและส่องแสงออกมาราวกับพระอาทิตย์สีเลือด จี้ฮ่าวสัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงจากแสง นักบวชคนอื่นๆที่นั่งคุกเขาอยู่หลังจี้คุยยังคงสวดภาวนาต่อไปและดังขึ้นเรื่อยๆ

ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกของจี้ฮ่าวที่ได้เห็นขั้นตอนการทำพิธี แต่เขาก็เคยได้ยินขั้นตอนมาบ้าง ขั้นแรกหัวหน้านักบวชจะสังหารทาสที่หน้าทางเข้าวิหาร ให้มีดดูดพลังชีวิตและวิญญาณจากมนุษย์ที่เป็นเครื่องสังเวย

หลังจากนั้นเขาก็จะส่งวิญญาณ พร้อมกับเครื่องบูชาอื่นไปให้กับบรรพชน ความลึกลับจะเกิดขึ้นข้างในวิหาร อาจจะมีวิญญาณบรรพชนออกมา พวกเขาจะเผาผลาญเครื่องสังเวย และมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนในเผ่า

คนที่ได้รับของขวัญนั้นจะถูกสุ่มเลือกจากฝูงคนที่เข้ามาชุมนุม ในประวัติศาสตร์ของเผ่ากาอัคคี มีเด็กที่เพิ่งเกิดและได้รับของขวัญทั้งหมด จากพิธีบูชา ของขวัญนั้นทำให้เขาเปิดจุดชีพจรได้ทั้ง 100 จุด ทำให้เขาได้รับพลังในระดับนักเวทย์ชั้นสูง เด็กคนนั้นก็คือจอมเวทย์เทวะ คนสุดท้ายของเผ่ากาอัคคี

จี้คุยกำลังจะเดินเข้าไปในวิหาร แต่จี้ซูยืนขึ้นและตะโกน

“ด้วยความเคารพหัวหน้านักบวช ข้ามีบางสิ่งที่ต้องพูด ข้าต้องการกล่าวมันต่อหน้าบรรพชนของเรา”

จี้คุยมองที่จี้ซูและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า

“ตามกฎของบรรพชนทุกคนมีสิทธิพูดทุกอย่างที่งานพิธี และจี้ซู ถ้าเจ้าพูดอะไรที่ไม่สำคัญ เจ้าก็เตรียมที่จะได้รับการลงโทษจากบรรพชน เจ้าเข้าใจใช่ไหม”

จี้ซูโค้งคำนับจี้คุย เขายิ้มและพูดว่า

“แน่นอนมันสำคัญ ข้าจะพูดในนามของเผ่า ใครบางคนควรจะสละตำแหน่งให้คนอื่น ถ้าเขาไม่คู่ควรกับมัน”

จี้ซูยกแขนของเขาขึ้น และตะโกน

“จี้เซียพี่ข้า ท่านเป็นหัวหน้านักรบในดินแดนศักดิ์สิทธิ นั้นหมายถึงท่านเป็นผู้นำของนักรบทั้งพันของเผ่าเรา แต่ท่านคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งรึ?”

“ตามกฎของบรรพชน ข้าขอท้าท่าน จี้เซีย” จี้ซูพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่จี้เซีย

จี้เซียก้าวมาข้างหน้าจี้ซูอย่างช้าๆ พร้อมกับหอกของเขา

“ท่านพ่อ ช้าก่อน อาจี้ซู ท่านลืมไปแล้วหรอว่าลูกชายท่านต้องมาสู้กับข้า?” จี้ฮ่าวตะโกนแทรกขึ้นมา
“ต่อหน้าบรรพชนและทุกคนในเผ่า พวกเราจะประลองกัน”