“คุณชายจาง ท่านจะซื้อแค่ดาบเล่มนี่เล่มเดียวงั้นหรือ ? ”

 

ฉินหย่าเดินไปทางจางลั่วเฉิน ร่างกายที่อวบอิ่มของนางแทบจะแนบชิดไปกับร่างของเขา บนร่างนั้นยังส่งกลิ่นหอมที่ชวนให้คนหลงใหล

 

จางลั่วเฉินค่อย ๆ ได้สติกลับมาจากการที่คิดถึงอดีตในชีวิตที่แล้ว พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นผิวขาวตรงหน้าอกของฉินหย่าอยู่ตรงหน้า ถึงจะมีชุดกั้นไว้ แต่ยังคงน่าเย้ายวนเป็นอย่างมาก !

 

จางลั่วเฉินรีบปิดตาลง แล้วกลั้นหายใจ ใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขารีบจิกไปนิ้วมือตัวเอง แล้วเบนสายตาไปทางอื่น มองไปทางดาบที่แขวนอยู่บนกำแพง

 

รวบรวมสติ แล้วจางลั่วเฉินก็ชี้มือไปทางดาบวิเศษสีฟ้าเล่มหนึ่ง พลางกล่าวว่า “เถ้าแก่เนียะ ดาบวิเศษเล่มนี้คือดาบขั้นไหน”

 

ดวงตาของฉินหย่าฉายแววผิดหวังอีกครั้ง แล้วกล่าวว่า“ นั่นเป็นดาบวิเศษขั้นสี่ ชื่อของมันคือ ดาบสลายวิญญาณ บนดาบนั้นสลักอักษรไว้ 14 ตัว แบ่งเป็น ‘ตัวอักษรเพิ่มพลัง’4 ตัว ‘ตัวอักษรธาตุน้ำแข็ง’4 ตัว ‘ตัวอักษรธาตุสายฟ้า’4 ตัว และยังมี ‘ตัวอักษรธาตุแสง’อีก 2 ตัว สามารถพูดได้ว่า ดาบเล่มนี้มีธาตุพิเศษอยู่ทั้งหมด 3 ธาตุ นั่นก็คือ ธาตุน้ำแข็ง ธาตุสายฟ้า ธาตุแสง” !

 

โดยปกติแล้ว อาวุธวิเศษขั้น 1 จะมีตัวอักษรแค่ตัวเดียว

 

อาวุธที่มีจำนวนตัวอักษรมากกว่า 10 ตัวเท่านั้น ถึงจะสามารถนับได้ว่าเป็นอาวุธระดับได้

 

บรรดาตัวอักษรอาวุธวิเศษ แต่ละตัวอักษรนั้น อานุภาพก็จะเพิ่มขึ้นในระดับที่ไม่เท่ากัน ตามแต่ละธาตุของอักษรแต่ละตัว นอกจากนี้ เพราะตัวอักษรแต่ละตัวมีธาตุที่ไม่เหมือนกัน และอาวุธวิเศษเองก็มีธาตุที่ไม่เหมือนกันเช่นกัน ดังนั้น อาวุธแต่ละอันก็จะเหมาะสมกันกับจอมยุทธ์แค่แต่ละคนไป

 

อย่างเช่น จอมยุทธ์ที่เปิดผนึกอักษรสวรรค์ได้ แล้วลมปราณในร่างกายมีหลิงชี่ที่ร้อนแรง ก็จะเหมาะกับอาวุธวิเศษที่มีธาตุไฟ ถึงจะสามารถแสดงอานุภาพของอาวุธวิเศษได้รุนแรงมากขึ้น !

 

“ราคาเท่าไหร่”จางลั่วเฉินถาม

 

“สามหมื่นเหรียญเงิน”ฉินหย่าตอบ

 

“ได้!ข้าซื้อ”

 

มือข้างหนึ่งของจางลั่วเฉินถือ“ดาบสลายวิญญาณ”ส่วนอีกมือถือ“ดาบโบราณเฉินหยวน”แล้วรีบเดินออกไปด้านนอกคลังอาวุธคล้ายกับการหนียังไงยังงั้น

 

อยู่ตามละพังด้วยกันกับเถ้าแก่เนียะที่มีเสน่ห์เย้ายวนมากขนาดนี้ อันตรายเกินไป แม้แต่จางลั่วเฉินเองก็รู้สึกว่ายากที่จะทนทานไหวเสน่ห์ของนางไหว

 

ยังไงก็ตาม เขาได้ดาบโบราณเฉินหยวนคืนมาแล้ว แล้วเลือกซื้ออาวุธวิเศษที่ไว้ใช้ต่อสู้กับอะไรก็ได้มาซักอัน ก็เพียงพอสำหรับเขาในตอนนี้แล้ว

 

“เรียกว่าหนีได้เร็ว!ฮ่าฮ่า!มาอยู่ในมือของพี่สาวแล้ว เจ้าคิดหรือว่าจะหนีออกไปได้ วันนี้ มีเรื่องสนุกแล้ว!”ฉินหย่าแสดงรอยยิ้มออกมาทางสีหน้า นางยิ่งรู้สึกสนใจจางลั่วเฉินมากขึ้น

 

ตอนที่จางลั่วเฉินและฉินหย่าเข้าไปในคลังอาวุธ ผู้ดูแลสูงวัยคนหนึ่งของหอชิงซ่วน ก็ได้พาชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งมาถึงหน้าคลังอาวุธ

 

ชายหญิงคู่นั้นดูเหมือนจะมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ผู้ดูแลสูงวัยคนนั้นเอง เมื่ออยู่ตรงหน้าคนทั้งคู่ก็ต้องโค้งตัวลงเล็กน้อย บนสีหน้าปรากฏยิ้มประจบออกมา

 

ชายหนุ่มคนนั้น ก็คือพี่ชายคนที่แปดของจางลั่วเฉิน ซึ่งก็คือองค์ชายแปดของประเทศอวินอู่จวิน จางจี่

 

ผู้หญิงที่มาด้วยกันกับจางจี่ คือหนึ่งในสาวงามทั้งสี่คนของประเทศอวินอู่จวิน ลูกสาวสุดที่รักของพรรคเมฆแดง ‘’ตันเซียงหลิง’’

 

บุคลิกของตันเซียงหลิงโดดเด่น เหมือนกับดอกลิลลี่ที่งามสง่า มองดูแล้วอายุประมาณ 16 ปี 17 ปี ดวงตาเป็นประกาย รูปร่างดี ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็คงจะสามารถดึงดูดสายตาคนได้มากที่สุดคนหนึ่ง

 

องค์ชายแปดยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่กำชับมาว่า ศิษย์น้องมาที่เมืองหวางครั้งแรก ให้ข้าดูแลให้ดี หอชิงซ่วนคือหนึ่งในร้านค้าอาวุธที่ใหญ่ที่สุด ถ้าหากศิษย์น้องถูกใจอาวุธชิ้นไหน ให้รีบบอกข้า”

 

แม่ขององค์ชายแปด สนมเซียว เคยเป็นลูกศิษย์ของพรรคเมฆแดง และยังเป็นศิษย์น้องของหัวหน้าพรรคอีกด้วย

 

ดังนั้น องค์ชายแปดถึงได้เรียกตันเซียงหลิงว่าศิษย์น้อง

 

ตันเซียงหลิงยิ้มน้อย ๆ แล้วกล่าวว่า “ขอบพระทัยองค์ชายแปดมาก!จริงๆแล้ว ที่เซียงหลิงมาที่เมืองหวางครั้งนี้ สาเหตุหลักคืออยากจะเห็นอัจฉริยะทั้งหลายของเมืองหวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัจฉริยะอันดับหนึ่งของของประเทศอวินอู่จวิน องค์ชายเจ็ด ตันหลิงได้ยินชื่อเสียงของเขามานาน นางเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ศิษย์หญิงมากมายในพรรคเมฆแดงเองก็เลื่อมใสเขา น่าเสียดายที่หาโอกาสจะเจอเขาซักครั้งนั้นยากมาก ”

 

องค์ชายแปดกล่าว “ถ้าหากว่าพี่เจ็ดอยู่ในเมืองหวาง ข้าก็คงสามารถทำให้เจ้าสมความปรารถนาได้ น่าเสียดาย ศิษย์น้องมาผิดเวลา พี่เจ็ดไม่ได้อยู่ในเมืองหวางในตอนนี้”

 

แววตาของตันเซียงหลิงฉายแววผิดหวัง แล้วกล่าวว่า “ข้าจำได้ว่าการสอบสิ้นปีของตระกูลฮวาง นั้นเป็นรองเพียงแค่งานพิธีบูชายันต์ครั้งใหญ่ หรือว่าองค์ชาดเจ็ดก็ไม่ได้กลับมา”

 

องค์ชายแปดกล่าว “ตอนที่พี่เจ็ดอายุได้ 10 ปี ก็ได้ที่หนึ่งของการสอบครั้งสิ้นปีแล้ว เจ้าคิดว่าการสอบสิ้นปีนี้ยังมีคุณค่าอะไรกับเขาอีก แต่ว่า การสอบสิ้นปีนับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ มีเพียงแค่คนในตระกูลฮวางและบรรดาญาติหรือลูกศิษย์ในตระกูลที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมได้ ไม่แน่ว่าพี่เจ็ดอาจจะกลับมา ถ้าหากศิษย์น้องอยากเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ ข้าสามารถทำเรื่องขอเข้าร่วมให้เจ้าได้เป็นพิเศษนะ”

 

“ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ ข้าก็ขอบคุณองค์ชายแปดอีกครั้ง!”ตันซียงหลิงยิ้มแล้วกล่าววขึ้น

 

ขณะที่องค์ชายแปดและตันเซียงหลิงคุยกันอยู่นั้น ผู้ดูแลชราก็เดินมาข้างหน้าฮันจื่อ แล้วกล่าวว่า“ฮันจื่อ ใครเข้าไปในคลังอาวุธ ทำไมประตูใหญ่ถึงได้ปิด”

 

ฮันจื่อแสดงสีหน้าประหลาด กดเสียงต่ำแล้วกล่าวว่า“เถ้าแก่เนียะกับคุณชายหนุ่มคนหนึ่ง”

 

พอได้ยินประโยคนี้ ผู้ดูแลชรารู้สึกตกใจ สูดลมหายใจเข้า แล้วพูดกับตัวเองว่า“เถ้าแก่เนียะกลับ….อย่าได้ให้ถึงชีวิตแล้วกัน!”

 

องค์ชายแปดกับตันเซียงหลิงเองก็ได้ยินที่ผู้ดูแลชรากับฮั่นจื่อคุยกัน

 

ตันเซียงจื่อถามอย่างแปลกใจว่า“หรือว่าหอชิงซ่วนจะมีการฆ่าคนชิงทรัพย์ด้วย ? ”

 

องค์ชายแปดส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น!แต่มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเถ้าแก่เนียะ อย่างเช่น เถ้าแก่เนียะมีหน้าตาสวยมาก ขอแค่เป็นผู้ชาย เพียงพบนางก็จะยอมสยบอยู่แทบเท้านางทั้งนั้น”

 

“แล้วยังมีข่าวลืออีกว่า เถ้าแก่เนียะคนนี้ใจดำอำมหิต ใจเหมือนอสรพิษ ผู้ชายหลายคนล้วนตายในมือของนาง”

 

“ยังมีอีกว่า เถ้าแก่เนียะคนนี้เสเพลมาก เลี้ยงผู้ชายไม่น้อย และยังกระทำทารุณกับพวกเขา บางคนโดนนางตัดมือ บางคนโดนควักลูกตา”

 

“แน่นอนว่า พวกนี้เป็นแค่ข่าวลือ ข้าเองก็ยังไม่เคยเจอเถ้าแก่เนียะ ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วนางเป็นคนยังไง ? ”

 

ได้ยินจากที่องค์ชายแปดพูด ตันเซียงหลิงก็ไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ ต่อเถ้าแกนียะเท่าไหร่นัก

 

กลางคืนดึก ๆ พาผู้ชายเข้าไปในคลังอาวุธลำพัง แล้วยังปิดประตูใหญ่ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง

 

เถ้าแก่เนียะคนนั้นต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีแน่ ผู้ชายที่ถูกพาเข้าไปในคลังอาวุธเองก็น่ารังเกียจ

 

“ปัง!”

 

ประตูใหญ่คลังอาวุธถูกผลักออก จางลั่วเฉินอุ้มอาวุธสองอันก้าวออกมาจากด้านในอย่างรวดเร็ว มองเห็นองค์ชายแปดที่ยืนอยู่ไม่ไกล สีหน้าแสดงความประหลาดใจออกมาทันที ?

 

องค์ชายแปดเห็นจางลั่วเฉินเดินออกมาจากประตูใหญ่ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แววตาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “น้องเก้า ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่หอชิงซ่วน ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าสมควรมา!”

 

พอได้ยินที่องค์ชายแปดกล่าวกับจางลั่วเฉิน ฮันจื่อกับผู้ดูแลชราก็รู้สึกตกใจ คุณชายจางท่านนี้มีที่มาไม่ธรรมดา ที่แท้เป็นถึงองค์ชายของประเทศอวินอู่จวินเอง !

 

ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ถอนหายใจออกมายาวๆ โชคดีที่เถ้าแก่เนียะไม่ได้ทำอะไรเขา ถ้าหากว่าองค์ชายเก้ามาเกิดเรื่องขึ้นที่หอชิงซ่วนละก็ เกรงว่าหอชิงซ่วนคงต้องปิดกิจการเป็นแน่

 

ตันเซียงหลิงเองก็เคยได้ยินเกี่ยวกับองค์ชายเก้ามาบ้าง ได้ยินมาว่าองค์ชายเก้าเป็นคนไร้ค่าคนเดียวที่ไม่สามารถเปิดผนึกอักษรสวรรค์ได้ !

 

นางไม่ได้เจาะจงหาข้อมูลขององค์ชายเก้า ดังนั้นจึงไม่รู้ว่า ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ จางลั่วเฉินสามารถเปิดผนึกอักษรสวรรค์ได้แล้ว

 

หรือว่า…

 

ปะติปะต่อเข้ากับเรื่องที่องค์ชายแปดเล่า ตาของตันเซียงหลิงจึงจ้องมาที่จางลั่วเฉินอีกครั้ง ในแววตาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม !

 

จางลั่วเฉินขมวดคิ้วน้อย ๆ แสดงออกมาว่าไม่สบอารมณ์ แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อท่านสามารถมาที่หอชิงซ่วนได้ ทำไมข้าถึงมาไม่ได้กัน”

 

องค์ชายแปดยิ้มเย็นชาแล้วกล่าวว่า “ที่ข้ามาที่หอชิงซ่วนเพราะมาซื้ออาวุธ แล้วเจ้ามาทำอะไร เจ้าซื้อดาบมีขั้นของอาวุธวิเศษได้อย่างนั้นหรือ ? แล้วดาบทั้งสองในมือเจ้าเอามาจากที่ไหน ? ”

 

จางลั่วเฉินรอธิบายไม่ได้ จึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า“ท่านจะสนใจอะไร!ดาบข้า!ถึงข้าจะเก็บมาได้ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับท่าน ! ”

 

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ !” องค์ชายแปดกดเสียงต่ำแล้วกล่าวว่า  “พรสวรรค์ของเจ้าแย่ ก็อยู่ในวังไปดี ๆ อย่าออกมาทำเรื่องขายขี้หน้า ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดขาทั้งสองข้างของเจ้าแทนท่านพ่อเอง ! ”

 

จางลั่วเฉินยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจที่องค์ชายแปดกล่าว กล่าวเสียงต่ำว่า “เจ้ามีปัญญาอย่างนั้นหรือ ? ”

 

พอได้ยินอย่างนี้ องค์ชายแปดตะลึงไปเล็กน้อย แล้วหัวเราะออกมา

 

มือทั้งสองข้างของเขาประกบเข้าด้วยกัน และขยับนิ้วทั้งสิบ พลางหัวเราะแล้วกล่าวว่า “น้องเก้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรที่เรียกว่าความสามารถ ! ”

 

จางลั่วเฉินยืนอย่างมั่นคง แววตาสงบนิ่ง นิ้วทั้งห้ากำแน่น ลมปราณในร่างกายเริ่มโคจรไปตามเส้นชีพจรทั้งหก

 

ถ้าอยากสู้ ก็เข้ามา!

 

“ฮ่าฮ่า!องค์ชายแปด ท่านจะทำอะไร ที่นี่คือหอชิงซ่วน ไม่ใช่วังฮวาง องค์ชายเก้าคือแขกพิเศษของหอชิงซ่วน ถ้าหากมีใครกล้าลงมือกับเขาที่หอชิงซ่วน ร้านเราคงปล่อยไปไม่ได้ ! ”ฉินหย่าเดินออกมาจากด้านในคลังอาวุธ รอยยิ้มสวยงามปรากฏอยู่บนใบหน้า

 

พอองค์ชายแปดเห็นฉินหย่า ก็แสดงท่าทีตื่นตะลึง ในใจร้อนรุ่ม

 

ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีตันเซียงหลิงยืนอยู่ข้างเขา นั้นทำให้เขาต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เขาไม่กล้าทำเรื่องอะไร ไม่อย่างนั้น เมื่อเห็นปีศาจสาวอย่างฉินหย่า เขาคงไม่มีทางนิ่งได้ขนาดนี้เป็นแน่

 

องค์ชายแปดเบนสายตาออก แล้วมองอย่างเยือกเย็นไปทางจางลั่วเฉิน พลางกล่าว “หึ!ตระกูลฮวางถูกเจ้าทำขายขี้หน้าหมดแล้ว!”

 

ในสายตาขององค์ชายแปด ยังไงจางลั่วเฉินก็ไม่มีทางซื้อดาบที่เป็นอาวุธวิเศษได้ ที่เขาได้ดาบทั้งสองอันนั้นมา จะต้องเป็นเพราะเป็นชายบำเรอของเถ้าแก่เนียะของหอชิงซ่วนแน่ ๆ !

 

ใช้ร่างกายของตัวเองปรนเปรอเถ้าแก่เนียะของหอชิงซ่วน แลกกับของที่ใช้ฝึกฝน

 

จริง ๆ แล้ว ความคิดของตันเซียงหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆองค์ชายแปดก็ไม่ต่างกันมาก

 

“ฮาย!เป็นโอรสของประเทศอวินอู่จวินเหมือนกันเท้ ๆ ทำไมองค์ชายเจ็ดถึงได้เป็นอัจฉริยะ แต่องค์ชายเก้ากลับยินยอมพร้อมใจที่จะเป็นชายบำเรอให้ผู้หญิงเล่น คนหนึ่งเป็นมังกรบนท่องฟ้า อีกคนหนึ่งกลับเป็นไส้เดือนอยู่ในโคลน” ตันเซียงหลิงจ้องไปที่จางลั่วเฉินแล้วส่ายหัว พลางถอนหายใจ

 

จางลั่วเฉินไม่รู้แม้แต่น้อยว่าองค์ชายแปดกำลังพูดถึงอะไร ตัวเองทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เบื่อจะฟังคำพูดไร้สาระ เขาหอบเอาดาบทั้งสองเล่ม แล้วเดินออกไปข้างนอกของหอชิงซ่วน

 

ฉินหย่าเข้าใจขึ้นมาทั้งที เหมือนจะเจ้าใจแล้วว่า ในใจขององค์ชายแปดกับตันเซียงหลิงกำลังคิดอะไรอยู่ !

 

นางยกมุมปากขึ้น ดวงตามีประกายแวววาวออกมา แล้วเรียก“องค์ชายเก้า วันหน้ามาใหม่นะ !ร้านเราจะต้อนรับท่านอย่างดี!ถ้าหากว่าอยากได้ของฝึกฝนอย่างอื่น ให้รีบมาที่ร้านเรา!ฮ่าฮ่า!”

 

(จบแล้วครับ)

สามาอ่านก่อนใครได้ที่เพจ BOXKINGS หรือเพจหลัก WGSD เทพจักรพรรดินิรันดร์กาล – จีนแปลไทย ฝากกดไลค์เพจกันด้วยนะครับ