จางลั่วเฉินสวมชุดสีขาว ร่างกายเหยียดตรง แล้วมองไปที่อวินเอ๋อร์อย่างแปลกใจ เขาพยักหน้าเบาๆแล้วกล่าวว่า “สำเร็จแล้ว!เลื่อนไปขั้นอเวจีระดับปลายแล้ว!พี่อวินเอ๋อร์ ทำไมพี่ยังไม่ไปนอนอีก”

 

อวินเอ๋อร์ได้ยินที่จางลั่วเฉินกล่าว นางสั่นไปหมดทั้งร่าง ใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก กลับรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา

 

“ดีจริง ๆ เลย!ดีจริงๆเลย!”อวินเอ๋อร์ปาดน้ำตาไปพลาง กล่าวไปพลาง “อวินเอ๋อร์บอกแล้วว่าจะช่วยเฝ้าหน้าห้องให้องค์ชายเก้า ยังไงก็ไม่ไปไหนแน่”

 

จางลั่วเฉินรู้สึกตื้นตันใจ แล้วหยินเสวี่ยตันออกส่งให้กับอวินเอ๋อร์

 

“หิมะตกแล้ว อากาศเย็น พี่รับไปแล้วพักผ่อนเถอะ!แล้วก็กินเสวี่ยนตันเม็ดนี่ น่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาก” จางลั่วเฉินกล่าว

 

อวินเอ๋อร์รับเสวี่ยตันมา แล้ววางไว้บนมือ พยักหน้าแล้วเดินกลับไปยังห้องตัวเอง ในใจก็แอบคิดว่า คืนนี้ เกรงว่าคงจะนอนไม่หลับ!

 

พอส่งอวินเอ๋อร์กลับไปแล้ว จางลั่วเฉินก็กลับมากลางลานที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

 

เขายืนอยู่กลางหิมะนิ่ง ๆ ให้หิมะตกลงบนหัวและบ่าของเขาเกล็ดแล้วเกล็ดเล่า …

 

“สงบเหมือนคชสาร ขยับเหมือนมังกร ฝ่ามือมังกรคชสารกระบวนท่าที่สอง มังกรเหินนภา”

 

ทันใดนั้น จางลั่วเฉินกระทืบเท้าลงไปบนพื้นหนึ่งครั้ง หิมะที่อยู่บนพื้นพากันปลิวขึ้นมา ขาและแขนทั้งสองข้างของเขาหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว จนมาหิมะหมุนตามขึ้นมาเป็นจำนวนมาก !

 

แรงถีบจากเท้านั้น ทำให้ร่างของเขาสูงขึ้นจากพื้นกว่า 7 เมตร ปากก็ส่งเสียงร้องออกมาคล้ายกับเสียงมังกร ฝ่ามือพุ่งออกไปยังก้อนหินหนักกว่าพันชั่งที่อยู่ห่างไปสิบจ้าง

 

“ตุ้มม!”

 

ก้อนหินก้อนนั้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที เศษหินปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ แล้วร่วงลงมาบนพื้นหิมะ

 

จางลั่วเฉินยืนอยู่กลางหิมะ แล้วจ้องมองไปที่เศษหิน ในใจเต็มไปด้วยความดีใจ  “ในที่สุดก็ฝึกฝ่ามือมังกรคชสารกระบวนท่าที่สองได้สำเร็จ ตอนนี้ อานุภาพของฝ่ามือมังกรคชสาร อยู่ในขั้นปุถุชนระดับกลางแล้ว”

 

ไม่เพียงแต่ฝ่ามือมังกรคชสารกระบวนท่าที่สอง“มังกรเหินนภา”เท่านั้น กระบวนท่าแรก“มังกรสะท้านปฐพี”เองก็อยู่ในขั้นปุถุชนระดับกลางแล้วเหมือนกัน !

 

ถ้าหากว่าจางลั่วเฉินนั้นฝึกกระบวนท่าที่สามได้ อานุภาพของฝ่ามือมังกรคชสารก็จะเพิ่มเป็นขั้นปุถุชนระดับสูง!

 

ทุกครั้งที่ฝึกสำเร็จหนึ่งกระบวนท่า ก็จะสามารถเพิ่มขึ้นได้หนึ่งระดับ แล้วก็จะเพิ่มอานุภาพแล้วความลึกล้ำมากยิ่งขึ้น

 

“ฝ่ามือมังกรคชสารกระบวนท่าที่ 1 คชสารสะท้านปฐพี!”

 

เท้าของเขาก้าวไปตามท่วงท่าเท้า แล้วพุ่งไปข้างหน้า ราวกับคชสารที่วิ่งอย่างสุดกำลัง แล้วพุ่งฝ่ามือไปบนอากาศ ทำให้มีเสียงระเบิดดังขึ้นติด ๆ กัน

 

เกล็ดหิมะจำนวนมาก ถูกฝ่ามือทำให้ปลิวว่อนอยู่ในอากาศ แล้วละลายกลายเป็นน้ำ

 

“ฝ่ามือคชสารกระบวนท่าแรก“คชสารสะท้ายปฐพี”จะอ่อนกว่ากระบวนท่าที่สองอยู่หนึ่งส่วน แต่ก็เป็นถึงขั้นปุถุชนระดับกลางแล้วแน่นอน ฝ่ามือมังกรคชสารนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ”

 

จากแรงของเขาในตอนนี้ ถึงจะยังไม่เทียบเท่าช้างแต่ แต่ก็คงนับได้ว่าแรงเท่าวัวแล้ว!

 

ในบรรดาผู้ฝึกฝนจะถูกเรียกว่ามี วัวคลั่ง

 

และไม่ใช่ว่าจอมยุทธ์ทุกคนที่อยู่ในขั้นอเวจีระดับปลายจะสามารถมีกำลังได้อย่าง“วัวคลั่ง”ทุกคน คนที่สามารถแสดงพลังได้อย่าง“วัวคลั่ง”นั้น เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ยืนอยู่ในระดับกลางเกือบไปสูงแล้วสำหรับผู้ที่อยู่ในขั้นอเวจีระดับปลาย

 

สำหรับจางลั่วเฉินที่พึ่งจะเลื่อนขั้นมาถึงขั้นอเวจีระดับปลายนั้น เขาใช้จุดเด่นจากชีพจรทั้งหกสาย และอานุภาพของฝ่ามือมังกรคชสาร ทำให้สามารถแสดงกำลัง“วัวคลั่ง”ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

 

หลังจากการฝึกฝนที่ลึกซึ้งขึ้น จะทำให้ร่างกายยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ต่อไปเขาจะต้องสามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้แน่นอน.. !

 

เมื่อจางลั่วเฉินจัดการเศษหินเหล่านั้นเสร็จแล้ว เขาได้เดินกลับเข้าห้องไป เขาไม่ได้ไปฝึกฝนต่อ แต่ไปนอนบนเตียง แล้วทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ก่อนจะหลับไป..

 

เมื่อเลื่อนไปขั้นอเวจีระดับปลายแล้ว ก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ

 

เดิมทีเขาคิดว่าจะต้องใช้สักเวลาสามเดือน ถึงจะมาถึงขั้นนี้ได้ แต่พอใช้มิติในหินผลึกมิติและของที่ช่วยในการฝึกช่วย มันทำให้เขาใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น ก็สามารถฝึกจนมาถึงขั้นนี้ได้

 

ก่อนที่จะถึงการทดสอบครั้งสุดท้าย เขามั่นใจว่าจะต้องเลื่อนได้สูงกว่านี้แน่นอน

 

พักผ่อนหนึ่งคืน สมาธิของจางลั่วเฉินกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ทั่วร่างเต็มไปด้วยพละกำลัง

 

“ยาฝึกฝนร่างกายกับยารวมลมปราณใช้ไปกว่าครึ่งแล้ว คงต้องไปเมืองอู่ซื้อเพิ่มแล้ว”

 

เมื่อกินข้าวกับสนมหลินและอวินเอ๋อร์เสร็จ จางลั่วเฉินก็เดินออกไปนอกวังคนเดียว มุ่งหน้าไปทางเมืองอู่

 

เมื่อมาถึงตลาดค้ายา เขาเข้าไปในร้านร้านหนึ่งชื่อ“หอชิงซ่วน”

 

ร้านนี้เปิดอยู่บริเวณสี่แยก ในตลาดค้ายาถือได้ว่าเป็นร้านที่ใหญ่เป็นสามจากอันดับแรก จอมยุทธ์ที่ผ่านไปมาส่วนใหญ่ก็จะเดินเข้ามามองดู บางคนก็มาซื้อยาที่เหมาะสมกับตัวเอง บางคนก็มาขายส่วนผสมของยาที่พึ่งเก็บมาได้

 

ชายชราคนหนึ่งที่มีไฝสีดำบริเวณปาก ไม่รู้ว่าเดินมาด้านหลังของจางลั่วเฉินตั้งแต่เมื่อไหร่ ยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณชาย ท่านอยากจะซื้อยารวมปราณหรือ ? ”

 

จางลั่วเฉินตกใจ ! แล้วหันกลับไปแล้วมองไปที่ชายชราคนนั้น

 

ชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา สามารถเดินมาด้านหลังของจางลั่วเฉินได้อย่างเงียบเฉียบ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนพูดออกมาล่ะก็ จางลั่วเฉินคงมองไม่เห็นเขาแน่ ๆ

 

จะต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงแน่ๆ!

 

ชายชราคนนั้นยิ้ม แล้วแนะนำตัวเองว่า“ข้าชื่อว่า ม่อฮั่นหลิน เป็นผู้ดูแลของร้านนี้”

 

“ที่แท้เป็นผู้ดูแลนี่เอง ข้าแซ่จาง” จางลั่วเฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ ข้าอยากจะซื้อยารวมปราณ 50 เม็ด ยาฝึกฝนร่างกายอีก 30 ชุด ไม่ทราบว่าผู้ดูและมีจำนวนยาพอหรือไม่”

 

ม่อฮั่นหลินตกใจเล็กน้อย นี่เป็นรายการของชุดใหญ่ มีแค่บรรดาตระกูลใหญ่ ๆ เท่านั้นถึงจะซื้อของกลับไปฝึกฝนครั้งเดียวมากขนาดนี้ ถ้าเป็นแค่จอมยุทธ์คนเดียว ผู้ที่สามารถซื้อแบบนี้ได้มีน้อยมาก !

 

ยารวมปราณและยาฝึกฝนร่างกายล้วนไม่ใช่ของถูก ๆ จอมยุทธ์ทั่วไปซื้อไม่ไหวแน่นอน

 

“ถ้าหากว่าคุณชายจางไปที่ร้านอื่น ไม่แน่ว่าอาจจะซื้อจำนวนเยอะขนาดนี้ไม่ได้ แต่บังเอิญจริง ๆ หอชิงซ่วนของพวกเรามียารวมปราณและยาฝึกฝนร่างกายจำนวนนี้พอดี ยังไงก็พอกับความต้องการของคุณชายจางแน่นอน”

 

ม่อฮั่นหลินหยิบลูกคิดออกมา ดีดลูกคิดก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ยิ้มมุมปากแล้วกล่าวว่า “ยารวมปราณ 50 เม็ด ยาฝึกฝนร่างกาย 30 เม็ด ราคาปกติคือ แปดหมื่นเหรียญเงิน แต่ว่า เพราะคุณชายซื้อทีเดียวจำนวนมาก ยังไงก็ต้องมีสิทธิพิเศษ อืม..!ท่านจ่ายแค่เจ็ดหมื่นสองพันเหรียญเงินแล้วกัน!”

 

จางลั่วเฉินยิ้มแล้วกล่าวว่า “ผู้ดูแล ท่านเป็นคนซื่อตรงจริง ๆ ถ้าวันหลังจะซื้อยาอีก ข้าจะต้องมาซื้อที่นี่แน่นอน”

 

ในตอนนี้เหรียญเงินในตัวของจางลั่วเฉินนั้นเหลือไม่มากแล้ว ไม่พอที่จะจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงไปที่ธนาคารเมืองอู่ก่อนเพื่อไปถอนเงินมาสองแสนเหรียญเงิน !

 

เขาจ่ายไปเจ็ดหมื่นเหรียญเงิน รวมกับเงินที่เหลือครั้งที่แล้ว ในตอนนี้ตัวของเขาเหลือเงินอยู่หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันเหรียญเงิน

 

พอซื้อเสร็จ ม่อฮั่นหลินยิ้นจนหน้าบานแล้วกล่าวว่า“คุณชายจาง ไม่ทราบว่ายังอยากซื้อของอย่างอื่นอีกมั๊ย”

 

จางลั่วเฉินตอบ“ของที่ข้าจะซื้อ ที่ร้านนี้คงจะไม่มีแล้ว”

 

ม่อฮั่นหลิงกล่าว “หรือว่า คุณชายอยากจะซื้ออาวุธประจำตัว”

 

จางลั่วเฉินมองผู้ดูแลร้านคนนี้สูงขึ้นอีกระดับ แล้วกล่าว่า“ผู้ดูแลสายตาแหลมคมมาก”

 

ม่อฮั่นหลินยิ้มแล้วตอบว่า “ข้าเป็นผู้ดูแลร้านมาหลายสิบปี ถ้าเจอจอมยุทธ์มาไม่ถึงหมื่น ก็คงแปดพันได้ ยังไม่เคยเจอจอมยุทธ์ซักคนที่ไม่มีอาวุธประจำตัว อย่างนี้แล้วกัน!ในตลาดค้าอาวุธ หอชิงซ่วนของพวกเราเองก็มีร้ายย่อยอยู่ ข้าจะให้เด็กพาท่านไป”

 

จากนั้นไม่นาน ม่อฮั่นหลินก็ไปเรียกเจ้าอ้วนอายุประมาณ 15 หรือ 16 ปี แล้วพูดกับเขาว่า “ฮันจื่อ รีบพาแขกท่านนี้ไปที่ตลาดค้าอาวุธ แล้วบอกเถ้าแก่เนียะว่า คุณชายจางเป็นแขกพิเศษของพวกเราหอชิงซ่วน ต้องให้ราคาพิเศษแก่คุณชายจาง ”

 

เจ้าอ้วนที่ชื่อฮันจื่อเบิกตาทั้งคู่ขึ้น ส่ายหัวอย่างแรงแล้วกล่าวว่า“ไม่ไป!ไม่ไป!ข้าไปอยากไปเจอเถ้าแก่เนียะ เถ้าแก่เนียะหลอกล่อวิญญาณผู้ชายได้ ใครเจอนาง ต้องตายแน่ ๆ ”

 

ม่อฮั่นหลินโมโหจนตัวสั่น และตะคอกว่า “เจ้าไม่ใช่ผู้ชายซักหน่อย ดูยังไงตอนนี้ก็เป็นได้แค่เด็กผู้ชายที่ยังไม่โตเต็มที่ จะกลัวอะไร ช่างเถอะ!ถ้าหาก ว่าจะไม่ไป เดือนนี้ก็ไม่ต้องเอายารวมลมปราณแล้ว”

 

ฮันจื่อร้อนรนขึ้นมาทันที แล้วรีบกล่าวว่า“อย่า อย่า ข้าไป ข้าไป!ข้าไปแล้วก็ได้!”

 

ฮันจื่อเดินมาที่จางลั่วเฉิน แล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณชายจาง ท่านจะไปซื้ออาวุธที่เถ้าแก่เนียะจริง ๆ ใช่มั๊ย เถ้าแก่เนียะสามารถหลอกล่อวิญญาณผู้ชายได้นะ!คุณชายจาง ท่านเป็นผู้ชายใช่มั๊ย”

 

“เอ่อ…ข้าก็เป็นเด็กผู้ชายเหมือนกัน !”จางลั่วเฉินตอบ

 

ฮันจื่อถอนใจออกมายาวๆแล้วกล่าวว่า“งั้นก็ดีแล้ว!”

 

ฮันจื่อรูปร่างอ้วน ๆ ขาว ๆ บนหัวถักเปียหนึ่งเส้น หูสองข้างกาง ตาเล็กเหมือนกับเม็ดถั่วเหลือง

 

จางลั่วเฉินถามอย่างประหลาดใจว่า “เจ้าพูดว่าเถ้าแก่เนียะสามารถล่อลวงวิญญาณผู้ชายได้ หรือว่าเถ้าแก่เนียะจะหน้าตาสวยมากรึ ? ”

 

ฮันจื่อหยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เถ้าแก่เนียะหน้าตาสวยมาก สวยระดับต้น ๆ ของประเทศ แล้วก็เซ๊กซี่อย่างกับปีศาจ พอปรายตามองมา สามารถทำให้คนถูกมองใจเต้นตึก ๆ ตัก ๆ แล้วถ้าหากมองหน้านางก็จะทำให้คนมองหน้าแดง แต่ว่าที่ท่านยังไม่รู้คือเถ้าแก่เนียะนั้นแต่งงานกับเถ้าแก่มาแล้วเจ็ดคน ! ”

 

“แต่งกับเถ้าแก่มาเจ็ดคน !!! ” จางลั่วเฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

 

ฮันจื่อกล่าวต่อว่า “ใช่แล้ว !เถ้าแก่ทั้งเจ็ดคนล้วนตายหมด ทุกคนตายในคืนเข้าหอ”

 

จางลั่วเฉินถาม“แล้วพอเถ้าแก่ทั้งเจ็ดตาย กิจการของพวกเขาล่ะ”

 

“แน่นอนว่าก็ต้องเป็นของเถ้าแก่เนียะอยู่แล้ว!ขนาดผู้ดูแลร้านเราก็เป็นแค่เป็นคนทำงานให้เถ้าแก่เนียะเท่านั้น”

 

ฮันจื่อกดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “เถ้าแก่เนียะเป็นจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด เป็นคนล่อดวงวิญญาณ เป็นปีศาจจิ้งจอก ที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนที่พบนางก็ยากที่จะมีชีวิตเกิน 3 วัน โชคดีที่พวกเราไม่ใช่ผู้ชาย เลยน่าจะไม่โดนหลอกล่อดวงวิญญาณไป”

 

จางลั่วเฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “หวังว่านะ!”

 

(จบแล้วครับ)

สามาอ่านก่อนใครได้ที่เพจ BOXKINGS หรือเพจหลัก WGSD เทพจักรพรรดินิรันดร์กาล – จีนแปลไทย ฝากกดไลค์เพจกันด้วยนะครับ