…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฝูงชนที่เงียบสงบเหมือนน้ำก็ฮือฮาขึ้นเหมือนดั่งก้อนหินได้ถูกโยนลงไป ทุกคนกำลังมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยที่ตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะเชื่อ

“เธอตื่นขึ้นมา?”

นัยน์ตาของมู่ขวิงปิงหดตัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุข เธอได้ไปหาหมอที่มีชื่อเสียงทุกแห่งตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แม้แต่หมอจีนที่มีชื่อเสียงก็ไม่สามารถปลุกลูกสาวของเธอจากสถานะที่ไม่ได้สติได้แม้แต่ครั้งเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่ใครบางคนสามารถปลุกเธอขึ้นจากสถานะที่หมดสติได้ ในขณะนี้มู่ขวินปิงก็เหมือนกับที่ได้เห็นความหวัง ว่าลูกสาวของเธอจะฟื้นตัวจากอาการเต็บป่วยได้อย่างสมบูรณ์

ท่ามกลางฝูงชน …

ร่างที่สวยงามของโอหยางลูลู่ได้ปรากฏขึ้น เธอก้าวออกมาพร้อมกับรองเท้าหนังของเธอและสวมเสื้อกันหนาวรวมทั้งแว่นตากันแดดสีชมพูขณะที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเธอกวาดไปที่ถังซิ่วที่อยู่บนเวทีสูง

“สวัสดี ฉันอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน?”

โอหยางลูลู่ได้สะกิดชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเบาๆแล้วถามออกมา

ชายหนุ่มคนนั้นขมวดคิ้วทันที ความรู้สึกรำคานได้เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา แต่เมื่อเขาหันศีรษะไปดูโอหยางลูลู่แล้วนั้น ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นหน้ามือกับหลังตีนโดยทันที เขาเล่าทุกอย่างพร้อมคำอธิบายแบบระเอียดยิบให้โอหยางลูลู่ฟัง จนกระทั่งเขาจะพูดเสร็จแล้วนั้นเขาก็ยังอยากจะเล่าให้เธอฟังต่อ

“การรักษาอาการเจ็บป่วย?”

โอหยางลูลู่มองไปที่ถังซิ่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอรู้ว่าถังซิ่วเป็นผู้บ่มเพาะพลังและเป็นปรมาจารย์นักพนัน แต่เธอไม่เคยคาดคิดว่าถังซิ่วนั้นจะเป็นแพทย์แผนจีนด้วย

ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจผิดเป็นอย่างมากราวกับว่า ยิ่งเธอรู้จักถังซิ่วมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะได้รู้ถึงสิ่งที่ไม่สามารถจะหยั่งถึงได้ทีละน้อย

แม่กระทั่ง!

ตัวเธอเองยังไม่แน่ใจว่าทำไมถึงได้มีความไว้วางใจบางอย่างต่อถังซิ่ว มันได้เพิ่มขึ้นภายในหัวใจของเธอ แม้ว่ายาที่ถังซิ่วทำนั้นจะยังไม่ได้เอาให้ผู้ป่วยทานและไม่รู้ว่ามันสามารถรักษาได้ไหม แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอเชื่อใจเขาเป็นอย่างมาก

บนเวที

ชูเก่าซองกำลังมองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกตกใจ สำหรับสภาพร่างกายของเด็กหญิงนั้น เขาเองก็ค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะมีฝีมือดี แต่เขาก็ไม่มีความมั่นใจที่จะทำให้เด็กหญิงคนนั้นตื่นขึ้นมาจากสถานะที่ไม่ได้สติของเธอ อย่างไรก็ตาม ถังซิ่วที่อยู่ข้างหน้าเขาก็สามารถทำมันให้สำเร็จได้ เขายังแอบกระซิบในใจว่า ยาที่ไอเด็กนี้ต้มมานั้นจะสามารถรักษาเธอได้จริงไหม? ถ้าหากว่ามันทำได้จริงๆก็แสดงว่าฉันจะต้องเสียหน้าไปถึงรุ่นปู่รุ่นย่าอย่างแน่นอน

ชายชราคนที่สวมรองเท้าเชือกฟางก็มองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจที่จะปลุกเด็กน้อยให้ฟื้นจากสภาวะไม่ได้สติขึ้นมานั้น แต่มันก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากและมันก็ดูไม่ง่ายเหมือนที่ถังซิ่วได้ทำอย่างผ่อนคลายในตอนนี้

“เด็กคนนี้ค่อนข้างมีทักษะ”

ชายชรากำลังยกย่องในหัวใจของเขา แต่เขาก็ยังคงมีท่าทางความสงบอยู่พูดอย่างเงียบๆว่า

“เด็กน้อย ฉันไม่เชื่อหรอกว่ายาจีนที่เธอปรุงขึ้นมาจะสามารถรักษาเด็กคนนั้นได้”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ไม่ว่านายจะอยากเชื่อหรือไม่ ก็เรื่องของนาย แต่การที่จะทำมันสำเร็จได้ไหมนั้นมันเป็นเรื่องของฉัน แม้ว่าอายุของนายจะแก่มากแล้ว แต่วันนี้ฉันจะทำให้นายรู้ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาของนายนั้นมีค่าไม่ต่างจากหมาตัวนึง ”

หลังจากพูดจบแล้ว ถังซิ่วได้เอาชามที่มียาจีนเหลืออยู่ครึ่งหนึ่งขึ้นมาและค่อยๆเป่ามัน เขามองลงไปที่เด็กหญิงตัวเล็กๆในอ้อมแขนและพูดอย่างใจเย็นว่า

“คุณแม่ของหนูกังวลเกี่ยวกับหนูมากรู้ไหม?เธอรักหนูมากจริงๆนะ ถ้าหนูไม่ต้องการที่จะทำให้เธอเศร้าเสียใจ ก็จงดื่มยาจีนชามนี้ให้หมด ฉันสัญญากับหนูว่า ร่างกายของหนูจะไม่ได้รับความเจ็บปวดอีกเมื่อดื่มยาตัวนี้ ”

“พี่ชาย พี่……………พูดจริงๆหรอ?”

ดวงตาคู่ใหญ่ที่ส่องสว่างและดูฉลาดของเด็กหญิงตัวน้อยได้กระพริบตามขณะที่เธอกำลังถามพร้อมความปรารถนาอันแรงกล้า

“มันเป็นเรื่องจริง”

ถังซิ่วพยักหน้าอย่างหนัก

เด็กหญิงตัวเล็กๆมองไปที่ถังซิ่วแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่แม่ของเธอ มู่ขวินปิงจากนั้นเธอก็รับชามใส่ยามาพร้อมเป่าเบาๆและพบว่าตัวยาจีนนั้นไม่ได้ร้อน จากนั้นเธอก็กลืนมันเข้าไปในกระเพาะอาหารของเธอ

“มันร้อน…”

หลักจากที่ดื่มยาลงไปไม่กี่วินาที ใบหน้าเล็กๆของเธอแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง จากนั้นเธอใช้แขนเพื่อกุมท้องพร้อมปล่อยเสียงออกมา เธอรู้สึกราวกับว่า ในท้องของเธอนั้นกำลังมีกองไฟนรกกองใหญ่อยู่ในนั้น ไฟนรกนี้แทบจะเผาอวัยวะทั้งห้าภายในร่างกายของเธอ

มู่ขวินปิงรีบคว้ามือลูกสาวของเธอขณะที่เธอมองไปที่ถังซิ่วและรีบถามว่า

“น้องชายตัวน้อย ลูกสาวของฉันเป็นไงบ้าง? ยานั้น … ”

ถังซิ่วตอบด้วยความสงบนิ่งว่า

“ยานั้นไม่มีปัญหาความรู้สึกร้อนภายในร่างกายนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา ชยาจีนชามนั้นมีคุณสมบัติของธาตุไฟ คุณไม่รู้สึกเมื่อดื่ม แต่หลังจากที่เข้าสู่กระเพาะอาหารแล้วคุณจะรู้สึกว่ามีไฟนรกเผาไหม้อยู่ข้างในนั้น แต่คุณไม่ต้องกังวลไป! มันดีมากสำหรับตัวเธอและ ฉันสามารถรับประกันได้ว่าอีกสักสองสามนาที เธอจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆจากร่างกายของเธออีกเลย ”

มู่ขวินปิงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เพื่อที่จะให้กำลังใจลูกสาวของเธอ เธอได้พูดไปตามคำพูดของถังซิ่วว่า

“ลูกรัก โปรดอดทนกับมัน หมอศักดิ์สิทธิ์นี้ได้กล่าวไว้ว่า ความเจ็บป่วยของลูกจะหายขาด ลูกจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกในอนาคต อา ลูกไม่อยากกลับไปโรงเรียนเพื่อศึกษาเหมือนคนธรรมดาแล้วหรอ? รอให้อาการเจ็บป่วยของลูกหายแล้วแม่จะส่งลูกกลับไปโรงเรียนเอง! ”

“…”

ภายในดวงตาของเด็กน้อยเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา แม้ว่าทุกวันนี้เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก แต่ความเจ็บปวดที่เผาไหม้อยู่ภายในท้องเธอนี้เป็นอะไรที่ยากที่จะทนได้มันทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะตายทันทีหลังจากที่ได้ลิ้มรสมัน อย่างไรก็ตามเธอพยายามอย่างที่สุดที่จะอดทนกับมัน เพราะเธอรู้ว่าเธอจะต้องไม่ตาย พ่อของเธอเสียชีวิตและถ้าเธอตามเขาไปแล้วแม่ของเธอก็คงจะเหงามากและรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นคนที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่บนโลกนี้คนเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แม่ของเธอจะต้องน่าสงสารมากอย่างแน่นอน

เธอต้องยืนหยัดและอดทน!

เด็กหญิงตัวเล็กๆเพิ่มพลังใจของตัวเอง

2 นาทีต่อมา

ใบหน้าของเด็กน้อยคนนี้ก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ขณะที่ควันขาวถูกปล่อยออกมาจากเส้นผมสีดำที่เงางามของเธอ แม้แต่ตัวเธอก็สั่นอย่างรุนแรง

ถังซิ่วมองไปที่การแสดงออกที่กำลังดิ้นรนบนใบหน้าของสาวน้อย เขาแอบชื่นชมเธออยู่ภายในใจ เขารู้ถึงความเจ็บปวดหลังจากกินยาจีนตัวนี้ดี ในอดีตเมื่อตอนที่เขายังคงอยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์นั้น เขาเคยดื่มยาจีนชนิดนี้มาแล้วโดยผู้อาวุโสของเขา อายุของสมุนไพรที่ใช้ ยิ่งอายุมาก ผลลัพธ์ก็จะยิ่งดี

“เกือบจะถึงเวลาแล้ว”

ถังซิ่วอุ้มเด็กสาวตัวน้อยขึ้นและวางเธอลงบนเตียง จากนั้นเขาก็ใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่ของเธอและเริ่มใช้เทคนิคแปลกๆขณะที่เขากดลงและนวดบน แขน ไหล่ อก เอว หลัง ก้น ทั้งขาและเท้า ของเธอ

ทุกครั้งที่เขากดลงไป เด็กหญิงคนนี้ก็กรีดร้องอย่างน่าสงสาร

ถังซิ่วเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาได้นวดไปที่ทุกๆส่วนของข้อต่อและเส้นพลังแต่ละเส้นแล้วเขาก็เผยรอยยิ้มเบาๆออกมาและปล่อยมือออกอย่างนุ่มนวล

“อ่า …”

เด็กหญิงตัวเล็กๆลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองอย่างประหลาดใจ

พร้อมกับที่คลื่นสุดท้ายของอาการปวดได้ลดลง เธอรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าทุกส่วนของร่างกายเธอไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆอีกแล้ว ในทางตรงกันข้ามนั้น เธอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกสบายๆที่ไม่สามารถอธิบายได้ในร่างกายของเธอ เธอไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว

มู่ขวินปิงมองไปที่ลูกสาวที่ยืนอยู่บนเตียง จากนั้นเธอก็ถามด้วยท่าทางที่คาดหวังไว้ว่า

“ลูกรัก ลูกรู้สึกยังไงในตอนนี้? ลูกรู้สึกเจ็บปวดหรือทรมานภายในร่างกายของลูกอีกไหม? ”

เด็กหญิงตัวเล็กๆมองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกขอบคุณ เธอพยายามอย่างเต็มที่และบังคับตัวเองให้กระโดดขณะที่เธอโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของมู่ขวินปิง น้ำตาของเธอหลั่งไหลออกมาอีกครั้งและพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาว่า

“แม่ค่ะ หนูไม่เจ็บอีกต่อไปแล้ว หนูรู้สบายดีอย่างมาก ”

ท่าทางของมู่ขวินปิงแข็งค้างทันที เธอรู้สึกเหมือนกำลังฝันหลังจากที่ได้ยินคำพูดของลูกสาวเธอ

เธอไม่รู้สึกเจ็บปวด?

นี่เป็นประโยคที่ลูกสาวของเธอไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวมานานกว่า 2 ปี

ชูเก่าซองก้าวออกมาขณะที่ดวงตาของเขาจ้องที่เด็กหญิงตัวเล็กๆและพูดว่า

“เด็กน้อย หนูพูดว่าหนูไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว? หนูคงไม่ได้บอกไปแบบนี้เพื่อให้แม่ของหนูสบายใจใช่ไหม? ”

เด็กหญิงตัวเล็กๆหันศีรษะและมองไปที่ชูเก่าซองและตอบว่า

“คุณลุง หนูไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรจริงๆ! แม่มักจะบอกหนูตั้งแต่ยังเด็กว่า เด็กที่ดีต้องไม่โกหก! ”

ชูเก่าซองมองไปที่ถังซิ่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อในสายตาของเขา เขากลืนน้ำลายของเขาและพูดอีกครั้งว่า

“เด็กน้อย คุณลุงคนนี้เป็นแพทย์แผนจีน หนูสามารถปล่อยให้ลุงตรวจดูชีพจรของหนูหน่อยได้ไหม?”

“ได้สิค่ะ!”

เด็กหญิงตัวเล็กๆยกแขนของเธอขึ้น

นิ้วของชูเก่าซองกดไปที่ชีพจรของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้พร้อมหลับตาลง 2 นาที หลังจากนั้นเขาเปิดตาและปล่อยมือของเขา ตอนนี้แม้แต่คนโง่ก็สามารถมองเห็นการแสดงออกที่กำลังรู้สึกตกใจที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาได้

“มันจะเป็นไปได้ยังไง? นี้เป็นไปได้ยังไงกัน? ”

ชูเก่าซองพึมพำกับตัวเอง ราวกับว่าเขาไม่เชื่อว่าผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นเป็นจริง หลังจากที่เขาได้รับการวินิจฉัยอีกครั้ง เขาก็ต้องรู้สึกทึ่งและตกตะลึงเพราะเขาพบว่าร่างกายของเด็กหญิงคนนี้มีความแตกต่างจากเดิมมาก ชีพจรและเส้นพลังของเธอเปลี่ยนไปเป็นราบรื่นและคงที่ พลังงานความเย็นภายในร่างกายของเธอเริ่มหายไปหลอดเลือดของเธอได้รับการชำระล้าง สิ่งสำคัญคือ เขารู้สึกถึงพลังงานที่อบอุ่นภายอยู่ในขณะที่มันพัวพันอยู่กับเส้นพลังของเด็กน้อยคนนี้

ยาจีนครึ่งชาม

สามารถสร้างผลลัพธ์แบบนี้ได้

ในขณะที่เขาได้ตระหนักและตื่นขึ้น เขารู้สึกเหมือนใบหน้าของเขากำลังถูกตบด้วยฝ่ามือนับสิบ คำพูดที่บอกสุนัขตาต่ำนั้นเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจได้ในตอนนี้ เขาเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าในวันนี้เขาไม่เพียงแค่ทำลายชื่อเสียงของตัวเอง แต่ยังทำลายชื่อเสียงของอาจารเขาเช่นกัน

เขาเสียใจ

หัวใจของเขาราวกับถูกกัดโดยงูพิษ ถ้าโลกนี้มียารักษาอาการเสียใจเขาก็ยินดีที่จะซื้อมันแม้ว่าจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง

ชายชราสวมรองเท้าฟาง เห็นความอับอายบนใบหน้าของชูเก่าซองแล้วนั้น เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจถึงเรื่องไม่ดีขึ้นมาจากหัวใจของเขา เขาเดินไปข้างหน้าและไม่สนว่าเด็กน้อยนั้นจะอนุญาตหรือไม่ เขาคว้าข้อมือของเธอขึ้นมาเพื่อตรวจสอบชีพจรของเธอโดยตรง หลังจากได้รับการวินิจฉัยนั้น ผิวหน้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ำทันที

“เ-เธอ … ทะ- ทำมันได้ยังไงกัน?”

ริมฝีปากของชายชราเริ่มบิดเบี้ยว เดูราวกับว่าเขาเป็นศพที่มีชีวิต

ถังซิ่วตอบแบบไม่แยแสๆว่า

“นี่เป็นเพียงอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยและเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับฉัน”

“พัฟฟ … ”

เลือดได้พุ่งออกมาจากปากของชายชรา

ในโลกนี้ แผลที่เจ็บปวดที่สุดในการยั่วยุคนนั้นคืออะไร?มันไม่ได้เกิดจากมีดคม แต่เกิดจากคำพูดและท่าทางที่ไม่แยแส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกพูดด้วยความสามารถและความแข็งแกร่งดังกล่าว แผลไม่ได้อยู่ในร่างกายแต่มันเป็นแผลที่จิตใจ

ทันใดนั้น ชายชราก็ดูเหมือนจะแก่ลงไปหลายปี

เขาหายใจเข้าลึกๆเพียงเพื่อระงับความขมขื่นและความรู้สึกที่ไม่ดีในใจ จากนั้นก็ยกมือขึ้นเพื่อเช็ดเลือดที่มุมปากของเขา พร้อมมองไปที่เจ้าของห้องโถงร้อยสมุนไพรและบอกว่า

“ฉันจะจ่ายเงินสำหรับค่าโสมป่าที่ร้านของคุณ”

หลังจากพูดจบแล้วเขาก็รีบเดินจากไปทันที

เขากลัวว่าถ้าเขายังอยู่ที่นี้ต่อไป ฝนแห่งคำสาปแช่งว่าเขาเป็นหมอที่ไร้ค่าจะต้องโหมกระหน่ำมาที่เขาอย่างแน่นอน

วันนี้เขาเพิ่งหน้าแหกอย่างรุนแรง แต่เขาไม่ได้เสียชื่อเสียงของเขาเพราะเขาไม่ได้เอ่ยชื่อของเขาตั้งแต่ต้นจนจบ มิฉะนั้นเมื่อเรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไป เขาจะกลายเป็นตัวตลกในวงการแพทย์จีนและเพื่อนของเขาจะต้องนินทาเรื่องนี้อย่างแน่นอน

“คุณยังไม่ได้บอกชื่อของคุณเมื่อได้ก้าวขึ้นมาเวที! ฉันคิดว่าฉันมีคุณสมบัติที่จะรู้ชื่อที่น่าเคารพนับถือของคุณ หรือว่าฉันไม่?”

ถังซิ่วมองไปที่ชายชราแล้วพูดออกมา

(เจ็บแสบยิ่งนัก )