ตอนที่ 6 เจ้าของร้านเอาข้าวผัดไข่จานเดียวสิบจานมาให้ข้าก่อน

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังจากที่เซียวเหยี่ยนหยู่สวมผ้าคลุมหน้าแล้วและเซียวเสี่ยวหลงที่กำลังตื่นเต้นก็ออกไปจากคฤหาสน์ของท่านแม่ทัพที่ตั้งอยู่ในเขตเมือง ตอนที่พวกเขาก้าวออกมาก็มีเสียงผู้คนดังออกมาจากถนนไม่หยุด

แม้ว่าข้างนอกจะมีเสียงดัง แต่ว่าภายในคฤหาสน์ของท่านแม่ทัพกลับเงียบและสงบ ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเวทมนตร์ที่ป้องกันเสียงรบกวนที่ออกแบบโดยผู้ก่อสร้างที่ออกแบบคฤหาสน์

เซียวเหยี่ยนหยู่ไม่ค่อยจะออกมาจากบ้าน เพราะนางรู้ว่าเมื่อนางปรากฏตัวก็จะดึงดูดความสนใจจากผู้ชาย มีอยู่ครั้งหนึ่งนางไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้าทำให้ถนนในเมืองหลวงติดขัด มีการต่อสู้กันระหว่างชายเจ้าชู้ นับแต่เหตุการณ์นั้นเซียวเหยี่ยนหยู่ก็แทบไม่ได้ออกไปจากบ้านเลย แม้ว่านางจะสวมผ้าคลุมหน้าแล้วก็ตาม

หลังจากพี่น้องตระกูลเซียวออกไปจากมุมของคฤหาสน์แล้วเดินเข้าไปสู่ถนนที่วุ่นวาย มีคนขายของชำและตั้งแผงลอยทั้งสองข้างถนน และกลิ่นของอาหารทอดลอยฟุ้งไปในอากาศ

ผู้ฝึกตนเช่นเซียวเสียวหลงกับเซียวเหยี่ยนหยู่จะไม่กินอาหารทอดจากร้านแผงลอยพวกนี้ เพราะน้ำมันที่ใช้มีคุณภาพต่ำและเป็นพิษ เป้าหมายหลักของผู้ฝึกตนคือรักษาร่างกายของพวกเขาให้บริสุทธิ์และกำจัดสิ่งสกปรกในร่างกายของพวกเขา อาหารพวกนี้จะยิ่งทำให้ร่างกายของพวกเขาสกปรกยิ่งขึ้น

นี่เป็นเหตุผลที่ผู้ฝึกตนใส่ใจในเรื่องอาหารของพวกเขา โดยเฉพาะความกังวลในคุณภาพของอาหาร

ถ้าพูดจริงๆข้าวผัดไข่ก็ถือว่าเป็นอาหารขยะเหมือนกัน แต่การพัฒนาของเซียวเสี่ยวหลงเกิดขึ้นมาจากข้าวผัดไข่ หากมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญข้าวผัดไข่ก็ต้องมีอะไรผิดปกติ

และมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเซียวเสี่ยวหลงติดอยู่ในระดับนักรบขั้นที่สองเป็นเวลานาน นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ข้าวผัดไข่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกันกับทลายอุปสรรคระดับขั้นของเขา

นี่คือสิ่งที่เซียวเหยี่ยนหยู่อยากรู้ข้าวผัดไข่นี่มันจะน่าอัศจรรย์แค่ไหนกัน?

“อะหะ นี่มันคุณชายเซียว? เจ้าวางแผนจะท่องบทกวีที่ไหนในวันนี้?”

พี่น้องตระกูลเซียวคิดอย่างหนักภายในใจเมื่อได้ยินเสียงน่ารำคาญมาขัดจังหวะพวกเขา

ใบหน้าที่สวยงามของเซียวเสี่ยวลงก็ดำขึ้น เขาหันไปทางผู้ชายน่ารำคาญส่งเสียงมาในระยะไกล ชายหน้าตาน่าเกลียดใส่เสื้อคลุมยาวสีฉูดฉาดถือพัดอยู่

เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้ากรมการคลัง…เสิ่นฉีเฉียง

เขามีชื่อเสียงไม่ดีว่าเป็นเสือผู้หญิงในเมืองหลวง

“เสิ่นฉีเฉียงข้าไม่มีเวลาให้เจ้าในวันนี้ อย่ามาขว้างทางข้า” แม้ว่าเซียวเสี่ยวหลงจะเป็นหนุ่มหน้าหวานแต่เขาก็ปลดปล่อยกลิ่นอายความโกรธได้

แต่เสิ่นฉีเฉียงก็ไม่กลัวเขา เขายักไหล่แล้วมองที่หญิงสาวสวมชุดคลุมที่อยู่ข้างๆเซียวเสี่ยวหลง ทันใดนั้นนัยตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

“โอ๊ะ ข้าไม่อยากจะเชื่อนั้นมันแม่นางเหยี่ยนหยู่ ข้าดีใจมากที่ได้เจอกันกับท่าน”

เสิ่นฉีเฉียงรู้ว่าเป็นเซียวเหยี่ยนหยู่ตัวเขาก็สูญเสียความสงบนิ่งทันที ในฐานะเสือผู้หญิงเขาไม่พลาดโอกาสที่จะตามตื้อเทพธิดาในฝันของเขา

“ออกไปให้พ้นทางข้า”เซียวเหยียนหยู่เบาๆ นางไม่อยากจะพูดกับสวะอย่างมัน

เสิ่นฉีเฉียงยักไหล่ของเขา เขาอยากจะคุยด้วย แต่เลือดในกายของเขาเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นเมื่อได้เห็นสายตาของเซียวเหยี่ยนหยู่ เขาเหมือนกับว่าได้รับคำเตือนจากเซียวเหยี่ยนหยูที่ทรงพลัง

หลังจากหมื่นปีแห่งความเจริญมั่งคั่ง ระบบการจัดอันดับของผู้ฝึกตนในทวีปเฉียนหลงมีการจัดลำดับอย่างดับอย่างเข็มงวด

ในทวีปเฉียนหลงทุกคนต่างเป็นผู้ฝึกตน ตั้งแต่คนแก่ไปจนถึงเด็กห้าขวบ ผู้ฝึกตนล้วนมีอยู่ทุกครอบครัว แต่ถึงยังไงระดับความแตกต่างของพรสวรรค์ก็มีผลเช่นกัน

มันมีอยู่เก้าระดับที่ไม่เหมือนกัน :นักรบเป็นระดับแรก ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้เป็นระดับสอง นักรบบ้าคลั่งระดับที่สาม จิตวิญญาณการต่อสู้เป็นระดับที่สี่ี่ ราชันนักรบระดับที่ห้า จักรพรรดินักรบระดับที่หก นักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับที่เจ็ด เทพสงครามระดับที่แปด ผู้อาวุโสสูงสุดระดับเก้า (ไม่ต้องงงเรื่องระดับ ตอนหลังๆจะมีระดับต่างๆเพิ่มมากอีก)

นอกจากนี้ยังมีระดับสิบเช่นกัน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะควรรู้

เซียวเหยี่ยนหยู่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ฝึกตนอัจฉริยะในเมืองหลวง แม้ว่านางจะอายุสิบแปดปีนางก็ในระดับจิตวิญญาณการต่อสู้ขั้นที่สี่แล้ว เมื่อเทียบกับน้องชายของนาง นางแข็งแกร่งกว่ามาก

แม้แต่แม่ทัพใหญ่เซียวเมิ่งยังพูดอยู่เสมอมันคงจะดีมากหากเซียวเหยี่ยนหยู่เป็นผู้ชาย

เสิ่นฉีเฉียงเป็นเพียงแค่ผู้หญิง แม้เขาจะอายุยี่สิบเขายังอยู่ในระดับที่สามระดับนักรบบ้าคลั่ง เขาไม่กลัวเซียวเสี่ยวหลงแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักรบวิญญาณระดับสี่เช่นเซียวเหยี่ยนหยู่มันแตกต่างกันเกินไป

เซียวเสี่ยวหลงพ่นลมหายใจเย็นๆออกมาจากจมูก แล้วตามเซียวเหยี่ยนหยู่ไปทั้งสองหายตัวไปอย่างรวดเร็วในฝูงคน

เสิ่นฉีเฉียงเกาแก้มแล้วหรี่ตาลง เขาหันไปหาคนรับใช้แล้วกระซิบอะไรบ้างอย่างกับเขา ลูกสมุนวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วขณะที่เสิ่นฉีเฉียงตามหลังพี่น้องตระกูลเซียวไปอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว

หลังจากหลับแล้วตื่นขึ้นมาเองเหมือนเช่นทุกวัน บู่ฟงก็เดินงัวเงียไปเปิดร้าน

เจ้าหมาดำตัวใหญ่กำลังนอนอยู่ที่ทางเข้า มันมองมาที่บู่ฟงที่กำลังเปิดทางเข้าร้าน แล้วกลับไปนอนต่อ

“ภายในเจ็ดวันข้าต้องผัดข้าวผัดไข่ร้อยจาน กับผัดผักไม่งั้นก็บะหมี่แห้งสิบจาน…….ระบบคิดว่าร้านเล็กแห่งนี้จะเกิดปาฎิหารย์แบบนั้นได้เหรอ?” บู่ฟงวางเก้าอี้ตรงทางเข้าเขากำลังขดด้วยอยู่ ภายในใจของเขาคิดประท้วงระบบ

“ท่านยังอายุน้อย เพื่อที่มุ่งมั่นสู่การเป็นเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร ท่านต้องเชื่อมั่นในการทำอาหารของท่าน ท่านต้องเชื่อว่าท่านจะพิชิตโลกได้” ระบบให้กำลังบู่ฟงอีกครั้งหนึ่ง

บู่ฟงกรอกตาคิด “ข้าอยากนอนอาบแดดสบายๆมากกว่าพิชิตโลก”

บู่ฟงรู้สึกอยากหลับลงไปอีกครั้งหนึ่ง ตอนที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงบู่ฟงก็อยากหลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

“เจ้าของร้าน ข้าอยู่นี่แล้ว ข้ากำลังหลงรักข้าวผัดไข่ของท่าน”

ดวงตาของบู่ฟงปิดลงสักพักก่อนที่จะมีเสียงตะโกนปลุกให้ตื่นขึ้นมา เขามองดูอย่างไม่แสดงท่าทางใดๆ เมื่อเห็นหนุ่มหน้าหวานที่กินข้าวผัดเมื่อวานก่อน

“เฮ้ย?” มีคนๆหนึ่งอยู่ข้างๆเขา แม้สวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้า บู่ฟงก็คิดว่านางเป็นผู้หญิง “แล้วยังมีทรงหน้าอกและเอวที่ดี….รูปร่างของนางดียิ่งนัก”

เซียวเหยี่ยนหยู่ขมวดคิ้วประเมินร้านอาหารเล็กๆที่เซียวเสี่ยวหลงพานางไป นางกำลังคิดว่า “ร้านอาหารที่อยู่ไกลนี้จะทำข้าวผัดมหัศจรรย์ได้ไหม?”

“ท่านเป็นเจ้าของร้านอาหารนี้เหรอ?” เซียวเหยี่ยนหยู่ถาม

เสียงไพเราะเข้าหู

“ใช่แล้ว” บู่ฟงพยักหน้าอย่างสงบนิ่ง

เซียวเหยี่ยนหยู่เข้าร้านโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ภายในตกแต่งได้อย่างสะอาดมาก นางเอานิ้มแตะโต๊ะ มันไม่มีฝุ่น นางพอใจกับบรรยากาศของร้าน

แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารเล็กๆที่ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล แต่การตกแต่งก็ให้บรรยากาศที่ดีและสถานที่ก็สะอาด

หลังจากที่เซียวเหยี่ยนหยู่ประเมินพื้นที่รอบๆเสร็จ ตาของนางก็มองมาที่เมนูที่อยู่กลางร้าน นางยกคิ้วตาของนางส่องประกายด้วยความไม่เชื่อ

“เป็นจริงอย่างที่เสี่ยวหลงว่าข้าวผัดไข่…จานผลึก เอ๊ะ? ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงราคาสิบผลึก?นี่มันบ้าไปแล้วรึไง?”

“เจ้าของร้าน ทำไมข้าถึงไม่เห็นข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงเมื่อวานนี้? ทำไมมันมีในวันนี้?” เซียวเสี่ยวหลงแปลกใจที่เห็นเมนูใหม่ราคาสิบผลึก

“ข้าลืมเขียนมันเมื่อวาน แต่ข้าจำได้ว่าคนที่สั่งจานนี้ต้องอยู่ในระดับสามนักรบวิญญาณบ้าคลั่ง ไม่อย่างนั้นท่านไม่มีคุณสมบัติ”บู่ฟงอ้าปากหาวไม่แสดงท่าทางใดๆตอบ

“โอ้แม้แต่จะสั่งอาหารก็ยังจำกัดระดับการฝึกฝน?” เซียวเหยี่ยนหยู่เริ่มสนใจขึ้นมาทันที นางยิ่งอยากรู้เรื่องข้าวผัดไข่มากกว่าเดิมแล้ว

“เซียวหลงเจ้าเอาผลึกมากี่ชิ้น?”เซียวเหยี่ยนหยู่หันหน้าไปถามเซียวเสี่ยวหลง

เซียวเสี่ยวงงสักพักก่อนที่จะตอบไปว่า “สิบผลึก”

“อืม ดี” เซียวเหยี่ยนหยู่พยักหน้าด้วยความพอใจ นางชักมือเอาลุงผ้าปักลายดอกโบตั๋นเข้ามาไว้ในมือ

“เจ้าของร้านเอาข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงมาให้ข้า” เซียวเหยี่ยนหยู่พูดออกมาอย่างสงบนิ่ง

“เอาละโปรดรอสักพัก” เมื่อเซียวเหยี่ยนหยู่สั่งข้าวผัดสูตรปรับปรุงบู่ฟงก็ดีใจ แต่ไม่แสดงอาการออกมาที่ใบหน้า เขาอยากจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสาวงาม

ใบหน้าที่ทุกทรมานของเซียวเสี่ยวหลงหันหน้าไปมองเซียวเหยี่ยนหยู่

บู่ฟงหันไปและกำลังจะเข้าไปในครัว เสียงหัวเราะคิกๆที่ทางเข้าทำให้เขาหยุด

“คืชิกๆ อัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งในอาณาจักรสายลมแห่งแสงจะมาร้านเล็กๆที่น่าสงสารกินข้าวผัดไข่เนี่ยนะ? นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?”

เสิ่นฉีเฉียงยักไหล่แล้วส่ายหัวเข้าไปในร้านเล็กๆ

“แม่นางหยี่เหยี่ยนท่านชอบกินข้าวผัดไข่เหรอ? โอเคเจ้าของร้านเอามาให้ข้าสิบจานก่อน ข้าจะสั่งมันมากกว่านี้หากมันไม่พอ”