ตอนที่ 5 เซียวเหยี่ยนหยู่

“รางวัลของระบบ:ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงและหนึ่งชิ้นส่วนเครื่องครัวของเทพแห่งการทำอาหาร”

น้ำเสียงหนาวเย็นของระบบประกาศออกมาในส่วนของรางวัลที่บู่ฟงได้รับ

หลังจากที่ได้ยินประกาศของระบบใบหน้าของบู่ฟงที่แสดงถึงอาการตื่นเต้นก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ไม่แสดงออก

“อะไรกันเป็นข้าวผัดไข่อีกแล้วเหรอ?มันต่างจากข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงตรงไหน?” บู่ฟงรู้สึกผิดหวังเขาคิดว่าจะปลดล็อกเมนูใหม่ๆ แต่มันก็ยังเป็นข้าวผัดไข่ แม้ว่ามันสูตรปรับปรุงมันก็ยังคงเป็นข้าวผัดไข่

“ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงมีระดับที่สูงกว่าข้าวผัดไข่ธรรมดา ส่วนผสมที่ใช้ก็แตกต่างกันผู้ฝึกฝนที่ระดับต่ำกว่านักรบระดับสามไม่อนุญาตให้สั่งจานนี้”

ระบบอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจังอธิบายความแตกต่างกันของข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงกับข้าวผัดไข่ธรรมดาให้เข้าใจ บู่ฟงแปลกใจนิดๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเขาไม่เห็นว่าข้าวผัดสูตรปรับปรุงกับศุตรธรรมดาจะแตกต่างกันอย่างไร

“แล้วชิ้นส่วนของเครื่องมือเทพเจ้าแห่งการทำอาหารคืออะไร?”

“เชตส่วนหนึ่งของเครื่องมือเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร:ด้วยการรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดโฮสต์สามารถเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องมือของเทพแห่งการปรุงอาหาร ชุดเครื่องครัวที่โฮสต์ใช้อยู่ในตอนนี้เป็นเพียงของธรรมดาเท่านั้น”

“ชุดเครื่องมือแห่งเทพเจ้าแห่งการทำอาหารเหมือนกับเสียงสวรรค์” บู่ฟงกระพริบตาอย่างน่าแปลกใจ แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขา

จานใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างลึกลับในเมนูอาหาร และมีราคาติดอยู่เช่นเดิม

ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงราคาสิบผลึก

“ในฐานะคนๆหนึ่งที่มุ่งมั่นจเป็นเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร ท่านจะไม่มีเป้าหมายในเร็วๆนี้ได้อย่างไร? ภารกิจของระบบ:กรุณาหาผลึกอย่างน้อยหนึ่งร้อยผลึกและหนึ่งพันเหรียญทองให้ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์”

ระบบมอบหมายภารกิจให้บู่ฟงด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

เพื่อทำกำไรให้ได้หนึ่งร้อยผลึกในสัปดาห์นี้เขาต้องขายข้าวผัดไข่ธรรมดาหนึ่งร้อยจานหรือข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงสิบจาน เพื่อให้ได้หนึ่งพันเหรียญทองเขาต้องขายผัดผักหรือบะหมี่แห้งสิบจาน…

“ระบบนี่ก็ยากลำบากเหมือนกัน ข้าต้องขายข้าวผัดไข่จานหนึ่งในวันนี้และต้องขายข้าวผัดไข่อีกร้อยธรรมดาจานในเจ็ดวันข้างหน้า…ทำไมไม่ฆ่าข้าแทนไปละ?” บู่ฟงบ่นประท้วงกับระบบด้วยท่าทางที่โศกเศร้า

แต่ยังระบบก็พูดให้กำลังใจบู่ฟงด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เพื่อที่จะได้เป็นเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร ท่านต้องไม่กลัวความยากลำบากที่จะต้องเผชิญ ทุกก้าวมุ่งสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

แต่บู่ฟงก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ เขาไม่สนใจระบบที่ให้กำลังใจเขา บางทีหากระบบไม่ใช้น้ำเสียงที่จริงจังบู่ฟงอาจจะติดกับ

บู่ฟงถอนหายใจนอนลงบนเตียงและหลับตา
……

เซียวเสี่ยวหลงกลับมาที่บ้านที่คฤหาสน์ของนายพล เขาดูวุ่นวายนิดๆ ความจริงที่ว่าพลังงานที่แท้จริงของร่างกายของเขาพวยพุ่งขึ้นมา ความรู้เหมือนกับว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจริง

“ก้าวผ่านคอขวดเพีนงแค่กินข้าวผัดไข่นี้…นี่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย” ในตอนที่เซียวเสี่ยวหลงคิดถึงรสชาติของข้าวผัดไข่ เขาก็มีความสุขเมื่อคิดไปตัวเขาล่องลอยไปอยู่ในทะเลกลิ่นหอมกรุ่น

คฤหาสน์ของนายพลมีขนาดใหญ่มาก เซียวเสี่ยวหลงเดินผ่านคนรับใช้มากมาย เมื่อสาวใช้เห็นท่าทางของเขาก็ปิดปากด้วยความตกใจ

“มีอะไรผิดปกติกับคุณชายเซียวกัน?”

“หน้าตาของเขาที่แสดงออกมาช่างน่าขยะแขยง”

“กรี๊ด! นี่มันช่างน่ากลัว! ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของคุณชายเซียวถูกทำลายไปจนหมดสิ้น เขาที่เป็นความรักครั้งแรกของข้า”
……

การสนทนาของคนรับใช้ทำให้เซียวเสี่ยวหลงตื่นขึ้นมา เขาสังเกตเห็นคนรับใช้ด้วยท่าทางที่แปลกใจ เขารีบเดินและหายไปจากสายตาของพวกเขา

เซียวเสี่ยวหลงนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องที่เรียบง่ายและปิดตา พลังงานที่แท้จริงที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาผิวของเขาส่องแสง ทำให้กลิ่นอายความศักสิทธิ์โผล่ออกมาจากร่างของเขา

พลังงานของเซียวเสี่ยวหลงหลั่งไหลไปที่แขนขาและจุดชีพจรของเขา พลังงานที่แท้จริงอ่อนโยนดั่งสายน้ำที่หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่งสัมผัสของมันเหมือนการนวดที่อ่อนโยนด้วยมือของหญิงสาว

หลังจากผ่านไปสิบห้านาทีใบหน้าของเซียวเสี่ยวหลงก็แดงขึ้นดวงตาของเขาก็ลืมตา เมื่อพลังงานหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาก็ส่องประกายเขาอ้าปากปลดปล่อยพลังงานที่ยุ่งเหยิงออกมา

เมื่อมันเพิ่มถึงจุดสูงสุดมันก็เข้าสู่ร่างกายของเขาทั้งหมด ราวกับว่ามันไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อเซียวเสี่ยวหลงยืนขึ้นเสียงกระดูกทั่วร่างกายของเขาก็กระทบกัน เขายกมือขึ้นกลุ่มก้อนพลังงานที่แท้จริงก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของเขา

“ฮาฮ่า!นี่เป็นพลังงานที่แท้จริงเมื่อเข้าสู่ระดับนักรบขั้นที่สาม”

เซียวเสี่ยวหลงหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ

“จ้าวหรูเก๋อ ตอนนี้ข้าก็อยู่ในระดับนักรบระดับสามแล้วข้าไม่กลัวเจ้าแล้ว” ปากของเซียวเสี่ยวหลงกว้างขึ้นแล้วเริ่มหัวเราะคิกคัก

แต่ก่อนที่เขาจะหัวเราะเสร็จประตูก็เปิดออก พลังที่แท้จริงที่เขาใช้ปิดประตูเอาไว้ก็กระจัดกระจายออกมาด้วยพลังงานที่แท้จริงที่แข็งแกร่งกว่าก็ระเบิดออกมา

“เซียวเสี่ยวหลงเจ้ากล้าดียังไงที่ข้าที่เป็นพี่สาวของเจ้าเดิมพันกับจ้าวหรูเก๋อ

เมื่อประตูเปิดขึ้น เสียงที่ไพเราะดังขึ้นหญิงสาวผู้งามสง่าก็เข้ามาในห้อง

“อืม…อะ?…ท่านพี่”

เมื่อเซียวเสี่ยวหลงเห็นคนที่บุกเข้ามาร่างกายของเขาทั่วทั้งร่างก็สั่นออกมาด้วยกลัว

คนที่บุกเข้ามาเป็นสาวงามผิวขาวสว่าง ดวงตาแจ่มใส นางสวมชุดสีขาวหิมะที่มีชุดสีเขียวอยู่ข้างในผมที่เหมือนดั่งเส้นไหมถูกปล่อยยาวสยายอยู่ข้างหลังนาง

เซียวเหยี่ยนหยู่ขมวดคิ้วนางจ้องมองเซียวเสี่ยวหลงด้วยความโกรธ นางโกรธที่น้องชายเจ้าสำราญของนางกล้าเอานางเป็นสิ่งเดิมพัน
“ท่านพี่ฟังข้าก่อนเป็นเพราะข้าตกหลุมพรางเจ้าสารเลวเจ้าหรูเกอ ท่านไม่ต้องกังวลข้าจะต้องชนะเดิมพันท่านดูสิ ข้าอยู่ในระดับนักรบขั้นที่สามแล้ว”

เซียวเสี่ยวหลงพูดออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นมือของเขาที่มีกลุ่มก้อนพลังงานที่แท้จริงออกมา

แม้ว่าเซียวเหยี่ยนหยู่จะโกรธแต่นางก็รู้สึกแปลกใจนางรู้จักระดับความสามารถของนองชายของนางดีเขาติดอยู่บนระดับนักรบขั้นที่สองมานานแล้ว เมื่อวานเข้าก็ได้มีสัญญาณบ่งบอกความก้าวหน้าแต่อย่างใดแล้วเขาเลื่อนระดับได้ยังไงกัน?”

“ท่านพี่จ้าวหรู่เกออาจจะเป็นนักรบระดับสามเหมือนกัน แต่ท่านควรจะเชื่อใจน้องชายของท่าน ข้าชนะแน่นอนแสงตะวันสอดส่องมาที่ข้าแล้ว” เซียวเสี่ยวหลงพูดออกมาแล้วหัวเราะ
แม้ว่าเซียวเหยี่ยนหยู่จะโกรธแต่นางก็รู้สึกแปลกใจนางรู้จักระดับความสามารถของนองชายของนางดีเขาติดอยู่บนระดับนักรบขั้นที่สองมานานแล้ว เมื่อวานเข้าก็ได้มีสัญญาณบ่งบอกความก้าวหน้าแต่อย่างใดแล้วเขาเลื่อนระดับได้ยังไงกัน?”

“ท่านพี่จ้าวหรูเกออาจจะเป็นนักรบระดับสามเหมือนกัน แต่ท่านควรจะเชื่อใจน้องชายคนนี้ แน่นอนแสงสว่างส่องมาทางข้าไม่ได้ส่องสว่างมาทางเขา” เซียวเสี่ยวหลงพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะ

เซียวเหยี่ยนหยู่เป็นสาวงามที่รู้จักกันดีในเมืองหลวง จ้าวหรูเกอได้หลงใหลความงามของนางมาเป็นเวลานาน นางเนื่องจากนางเป็นลูกสาวของแม่ทัพใหญ่เซียวเมิ่ง จ้าวรูเกอจึงไม่กล้าจะทำอะไร แม้ว่าเขาจะเป็นลูกของเสนาบดีฝั่งซ้ายก็ตาม

หากเซียวเหยี่ยนหยู่เป็นลูกสาวของชาวบ้านนางก็น่าจะเป็นเมียน้อยของจ้าวหรูเกอไปแล้วในตอนนี้

“ท่านพี่ท่านไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมข้าถึงก้าวหน้าขึ้นมาได้?”เซียวเสี่ยวหลงพูดหลอกล่อ

เซียวเหยี่ยนหยู่ยกกระโปรงขึ้นและนั่งลงบนเก้าอี้ ดวงตาที่สดใสของนางมองไปที่เซียวเสี่ยวหลงแล้วนางก็พูดว่า “พูดมาข้าจะฟัง”

เซียวเสี่ยวหลงยิ้มออกมาเขารู้ว่าพี่สาวของเขาสังเกตเห็นการพัฒนาที่ผิดปกติของเขา

เซียวเหยี่ยนหยู่เป็นคนฉลาดอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันดีว่านางเป็นอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งในอาณาจักรสายลมแห่งแสงเขาแน่ใจว่านางต้องสังเกตเห็นมัน

เซียวเสี่ยวหลงโน้มตัวลงไปพูดที่หูของเซียวเหยี่ยนหยู่ด้วยท่าทางจริงจัง

เซียวเหยี่ยนหยู่ตัวสั่นด้วยความประหลาดใจ นางคิดว่า “ดูเหมือนว่าความลับนี้อาจเป็นความลับที่น้องชายของนางที่เคยตั้งใจจริงของข้าจะเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ข้าเข้ามาใกล้นี้มันคงจะเห็นจะเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ”

“ท่านพี่ ความลับที่ข้าเลื่อนขั้นขึ้นมา….มันเป็นเพราะ….ข้าวผัดไข่จานหนึ่ง”

“อืมเป็นเพราะข้าวผัดไข่! หา? ข้าวผัดไข่?”

ใบหน้าที่สวยงามของเซียวเหยี่ยนหยู่ก็แข็งกระด้างแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดง น้องเล็กของนางทำไมช่างกล้าพูดเรื่องตลกกับพี่สาวอย่างนี้

ทันใดนั้นเองนิ้วเรียวงามของเซียวเหยี่ยนหยู่ก็บิดหูเซียวเสี่ยวหลง แล้วหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ข้าเห็นว่าเจ้าโตแล้วก็ก่อเรื่องตลกนี่ให้กับพี่สาวของเจ้า ข้าวผัดไข่เป็นยาทิพย์? มันช่วยให้เจ้าก้าวหน้าขึ้น? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันหา?”

เซียวเสี่ยวหลงรู้สึกเหมือนลูกศรที่มองไม่เห็นเจาะเข้าที่หน้าอกของเขา “ข้าแค่พูดความจริง นี่เป็นความจริงที่ข้าบอกให้เเพราะความเชื่อใจระหว่างพี่น้องเหรอ?”

เซียวเสี่ยวหลงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขาเผชิญมาพร้อมกับสีหน้าและท่าทางอธิบายเรื่องร้านอาหารเล็กๆที่อยู่ในซอยช่างน่าประหลาดนัก

“เจ้าบอกว่าใช้ผลึกหนึ่งกินข้าวผัดไข่?”

เซียวเหยี่ยนหยู่จ้องมองน้องชายของนางที่มีท่าทางมีความสุขบนใบหน้า นางอยากจะฉีกหูเจ้าขยะนี่

“ท่านพี่หากท่านไม่เชื่อข้าจะพาท่านไปที่ร้านอาหารเล็กๆในวันพรุ่งนี้ ท่านจะต้องดีใจมาก รสชาติของข้าวผัดไข่กลิ่นของมัน…ทำให้ความทรงจำในวัยเด็กของข้าปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง”

ดวงตาของเซียวเสี่ยวเต็มไปด้วยความหลงใหล

แต่ถึงยังไงเซียวเหยี่ยหยู่ก็ไม่เชื่อ นางคิดว่า “มันต้องมีลูกไม้แปลกๆแน่ แค่ข้าวผัดไข่มันจะอร่อยแค่ไหนกัน”

หืมพรุ่งนี้เราจะได้เห็นกันโฉมหน้าที่แท้จริงของข้าวผัดไข่ลึกลับนั้น”