GOS ตอนที่ 96 – ผิดปกติ

 

โรจาจ้องมองท้องทะเล และจมลงสู่ห้วงความคิด

 

หลังจากที่ได้สติกลับคืนมา เขาก็หันไปมองนวาาเอกที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วกล่าวว่า

 

“จบภารกิจปราบปรามในครั้งนี้ พวกเราจะแล่นเรือกลับเลยใช่ไหม”

 

“ครับ”

 

นาวาเอกพยักหน้าตอบด้วยความเคารพ

 

เรือรบเริ่มแล่นกลับไปยังฐาน ส่วนโรจาในเวลานี้กำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือพร้อมกับพิงระเบียงยืนรับลมทะเลโดยไม่ได้กลับไปยังห้องผู้บัญชาการ

 

ไม่มีใครกล้าที่จะมารบกวนเขา เหล่านาวาเอกอีกสองคนได้เหลือบไปมองโรจาและรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง และไม่กล้าที่จะเดินมาพูดคุยกับเขา

 

ทุกคนรู้ดีว่า เป็นไปไม่ได้ที่โรจาซึ่งมีพละกำลังมหาศาลและอายุยังน้อย จะถูกผูกมัดอยู่ในฐานสาขาที่ 1 เขตเวสต์บลูตลอดไป ในไม่ช้าเขาก็จะกลายเป็นพลเรือโทและถูกย้ายตำแหน่งไปยังแกรนไลน์ บางทีในอนาคตเขาอาจจะยิ่งใหญ่จนได้รับตำแหน่งยศพลเรือเอกเลยก็เป็นได้!

 

เมื่อคิดได้แบบนี้ ก็เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้น มันใหญ่จนเกินไป จนทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดคุยกับโรจาอย่างสนิทสนม

 

ครึ่งวันผ่านไป

 

ระหว่างที่โรจากำลังจะกลับไปยังห้องของเขา ทันใดนั้นเอง โรจาก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ก่อนที่จะหันไปมองยังทิศทางดังกล่าว

 

ทิศทางดังกล่าวมีเงาดำๆเริ่มปรากฏขึ้น

 

และคนอื่นๆบนเรือรบต่างก็พบเห็นมันอย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่าจะอยู่ในระยะไกล แต่ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่เกาะ แต่เป็นเรือพาณิชย์!

 

ทางด้านเรือพาณิชย์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็เห็นเรือรบของทางกองทัพเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะหลีกทางให้เพื่อที่จะไม่เกิดการปะทะกัน

 

แต่เมื่อโรจาเห็นว่าเรือพาณิชย์กำลังจะหลีกทางให้ เขาที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้องก็เผยให้เห็นท่าทีประหลาดใจ

 

นั่นก็เพราะ

 

ระยะทางที่เรือพาณิชย์หลีกทางให้นั้นกว้างเกินไป!

 

ถ้าหากไม่ต้องการให้เรือทั้งสองปะทะกัน ที่เรือพาณิชย์ต้องทำก็เพียงแค่เบี่ยงเรือออกไปเพียงเล็กน้อย แค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว แต่นี่พวกเขากลับเบี่ยงระยะออกไปกว้างมากๆ ราวกับว่าไม่ใช่แค่ต้องการเลี่ยงการปะทะ … แต่ไม่ต้องการที่จะเข้ามาใกล้เรือรบเลยต่างหาก!

 

“น่าสนใจแฮะ”

 

โรจายกมือขึ้นลูบคางของเขาขณะที่สีหน้าเริ่มเผยให้เห็นถึงความสนใจ แล้วกล่าวว่า

 

“เปลี่ยนเส้นทาง เป้าหมายของพวกเราคือเรือพาณิชย์”

 

“ครับ!”

 

ไม่เพียงแต่โรจาเท่านั้นที่รู้สึกผิดสังเกต แต่เหล่านาวาเอกคนอื่นๆก็เช่นกัน ในตอนแรกพวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติจากท่าทีของเรือพาณิชย์ บางทีบนเรืออาจจะ ‘ซ่อน’ อะไรเอาไว้ก็ได้

 

แม้ว่าบางทีนี่อาจจะเป็นความผิดพลาดของคนคุมหางเสือเรือของอีกฝ่าย แต่เมื่อกองทัพเรือเผชิญหน้ากับสิ่งผิดสังเกตที่อาจจะทำให้เกิดปัญหา พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปตรวจสอบมันได้เช่นกัน

 

เรือรบได้เปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าตรงไปยังเรือพาณิชย์

 

ทางด้านเรือพาณิชย์เมื่อพบว่าเรือรบได้มุ่งหน้าตรงมายังพวกเขา พวกเขาก็ยิ่งเบี่ยงเส้นทางออกไปและเร่งความเร็วขึ้น เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเรือรบ

 

ดูเหมือนว่าจะมีอะไรผิดปกติจริงๆซะแล้ว

 

“นั่น พวกมันกำลังจะหนีใช่ไหม?”

 

“ดูเหมือนว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่จริงๆด้วย!”

 

นาวาเอกทั้งสามจ้องมองไปยังฉากนี้ พร้อมด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

โรจาที่ยังไม่เดินกลับเข้าไปในห้อง เมื่อได้ยินคำกล่าวของทั้งสาม จึงยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยว่า

 

“บางที อาจจะเป็นไปได้ว่าพวกมันกลัวว่าพวกเราจะฉวยโอกาสเอาเปรียบและกรรโชกสมบัติบนเรือของพวกมันก็ได้ จึงจงใจที่จะหลีกเลี่ยงพวกเรา”

 

ในท้องทะเลแห่งนี้ พวกโจรสลัดส่วนใหญ่เมื่อพบเจอกับเรือพาณิชย์ นอกจากปล้นแล้ว พวกมันยังเผาเรือและฆ่าทุกคนที่อยู่บนเรืออีกด้วย แต่ก็จะมีเรือของกองทัพจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เลือกหาผลประโยชน์ใส่ตัวโดยการ ‘ยึด’สมบัติบนเรือพาณิชย์โดยอ้างว่าเป็นความยุติธรรมของกองทัพเรือ ซึ่งนับว่าเป็นเนื้อร้ายของกองทัพและท้องทะเลแห่งนี้อย่างแท้จริง

 

เมื่อสามนาวาเอกได้ยินคำกล่าวของโรจา พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดใจ พวกเขานั้นเป็นถึงทหารเรือยศนาวาเอกที่มีศักดิ์ศรีจึงไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น แต่แน่นอนว่าพวกเขาก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเช่นกัน

 

โรจากวาดตามองทั้งสามคน ก่อนที่จะหันไปมองเรือพาณิชย์

 

ความเร็วของเรือพาณิชย์ก็นับว่าไม่เลวร้ายอะไร แต่มันก็ไม่สามารถเทียบได้กับความเร็วเรือรบของกอทัพ และในที่สุด เรือพาณิชย์ก็ถูกไล่ตามทันอย่างรวดเร็วพร้อมกับเริ่มถูกสกัดกั้น

 

“หยุดเรือ แล้วให้พวกเราเข้าไปตรวจสอบซะ”

 

นาวาเอกที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือได้ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

 

คนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นพ่อค้าที่คุมเรือพาณิชย์ได้เดินออกมา เขายืนเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่บนเรือรบพร้อมกับยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“ท่านครับพวกเราเป็นเพียงแค่เรือพาณิชย์ที่บรรทุกสินค้าทั่วๆไป ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบ”

 

“หยุดพูดไร้สาระ แล้วยอมให้ตรวจสอบซะ!”

 

ยิ่งพูดก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งมีปัญหา นาวาเอกจึงตะโกนออกไปด้วยความหยาบคาย ก่อนที่จะพาทหารติดอาวุธขึ้นไปบนเรือพาณิชย์ทันที

 

นาวาเอกอีกคนก็เดินตามไปเช่นกัน ส่วนอีกคนหนึ่งยังคงยืนอยู่บนเรือรบข้างๆโรจา

 

“ท่านผู้บัญชาการ ท่านคิดว่าเรือลำนี้ …”

 

“มีบางสิ่งผิดปกติ”

 

โรจาที่ยืนอยู่ข้างเขาตอบด้วยความสงบ

 

เมื่อได้ยินโรจากล่าวว่ามีบางสิ่งผิดปกติด้วยท่าทีที่ยังคงสงบ ซึ่งเป็นอุปนิสัยของเหล่าผู้บัญชาการที่ดี นาวาเอกที่ยืนอยู่ข้างก็ยิ่งรู้สึกเคารพโรจามากยิ่งขึ้น จากนั้นก็จ้องมองไปยังเรือพาณิชย์

 

นาวาเอกอีกสองคนได้นำทหารจำนวนมากติดตามเขาลงไปบนเรือพาณิชย์

 

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ คนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นพ่อค้าก็ได้ยิ้มออกมาและกล่าวทักทายนาวาเอกทั้งสองคน

 

“พวกท่านช่างเป็นทหารเรือที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเสียจริงๆ แต่ .. ทางกองทัพจะให้เงินเดือนพวกท่านคุ้มค่ากับความขยันที่ทำหรือเปล่านะ?”

 

กล่าวจบ ชายคนนั้นก็ค่อยๆหยิบเงินออกมาแล้วเอาไปใส่ลงในกระเป๋าของนาวาเอกทั้งสอง ซึ่งไม่มีใครทันสังเกตเห็นนอกจากนาวาเอกทั้งสองที่อยู่แถวหน้าสุด

 

เห็นแบบนั้น

 

ท่าทีของนาวาเอกทั้งสองจู่ๆก็เปลี่ยนไป พวกเขาหันมามองหน้ากันและกัน คนหนึ่งแสดงออกถึงความลังเลใจ ขณะที่อีกคนไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยแล้วชักดาบขึ้นมาทันทีพร้อมกับชี้ไปยังพ่อค้าคนนั้นแล้วตะโกนออกมาว่า

 

“อย่าขยับ! รออยู่เฉยๆจนกว่าพวกเราจะตรวจสอบสินค้าบนเรือจนเสร็จ!”

 

เมื่อเห็นฉากนี้ ท่าทีของ ‘พ่อค้า’ ก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ

 

“นี่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นเลยหรือ?”

 

“นี่คุณคิดจะต่อต้านการตรวจค้น?”

 

คราวนี้ นาวาเอกอีกคนก็ชักดาบขึ้นมาเช่นกัน

 

“ไม่หรอก …”

 

‘พ่อค้า’ โค้งคำนับเล็กน้อย ก่อนที่จะเผยให้เห็นประกายแห่งความดุร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ก่อนที่จะคว้าดาบที่ซ่อนอยู่ในเสื้อแล้วฟันออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เคร้ง—!

 

สีหน้าของนาวาเอกคนที่กำลังถูกฟันพลันเปลี่ยนไปทันที เขายกดาบของตัวเองขึ้นมารับดาบของ ‘พ่อค้า’ จนกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว

 

“พละกำลังช่างมหาศาล!”

 

หัวใจของนาวาเอกที่กระเด็นถอยหลังเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง ขณะที่อีกคนรู้สึกก็ตกใจกับภาพที่เห็นไม่น้อย ก่อนที่เขาจะรีบก้าวเข้าไปช่วยนาวาเอกอีกคนต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตามแม้พวกเขาทั้งสองจะร่วมมือกัน แต่ก็ยังคงถูกกดดันโดยพละกำลังอันมหาศาลของอีกฝ่ายอยู่ดี

 

ในเวลาเดียวกันประตูห้องโดยสารเรือก็ถูกเปิดออก พร้อมกับมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ในมือมีทั้งปืนและดาบวิ่งออกมา

 

แท้จริงแล้วเรือพาณิชย์ลำนี้เป็นเรือโจรสลัด!

 

ทุกๆท่วงท่าการโจมตีของพ่อค้านั้นรวดเร็วและดุดันเป็นอย่างมาก ดาบของนาวาเอกส่ายไปมาตามแรงปะทะ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของพ่อค้าคนนั้นไม่ใช่พละกำลัง แต่เป็นความว่องไว!

 

ติ๊ง ติ๊ง—!

 

ภายใต้คมดาบทั้งสามที่กำลังปะทะกัน นาวาเอกคนหนึ่งกระเด็นถอยหลังไปไกล ขณะที่อีกคนจู่ๆกำลังแขนของเขาก็รับแรงปะทะไม่ไหว จนดาบกระเด็นหลุดออกจากมือของเขาไป! นาวาเอกที่กระเด็นถอยหลังตกใจเป็นอย่างมาก เขารับรู้ได้ทันทีว่าคมดาบต่อไปของพ่อค้าจะต้องสังหารเพื่อนของเขาแน่ๆ

 

นาวาเอกที่กระเด็นออกไปจึงรีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือทันที แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันสายเกินไปแล้ว

 

แต่พริบตานั้นเอง

 

สิ่งที่ทำให้พ่อค้าที่มีพละกำลังมหาศาลถึงกับตัวแข็งค้างก็ได้บังเกิดขึ้น!

 

เพราะจู่ๆ ก็พลันปรากฏร่างๆหนึ่งขึ้นข้างกายของเขา พร้อมๆกับใช้นิ้วเพียงสองนิ้วคีบใบดาบเอาไว้

 

และหากสังเกตดีๆจะพบว่านิ้วทั้งสองนั้นมีสีดำมันวาวราวกับถูกย้อมไปด้วยหมึก!