GOS ตอนที่ 89 – เวสต์บลู

 

อึก …

 

แม้โรจาจะเดินจากไปเป็นเวลานานแล้ว บนดาดฟ้าเรือก็ยังคงมีเสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่อยู่

 

ในขณะนี้เริ่มมีคนที่ได้สติกลับมาจากอาการตกตะลึงเมื่อครู่ พวกเขารีบวิ่งไปตรงระเบียงเรือก่อนที่จะชะโงกไปมองพื้นทะเลที่ถูกย้อมเป็นสีฟ้า จากนั้นก็เหลือบไปยังจ้าวแห่งท้องทะเลที่ลอยแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนผิวน้ำ

 

ในสายตาของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความตกตะลึง และอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา

 

“แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ …”

 

“นี่น่ะเหรอ ความแข็งแกร่งของพลเรือตรีโรจา!?”

 

ฉากเมื่อครู่ยังคงสะท้อนอยู่ในจิตใจของทุกคนที่เห็น คราวนี้แววตาของพวกเขาเริ่มเผยให้เห็นถึงความยำเกรง … มันเป็นความยำเกรงเมื่อพบเจอกับผู้แข็งแกร่ง !

 

และในตอนนี้ไม่มีใครคิดจะดูถูกโรจาว่าอายุยังน้อยอีกต่อไป

 

“ความแข็งแกร่งของเขาช่างแตกต่างกับอายุอย่างสิ้นเชิง … ขนาดในวัยหนุ่มเขายังแข็งแกร่งจนน่าหวาดหวั่นขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าในอนาคตัวตนของเขาจะเป็นคนที่น่าหวาดกลัวขนาดไหน”

 

ถึงแม้เหล่าเจ้าหน้าที่ทหารเรือบนดาดฟ้าจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ออกมา แต่ในหัวใจของพวกเขาก็เห็นด้วยอย่างไปต้องสงสัย

 

 

การได้เผชิญหน้ากับจ้าวแห่งท้องทะเลในระยะประชิดเป็นเพียงเหตุบังเอิญเท่านั้น หลังจากที่เรือรบได้เริ่มแล่นต่อ พวกเขาก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับพวกมันในระยะประชิดอีก มีบ้างที่พบเห็นพวกมันจากระยะไกล แต่เรือรบของโรจาก็หลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับพวกมัน

 

ที่ตั้งของฐานสาขาที่ 1 ในเขตทะเลเวสต์บลูนั้นอยู่ใกล้กับทางเข้าแกรนไลน์และจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดที่อยู่ทางฝั่งครึ่งแรกของแกรนไลน์ไปยังฐานสาขาที่ 1 ของเวสต์บลูนั้นเป็นการเดินทางที่ยาวนานอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ถึงแม้เรือรบจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ต้องหยุดพัก แต่พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องจอดตามเกาะต่างๆที่แล่นผ่านไปเพื่อเติมเสบียงเช่นน้ำและอาหาร

 

มีเกาะอยู่หลายแห่งในเขตท้องทะเลเวสต์บลู

 

ในโลกวันพีช เกาะจะแบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ เกาะขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่

 

ด้วยระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ทำให้เกาะเล็กๆไม่ขาดแคลนน้ำและอาหาร และมีการก่อตั้งเมืองเล็กๆขึ้นบนเกาะขนาดเล็ก

 

เกาะขนาดกลางนั้นมีขนาดใหญ่กว่าเกาะขนาดเล็ก ภายในเกาะจะมีเมืองเล็กๆอยู่หลายเมืองโดยมีเมืองใหญ่เป็นจุดศูนย์กลางของเกาะ

 

สำหรับเกาะขนาดใหญ่ … จะเป็นเกาะที่สามารถก่อตั้งประเทศได้ เช่น อลาบัสต้า และเดรสโรซ่า ซึ่งปกติจะปกครองด้วยตนเองและไม่มีทหารเรือถูกส่งไปประจำการเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อพิพาท

 

แต่บนเกาะขนาดกลาง จะมีฐานทหารเรือสาขาเล็กๆประจำการอยู่ โดยมีทหารเรือยศนาวาเอกเป็นผู้บัญชาการฐานเพื่อควบคุมเกาะนี้และเกาะบริเวณใกล้เคียง

 

สำหรับฐานทัพเรือที่พลเรือตรีเป็นผู้บัญชาการนั้นจะถูกสร้างขึ้นบนเกาะขนาดเล็ก

 

กล่าวได้ว่าเกาะขนาดเล็กทั้งเกาะนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานของกองทัพเรือ และคอยควบคุมดูแลเกาะขนาดเล็กและเกาะขนาดกลางที่อยู่รอบๆ

 

ในโลกก่อนหน้าของโรจาเขามีความรู้ความเข้าใจทั่วๆไปเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆของโลกวันพีช และเมื่อเขาได้เข้ามายังโลกใบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขามีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

 

รัฐบาลโลกนั้นมีประเทศเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกว่า 170 ประเทศ รวมไปถึงกองทัพเรือจากทั่วทุกมุมโลกโดยมีศูนย์มารีนฟอร์ดและดินแดนศักดิสิทธิ์แมรี่จัวเป็นศูน์กลาง

 

มีเพียงแกรนไลน์เท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น

 

ในเขตทะเลแกรนไลน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งครึ่งหลังของแกรนไลน์ซึ่งเป็นสถานที่ของเหล่าสี่จักรพรรดิ ที่แยกตัวออกไป แม้แต่กองกำลังของรัฐบาลโลกก็ยังต้องหลีกทางให้และไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับพวก 4 จักรพรรดิ

 

ณ ห้องโดยสารชั้นบนสุดของเรือรบ

 

โรจานั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิและกำลังเข้าสู่ห้วงสมาธิ พร้อมๆกับโฮโนะสึกิที่วางอยู่ตรงตักของเขา

 

โรจากำลังพยายามที่จะตระหนักถึงวิชาดาบให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่กำลังฝึกฝนฮาคิสังเกตควบคู่

 

ทันใดนั้นเอง

 

โรจาก็ลืมตาขึ้น

 

และวินาทีที่โรจาลืมตา ก็พลันมีเสียงเคาะประตูจากนอกห้องของเขา

 

“เข้ามา”

 

โรจาหยิบโฮโนะสึกิอย่างแผ่วเบา และยืนขึ้น

 

ครู่ต่อมาทหารเรือยศนาวาโทก็ได้เปิดประตูและเดินเข้ามาในห้องของโรจาพร้อมกับกล่าวรายงานว่า

 

“รายงานครับท่านผู้บัญชาการ เราพึ่งได้รับข้อมูลมาว่าบนเกาะโนอาห์ ที่พวกเรากำลังจะไปถึง ได้มีกองกำลังสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันอยู่ กองกำลังกลุ่มแรกคือพวกโจรสลัดส่วนกองกำลังอีกกลุ่มหนึ่งคือพวกองค์กรนักฆ่าใต้ดิน”

เกาะโนอาห์นั้นเป็นเกาะขนาดกลาง และจะเป็นเกาะถัดไปที่เรือของโรจาจะจอดเทียบท่าเพื่อเติมเสบียง

 

“ฉันรู้แล้ว”

 

เมื่อได้ยินรายงานดังกล่าว โรจาก็ยังคงมีท่าทีสงบ ก่อนที่จะพยักหน้ารับอย่างลวกๆ

 

ระหว่างทาง เรือรบของโรจามักจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพวกโจรสลัดอยู่เป็นระยะๆ แต่เนื่องจากเรือรบของโรจากำลังดำเนินภารกิจขนส่งอยู่ พวกเขาจึงสามารถเลือกได้ว่าจะให้ความสำคัญกับภารกิจขนส่งที่ได้รับมอบหมายหรือออกไปปราบปรามโจรสลัดที่ได้รับข้อมูลมา

 

และเป็นเพราะว่าโรจากำลังเบื่ออยู่พอดี เมื่อได้ข่้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มโจรสลัดระหว่างทาง เขาจึงไม่คิดที่จะละเลยมัน และออกไปปราบปรามพวกมันทั้งหมด!

 

ถึงแม้ค่าหัวของพวกมันจะมีเพียงแค่ 10 ล้านแบรี่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำ

 

เมื่อเห็นท่าทีสบายๆของโรจา นาวาโทก็เข้าใจถึงความหมายที่โรจาต้องการจะสื่ออย่างชัดเจน เนื่องจากโรจาไม่ได้แสดงท่าทีว่าต้องการที่จะหลีกเลี่ยง นั่นก็หมายความว่าเขาต้องที่จะไปปราบปรามพวกโจรสลัด!

 

ตลอดเส้นทางที่แล่นเรือผ่าน ภายใต้เงื้อมมือของโรจา กลุ่มโจรสลัดได้ถูกปราบปรามไปมากกว่าหนึ่งถึงสองกลุ่ม และพวกมันเกือบทั้งหมดล้วนยอมจำนนให้แก่ความแข็งแกร่งของโรจา ทำให้เหล่าทหารเรือรู้สึกหวาดกลัวขึ้นในจิต และไม่มีข้อกังขาในความต้องการของเขา

 

พลเรือตรีโรจานั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง นาวาโทเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าต่อให้เกาะที่กำลังจะไปถึงมีโจรสลัดซักสิบกลุ่มรวมตัวกันอยู่ โรจาก็ยังคงออกไปปราบปรามพวกมัน

 

หลังจากที่นาวาโทรายงานเสร็จ เขาก็โค้งคำนับโรจาด้วยความสุภาพ ก่อนที่จะหันหลังและเดินออกจาห้องไป

 

 

เกาะโนอาห์

 

เป็นเกาะขนาดกลางและมีเมืองเล็กๆอยู่ถึง 10 เมืองบนเกาะ แต่เมืองที่คึกคักที่สุดย่อมเป็นเมืองที่อยู่ใจกลางเกาะ

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เมืองที่คึกคักที่สุดกลับเต็มไปด้วยควันไฟ

 

ทั้งสองกองกำลังได้ใช้เมืองแห่งนี้เป็นที่ต่อสู้ และเมืองทั้งเมืองในเวลานี้ได้กลายเป็นสนามรบโดยสมบูรณ์ ทางด้านกลุ่มโจรสลัดนั้นเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายร้อยคน แต่อีกกลุ่มซึ่งเป็นองค์กรนักฆ่าใต้ดินกลับมีจำนวนเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น

 

แต่ถึงแม้จะมีเพียงไม่กี่สิบคน แต่กลุ่มที่กำลังเสียเปรียบกลับเป็นทางฝั่งของกลุ่มโจรสลัดอย่างเห็นได้ชัด

 

“บัดซบ! พวกเราเป็นโจรสลัด! พวกเราจะแสดงให้พวกมันเห็นเองว่าโจรสลัดนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน!”

 

“พวกมันบังอาจมาล่วงเกินหัวหน้า! ให้ลุงคนนี้ได้ฆ่ามันให้สาแก่ใจหน่อยเถอะ!”

 

ทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันอยู่ภายในเมือง ส่วนเหตุผลที่พวกมันต่อสู้กันนั้นไม่อาจทราบได้แน่ชัด แต่เวลานี้ภายในดวงตาของทั้งสองฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และต้องการที่ทำลายล้างอีกฝ่ายให้สิ้นราบพนาสูญไปโดยสมบูรณ์

 

บนถนนเส้นหนึ่ง

 

โจรสลัดประมาณเจ็ดถึงแปดคนกำลังล้อมรอบเด็กสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งที่สวมผ้าคลุมไหล่สีดำ ด้วยท่าทีดุร้าย

 

“เด็กคนนี้ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มพวกมัน ฆ่าเธอซะ!”

 

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา แต่ทุกคนก็ปรี่เข้าหาเด็กสาวทันทีพร้อมกับอาวุธที่อยู่ในมือ

 

อย่างไรก็ตาม

 

เมื่อเผชิญหน้ากับโจรสลัดเป็นจำนวนมาก ดวงตาคู่สวยของเด็กสาวก็ยังคงกระจ่างใส ใบหน้าของเธอไม่แสดงออกถึงความตื่นตระหนกใดๆและยังคงสงบ ก่อนที่เธอจะยกมืออันเรียวงามราวกับหยกขึ้นทั้งสองข้างแล้วไขว้กันตรงหน้าอก

 

“ดอกไม้บานสามสิบดอก … ครัช(หักคอ)!”

 

กร๊อบ—!

 

ร่างของโจรสลัดที่กำลังพุ่งเข้ามาจู่ๆก็มีแขนมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนตัวของพวกมัน ก่อนที่แขนเหล่านั้นจะคว้าคอของพวกมันแล้วบิดอย่างไร้ความปราณี!  จนพวกมันทั้งหมดร่วงลงแน่นิ่งบนพื้นดิน

 

“สถานการณ์เริ่มจะลุกลามใหญ่โตมเกินไปแล้ว … แบบนี้ไม่ดีแน่ กองทัพเรืออาจจะมาถึงในเร็วๆนี้ คงเป็นการดีกว่าที่จะรีบออกจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะมาถึง”

 

เด็กสาวผมดำเข้มยังคงมีท่าทีสงบ ก่อนที่จะเดินหายลับไปยังถนนเส้นอื่น