GOS ตอนที่ 88 – One shot One kill!

 

จู่ๆจ้าวแห่งท้องทะเลก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหัน ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมันทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ซัดสาดจนเรือแกว่งไปมา เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นทหารทั้งหมดที่อยู่ในห้องโดยสารจึงพากันวิ่งออกมาบนดาดฟ้า

 

จากนั้น

 

ท่าทีของทุกคนก็พลันเปลี่ยนไป เหงื่อเย็นเยียบเริ่มผุดขึ้นมาขณะที่ภายในแววตาของพวกเขาเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว

 

“แย่ .. แบบนี้แย่แน่ๆ!”

 

ถึงแม้นี่จะไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาแล่นเรือข้ามผ่านเขตทะเลคาล์มเบล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้! ใบหน้าของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นขาวซีด

 

ถ้าหากเป็นจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดเล็ก พวกเขาจะไม่หวาดกลัวมันแม้แต่น้อย เพราะด้วยขนาดตัวที่ไม่ใหญ่จนเกินไปของมัน ทำให้สามารถใช้อาวุธบนเรือรบยิงโจมตีมันได้

 

ส่วนจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดใหญ่ พวกมันก็จะแทบไม่สนใจเรือรบที่เป็นเพียงจุดเล็กๆในสายตา และไม่มีความคิดที่จะโจมตี เรือรบจึงสามารถแล่นหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย

 

เพราะฉะนั้นกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือการพบเจอกับจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดกลางที่มีขนาดตัวเท่ากับเรือรบ!

 

มันเป็นการยากมากๆที่จะสู้กับจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดกลางโดยใช้เพียงการยิงปืนใหญ่ และหากมันคิดจะไล่ตาม ต่อให้เรือรบของกองทัพมีกังหันไฟฟ้า แต่ก็ยังเป็นไม่ได้ที่จะรวดเร็วไปกว่าจ้าวแห่งท้องทะเล

 

บนเรือรบ

 

เจ้าหน้าที่บนเรือรวมไปถึงนาวาตรีและนาวาโทต่างก็ตัวแข็งค้างและเหงื่อนเย็นเยียบผุดขึ้นมาบนหน้าผาก ภายใต้ร่างอันใหญ่โตของจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดกลาง พวกเขาไม่กล้าที่จะขยับตัวแม้แต่นิดเดียว!

 

เขตทะเลคาล์มเบลนั้นไม่มีลม น้ำทะเลก็นิ่งสนิท

 

แต่บรรยากาศตอนนี้กลับเย็นยะเยือก

 

เรือรบยังคงแล่นต่อไปช้าๆผ่าน ส่วนทางด้านจ้าวแห่งท้องทะเลที่โผ่ลหัวขึ้นมาเหนือน้ำก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทุกคนบนเรือรบไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหว ทำได้เพียงจ้องมองมันและอธิฐานในใจว่า ได้โปรดอย่าเห็นพวกเขาเลย!

 

น่าเสียดายที่จ้าวแห่งท้องทะเลไม่ได้ตาบอด

 

ในตอนแรกจ้าวแห่งท้องทะเลเพียงแค่ขึ้นมาเหนือน้ำเฉยๆ มันไม่ได้พุ่งขึ้นมาเพราะเจอเรือรบ แต่เมื่อมันหันไปเห็นเรือรบแววตาของมันก็ทอประกายประหลาดใจเล็กน้อย

 

‘ทำไมใต้ทะเลมันถึงไม่พบสิ่งผิกปกติใดๆเลย แต่เมื่อมันขึ้นมาเหนือน้ำกลับพบเรือรบลำหนึ่ง?’

 

จ้าวแห่งท้องทะเลจึงตอบสนองไปตามสัญชาตญาณทันที! มันพุ่งเข้าหาเรือรบ พร้อมกับใช้หนวดที่ยาวหลายสิบเมตรยกขึ้นเหนือน้ำแล้วฟาดไปยังเรืออย่างรุนแรง!

 

หนวดขนาดยักษ์ที่กำลังฟาดตัดอากาศ ทำให้เขตคาล์มเบลที่ไร้ซึ่งลมพลันเกิดลมกรรโชกอันน่าหวาดหวั่น จนผู้คนที่พบเห็นรู้สึกหายใจไม่ออกราวกับว่ามีภูเขากำลังทับอกพวกเขาอยู่

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีดังกล่าว ทุกคนบนเรือรบแม้จะมีดาบและปืนอยู่ในมือ แต่พวกเขาก็ยังตะลึงค้าง ภายใต้การโจมตีอันน่าสยดสยองทำให้นิ้วมือของพวกเขาไม่กล้าแม้แต่ขยับ

 

ร่างของทุกคนแข็งค้างและเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาจ้องมองไปยังหนวดขนาดยักษ์ที่แฝงไปด้วยพลังทำลายมหาศาลที่กำลังจะฟาดลงเหนือหัว

 

อย่างไรก็ตาม

 

วินาทีต่อมา พวกเขากลับพบว่าหนวดขนาดยักษ์ไม่ได้ฟาดลงบนเรือรบ

 

“จริงๆแล้วถ้าเรือแตกมันจะเป็นปัญหาสำหรับฉันน่ะ”

 

ร่างของโรจาที่ไม่มีใครรู้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังยืนอยู่กลางอากาศขณะที่หน้าแข้งของเขาถูกบีบอัดไปด้วยฮาคิเกราะ ก่อนที่จะเตะไปยังหนวดขนาดยักษ์ของจ้าวแห่งท้องทะเล!

 

ทันใดนั้นพลันเกิดคลื่นลมที่รุนแรงเหมือนกันหนวดที่ฟาดแหวกอากาศลงมา

 

ตูม—!

 

วินาทีต่อมา แรงกดดันจากคลื่นลมอันน่าหวาดหวั่นทั้งสองก็ได้ปะทะกันจนเกิดการระเบิดออกมา เสียงระเบิดดังสนั่นราวกับต้องการเขย่าโลกทั้วใบ พร้อมกับเกิดคลื่นอัดอากาศที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทางจนน้ำทะเลเบื้องล่างเกิดการกระเพื่อมขนาดใหญ่

 

ดูเหมือนว่าการโจมตีจากหนวดจะถูกต้านทานเอาไว้ได้ มันได้ถูกเตะออกไปด้วยเท้าของร่างเล็กๆของโรจาจนกระเด็นกลับไปด้านหลัง

 

ในช่วงเวลานี้

 

บนเรือรบโรจาไม่กล้าที่จะฝึกฝนเพราะกลัวว่าถ้าเขาออกแรงมากเกินไป เรือทั้งลำอาจจะพังแล้วจมลงสู่ก้นทะเลด้วยน้ำมือของเขา แต่ตอนนี้จู่ๆจ้าวแห่งท้องทะเลก็พุ่งเข้ามาโจมตี และเรือรบลำนี้ก็ยากที่จะต้านทาน โรจาจึงไม่สามารถทนอยู่เฉยๆได้

 

โรจารู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก

 

หลังจากที่เหวี่ยงเท้าข้างหนึ่งออกไปปะทะกับหนวดขนาดยักษ์ เขาก็ไม่ได้หยุดยืนอยู่เฉยๆ มือของเขาคว้าด้ามจับโฮโนะสิกิ ก่อนที่จะดึงมันออกมาแล้วสับลงไปยังจ้าวแห่งท้องทะเลอย่างฉับพลัน!

 

“เก็ทสึงะ เท็นโช!”

 

โรจาไม่มีความแม้แต่นิดเดียวว่าควรจะเสียเวลากับมัน ดังนั้นเขาจึงใช้เก็ทสึงะ เท็นโชปิดฉากทันที คลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวได้เฉือนเข้ากับผิวหนังอันหนาและแข็งแกร่งของจ้าวแห่งท้องทะเล อย่างไรก็ตาม ภายใต้คมดาบของโรจา ผิวหนังของมันก็เปราะบางราวกับเศษกระดาษ!

 

เก็ทสึงะ เท็นโชได้เฉือนตัดผ่านร่างของจ้าวแห่งท้องทะเลโดยที่มันไม่ทันได้แม้แต่จะเปล่งเสียง!

 

เงียบ

 

เส้นรอยเลือด เริ่มปรากฏขึ้นมาบนร่างของจ้าวแห่งท้องทะเลในจุดที่มันถูกเก็ทสึงะ เท็นโชของโรจาตัดผ่าน

 

ฉัวะ—!

 

วินาทีต่อมาเลือดสีฟ้าแปลกๆก็สาดกระจายออกมาจากบาดแผลของจ้าวแห่งท้องทะเล จนย้อมน้ำทะเลบริเวณนั้นให้กลายเป็นสีฟ้าเข้ม

 

บนเรือรบยังคงเงียบ เงียบมากๆ และเงียบโดยสมบูรณ์

 

จู่ๆร่างของโรจาก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือเรือรบแล้วใช้เท้าเพียงข้างเดียวเตะหนวดยักษ์จนกระเด็นกลับไป ต่อมา เขาก็สามารถสะบั้นร่างของจ้าวแห่งท้องทะเลได้ในกระบวนท่าเดียว! — สังหารจ้าวแห่งท้องทะเลที่มีขนาดเท่ากับเรือรบได้ในกระบวนท่าเดียว!

 

เคร้ง–!

 

เสียงดาบในมือของเจ้าหน้าที่ทหารเรือที่อยู่บนดาดฟ้าได้ร่วงตกลงกระทบกับพื้น

 

ทุกคนบนเรือรบรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาด ในหัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

 

แข็งแกร่ง!

 

แข็งแกร่งมาก!

 

ไม่มีใครในหมู่พวกเขาเคยเห็นฉากการต่อสู้กับจ้าวแห่งท้องทะเลที่จบลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้มาก่อน แม้แต่ทหารเรือยศสูงๆกว่าจะปราบจ้าวแห่งท้องทะเลลงได้นั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก!

 

แต่สิ่งที่โรจาทำ เขากลับเตะหนวดที่ยากต่อการป้องกันจนกระเด็น จากนั้นก็ใช้วิชาดาบกระบวนท่าเดียวสังหารจ้าวแห่งท้องทะเล!! สำหรับพวกเขาที่เป็นเพียงทหารเรือยศต่ำๆการที่จะทำได้แบบโรจามันคงเป็นเพียงแค่ความฝัน!

 

โรจาเก็บโฮโนะสึกิลงในฝัก ก่อนที่จะเดินลงมาบนดาดฟ้าเรือพร้อมๆกับอารมณ์ที่ไม่ดีของเขาพลันลอยหายไปกับสายลม

 

“ในตอนนี้ฉันสามารถสังหารจ้าวแห่งท้องทะเลได้ด้วยกระบวนท่าเดียว …”

 

โรจาระรึกไปถึงในตอนที่เขาไปทำภารกิจต่อสู้กับโจรสลัดซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขายังคงเป็นเล่าบิงอยู่ หลังจากที่เข้าสู่เขตทะเลคาล์มเบล เซเฟอร์ได้ใช้สองกำปั้นในการสังหารจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดใหญ่ โรจาอดไม่ได้ที่จะขดริมฝีปากแน่น

 

ในเวลานั้นเขาทำได้เพียงจ้องมองเท่านั้น แต่ในเวลาก็มาถึงทีของเขา

 

เหตุผลที่โรจารู้สึกว่าเขาต้องมีพละกำลังเท่ากับยศพลเรือโทจากศูนย์ก่อนถึงจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะออกทะเลได้ นั่นก็เพราะว่าในเขตทะเลแกรนไลน์ หากเขาไม่แข็งแกร่งก็อาจจะถูกทำร้ายได้ และในการเดินทางก็อาจจะได้พบเจอกับสัตว์​ประหลาดโดยบังเอิญซึ่งถ้าเขาไม่แข็งแกร่งมากพอก็คงจะไม่สามารถจัดการมันได้

 

“เลือดสีฟ้าพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถกินได้”

 

โรจาเหลือบมองไปยังท้องทะเลเบื้องล่าง เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา แต่แล้วทันใดนั้นเขาก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว! — นี่เขามีความคิดที่จะกินเลือดสีฟ้าของจ้าวแห่งท้องทะเล?? นี่เขากลายเป็นคนที่มีนิสัยเห็นแต่กินเหมือนกับลูฟี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน??

 

นี่มันแย่จริงๆ

 

โรจาไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยที่จะโยนความคิดนี้ทิ้งไปแล้วไม่นึกถึงมันอีก ก่อนที่จะหันมามองทุกคนบนเรือดาดฟ้าซึ่งกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าโง่งม แล้วเดินหายเข้าไปในห้องโดยสาร