GOS ตอนที่ 86 – เหตุไม่คาดฝัน

 

*ขอเปลี่ยนจากคำว่า หน่วย เป็น สาขา

 

ภายในห้องนั่งเล่น

 

โรจานั่งอยู่บนโซฟาขณะที่กำลังเอนตัวพิงเบาะนุ่มๆ

 

ทันใดนั้นเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ได้ดังขึ้น โรจาเอียงคอไปมอง ก่อนที่จะกล่าวทักทายอย่างสบายๆว่า

 

“โอ่ไกริ”*

 

*(ยินดีต้อนรับกลับบ้าน)

 

“อ่า”

 

การ์ปตอบกลับเพียงแค่สั้นๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับเดินเข้ามา

 

เมื่อโรจาเห็นท่าทีที่การ์ปแสดงออก เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าลุงการ์ป ปกตินิสัยของลุงคือกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวาไม่ใช่หรอ? ”

 

โรจานั้นไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเขาจะได้ยศอะไร สำหรับเขาไม่ว่าจะยศพลเรือตรีหรือพลเรือโทมันก็ไม่ต่างกัน แต่การ์ปกลับมีท่าทีผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดซึ่งไม่ค่อยสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของเขาสักเท่าไหร่

 

เสียงกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจังของโรจาทำให้อารมณ์ของการ์ปกลับมาดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“ไอ้เด็กเหลือขอ …”

 

การ์ปส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหาโรจาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

 

“เรื่องของดราก้อน … ฉันควรจะเล่าให้แกฟังดีไหม?”

 

“เอาอีกแล้วหรอ? นี่ลุงไม่ได้แกล้งลืมใช่ไหม?”

 

โรจากลอกตาไปมาเขาไม่แน่ใจว่าการ์ปเป็นโรคความจำเสื่อมหรืออย่างไร? การปนั้นเคยพูดเรื่องของดราก้อนให้เขาฟังอยู่หลายครั้งหลายครา และโรจาก็เคยถามการ์ปเรื่องนี้ด้วยความรู้อยากเห็นมาแล้วด้วย

 

การ์ปยกมือขึ้นเกาหัว ก่อนที่จะกล่าวอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า

 

“ฉันก็แค่ฝึกฝนเจ้าสารเลวนั่นเพื่อให้กลายเป็นคนที่โดดเด่นในกองทัพเรือ ใครจะไปรู้ว่า … มันจะสร้างปัญหาให้แกแบบนี้ ”

 

รอยเส้นเลือดเริ่มปูดโปนขึ้นบนหัวของโรจา นี่ที่แท้การ์ปกังวลคือเรื่องนี้เองหรอกหรือ? เขาควรที่จะกังวลว่าดราก้อนจะสร้างผลกระทบอะไรต่อโลกจะดีกว่าไหม?

 

ไม่สิ ไม่ใช่แค่ไม่กังวล แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ!

 

ตอนนี้โรจาก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่าการ์ปไม่ได้สนใจว่าดราก้อนจะสร้างผลกระทบอะไรต่อคนอื่นๆหรือต่อโลกใบนี้ เขาไม่เคยสนใจมันเลย

 

ในมุมมองของการ์ป เขาสนเพียงแค่ว่าการกระทำของดราก้อน ส่งผลโดยตรงต่อการได้รับยศของโรจา ส่วนเรื่องอื่นๆ การ์ปไม่ได้เก็บมาคิดใส่สมองเลย!

 

“เรื่องยศอะไรนั่นช่างมันเถอะครับ ทุกคนย่อมมีความคิดเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าผมก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องไปจำกัดความคิดของพวกเขา ส่วนเจ้าบ้าอาคาอินุ … ผมรู้สึกแย่กับเขามากๆ”

 

โรจากล่าวพร้อมกับผายมือทั้งสองข้างออกด้วยท่าทีสบายๆ

 

“เอ๋?”

 

การ์ปยกมือขึ้นเกาหัวอีกครั้ง ก่อนที่จะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า

 

“แกรู้สึกแย่กับเจ้าซากาสุกิ? ถ้าอย่างงั้น หลังจากที่แกแข็งแกร่งขึ้นเมื่อไหร่ แกก็ค่อยไปอัดมันก็ได้”

 

“นั่นก็ฟังดูมีเหตุผล”

 

โรจาพยักหน้าเห็นด้วย

 

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันยังคงห่างชั้นกับอาคาอินุ แต่เมื่อเขาเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบจนวิวัฒนาการจากขั้นสี่ไปยังขั้นห้า แล้วสามารถใช้ ชิไค ริวจินจักกะได้แล้วล่ะก็ ..

 

ระหว่างแม็กม่ากับเปลวเพลิงที่ร้อนแรงพอๆกับพื้นผิวของดวงอาทิตย์ อันไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน?

 

ช่างเป็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ โรจาต้องการที่จะรู้คำตอบจริงๆ

 

ถ้ามีคนแอบฟังบทสนทนาระหว่างโรจากับการ์ป พวกเขาคงกระอักเลือดไปไกลกว่าสามเมตร! แล้วคิดว่านี่เจ้าพวกนี้พูดเรื่องบ้าอะไรกัน?

 

“ถูกต้อง”

 

เมื่อเห็นว่าโรจากำลังเดินกลับขึ้นไปบนห้อง การ์ปก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาจ้องมองโรจาด้วยแววตาที่จมลึกไปในห้วงความคิด

 

“หืม?”

 

ปกติแล้วการ์ปไม่ใช่คนที่จะมีท่าทีแบบนี้ โรจาจึงหยุดเดิน ก่อนที่จะหันไปมองหน้าการ์ปแล้วกระพริบตาปริบๆ

 

“ลืมมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ..”

 

การ์ปได้สติอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะส่ายหัวแล้วกล่าวว่า

 

“ดูเหมือนว่าแกจะมีความลับมากมายที่ยังไม่ได้บอกฉัน แต่เนื่องจากแกไม่ต้องการที่จะพูดถึงมัน ฉันก็จะไม่ถามออกไปเช่นกัน”

 

แม้ว่าการ์ปจะเป็นพวกที่ในสมองมีแต่กล้ามเนื้อ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนโง่ ในทางตรงกันข้าม การที่เขาสามารถท่องไปทั่วโลกเพื่อล่าราชาโจรสลัดโกล D โรเจอร์ได้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นคนที่ฉลาดมากๆ

 

เพียงแค่ความฉลาดเหล่านั้นอยู่ภายใต้กล้ามเนื้อก็เท่านั้นเอง

 

“…”

 

โรจาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาเพียงแค่ว่า ขอตัวกลับขึ้นไปบนห้อง แล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป

 

สำหรับการ์ป โรจาไม่ค่อยมีความลับอะไรปิดบังเขา โรจามักจะกล่าวในสิ่งที่คิดออกไปทันที แม้แต่ความรู้สึกไม่ดีที่มีต่ออาคาอินุเขาก็ยังกล่าวออกมาตรงๆ

 

สำหรับเรื่องอื่นๆ

 

การ์ปจะไม่เป็นอันตรายต่อเขา และเขาก็จะไม่เป็นอันตรายต่อการ์ป เพียงแค่การ์ปรู้ว่าเขาเป็นญาติและยอมรับเขาเหมือนกับเป็นคนในครอบครัวนั่นก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นๆไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย

 

 

ณ ท่าเรือของศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

เรือรบขนาดกลางได้จอดเทียบท่าเพื่อส่งมอบโภคภัณฑ์และสินค้าต่างๆรวมไปรับส่งทหารเรือยศนาวาโท และนาวาตรีขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ

 

งานของพวกเขาคือการขนส่งสินค้ารวมไปถึงพลเรือตรีที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ไปยังฐานสาขาที่ 1ในเขตทะเลเวสต์บลู

 

“นายว่าใครจะได้เป็นผู้บัญชาการคนใหม่ของฐานสาขาที่ 1 ในทะเลเวสบลูที่พึ่งได้รับการแต่งตั้ง?”

 

“แกถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใครล่ะ? ทหารยศพลเรือตรีนั้นมีตั้งมากมาย อาจจะเป็นใครซักคนในนั้นก็ได้”

 

นาวาตรีหลายคนกำลังพูดคุยกัน ภารกิจขนส่งในครั้งนี้นับว่าไม่มีอันตรายใดๆเลย หรือจะบอกว่าโอกาสที่จะเกิดอันตรายขึ้นนั้นต่ำมากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างรู้สึกผ่อนคลาย

 

ในเวลานั้นเอง

 

ร่างๆหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นจากระยะไกล ก่อนที่จะเดินขึ้นมาบนเรือรบ ขณะที่ร่างๆนั้นเดินใกล้เข้ามา ตัวอักษรยุติธรรมเบื้องหลังเครื่องแบบของยศพลเรือตรีก็เริ่มที่จะโดดเด่นขึ้นจนสังเกตเห็นได้ชัด

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเขา”

 

เจ้าหน้าที่ทหารเรือยืนเรียงกันอย่างพร้อมเพียงเพื่อรอต้อนรับพลเรือตรีที่กำลังจะมาถึง

 

เพียงแต่ว่า

 

เมื่อร่างของพลเรือตรีได้ขึ้นมาบนเรือรบ สีหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่ทหารเรือพลันแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง! เพราะชายในเครื่องแบบพลเรือตรีที่เดินขึ้นมานั้นยังดูเด็กมาก! อายุของเขาน่าจะไม่ถึง 20 ปีเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอายุน้อยกว่าพวกเขาทั้งหมดที่อยู่บนเรือลำนี้!

 

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยเห็นพลเรือตรีที่ยังหนุ่มขนาดนี้!

 

พลเรือตรีคนนั้นแน่นอนว่าคือโรจา

 

ในตอนแรก ตำแหน่งเดิมของโรจาคือยศพลเรือตรีที่ประจำตำแหน่งในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

 

พลเรือตรีที่ประจำตำแหน่งผู้บัญชาการอยู่ในฐานสาขาที่ 1 เขตทะเลเวสบลู ได้ออกไปปราบปรามโจรสลัด และได้รับความพ่ายแพ้!

 

เหตุการณ์นี้นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันเป็นอย่างมาก

 

สถานะของพลเรือตรีที่เป็นผู้บัญชาการสาขานั้นเทียบเท่ากับยศพลเรือตรีที่ประจำอยู่ในสาขาของแกรนไลน์ซึ่งเป็นเขตทะเลที่เหล่าโจรสลัดอันแข็งแกร่งได้อาละวาดอยู่ อย่างไรก็ตาม เขตทะเลเวสต์บลูนั้นนับว่าเป็นเขตทะเลที่อ่อนแอที่สุด แม้แต่โจรสลัดที่แข็งแกร่งที่สุดในเวสต์บลู ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะพลเรือตรีที่เป็นผู้บัญชาการสาขาซึ่งมีความแข็งแกร่งพอๆกับยศพลเรือตรีในศูนย์ใหญ่

 

ด้วยเหตุนี้ ค่าหัวของกลุ่มโจรสลัด‘เก็กโค’จึงเพิ่มขึ้นจาก 15 ล้านแบรี่ ขึ้นเป็น 70 ล้านแบรี่ในทันที และกลายเป็นหนึ่งในโจรสลัดที่มีค่าหัวสูงที่สุดในเขตทะเลเวสต์บลู

 

ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับกลุ่มโจรสลัดเก็กโคว่าตอนนี้พวกมันได้แล่นเรือไปยังแกรนไลน์แล้ว หรือว่ายังคงอยู่ในเขตทะเลเวสต์บลูอยู่

 

เนื่องจากกลุ่มโจรสลัดเก็กโคสามารถฆ่าทหารเรือยศพลเรือตรีได้ จึงเห็นได้ชัดว่าทหารเรือทั่วๆไปไม่สามารถปรามปราบมันได้ และอย่างน้อยที่สุดก็ควรจะส่งทหารเรือยศพลเรือโทลงไป

 

อย่างไรก็ตามเขตทะเลเวสต์บลูนั้นมีขนาดใหญ่มากเกินไปและยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มโจรสลัดเก็กโคจะยังคงอยู่ในเขตเวสต์บลูหรือไม่ ทหารเรือยศพลเรือโทนั้นไม่สามารถท่องทะเลรอบๆเวสต์บลูได้เป็นเวลานานเนื่องจากพวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องไปประจำตามสาขาสำคัญๆต่างๆ

 

ดังนั้น

 

ทางศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของโรจาชั่วคราว โรจายังคงเป็นพลเรือตรีที่ประจำตำแหน่งอยู่ในศูนย์ใหญ่ แต่ได้ถูกย้ายไปในเวสต์บลูเพื่อประจำตำแหน่งเป็นพลเรือตรีผู้บัญชาการสาขาที่ 1

 

จากมุมมองของทางกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง และตำแหน่งในตอนนี้ของโรจา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเขานั่นแหละที่เหมาะสมที่สุด!

 

และโรจาก็ไม่ได้ปฏิเสธการโยกย้ายตำแหน่งในครั้งนี้

 

ในบางแง่มุมเขาก็เป็นคนที่มีนิสัยคล้ายกับการ์ป เป็นคนที่ไม่ชอบที่จะให้กฏระเบียบมาขัดแข้งขัดขา เมื่อเทียบกับการอยู่ในศูนย์ใหญ่กับออกมาท่องโลก เห็นได้ชัดว่าอย่างหลังเป็นอิสระมากกว่า โรจาจึงตอบรับทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง