GOS ตอนที่ 81 – คู่ต่อสู้คนที่ 10 คือพลเรือโท …

 

คนที่รู้ว่าโรจาสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงได้นั้นก็มีเพียง อาโอคิยิ คิซารุ และคนอื่นๆเท่านั้น ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายทันทีเมื่อในที่สุดโรจาใช้ไม้ตายก้นหีบออกมา

 

แต่บรรดาเหล่าพลเรือโทนั้นไม่ได้ล่วงรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเผชิญกับเหตุการตรงหน้า ท่าทีของพวกเขาก็เปลี่ยนไป

 

“ผลปีศาจเมระ เมระ สายโลเกีย?”

 

“ไม่! ไม่ใช่! นี่ไม่ใช่พลังจากผลปีศาจสายโลเกีย …”

 

ใบหน้าของเหล่าพลเรือโท ต่างเผยให้เห็นถึงความรู้สึกช็อก! ต้องรู้นะว่าแม้แต่คิซารุ อาโอคิยิ รวมไปถึงการ์ป เซเฟอร์และคนอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครรู้และเข้าใจว่าแหล่งที่มาของเปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมานั้นคืออะไร ดังนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงพลเรือโทคนอื่นๆ

 

นี่คือพลังจากระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ! มันเป็นพลังจากต่างโลก! เป็นพลังซึ่งคนในโลกวันพีชไม่สามารถวิเคราะห์ที่มาของพลังนี้ได้!

 

“เปลวเพลิงนี่ …”

 

เมื่อเปลวเพลิงของโรจาถูกปลดปล่อยออกมา แม้แต่พลเรือเอกอาคาอินุที่นั่งอยู่อย่างเงียบๆก็ยังเผยให้ถึงประกายเล็กน้อยในดวงตาของเขา

 

ก่อนหน้านี้

 

ในตอนที่โรจาได้เข้าร่วมการประลองของค่ายสามัญ อาคาอินุได้เฝ้ามองการประลองของเขาอยู่บนจุดสูงสุดของป้อมปราการ ความแข็งแกร่งของเปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมาในตอนนั้นอ่อนแอและมีระยะการปลดปล่อยที่ค่อนข้างแคบ อาคาอินุจึงไม่ได้ใส่ใจมันมากมายนัก

 

แต่เมื่อมองจากระยะใกล้ อาคาอินุก็เผยให้เห็นถึงความรู้สึกประหลาดใจเนื่องจากเขาไม่เข้าใจถึงที่มาของเปลวเพลิงชนิดนี้!

 

มันดูเหมือนว่าจะเป็นเปลวเพลิงจริงๆ ในขณะเดียวกันมันก็ดูเหมือนจะเป็นเพียงเปลวเพลิงเทียม — เปลวเพลิงนี้มันอยู่ระหว่างภาพลวงตาและความเป็นจริง!

 

อาคาอินุจ้องมองไปยังเปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมา ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แต่ครู่เดียวมันก็กลับมาเป็นปกติ

 

“ช่างเป็นเปลวเพลิงที่แปลกประหลาดเสียจริง แต่ถ้ามันรุนแรงเพียงเท่านี้ …”

 

ถึงแม้เปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมา มันจะดูแข็งแกร่งและรุนแรงเป็นอย่างมากสำหรับคนอื่นๆ แต่ในมุมมองของอาคาอินุนั้น มันแทบจะไม่สามารถคุกคามเขาที่เป็นผู้ใช้พลังจากผลปีศาจมากุ มากุได้เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าอย่างไรเสียแม็กม่าก็ย่อมแข็งแกร่งเหนือกว่าเปลวเพลิง!

 

 

วูซ วูซ—!

 

สองคมดาบสายลมสีเขียวได้พุ่งตัดทะเลเพลิงจนแยกออก สตอเบอรี่รีบฉวยจังหวะนั้นกระโจนออกมาจากเปลวเพลิงทันที เขานั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นแผลที่เกิดจากการถูกแผดเผาจึงไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากมายนัก อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเขาถูกเผาจนมอดไหม้ไปเสียแล้ว

 

ทางด้านโรจา เปลวเพลิงขนาดมหึมานี้กลับอ่อนโยนต่อเขาเป็นอย่างมาก มันไม่ได้แผดเผาเสื้อหรือเส้นผมของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

สตอเบอรี่ที่พึ่งออกมาจากเปลวเพลิง พร้อมกับจ้องมองไปยังโรจา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ!

 

ท่ามกลางเปลวเพลิง โรจาไม่ได้โจมตีต่อ ส่วนสตอเบอรี่ก็ไม่ได้โจมตีเช่นกัน

 

“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ฉันพลาดเองที่เผลอดูถูกเธอไปครู่หนึ่ง”

 

สตอเบอรี่สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า

 

“เธอชนะแล้ว”

 

ก่อนหน้านี้โรจาใช้เพียงแค่วิชาดาบกับฮาคิเท่านั้น แต่หลังจากที่โรจาได้ปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาสตอเบอรี่ก็รู้ตัวได้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโรจา

 

นี่เป็นเพียงแค่การประเมินการจบการศึกษา ไม่ใช่การ่ต่อสู้เอาชีวิตกันจนกว่าคนใดคนหนึ่งจะตาย เนื่องจากผลการต่อสู้ได้ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนแล้ว สตอเบอรี่จึงยอมรับความพ่ายแพ้ในที่สุด และที่สำคัญที่สุดหากยังคงสู้ต่อไป เสื้อผ้าของเขาก็คงถูกเผาจนหายไปในที่สุด … สตอเบอรี่ไม่ต้องการที่จะทำให้ตัวเองได้รับความอับอายถึงขนาดนั้น

 

แน่นอนว่าการที่สตอเบอรี่ยอมรับความพ่ายแพ้นั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่ในอีกความหมายนึงมันก็แสดงให้เห็นถึงนัยสำคัญบางอย่าง! — นัยสำคัญที่ว่านั่นคือโรจาได้มายืนอยู่ในจุดๆเดียวกับเหล่าพลเรือเอกแล้ว!

 

เหล่าผู้ชมต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา

 

ผ่านไปนานกว่าทะเลเพลิงจะค่อยๆมอดดับลง ยามาคาจิจ้องมองไปยังสนามต่อสู้ด้วยจิตใจที่สั่นไหว ก่อนที่เขาจะเริ่มได้สติกลับมา จากนั้นก็เอ่ยปากประกาศออกไปด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย

 

“คู่ต่อสู้คนที่ 9 — ผ่าน!!”

 

เมื่อยามาคาจิได้ประกาศผลการต่อสู้ออกไป เหล่าพลเรือโทก็ได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนที่จะระเบิดเสียงฮือฮาออกมาทันที พร้อมกับเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการต่อสู้ที่พึ่งจบไป

 

แม้พวกเขาก็ไม่เข้าใจถึงที่มาของเปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมา แต่ในทางกลับกัน โรจาก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 9 ได้แล้ว!!

 

จนกระทั่งตอนนี้มีแค่เพียงอาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุเท่านั้นที่เคยเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 9 ได้!

 

“นี่เขา … มีศักยภาพมากพอที่จะเป็นพลเรือเอกจริงๆงั้นหรือ?”

 

“ญาติของพลเรือโทการ์ป เป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!”

 

เหล่าพลเรือโทต่างจ้องมองไปยังโรจา โดยในตอนนี้พวกเขาไม่เห็นว่าโรจาเป็นแค่เพียงทหารฝึกหัดอีกต่อไปแล้ว แต่ในสายตาของพวกเขา สถานะของโรจาในตอนนี้แทบจะเทียบเท่ากับยศพลเรือโทคนหนึ่ง!

 

แม้ว่าในเวลานี้โรจาจะเป็นเพียงแค่ทหารเรือฝึกหัดเท่านั้น แต่สถานะของโรจาในตอนนี้นั้นเทียบเท่ากับพวกเขา ในโลกวันพีชใบนี้ คนที่มีความแข็งแกร่งและพรสวรรค์มักจะได้รับความเคารพนับถือ ความสามารถที่โรจาแสดงออกมา ทำให้สายตาของเหล่าพลเรือโทที่จ้องมองไปยังโรจานั้น ราวกับว่าโรจากำลังยืนอยู่ในระดับเดียวกัน!

 

ด้านบนสุดของที่นั่ง สามพลเรือเอก รวมไปถึงการ์ป เซเฟอร์ และจอมพลเรือเซนโงคุ ก็ยังไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา พวกเขาเพียงแค่จ้องมองโรจาที่อยู่ในสนาม

 

ในสนามตอนนี้ มีเพียงโรจาที่ยืนอยู่

 

ทุกคนกำลังเฝ้ามองว่าเมื่อโรจาผ่านคู่ต่อสู้คนที่ 9 ได้แล้ว โรจาจะขอท้าทายคู่ต่อสู้คนที่ 10 หรือไม่?

 

ภายใต้สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน โรจาได้เดินไปใกล้ๆกับจุดที่ยามาคาจิอยู่พร้อมกับยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“พอจะมีน้ำดื่มไหม?”

 

การต่อสู้กับสตอเบอรี่ ทำให้โรจาเสียพลังงานร่างกายไปเยอะมาก และถ้าหากคู่ต่อสู้คนที่ 9 เป็นพลเรือโทจากสาขาย่อย นั่นหมายความว่าคู่ต่อสู้คนที่ 10 จะต้องเป็นพลเรือโทจากสาขาหลัก หรือก็คือ พลเรือโทจากศูนย์ใหญ่นั่นเอง!

 

ดังนั้น

 

โรจาจึงขอดื่มน้ำสักแก้วเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในครั้งถัดไป

 

“มีสิ”

 

ยามาคาจิหยิบน้ำที่วางอยู่ข้างหลังจากนั้นก็เทใส่แก้วแล้วยื่นไปให้โรจา

 

โรจารับมันมาและดื่มจนหมด

 

ยามาคาจิไม่ได้เอ่ยถามโรจาว่าเขาต้องการที่จะท้าทายคู่ต่อสู้คนที่ 10 หรือไม่ เขาเพียงแค่รออย่างเงียบๆ เป็นเวลา 10 นาทีตามระยะเวลาที่ผู้ขอจบการศึกษาจะได้พัก

 

“คู่ต่อสู้คนที่ 10 … คนที่ผ่านคู่ต่อสู้คนที่ 9 และได้รับเกียรตินี้ในอดีตมีเพียงแค่สามพลเรือเอกเท่านั้น!”

 

“ไม่ ไม่ ตั้งแต่ที่เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 9 ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเอาชนะคูต่อสู้คนที่ 10 แต่อย่างน้อยก็ควรจะได้ลองสู้กับอีกฝ่าย จะได้ไม่เสียใจภายหลัง”

 

สโมคเกอร์และคนอื่นๆในค่ายชั้นยอดต่างเฝ้าดูโรจาด้วยความตึงเครียด พวกเขาไม่รู้ว่าโรจาจะเลือกท้าทายคู่ต่อสู้คนที่ 10 หรือไม่ และถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสชนะเลยก็ตาม แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลอง

 

บางทีถ้าหากโรจาบังเอิญโชคดีเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 10 ได้ สถานะของเขาอาจจะได้รับเกียรติให้เทียบเท่ากับพลเรือเอก!

 

แม้ว่าสโมคเกอร์และคนอื่นๆ จะรู้ว่าโอกาสที่จะเป็นไปได้นั้นต่ำถึงต่ำมากๆ แต่ถ้าหากโรจาผ่านคู่ต่อสู้คนที่ 10 ไปได้ ก็เท่ากับว่าเขาทะลวงขีดจำกัดที่เหล่าพลเรือเอกในอดีตเคยทำไว้!

 

หนึ่งนาทีผ่านไป …

 

สองนาทีผ่านไป …

 

แปดนาทีผ่านไป …

 

ในที่สุดเมื่อเก้านาทีผ่านไป โรจาก็กลับขึ้นไปบนสนามต่อสู้ ภายใต้สายตาอันตื่นเต้นของผู้คนนับไม่ถ้วน!

 

ยามาคาจิรีบกล่าวทันทีว่า

 

“การต่อสู้ครั้งที่ 10 … เริ่มได้!”

 

เนื่องจากคู่ต่อสู้คนที่ 9 เป็นพลเรือโทจากสาขาย่อย ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าคู่ต่อสู้คนที่ 10 นั้นจะต้องเป็นพลเรือโทสาขาหลัก!

 

ดวงตาของโรจาในตอนนี้ลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ไร้ซึ่งร่องรอยของความหวาดกลัว!

 

การต่อสู้ในครั้งนี้ โรจาไม่เพียงต้องการที่จะต่อสู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังต้องการที่จะชนะ!

 

ถ้าแม้แต่พลเรือโทจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดเขายังไม่สามารถเอาชนะได้ แล้วเขาจะออกไปท่องทะเลและกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกวันพีชได้ยังไง!

 

ในที่สุด

 

ภายใต้สายตาของผู้ชม เสียงอันเคร่งขรึมของยามาคาจิก็ได้ดังขึ้น

 

“คู่ต่อสู้คนที่ 10 ของเธอก็คือ … พลเรือโทโมมอนก้า!”*

 

(*เป็นพลเรือโทที่ไปชวนแฮนค็อกเข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่ในมารีนฟอร์ดและเป็นหนึ่งในสิบพลเรือโทที่อยู่ในยุทธการณ์บลัสเตอร์คอล)

 

สิ้นเสียงประกาศของยามาคาจิหนึ่งในกลุ่มผู้ชมก็ได้เดินลงมายังสนามต่อสู้ ชายคนนี้สวมชุดสูทสีขาวลายม่วงโดยสวมทับเสื้อสีน้ำเงินเข้มอยู่ข้างใน ส่วนหนวดและสีผมนั้นเป็นสีม่วง และที่สำคัญเขายังคงดูเด็กมากๆหากเทียบกับพลเรือโทคนอื่นๆ

 

ในมังงะ โมมอนก้าเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญที่เข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่ในมารีนฟอร์ด ความแข็งแกร่งของเขาเรียกได้ว่าอยู่เกือบจะหัวแถวในกองทัพเรือ!

 

และโมมอนก้าได้รับแต่งตั้งเป็นพลเรือโทในขณะที่ อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุได้เป็นพลเรือเอก!

 

การที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นพลเรือโทตั้งแต่อายุยังน้อย ย่อมเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของเขา!

 

“คู่ต่อสู้คนที่ 10 คือโมมอนก้า?”

 

“ฉันจำได้ว่าโมมอนก้าพึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพลเรือโทมาได้ไม่นาน แต่ความแข็งแกร่งของเขาเป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่อาจแตะต้องได้”

 

เหล่าพลเรือโทต่างเฝ้ามองโมมอนก้าเดินลงไปในสนามด้วยท่าทีเคร่งขรึม

 

ในเวลานี้ อาโอคิยิ คิซารุ รวมไปถึงการ์ป เซนโงคุและคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึก

 

ดวงตาของอาโอคิยิเป็นประกาย ก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“โมมอนก้าไม่ใช่พลเรือโทที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ไม่ใช่พลเรือโทที่อ่อนแอที่สุดเช่นกัน การที่จะเอาชนะเขาได้คงยากกว่าการเอาชนะสตอเบอรี่อยู่หลายเท่านัก”

 

สีหน้าของเซเฟอร์จมลึกลงไปในความคิดก่อนที่จะพึมพำออกมาว่า

 

“เปลวเพลิงของโรจาเพียงอย่างเดียวคงเป็นการยากมากๆที่จะสามารถเอาชนะโมมอนก้าได้ โมมอนก้านั้นมี วิชาดาบ ฮาคิ พละกำลัง และความว่องไวเหนือกว่าสตอเบอรี่มากมายนัก ฉันเกรงว่าสำหรับโรจาแล้วคงเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานเขา”

 

ทางด้านการ์ป เขาไม่ได้มีท่าทีกังวลอะไรมากมายนักเกี่ยวกับผลแพ้ชนะ เพียงแค่โรจาสามารถผ่านคู่ต่อสู้คนที่ 9 มาได้ เขาก็ภาคภูมิใจมากพออยู่แล้ว ในมุมมองเขา ขอแค่โรจาพยายามต่อสู้กับคู่ต่อสู้คนที่ 10 ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว