GOS ตอนที่ 67 – อยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ!

 

ตูมมมม

 

โรจาเหวี่ยงกำปั้นออกไปแบบเต็มกำลัง ส่งผลให้เกิดคลื่นเสียงดังสนั่น และเมื่อกำปั้นปะทะเข้ากับเครื่องจักร ก็เกิดประกายไฟสว่างวาบขึ้นทันที พร้อมๆกับเครื่องจักรระเบิดกระจัดกระจายออกเป็นชิ้นๆ!

 

กลิ่นไหม้ลอยตลบอบอวลไปทั่วจตุรัส

 

ปุก …

 

พลเรือโทยามาคาจิกับที่ปรึกษาเมื่อเห็นฉากนี้พวกเขาก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง! โดยเฉพาะยามาคาจิ ซิการ์ที่เขาคาบอยู่ถึงกับร่วงตกลงบนพื้น

 

ที่ปรึกษาอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงดังสนั่น เขาก็หยุดทุกสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ก่อนที่จะหันไปยังทิศทางที่เกิดเสียง วินาทีต่อมาดวงตาของเขาก็เบิกโพลง พร้อมๆกับอ้าปากค้างจนคางตกลงกระแทกกับพื้น!

 

สโมคเกอร์และคนอื่นๆเมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าของพวกเขาพลันกระตุกไม่หยุด

 

“เอ๋?”

 

โรจาไม่คิดเลยว่าเจ้าเครื่องจักรนี่ จะไร้ประโยชน์ขนาดนี้! ในตอนแรกเขาต้องการทำแค่ให้เครื่องนี้ไม่สามารถตรวจสอบพละกำลังของเขาได้เท่านั้น แต่โรจาไม่คาดคิดเลยว่าผลที่ออกมาจะกลับกลายเป็นกำปั้นของเขาพุ่งทะลุเข้าไปในเครื่อง จนมันระเบิด!

 

‘หวังว่าพวกเขาจะไม่ตำหนิฉันนะ ..’

 

โรจาส่ายหัว ก่อนที่จะดึงกำปั้นที่ติดอยู่ในเครื่องออกมา จากนั้นก็หันไปถามที่ปรึกษาที่อยู่ข้างๆแล้วกล่าวว่า

 

“แล้วนี่ .. นับเป็นคะแนนเท่าไหร่”

 

ที่ปรึกษากองทัพ “ … ”

 

พลเรือโทยามาคาจิ “ … ”

 

สโมคเกอร์และคนอื่นๆ “ … ”

 

 

“การประเมินก่อนหน้านี้เป็นการทดสอบพละกำลังที่รุนแรงที่สุดเท่าที่พวกเธอจะทำได้ ต่อไปจะเป็นการทดสอบโจมตีและความว่องไวในรูปแบบของการโจมตีต่อเนื่อง”

 

ณ อีกจุดหนึ่งในจตุรัส

 

ข้างๆพลเรือโทยามาคาจิมีก้อนหินสีดำขนาดใหญ่หลายก้อนวางอยู่ ขณะที่เขากำลังจ้องมองไปยังโรจาและคนอื่นๆ

 

คราวนี้ยามาคาจิไม่ได้มอบหน้าที่ดูแลการทดสอบให้ที่ปรึกษาเป็นคนจัดการอีกต่อไป แต่เขาเลือกที่จะดูแลด้วยตัวเอง

 

ที่สำคัญในตอนนี้เหลือที่ปรึกษาอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น … อีกคนหนึ่งได้กลับไปพร้อมๆกับซากเครื่องจักร ซึ่งเครื่องจักรนั้นเป็นสิ่งที่ทางกองทัพมอบหมายให้เขาดูแล .. บางทีเขาคงจะได้รับโทษหนักและไม่น่าจะได้กลับมาในเร็วๆนี้

 

“ก้อนหินตรงหน้าพวกเธอ แม้ว่ามันจะไม่ใช่หินไคโร แต่มันก็เป็นก้อนหินที่ทนทานมากๆ พวกเธอจะต้องทำลายมันจนเป็นชิ้นเล็กๆให้ได้ภายใน 1 นาที หากไม่สามารถทำลายมันได้ ก็จะถือว่าไม่ผ่าน และถูกคัดออก”

 

“ผลลัพธ์ของการทดสอบในครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการโจมตี และที่สำคัญ การทดสอบนี้อนุญาติให้ใช้อาวุธได้”

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ มุมปากของยามาคาจิก็เริ่มกระตุก ก่อนที่จะหันไปมองโรจา

 

เขาไม่คาดคิดเลยว่าเด็กใหม่ที่ขอจบการศึกษาจะสามารถใช้โคกะได้ … ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะมาจากค่ายชั้นยอดก็ตาม

 

เซเฟอร์เซนเซย์ช่างสั่งสอนลูกศิษย์ได้ยอดเยี่ยมจริงๆ

 

“เอาล่ะเราจะเริ่มการทดสอบสมรรถภาพรอบที่สอง คนแรกก็เอาเป็น …”

 

ภายใต้คำสั่งของยามาคาจิ เล่าบิงก็เริ่มออกมาทดสอบทีละคน ทีละคน

 

ก้อนหินสีดำพวกนี้ แม้ว่าพวกมันจะมีความทนทานค่อนข้างสูง แต่ก็ยังไม่ทนทานเท่าหินไคโรที่ใช้สร้างป้อมปราการยักษ์

 

ดังนั้น เหล่าเล่าบิงจึงสามารถทำลายก้อนหินพวกนี้ได้ถึงแม้จะต้องใช้ความพยายามนิดหน่อยก็ตาม

 

ตูม ตูม ตูม—!

 

เล่าบิงได้เดินออกมาทีละคน เพื่อทำลายหินก้อนใหญ่ตรงหน้า และพวกเขาทั้งหมดล้วนเลือกที่จะใช้อาวุธ

 

แม้แต่เล่าบิงที่ใช้กำปั้นในการต่อสู้ ครั้งนี้พวกเขาก็ยังเลือกที่จะใช้อาวุธหนักซึ่งเป็นอาวุธที่มีโอกาสที่จะทำลายก้อนหินตรงหน้าได้สูงที่สุด เหตุผลหนึ่งก็เพราะพวกเขานั้นไม่สามารถใช้ฮาคิเกราะได้เหมือนกับโรจา เมื่อต้องเผชิญกับก้อนหินที่มีความทนทานราวกับเหล็กกล้า พวกเขาคงไม่สามารถใช้กำปั้นเพียวๆทำลายมันได้

 

เสียงดังราวกับฟ้าผ่าได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยเศษก้อนหินแตกกระจัดกระจายออกไปทั่วทุกที่ ถ้าหากทหารเรือคนอื่นๆที่อยู่ข้างนอกเดินมาแล้วได้ยินเสียงนี้ บางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าภายในจตุรัสอาจจะกำลังทำการทุบทำลายตึกอยู่

 

เล่าบิงค่อยๆเข้าไปรับการทดสอบทีละคน ทีละคน

 

ที่นี่คือศูนย์ใหญ่กองทัพเรือมารีนฟอร์ด และทุกๆคนในค่ายชั้นยอดนั้นต่างก็ถูกเรียกว่าสัตว์ประหลาด ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับโรจาได้ แต่สำหรับทหารเรือฝึกหัดในค่ายสามัญ ความแข็งแกร่งของพวกเขาเปรียบเหมือนดั่งเทพสงคราม!

 

เล่าบิงที่ทำการทดสอบในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะสามารถทำลายหินได้ภายในเวลา 30 วินาที คนที่ช้าที่สุดใช้เวลาราวๆ 40 ว​ินาที แต่ทั้งหมดก็ยังถือว่าผ่านการทดสอบ

 

“โรจา ถึงตาของเธอแล้ว”

 

เวลานี้ ยามาคาจิรู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของโรจาแล้ว หลังจากที่เขาบันทึกข้อมูลของสโมคเกอร์และคนอื่นๆเสร็จ เขาก็หันไปเรียกโรจา

 

“ครับ”

 

โรจาก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทีไม่แยแส ก่อนที่จะชักโฮโนะสึกิออกมา!

 

วูซ วูซ วูซ—!

 

สโมคเกอร์และคนอื่นๆเห็นเพียงแค่เส้นแสงสีแดงวูบวาบไปมาอยู่ในอากาศ และวินาทีต่อมา พวกเขาก็เห็นว่าโรจาได้เก็บโฮโนะสึกิเข้าไปในฝักแล้ว

 

“เริ่มการทดสอบต่อไปกันเถอะ”

 

หลังจากที่เก็บดาบ โรจาก็เดินตรงไปกับพื้นที่ทดสอบที่สามทันที

 

พลเรือโทยามาคาจิได้จ้องมองลึกลงไปในก้อนหิน ก่อนที่จะพยักหน้าออกมา แล้วหันไปกล่าวกับสโมคเกอร์และคนอื่นๆว่า

 

“ไปรอฉันที่พื้นที่ทดสอบที่สาม”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของยามาคาจิ ที่ปรึกษาที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็เต็มไปด้วยความสับสน และอดไม่ได้ที่จะเอือมมือออกไปสัมผัสก้อนหินสีดำอย่างแผ่วเบา

 

กราว …

 

ก้อนหินสีดำก้อนใหญ่จู่ๆก็พังทลายลงกลายเป็นเพียงเศษหินก้อนเล็กๆนับไม่ถ้วน กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น และทุกชิ้นต่างก็เป็นรอยตัดที่เรียบเนียนราวกับลูกเต๋า!

 

หนึ่งในเล่าบิงที่กำลังมองฉากตรงหน้าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาว่า

 

“ฉันคิดว่าบางทีเราควรจะฝึกฝนในค่ายชั้นยอดต่อไปอีกซักพัก ก่อนที่จะขอจบการศึกษา …”

 

เล่าบิงอีกคนที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มแห้งๆออกมา แล้วกล่าวว่า

 

“นั่นสินะ … ”

 

เหตุผลที่พวกเขาพูดออกมาแบบนั้น ก็เพราะว่าพวกเขาต้องพยายามอย่างหนักในการทำลายหิน และพอมันแตกออกเป็นหลายชิ้น พวกเขาก็ต้องเสียเวลาทำลายหินที่แตกออกมาให้เป็นก้อนเล็กๆอีก เพื่อที่จะได้ผ่านการทดสอบ แตกต่างจากโรจาที่สามารถทำทุกอย่างได้ในเวลาเพียงวินาทีเดียว

 

ถึงแม้พวกเขาจะรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างโรจากับพวกเขานั้นห่างชั้นกันขนาดไหน แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า พวกเขาตัดสินใจดีแล้วหรือเปล่านะ?

 

 

การประเมินด่าน 1 เป็นการทดสอบสมรรถภาพที่แบ่งออกเป็น 8 การทดสอบ

 

ซึ่งการทดสอบความอดทนนั้นใช้เวลาทดสอบนานที่สุด นอกจากโรจาแล้ว ก็มีเพียงแค่คนอื่นๆอีก 8 คนเท่านั้น แต่การทดสอบนี้กลับกินเวลาทั้งวันเต็มๆ — และในที่สุดก็เสร็จสิ้นการทดสอบสมรรถภาพทั้งหมด

 

ผลการทดสอบปรากฏว่า ทุกคนนั้นมีสมรรถภาพเพียงพอที่จะผ่านการทดสอบ มี 4 คนที่มีสมรรถภาพอยู่ในเกณฑ์ดี และอีก 3คนอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม!

 

ส่วนผลการทดสอบของโรจา … คะแนนแต่ละการทดสอบของเขานั้นทะลุขีดจำกัด!

 

ผลการทดสอบแบบนี้เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือในตอนที่ สามพลเรือเอก อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุได้เข้ารับการทดสอบ!

 

ซึ่งการที่ได้คะแนนทะลุขีดจำกัด จะไม่ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม แต่จัดถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ ‘สมบูรณ์แบบ’

 

“การประเมินที่มีคนอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ … ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแค่ไหนแล้วนะ ..”

 

พลเรือโทยามาคาจิ จ้องมองไปยังผลคะแนนการทดสอบในมือของเขา แล้วอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองโรจา

 

“ด้วยพรสวรรค์และสมรรถภาพที่อยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ … ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าในการประเมินด่าน 2 เขาจะทำผลงานได้อยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบอีกหรือไม่”

 

ดวงตาของยามาคาจิเป็นประกาย แต่วินาทีต่อมาเขาก็ส่ายหัวเล็กน้อย

 

มันยากเกินไป!

 

ด่าน 2 นั้นไม่เหมือน ด่าน 1 เพราะมันคือการออกทะเลไปพร้อมกับกองทัพเรือ และปราบปรามโจรสลัดที่มีค่าหัวกว่า 100ล้านแบรี่ นี่ยังไม่รวมลูกเรือโจรสลัดของพวกมันอีก — นี่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบเหมือนกับในการประเมินด่าน 1

 

ในอดีต การประเมินด่าน 2 มีเพียงแค่ สามคนเท่านั้นที่อยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ และในตอนนี้สามคนที่ว่าก็ได้กลายเป็นพลเรือเอกไปแล้ว ..

 

เมื่อคิดถึงเรื่องของสามพลเรือเอก ยามาคาจิก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วโยนเรื่องนี้ทิ้งไป เพราะในเวลานี้เขาจะต้องจัดการผลการทดสอบตรงหน้าให้เรียบร้อยเสียก่อน

 

ส่วนทางด้านสโมคเกอร์และคนอื่นๆ เมื่อเห็นว่าการประเมินด่าน 1 ได้สิ้นสุดลงแล้ว พวกเขาก็แยกย้ายกันกลับไปยังที่พัก เพื่อเตรียมตัวที่จะเข้ารับการประเมินในด่านต่อไป