GOS ตอนที่ 52 – ตะลุมบอล

 

“บุโซโชคุ ฮาคิ?”

 

โรจาจ้องมองหมัดที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีดำและมันวาวราวกับเหล็กไหล ก่อนที่เขาจะกระโดดถอยหลังออกมาหลายเมตร

 

ตูม—!

 

ในขณะเดียวกันเปลวเพลิงที่กำลังกลืนกินเหลาจีอยู่ก็แตกกระจัดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง เผยให้เห็นร่างของเขาอีกครั้ง

 

ถึงแม้ว่าเมื่อครู่เหลาจีจะตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง แต่เขากลับไม่ได้ถูกเปลวเพลิงเผาผลาญเลยแม้แต่น้อย มีเพียงเสื้อของเขาบางส่วนที่มีสะเก็ดไฟติดอยู่

 

“สารเลวน้อย บังอาจเผาฉัน …”

 

เดิมทีแล้วโรจาไม่ได้อยู่ในสายตาของเหลาจีแม้แต่น้อย แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าโรจาจะรวดเร็วเช่นนี้! ที่สำคัญโรจายังปลเปล่อยเปลวเพลิงออกมาในจังหวะที่เขาเผลอ … และนั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกโกรธจริงๆแล้ว!

 

เหลาจี พุ่งเข้าหาโรจาอีกครั้ง

 

“กำแพงเพลิง!!”

 

เมื่อเห็นว่าเหลาจีพุ่งเข้ามา โรจาก็กระชับดาบด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะวาดมันออกไปรอบๆ จนกลายเป็นวงแหวนเพลิง

 

“คิดว่าแค่ไฟแค่นี้จะหยุดฉันได้อย่างงั้นหรอ!!”

 

เสียงของเหลาจีดังขึ้นจากนอกกำแพงเพลิง พร้อมกับง้างกำปั้นอันแสนน่าหวาดกลัวของเขาขึ้นมา — ถ้าสมาชิกคนอื่นๆในค่ายชั้นยอดเผชิญหน้ากับกำปั้นนี้ พวกเขาคงไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะต่อต้าน!

 

“G โนะ โคคุอิน!!”

 

เหลาจีพุ่งทะลุผ่านเปลวเพลิง พร้อมกับเหวี่ยงกำปั้นไปยังโรจาด้วยความรวดเร็วราวกับพายุคลั่ง!

 

“พลังหมัดช่างรุนแรงจริงๆ .. แต่น่าเสียดาย ทุกๆกระบวนท่าในวิชาจิโอเคนของคุณ ผมเคยเห็นมันมาหมดแล้ว!”(เคยเห็นในมังงะ)

 

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของเหลาจี โรจาไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาก้าวเท้าตรงไปข้างหน้าและในเวลาเดียวกันก็กระชับดาบด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา

 

“เก็ทสึงะ … เท็นโช!”

 

คลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวก็ปรากฏขึ้นบนใบดาบของโฮโนะสึกิ ก่อนที่จะพุ่งไปตรงไปยังเหลาจี!

 

คลื่นพลังนี้ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วหรือความรุนแรงก็ล้วนมากกว่าการโจมตีด้วยเฉือนนภาที่หลอมรวมกับเปลวเพลิงก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า!

 

หากเป็นเฉือนนภาก่อนหน้านี้เหลาจียังพอที่จะสามารถต้านท้านการโจมตีของโรจาได้ แต่เมื่อต้องเผชิญกับคลื่นพลังอันรุนแรงและส่งกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวอย่างฉับพลัน ใบหน้าของเหลาจีก็เปลี่ยนไป

 

ด้วยระยะที่ประชิดกันขนาดนี้ คงสายเกินไปที่จะหลบ เหลาจีจึงยกหมัดของเขาขึ้นตั้งการ์ดทันทีพร้อมกับเคลือบมันด้วยบุโซโชคุฮาคิและใช้มันรับการโจมตีจากคลื่นพลังนี้!

 

ตูม—!

 

เหลาจีถูกบังคับให้ถอยไปหลายก้าวขณะที่บนพื้นตามทางที่กระเด็นถอยไปมีรอยเลือดซึ่งหยดลงมาจากบริเวณข้อมือของเขา

 

เหลาจีนั้นไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งเหมือนกับเซเฟอร์หรือการ์ป ดังนั้นเขาจึงไม่อาจรับเก็ทสึงะ เท็นโชเหมือนกับที่เซเฟอร์เคยรับมันได้!

 

“ถึงแม้คุณจะมีบุโซโชคุฮาคิก็ตาม …แต่มันก็เป็นเพียงฮาคิระดับกลางเท่านั้น!”

 

โรจากระชับดาบในมือแน่น ก่อนที่จะเชิดหน้าขึ้นด้วยความภาคภมูิใจ

 

เมื่อเห็นฉากนี้สโมคเกอร์ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองด้วยความตกตะลึง ถึงแม้เขาจะรู้ว่าโรจานั้นแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าการโจมตีของโรจาจะสามารถ ทำร้ายโจรสลัดที่มีชื่อเสียงรวมไปถึงกำลังใช้ฮาคิอยู่ด้วยได้!!

 

ในมุมของสโมคเกอร์ คลื่นพลังเมื่อครู่รุนแรงยิ่งกว่าพลังโจมตีสูงสุดของเขาเสียอีก!!

 

“นี่มันชักจะแย่จริงๆซะแล้ว …”

 

เหลาจีจ้องมองรอยแผลตรงข้อมือ ก่อนที่จะสูดหายใจลึกออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“ฉันประเมินเธอต่ำไปจริงๆ … ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่เพียงแค่สารเลวน้อยธรรมดาๆสินะ”

 

วินาทีถัดมา เหลาจีก็พุ่งเข้าหาโรจาอีกครั้ง!

 

ปัง—!

 

โรจาปลดปล่อยเปลวเพลิงสวนกลับไป จนทำให้อุณหภูมิรอบๆเริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

แม้ว่าเหลาจีจะสามารถต้านทานไฟได้ในระดับหนึ่ง แต่มันก็ไม่มากพอที่จะเผชิญกับเปลวเพลิงเป็นระยะเวลานานๆได้ — ร่างของเขาค่อยๆถูกเผา และถูกเผาเยอะขึ้นเรื่อยๆ

 

เปลวเพลิงขนาดมหึมากวาดไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้ถนนรอบๆลุกไหม้ และกลายเป็นทะเลเพลิง

 

และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เหล่าเล่าบิงที่กำลังไล่ล่าโจรสลัดที่กำลังจะหลบหนีเงยหน้าขึ้นและเห็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่กำลังลุกไหม้

 

“นั่นมัน … พลังเพลิงของโรจา”

 

“ยังมีศัตรูอยู่อีกอย่างงั้นหรอ?”

 

เหล่าเล่าบิงเมื่อเห็นเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นจากระยะไกล ดวงตาของพวกเขาก็เป็นประกาย ก่อนที่จะเริ่มมุ่งไปยังจุดที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้

 

แต่เนื่องจากพื้นที่รอบๆกลายเป็นทะเลเพลิง ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปดูเหตุการณ์ข้างในได้ จึงเลือกที่จะรอดูจากระยะไกล และไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรเกิดขึ้น

 

และที่สำคัญ

 

ถึงแม้พวกเขาจะไปเฝ้าดูสถานการณ์ใกล้ๆ พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไอร้อนและอุณหภูมินั้นพุ่งสูงขึ้นมากเกินไป มันร้อนระอุจนขนาดที่ว่าเมื่อเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก มันก็จะระเหยหายไปในอากาศแทบจะในทันที ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจสังเกตุการณ์จากภายนอก

 

เหล่าเล่าบิงไม่มีใครรู้ว่าใครกันนะที่กำลังต่อสู้กับโรจาและทำให้เกิดความวุ่นวายมากถึงขนาดนี้

 

ปัง—!

 

ในตอนนั้นเอง บ้านหลังหนึ่งท่ามกลางเปลวเพลิงได้ถล่มลงมา พร้อมกับได้มีร่างๆหนึ่งถูกอัดกระเด็นออกมาเช่นกัน ร่างๆนั้นหมุนเคว้งกลางอากาศก่อนที่จะร่วงลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น

 

แต่เมื่อได้เห็นว่าร่างๆนั้นคือใครเหล่าเล่าบิงต่างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก!

 

เพราะร่างที่ถูกอัดกระเด็นออกมาคือสโมคเกอร์!

 

“แค่ก! แค่ก!”

 

สโมคเกอร์ไอออกมาสองครั้งพร้อมกับบริเวณรอบๆปากที่เต็มไปด้วยรอยเลือด

 

ยิ่งเห็นแบบนั้นเหล่าเล่าบิงก็ยิ่งตื่นตระหนกมากกว่าเดิม

 

“สโมคเกอร์ … ได้รับบาดเจ็บ?”

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าโรจากับสโมคเกอร์ต่อสู้กัน แล้วเจ้าโรจาก็สามารถทำร้ายสโมคเกอร์ได้?”

 

“ไม่ ไม่ ดูนั่นสิ!”

 

ท่ามกลางความโกลาหล เหล่าเล่าบิงคนหนึ่งได้เห็นอะไรบางอย่างในทะเลเพลิง ก่อนที่จะชี้ไปยังจุดที่สโมคเกอร์ถูกอัดกระเด็นออกมา

 

ตรงจุดที่เขาชี้ไปมีร่าง 2 ร่างกำลังเผชิญหน้ากันอยู่

 

ตูม—!

 

ทันใดนั้นเอง ได้มีร่างๆหนึ่งพุ่งออกมาจากเปลวเพลิง โดยที่เขาแทบจะไม่มีเสื้อผ้าติดตัวอยู่เลย เห็นได้ชัดว่าเสื้อของเขาถูกเพลิงเผาไหม้จนแทบไม่มีเหลือ — นี่มันเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างมาก!!

 

และในเวลาเดียวกัน ก็ได้มีร่างๆหนึ่งเดินตามออกมา พร้อมๆกับกำลังควงดาบที่อยู่ในมือของเขา

 

คนแรกที่พุ่งออกมาจากทะเลเพลิงก็คือเหลาจี และไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ตามหลังมาก็คือโรจา

 

หลังจากที่ทั้งสองออกมา สโมคเกอร์ผู้ซึ่งถูกอัดกระเด็นออกมาก็ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะกลายร่างเป็นควันแล้วพุ่งเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง!

 

นี่คือภารกิจต่อสู้กับโจรสลัด! มิใช่เพียงการดวลกันแบบตัวต่อตัว! จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สโมคเกอร์จะเข้าไปช่วยโรจาต่อสู้!

 

อย่างไรก็ตาม

 

เนื่องจากเหลาจีสามารถใช้ฮาคิได้ จึงทำให้ร่างควันของเขาแทบจะไร้ประโยชน์ ในตอนนี้สโมคเกอร์จึงเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาสามคนที่กำลังห้ำหั่นกันอยู่

 

ดังนั้นสโมคเกอร์จึงรับหน้าที่เป็นคนคอยซัพพอร์ตและช่วยก่อกวนเหลาจี ส่วนเรื่องโจมตีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรจา

 

และเนื่องจากการโจมตีของโรจาสามารถทำร้ายเขาได้ ดังนั้นทุกครั้งที่ถูกโรจาโจมตี เหลาจีจึงพยายามหลบหลีก และสโมคเกอร์ก็จะอาศัยจังหวะนั้นโจมตีสวนไป!

 

เหลาจีซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งของเขาออกมาอย่างเต็มที่และอัดสโมคเกอร์ลอยกระเด็นไปหลายครั้ง

 

ส่วนทางด้านสโมคเกอร์ก็ทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆออกมา — นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงความอ่อนแอของตัวเองนับตั้งแต่เข้ามายังค่ายชั้นยอด!!