GOS ตอนที่ 21 – เฉือนนภา

 

เมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไร เขาจึงเริ่มต้นฝึกฝน

 

การฝึกของโรจาในครั้งนี้ก็ง่ายๆ เขาใช้มือทั้งสองข้างกระชับดาบ ให้ดูเหมือนกับว่ากำลังจะตวัดดาบออกไป เพียงแต่เขาไม่ได้ทำแค่นั้นเอง — จากนั้นโรจาก็พยายามเข้าสู่สภาวะจดจ่อ


ในตอนแรกโรจาคิดว่ากว่าที่จะควบคุมสภาวะนี้ได้ คงใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน แต่สิ่งที่โรจาไม่คาดคิดเลยก็คือจิตของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก!

 

เขาใช้เวลาเพียง 3 วันก็สามารถเข้าสู่สภาวะจดจ่อได้อย่างอิสระ!

ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา การ์ปปล่อยให้โรจาฝึกฝนด้วยตัวเอง และไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการฝึกฝน ดูเหมือนว่าการ์ปจะรู้แล้วว่า โรจานั้นเลือกที่จะมุ่งฝึกฝน เส้นทางแห่งดาบ ซึ่งไม่ใช่เส้นทางที่เขาเคยก้าวเดิน การ์ปจึงปล่อยให้โรจาฝึกฝนอย่างอิสระด้วยตัวเอง



ดวงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า

 

ณ ลานฝึก  โรจากระชับโฮโนะสึกิด้วยมือทั้งสองข้าง และกวัดแกว่งมันอยู่ตลอดเวลา แต่ทุกๆการกวัดแกว่งของเขา จะปลดปล่อย ‘คมมีด’ ที่เกิดจากอากาศอัดแน่นของอากาศ ขึ้นด้วยทุกครั้ง

นี่คือขั้นแรกของวิชาดาบที่เรียกว่า โทบุ ซันเกคิ (เฉือนนภา)*

 

*โทบุ ซันเกคิเป็นชื่อเรียก ภาษาญี่ปุ่น ส่วนภาษาจีนจะใช้คำว่า เจี้ยนฉี หรือปราณดาบ/ปราณกระบี่ นั่นเอง — วิชานี้เกิดจากการตวัดดาบอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้อากาศบริเวณที่ถูกดาบฟันเกิดการบีบอัด จนกลายเป็นคมดาบสายลม

 

**โทบุ ซันเกคิ ไม่ได้แปลตรงๆว่า เฉือนนภา แต่ก็ใกล้เคียง และผู้แปลชอบคำนี้ เพราะฉะนั้น ขอใช้คำว่า เฉือนนภา

แม้ว่าร่างกายของโรจาจะเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ลำคอแห้งผาก แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงกระจ่างใสราวกับธารน้ำ


ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าโรจาจะประสบความสำเร็จในการควบคุมสภาวะจดจ่อแล้ว! เขาสามารถใช้มันได้ในทุกสถานการณ์!

 

หลังจากที่กวัดแกว่งดาบอีกสองสามครั้ง โรจาก็หยุด

“ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถเข้าถึงและคงสภาพสภาวะจดจ่อได้ตามที่ฉันต้องการ”

 

โรจาจ้องมองโฮโนะสึกิที่อยู่ตรงหน้าเขา แสงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าสาดลงมายังใบดาบทำให้เกิดประกายระยิบระยับสะท้อนเข้ามาในดวงตาของเขา — โรจามองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“วิชาสภาวะจดจ่อกับวิชาเฉือนนภา ดูเหมือนว่าจะคล้ายกัน แต่ความจริงแล้วมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”

หลังจากที่จ้องมองโฮโนะสึกิอยู่นาน โรจาก็ได้สติ ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมา ดวงตาของเขาเป็นประกายก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่สภาวะจดจ่ออีกครั้ง


โรจากระชับโฮโนะสึกิด้วยมือข้างขวา ก่อนที่เขาจะหันหน้าเข้าหากำแพงที่อยู่ด้านหลัง

 

วูซ วูซ วูซ—!

 

เงียบ …

แต่แทบจะในทันทีหลังจากนั้น กำแพงตรงหน้าโรจาก็เต็มไปด้วยรอยยาวที่เกิดจากดาบมากมายนับไม่ถ้วน

ตูม–!

 

ในวินาทีต่อมากำแพงตรงหน้าก็พังลง กลายเป็นเพียงเศษหินก้อนเล็กๆมากมายกระจัดกระจายอยู่ในลานฝึก

 

ต้องรู้นะว่า ศูนย์ใหญ่กองทัพเรือมารีนฟอร์ดนั้น ไม่ได้ใช้เพียงหินธรรมดาในการก่อสร้าง แต่! แต่มันเป็นหินที่หายากและมีค่ามากๆ — มันเป็นหินที่แข็งยิ่งกว่าเพชร และสามารถต้านทานกระสุนปืนได้ .. ชื่อของมันก็คือหินไคโร*

 

*หินไคโร(ไคโรเซกิ คือ หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ ดร.เวก้าพั้งค์ ตัวหินจะมีพลังแห่งน้ำทะเลอัดแน่นอยู่ จึงกลายเป็นอาวุธคู่ปรับของพวกที่กินผลปีศาจเข้าไป หินไคโรถูกนำมาดัดแปลงเป็นหลายๆอย่าง เช่นอาวุธพลองของสโมคเกอร์ หรือกุญแจมือที่ใช้กับเอสในตอนเกิดสงครามครั้งใหญ่ที่มารีนฟอร์ด และแม้แต่กรงขังในอิมเพลดาวน์ นอกจากนี้ยังมีการนำหินไคโรไปติดไว้ใต้ท้องเรือเพื่อเป็นการซ่อนตัวจากจ้าวแห่งท้องทะเลอีกด้วย!)

แต่หินไคโรที่แข็งยิ่งกว่าเพชรกลับถูกดาบของโรจาตัดมันขาดเป็นชิ้นๆราวกับตัดเต้าหู้!

แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เปนเพราะความคมของโฮโนะสึกิที่เป็นถึงหนึ่งใน นิได คิเท็ตสึ หรือ 21 ดาบชั้นยอด! อย่างไรก็ตามการที่โรจาสามารถทำแบบนี้ได้ก็เป็นเพราะเขาบรรลุการเข้าสู่สภาวะจดจ่อ!

โรจาสามารถตัดหินไคโรที่คนธรรมดาไม่สามารถตัดมันได้! ต่อให้พวกเขาใช้ดาบที่ดีที่สุดในโลกก็ตาม!!

 

หากคราวนี้โรจาได้เผชิญหน้ากับลิงยักษ์หลังสีน้ำตาลอีกครั้ง เขาจะสามารถทะลวงพลังป้องกันของมันได้อย่างง่ายดาย

 

โรจาจ้องมองไปยังกำแพงที่ถูกหั่นจนเป็นชิ้นๆ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะปรากฏรอยยิ้มที่ดูพึงพอใจออกมา จากนั้นเขาก็ค่อยๆเก็บโฮโนะสึกิเข้าไปในฝัก

ในตอนนั้นเอง เสียงๆหนึ่งก็ได้ดังขึ้น


“เกิดอะไรขึ้น?”

การ์ปที่กำลังหลับอยู่ ได้ยินเสียงแปลกๆเกิดขึ้นในลานฝึก เขาจึงเดินเข้ามาดู อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นภาพตรงหน้า ความง่วงของเขาก็พลันหายไปในพริบตา

การ์ปจ้องมองด้วยความตกตะลึง ไปยัง ‘อดีต’ กำแพงซึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นเศษหินจำนวนมาก ก่อนที่จะจ้องมองไปยังโรจาที่พึ่งเก็บโฮโนะสึกิเข้าไปในฝัก

 

“โรรรรร จาาาาา!! นี่แกทำบ้าอะไร???”

“แค่ทดสอบดาบ”

โรจาในตอนนี้สามารถเข้าถึงสภาวะจดจ่อได้อย่างสมบูรณ์ เขาอยู่ในอารมณ์ที่ดีมากๆ จึงหันไปยิ้มให้การ์ปพร้อมกับตอบคำถาม

 

“ทดสอบดาบ!!!”

 

การ์ปจ้องมองโรจาอย่างโง่งม หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ก่อนที่จะกล่าวอีกครั้งว่า

 

“ทำไมต้องฟันกำแพงเพื่อทดสอบดาบด้วย? ทำไมไม่ไปฟันอย่างอื่นเพื่อทดสอบ?”

“เพราะอยากทำยังไงล่ะ”

 

โรจากล่าวด้วยท่าทีจริงจัง

 

ฟุฟฟฟฟฟฟ

 

การ์ปเกือบจะกระอักเลือดออกมา เขาโงนเงนจนเกือบจะล้มลง เพราะคำที่โรจากล่าวนั้น เป็นคำที่เขามักจะใช้บ่อยๆ เวลามีคนมาถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาก็มักจะตอบกลับไปว่า

 

“เพราะอยากทำยังไงล่ะ”

การ์ปไม่คิดว่าโรจาจะตอบเขากลับมาแบบนี้ โดยการยืมคำพูดของเขามาใช้

 

“ลุงการ์ป ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับห้องก่อนนะ”

 

โรจาโบกมือบ๊ายบายการ์ป ก่อนที่จะกระโดดไปยังหน้าต่างชั้นสองของตัวบ้าน แล้วเข้าไปข้างในทันที

 

ปัง—!

 

ตามมาด้วยเสียงปิดหน้าต่าง …

 

ปล่อยให้การ์ปยืนอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวคนเดียวในลานฝึก

ผ่านไปสักพัก การ์ปก็ก้มหน้าลงก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“เจ้าเด็กเหลือขอนั่น เรียนรู้อะไรผิดๆไปจากฉันซะแล้ว … แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรจะทำลายกำแพงบ้านตัวเองนะ — ทำไมไม่ไปทดสอบดาบกับกำแพงบ้านคนอื่น!”

 

แม้ว่าการ์ปจะไม่ได้ตะโกนออกมา แต่โรจาที่อยู่บนชั้นสองก็สามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน

 

ฟุฟฟฟฟฟฟฟ

 

โรจาที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลักทันที

 

ในตอนแรกโรจานึกว่าการ์ปจะโกรธเขาที่ทำลายกำแพง แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าการ์ปจะพูดแบบนั้นออกมา

 

‘ให้ไปทดสอบกับกำแพงบ้านคนอื่น … เขาคิดแบบนี้ได้อย่างไร?!’

“ตอนนี้ฉันสามารถควบคุมสภาวะจดจ่อได้อย่างอิสระแล้ว การฝึกขั้นต่อไปคือการควบคุมเฉือนนภา!”

 

โรจาพึมพำออกมา แต่ในตอนนั้นเอง ความคิดวูบหนึ่งได้โผล่ขึ้นมาในหัวของเขา — โรจาพึ่งนึกออกว่าสามวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้เข้าไปดูหน้าต่างสถานะเลย!

 

สามวันที่ผ่านมาเขามัวแต่ ฝึกฝนเพื่อที่จะสามารถเข้าใจและควบคุมสภาวะมุ่งเน้น จนลืมดูหน้าต่างสถานะ ดังนั้นในวันนี้เมื่อเขานึกขึ้นได้ เขาจึงเปิดหน้าต่างสถานะขึ้นมาทันที

 

“ถึงแม้ฉันจะฝึกฝนแต่ สภาวะจดจ่อ และไม่ได้ฝึกฝนพละกำลังร่างกายเลย แต่อย่างน้อยก็ควรที่จะได้รับแต้มสเตมิน่ามาบ้าง”

 

โรจาจ้องมองไปยังหน้าต่างสถานะ

 

ขั้นสอง : จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณ + 7

 

สถานะ: พลังโจมตี +80 , พละกำลัง +22

 

สกิลพิเศษ :  บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)

 

สเตมิน่า : 146/80

 

ช่วงบนของหน้าต่างสถานะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่เมื่อโรจาเห็นช่วงล่างของหน้าต่างสถานะ เขาถึงกับสำลักน้ำอีกรอบทันที!

 

แต้มสเตมิน่าไม่เพียงแค่เต็มเท่านั้น แต่มันยังมากเกินกว่าขีดจำกัดถึง 66 แต้ม!!

 

WTF???

 

ท่ามกลางความประหลาดใจ โรจารู้สึกราวกับว่าเขาตาฝาด!

 

ช่วงสามวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ฝึกฝนพละกำลังร่างกายเลย โรจาจึงคิดว่าเขาคงจะได้รับแต้มสเตมิน่าเพียงน้อยนิดเท่านั้น — เขาไม่คาดคิดว่าจะได้รับแต้มสเตมิน่ามากมายขนาดนี้!

 

โรจาจ้องมองไปยังแต้มสเตมิน่า ก่อนที่เขาจะค่อยๆคิดและสรุปความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้น

 

“ฉันเข้าใจแล้ว … มันน่าจะเกิดจากการที่ …”

 

ก่อนหน้านี้เขาเคยคาดเดาว่าการต่อสู้จริง จะช่วยเพิ่มค่าสเตมิน่าสูงยิ่งกว่าการฝึกฝน เนื่องจากการต่อสู้จริงมีค่าเท่ากับการสัมผัสศักยภาพแฝงในร่างกาย

 

แต่สามวันที่ผ่านมาเขาสามารถควบคุมสภาวะจดจ่อ ได้อย่างสมบูรณ์ หรือว่านี่ก็นับว่าเป็นการสัมผัสถึงศักยภาพแฝงด้วย?

 

นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ค่าสเตมิน่าเพิ่มขึ้น

 

“ถ้าคิดแบบนี้ก็พอจะอธิบายเรื่องราวทุกอย่างได้”