GOS ตอนที่ 113 – โดฟลามิงโก้

ในเขตทะเลนอร์ทบลู

 

เรือหลักของกลุ่มโจรสลัดดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ กำลังแล่นอยู่บนท้องทะเล

 

ขณะนี้ บนดาดฟ้าเรือ มีเก้าอี้หลายตัวได้ถูกจัดวางไว้รอบโต๊ะ — โดฟลามิงโก้กำลังนั่งอยู่อย่างสงบ พร้อมกับยกแก้วไวน์ในมือขึ้นมาจิบ

 

“ไม่ใช่แค่โค่นไดอาเมนเต้ลงได้เท่านั้น แต่มันยังเป็นคนๆเดียวกับที่โค่นเหลาจีลงอีกด้วย?”

 

แม้น้ำเสียงและท่าทีของโดฟลามิงโก้จะยังคงดูสงบ แต่บรรยากาศรอบตัวกลับของเขาในขณะนี้กลับให้ความรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างหนักหน่วง จนแม้แต่ท้องฟ้าเบื้องบนก็ยังพลันเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

 

ลูกเรือโจรสลัดธรรมดาที่อยู่รอบๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้กับกลุ่มผู้บริหารของดองกี้โฮเต้ที่นั่งอยู่รายล้อมรอบโต๊ะ พร้อมๆกับเหงื่อเย็นเยียบที่ผุดขึ้นมาเต็มหลัง

 

บรรยากาศกดดันเริ่มจะหนักหน่วง และหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

 

เปรี๊ยะ–!

 

จู่ๆแรงกดดันดังกล่าวก็ปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลัน จนแก้วไวน์ในมือของโดฟลามิงโก้เริ่มปรากฏรอยแตกร้าว พร้อมกับไวน์ในแก้วที่ซึมออกมาจากรอยดังกล่าว … มันค่อยๆไหลย้อยลงมาจนย้อมมือของเขาเป็นสีแดงฉานราวกับมือของปีศาจร้าย

 

“ดอฟฟี่ ..”

 

เทรโบลที่นั่งอยู่ข้างๆโดฟลามิงโก้ได้เอ่ยขึ้น ขณะนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน ซึ่งปกติมันก็ดูน่าเกลียดอยู่แล้ว ทำให้ในเวลานี้ยิ่งดูน่าเกลียดเข้าไปใหญ่

 

คนที่ยังกล้าเอ่ยปากต่อหน้าโดฟลามิงโก้ในขณะนี้มีเพียงแค่เขาและพิก้าเท่านั้น

 

ผู้บริหารระดับสูงของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ มีทั้งหมดสี่คน ได้แก่

 

เทรโบล พิก้า ไดอาเมนเต้ และเวอร์โก้ที่แฝงตัวเข้าไปในกองทัพเรือ พวกเขาทั้งสี่นั้นจะเรียกโดฟลามิงโก้ว่าดอฟฟี่ แตกต่างจากลูกเรือโจรสลัดคนอื่นๆที่จะต้องเรียกเขาด้วยชื่อเต็มว่าโดฟลามิงโก้

 

พวกเขาทั้งสี่และโดฟลามิงโก้นั้น แตกต่างจากโจรสลัดกลุ่มอื่นๆที่มีสถานะเป็น กัปตัน และลูกเรือ แต่พวกเขามีสถานะเปรียบเสมือนครอบครัว และหนึ่งในนั้นยังเป็นคนมอบผลปีศาจให้โดฟลามิงโก้ จนเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาลอีกด้วย … ดังนั้นสายสัมพันธ์ของพวกเขาจึงแตกต่างจากโจรสลัดกลุ่มอื่นๆ

 

โดฟลามิงโก้นั้นมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งญาติสนิท และไม่มีใครคอยอยู่ดูแลเขา ดังนั้นสี่ผู้บริหารระดับสูงจึงได้รับการปฏิบัติเสมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา ไม่ใช่แค่เพียงไดอาเมนเต้ แม้แต่เทรโบลและคนอื่นๆก็เช่นกัน

 

“มังกี้ D โรจา ..”

 

โดฟลามิงโก้ลุกขึ้น ก่อนที่จะเหลือบลงมาดูมือที่ถูกย้อมไปด้วยไวน์ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า

 

“ญาติของวีรบุรุษการ์ป … ดูเหมือนว่าฉันจะทำเป็นเมินเฉยเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ฉันไม่คาดคิดเลยว่าตัวตนแบบนั้นจะปรากฏตัวขึ้นที่เขตทะเลเวสต์บลู …”

 

น้ำเสียงของโดฟลามิงโก้ที่เอ่ยออกมานั้นแฝงไปด้วยความชั่วร้ายและเจตนาฆ่า ถึงแม้ว่าเขาจะกล่าวถึงการ์ป แต่ท่าทีของเขาก็ไม่เผยให้เห็นถึงความรู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

 

‘ฉันคนนี้คือใคร?’

 

‘ฉันคือผู้ที่มีฮาคิราชันย์และมีคุณสมบัติที่จะเป็นราชันของเหล่าโจรสลัด!’

 

‘ไม่เพียงเท่านั้น ครั้งหนึ่งฉันยังเคยเป็นถึงคนของเผ่ามังกรฟ้า! ซึ่งมีฐานะสูงสุดในโลกใบนี้!!’

 

สำหรับโดฟลามิงโก้แล้ว เบื้องหลังของโรจาที่เป็นเพียงแค่ญาติของวีรบุรุษการ์ปแทบจะไร้ความหมาย เมื่อเทียบกับเบื้องหลังของเขาซึ่งเป็นถึงอดีตคนของเผ่ามังกรฟ้า! .. แล้วทำไมเขาจะต้องหวาดกลัวจนหัวหดด้วยเล่า? ไม่! มันไม่มีทางจะเป็นแบบนั้น!​

 

“ฟุฟุฟุฟุฟุฟุ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงเหลืออยู่ทางเดียวเท่านั้น … ”

 

 

ณ ฐานสาขาที่ 1 เขตทะเลเวสต์บลู

 

ในขณะนี้

 

ไดอาเมนเต้ได้ถูกคุมขังอยู่ในคุก พร้อมกับถูกสวมกุญแจมือที่ทำจากหินไคโร เลือดที่ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลของเขาตอนนี้แห้งสนิทแล้ว เวลานี้ ไดอาเมนเต้กำลังนอนอยู่ในมุมๆหนึ่งของห้องพลางแหงนหน้าจ้องมองไปยังเพดานเบื้องบนอย่างสงบ ก่อนที่จะพึมพำออกมาว่า

 

“มันยังไม่จบแค่นี้หรอก …”

 

มันเป็นเสียงที่เปล่งออกมาอย่างแผ่วเบา แผ่วเบาจนไม่มีใครภายในคุกได้ยินเสียงของเขา

 

อาณาเขตภายใต้การดูแลของฐานสาขาที่ 1 ในเวลานี้มีเพียงเสียงหวีดหวิวจากลมทะเล และไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่และทหารเรือทั้งหมดในสาขาที่ 1 จึงมารวมตัวกันภายในฐาน

 

เมื่อโรจากลับมา เขาก็ตรงไปยังสนามฝึกซ้อมและไม่มีใครได้รับอนุญาติให้เข้าไป มีเพียงเวลารับประทานอาหารเท่านั้นที่โรจาจะเดินออกมา

 

และในช่วงที่โรจาอยู่ภายในสนามฝึก เหล่าทหารเรือก็มักจะได้ยินเสียงดังสนั่นราวกับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังออกมาเป็นระยะๆ

 

แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลจากสนามฝึก แต่ก็ยังสามารถได้ยินเสียงเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน บางครั้งฐานทัพสาขาที่ 1 ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนเหล่าทหารเรือรู้สึกหวาดกลัวและกังวลว่าโรจาจะเผลอพลั้งมือจนฐานทั้งฐานพังทลายลง

 

ภายใต้ท้องทะเลเขตเวสต์บลูอันเงียบสงบ

 

พวกดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ดูเหมือนว่าจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่มีข่าวคราวใดๆของโดฟลามิงโก้หลุดรอดออกมาอีกเลย .. ราวกับว่าจู่ๆพวกเขาได้หายตัวไปกับสายลมในท้องทะเล

 

ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจมลงสู่ความเงียบอย่างช้าๆ …

 

 

ในที่สุด

 

วันนี้ เรือรบจากทางศูนย์ใหญ่ก็ส่งข่าวมาว่าอีกครึ่งวันพวกเขาจะไปถึงฐานสาขาที่ 1 ในเขตทะเลเวสต์บลู

 

ข่าวนี้ทำให้ผู้คนในฐานต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ราวกับได้ยกหินที่กดทับอยู่บนหน้าอกออกไป และต่างพากันมารวมตัวกันที่ท่าเรือพร้อมกับจ้องมองไปยังท้องทะเล

 

พวกเขากำลังเฝ้ารอคอย

 

ขณะนั้นเอง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จู่ๆก็ได้มีเงาดำๆปรากฏขึ้นจากระยะไกล

 

และเงาดำๆที่ว่านั้น ก็กำลังมุ่งตรงมายังฐานสาขาที่ 1

 

ทันใดนั้น เมื่อทหารเรือบางคนในฐานเห็นว่าเงาดำๆนั้นคืออะไร พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความรู้สึกอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประหลาดใจ งุนงง หรือแม้แต่ตกตะลึง

 

เพราะ

 

เงาๆนั้นไม่ได้ลอยอยู่บนทะเล แต่มันกำลังลอยอยูู่บนท้องฟ้า!

 

เมื่อเงาๆนั้นค่อยๆใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่ยยๆ จนเผยให้เห็นรูปร่างที่ชัดเจนของมัน พวกเขาก็พบว่ามันไม่ใช่นก … แต่เป็นคน!

 

ทุกคนที่มารวมตัวกันที่ท่าเรือรวมไปถึงพลเรือตรีไทกะที่พึ่งมาถึง สีหน้าของพวกเขาก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกและหวาดกลัวสุดขีด!

 

“ชิบหายแล้ว ..”

 

เหงื่อเย็นเยียบไหลพรากลงมาจากแผ่นหลัง แม้แต่หัวใจของพวกเขาก็จมลงสู่ความว่างเปล่า

 

นั่นเขา!?

 

เป็นเขาจริงๆ! คนที่ทุกคนในฐานสาขาที่ 1 ไม่อยากให้ปรากฏตัวมากที่สุด ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วในเขตทะเลเวสต์บลู ณ ที่แห่งนี้! ในเวลานี้!

 

ร่างๆนั้นกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า ไม่สิ! ต้องบอกว่ากำลังโหนอยู่บนท้องฟ้าต่างหาก! โหนอยู่บนท้องฟ้าโดยใช้บางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เกี่ยวกับก้อนเมฆและกำลังมุ่งตรงมาทางนี้ … ยิ่งร่างของชายคนนั้นเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ บรรยากาศโดยรอบก็พลันมืดมัวมากยิ่งขึ้นเท่านั้น!!

 

แม้ว่าจะมาเพียงลำพัง แต่การมาถึงของเขาทำให้ทุกคนที่อยู่ในท่าเรือสาขาที่ 1 เขตเวสต์บลูรู้สึกราวกับเกิดอาเพศ และถูกกดดันอย่างหนัก!

 

“ฟุฟุฟุฟุฟุ คนของฉัน … ไดอาเมนเต้ยังอยู่ที่นี่ และสบายดีรึเปล่า?”

 

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายได้ดังขึ้น จนทำให้เหล่าทหารเรือรู้สึกสั่นสะท้านราวกับกำลังถูกยมทูตจากนรกกวักมือเรียก

 

ทันใดนั้นเอง

 

ร่างๆนั้นก็ได้กระโดดลงมาจากท้องฟ้า พร้อมๆกับร่อนลงบนท่าเรืออย่างนิ่มนวล ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มของเขาช่างดูน่าขนลุก หากเด็กมาเห็นในตอนกลางคืนก็คงที่จะเก็บเอาไปฝันร้าย!

 

ร่างดังกล่าวเหลือบปมองทหารเรือที่อยู่รอบๆด้วยความเย้ยหยัน!

 

ตัวตนของร่างที่พึ่งปรากฏตัวขึ้นมาไม่มีผู้ใดไม่รู้จักเขา!

 

โดฟลามิงโก้แห่งดองกี้โฮเต้แฟมิลี่!

 

ทั้งๆที่เรือรบที่ถูกส่งตรงมาจากมารีนฟอร์ดกำลังจะมาถึงในอีกแค่ครึ่งวันแท้ๆ!

 

แต่ … โดฟลามิงโก้ดันมาถึงก่อนพวกเขา!!!

 

แม้ว่าโดฟลามิงโก้จะไม่ได้ใช้ฮาคิราชันย์หรือปลดปล่อยจิตคุกคามใดๆออกมา แต่การปรากฏตัวของเขาก็ทำให้เหล่าทหารเรืออดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย พร้อมกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

 

วันนี้

 

แม้แต่ทหารเรือที่มียศต่ำสุดในฐานสาขาที่ 1 เขตเวสต์บลูก็ยังรู้ถึงค่าหัวของโดฟลามิงโก้และเคยได้ยินเรื่องราวอันน่าสยดสยองที่พวกดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ได้เคยทำไว้

 

ค่าหัว340ล้านเบรี่ สำหรับพวกเขา มันให้ความรู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับต้นไม้ขนาดยักษ์!

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าโดฟลามิงโก้จะมาจริงๆ นอกจากนี้ยังมาก่อนเวลาที่เรือรบจากกองทัพเรือจะมาถึงอีกด้วย!

 

แม้ว่าเขาจะมาเพียงลำพัง แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ฐานทัพแห่งนี้ตกลงสู่ภัยพิบัติ!!

 

ความแข็งแกร่งอันน่าสยดสยองของโดฟลามิงโก้ … พวกเขาจะต่อต้านมันได้อย่างไร?

 

เพียงแค่การมาถึงของตัวตนที่มีค่าหัวถึง 340 ล้านเบรี่ ทหารเรือที่อยู่ที่นี่ก็รู้สึกราวกับว่าได้พ่ายแพ้ไปแล้ว พวกเขาได้สูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้จนหมดสิ้น … ภายในฐานของพวกเขานั้นมีแต่ทหารเรือที่อ่อนแอ เมื่อเผชิญหน้ากับโดฟลามิงโก้ .. เพียงแค่อีกฝ่ายพลิกฝ่ามือพวกเขาก็พ่ายแพ้และกลายเป็นศพแล้ว!

 

กว่าเรือรบจากศูนย์ใหญ่จะมาถึงก็อีกครึ่งวัน

 

สำหรับโดฟลามิงโก้ เวลาเพียงครึ่งวันก็มากพอที่จะฆ่าพวกเขาทุกคน และกวาดล้างฐานสาขาที่ 1 ทั้งฐาน!

 

ในเวลานี้ภายในจิตใจของทุกคนต่างบังเกิดร่างๆหนึ่งขึ้นในจิตใจ

 

นั่นคือร่างของโรจา

 

ดูเหมือนว่าหนทางเดียวที่จะทำให้ฐานสาขาที่ 1 รอดพ้นจากภัยพิบัติ ก็คือการที่โรจาสามารถ ‘ถ่วงเวลา’ ไว้ให้ได้ถึงครึ่งวัน จนกว่าเรือรบจากทางศูนย์ใหญ่จะมาถึง

 

แต่ …

 

ครึ่งวันนั้นที่ว่าก็นับเป็นเวลาหลายชั่วโมง .. นั่นจึงทำให้พวกเขาต่างพากันรู้สึกสิ้นหวัง!

 

 

ตึก … ตึก … ตึก …

 

ทุกคนในท่าเรือต่างพากันก้าวถอยหลัง

 

รวมไปถึงหัวหน้าสาขาพลเรือตรีไทกะ ที่ในตอนนี้เหงื่อเย็นเยียบไหลพรากเต็มหน้าผาก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวตนอันน่าหวาดหวั่นของโดฟลามิงโก้ แม้แต่เขาซึ่งเป็นหัวหน้าสาขาก็ยังไม่อาจจิตใจให้สงบได้!

 

โดฟลามิงโก้เหลือบไปยังเหล่าทหารเรือที่กำลังก้าวถอยหลัง ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มที่ดูมีชีวิตชีวาแต่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“ไม่มีใครคิดจะตอบคำถามของฉันเลยอย่างนั้นหรือ?”

 

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายดังสะท้อนออกไปทั่วบริเวณ และในเวลาเดียวกันเขาก็ขยับนิ้วเล็กน้อย

 

แม้มันเป็นเพียงการขยับนิ้วธรรมดาๆ แต่ทันใดนั้นเอง บรรยากาศบริเวณท่าเรือก็แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! กลายป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่พลุ้งพล่านออกมาอย่างฉับพลัน!

 

นอกจากเจตนาฆ่าอันน่าสยดสยองแล้ว ยังมีด้ายที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าโผล่มามาจากนิ้วของโดฟลามิงโก้อีกด้วย

 

เส้ยด้ายที่แข็งแกร่ง แหลมคม และทนทานยิ่งกว่าเหล็กได้โผล่ออกมา ก่อนที่จะถูกวาดออกไปเป็นแนวนอน!

 

เส้นด้ายถูกกวาดออกไปอย่างรุนแรงราวกับว่ามันต้องการที่จะสะบั้นสวรรค์และโลกให้แยกออกจากกัน!

 

แม้เหล่าทหารเรือรวมไปถึงพลเรือตรีไทกะจะไม่สามารถมองเห็นเส้นด้ายดังกล่าวได้ แต่ในเวลานี้หัวใจของพวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังจะหยุดเต้น ม่านตาของพวกเขาหดแคบลงอย่างรุนแรง ซึ่งมันเป็นความรู้สึกในช่วงพริบตาก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงความตาย!

 

ใช่แล้ว .. สำหรับพวกเขานี่คือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย!

 

อย่างไรก็ตามด้ายที่มองไม่เห็นจู่ๆก็หยุดเคลื่อนไหว ราวกับว่ามันถูกอะไรบางอย่างขวางทางมันไว้

 

ดาบ!

 

เป็นดาบเล่มหนึ่งที่หยุดเส้นด้ายมรณะเส้นนี้!

 

รูปร่างของดาบเล่มนั้น มีสีขาวบริสุทธ์ราวกับหิมะ ใบดาบเป็นประกายระยิบระยับเล็กน้อยเมื่อมันสะท้อนกับแสงจากดวงอาทิตย์

 

ดาบเล่มนี้อยู่ในมือของชายผู้ซึ่งสวมเสื้อคลุมที่เบื้องหลังมีตัวอักษรขนาดใหญ่ เขียนว่า ‘ยุติธรรม’ ซึ่งจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันและยืนอยู่ต่อหน้าของโดฟลามิงโก้

 

“คำถามของแก … ฉันจะเป็นคนตอบเอง … !”

 

แม้เจ้าของดาบเล่มนั้นจะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

 

แต่ทุกคำที่เอ่ยออกมากลับแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายสังหาร!!