GOS ตอนที่ 101 – แรงดันวิญญาณ

 

ฮาคิราชันย์นั้นแตกต่างจากฮาคิเกราะและฮาคิสังเกตุ มันไม่ใช่ฮาคิที่นึกจะฝึกก็จะสามารถฝึกได้ แต่เป็นพลังที่แฝงอยู่ในร่างกายมาตั้งแต่เกิด กล่าวคือผู้ที่มีพลังนี้คือผู้ที่ถูกเลือกโดยสวรรค์(ธรรมชาติ) และในแกรนไลน์ คนที่ครอบครองฮาคินี้จะถูกเรียกว่ามีคุณสมบัติแห่งราชันย์

 

คนที่ทรงพลังนั้นไม่ได้หมายความว่าจะมีฮาคิราชันย์เสมอไป แต่หากผู้ใดก็ตามครอบครองฮาคิราชันย์ คนผู้นั้นจะถูกเรียกว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและมีศักยภาพสูงสุด!

 

ฮาคิราชันย์นั้นแตกต่างกับพละกำลังอย่างสิ้นเชิง

 

เพราะผู้ที่ใช้ฮาคิราชันย์ไม่จำเป็นที่จะต้องสัมผัสร่างกายของศัตรูโดยตรง แต่กลับสามารถทำให้ศัตรูนิ่งค้าง(สตั้น)ไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรืออาจจะทำให้พวกมันสลบไปเลยก็ได้ และหากสามารถใช้พลังของฮาคิราชันย์ได้ถึงระดับหนึ่ง เหมือนดั่งเช่น แชงคูสผมแดง ที่เป็นสี่จักรพรรดิ เพียงแค่ปลดปล่อยฮาคิราชันย์ออกไปก็สามารถทำให้เรือของอีกฝ่ายสั่นสะเทือนจนแตกร้าวได้!

 

วิซ–!

 

หลังจากฮาคิราชันย์ได้ระเบิดออกไป โรจาก็กระโจนขึ้นไปบนผืนดินเบื้องบนจากท่องช่องเพดานที่ถล่มลงมา

 

บนท้องถนน โดยรอบเต็มไปด้วยร่างของผู้คน พวกเขาต่างล้มลง และไม่มีใครสามารถลุกขึ้นยืนได้ พวกเขาต่างสูญเสียจิตสำนึกไปครู่หนึ่งและกำลังตกอยู่ในอาการโคม่า

 

“การปลดปล่อยฮาคิราชันย์ … พลังอำนาจของมันนั้นไม่เหมือนกับการปลดปล่อยแรงกดดัน”

 

ดวงตาของโรจาเป็นประกายเผยให้เห็นถึงความตระหนักรู้ เกี่ยวกับฮาคิราชันย์ที่เขาพึ่งใช้ไป

 

จิตวิญญาณของโรจานั้นแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาเป็นอย่างมาก และบางทีมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าทุกคนในโลกวันพีช สำหรับพลังของฮาคิราชันย์นี้ โรจารู้สึกว่ามันแตกต่างออกไปจากสิ่งที่เรียกว่า

 

แรงกดดัน

 

หากจะอธิบายให้เข้าใจก็คือ ฮาคิราชันย์นั้นเป็นพลังที่ออกมาจากจิตวิญญาณ! ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนนั้นจะมีจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งจนสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้! ส่วนแรงกดดันนั้นเป็นเพียงแค่พลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นบุคคลที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถปลดปล่อยมันออกมาได้

 

แต่นั่นก็ทำได้เพียงแค่กดดันเหล่าผู้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับเขาให้รู้สึกกระวนกระวายและไม่อาจสงบใจก็เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม การปลดปล่อยแรงกดดันก็ยังคงห่างไกลจากการที่สามารถทำให้ผู้คนสิ้นสติเพราะฉะนั้นฮาคิราชันย์ไม่ใช่การปลดปล่อยแรงกดดัน แต่มันคือการโจมตีทางจิตวิญญาณ!

 

ในโลกวันพีช เรียกพลังนี้ว่าฮาคิราชันย์ อย่างไรก็ตามในมุมองของโรจา พลังนี้บางทีอาจจะเรียกได้ว่ามันคือ แรงดันวิญญาณ! (จากในมังงะบลีช)

 

แรงดันวิญญาณคือความหนาแน่นของจิตวิญญาณ นอกจากนี้มันยังแสดงถึงความแข็งแกร่งในโลกของเทพมรณะ(บลีช) ส่วนในโลกนินจานารุโตะจะเรียกสิ่งนี้ว่าจักกระ และในโลกวันพีชของเหล่าโจรสลัดจะเรียกสิ่งนี้ว่าฮาคิ นั่นเอง

 

(ที่กล่าวถึงจากประโยคข้างบนก็เนื่องมาจาก เป็นการบอกกลายๆว่าพระเอกจะท่องไปสามโลก วันพีช  นารุโตะ และบลีช)

 

ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของโรจานั้นมีสกิล(วิชาดาบ)อยู่ 2 สกิล และมันมาจากดาบฟันวิญญาณในโลกของบลีช ซึ่งเมื่อก่อนโรจาเคยคิดว่ามันสูบพละกำลังร่างกายมหาศาลในการใช้งาน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่!

 

แท้จริงแล้วสกิลทั้งสองนั้นไม่ได้สูบพละกำลังร่างกายในการใช้งาน แต่มันสูบ ‘แรงดันวิญญาณ’ ในการใช้งานต่างหาก!

 

ซึ่งตลอดมาเหตุผลที่ร่างกายของโรจารู้สึกเหนื่อยล้านั้นไม่ใช่เพราะว่าสกิลทั้งสองสูบพละกำลังร่างกายของเขา อาจกล่าวได้ว่าการใช้งานมันนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพละกำลังร่างกาย .. แต่มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับแรงดันวิญญาณ! หรือก็คือการที่จะใช้งานมันจำเป็นต้องมีแรงดันวิญญาณมากพอในการปลดปล่อยนั่นเอง

 

“นี่ทุกคนบนเกาะหมดสติกันหมดเลยอย่างงั้นหรอเนี่ย?”

 

โรจากระโดดขึ้นไปบนอากาศ ก่อนที่จะเหลือบมองไปรอบๆ แล้วพบร่างของผู้คนนับไม่ถ้วนที่ล้มระเนระนาดอยู่บนพื้น

 

ฮาคิราชันย์ของโรจานั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เพียงแค่ระดับเล็กๆ เพราะเมื่อมันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา พลังของมันก็มากพอที่จะกระจายออกไปทั่วทั้งเกาะ!

 

“ถ้าฮาคิราชันย์นั้นผันแปรกับระดับความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณ หรือที่เรียกกันว่าแรงดันวิญญาณแล้วล่ะก็ .. ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนในโลกวันพีชถึงไม่สามารถฝึกฝนฮาคิราชันย์ได้ เพราะผู้คนที่จะฝึกเพิ่มแรงดันวิญญาณได้นั้น มีเพียงผู้คนจากโลกของบลีชเท่านั้น!”

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันนั้นมีระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ ซึ่งสามารถใช้สกิลจากโลกของบลีชได้ … หรืออีกความหมายนึงก็คือ ฉันสามารถฝึกฝนเพื่อเพิ่มพูนแรงดันวิญญาณได้นั่นเอง!”

 

โรจาค่อยๆหลับตาลงและพยายามที่จะตระหนักรู้ถึงพลังอำนาจที่พึ่งได้รับมาอย่างระมัดระวังก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

ก่อนที่จะหน้าต่างสถานะจะพลันปรากฏขึ้น

 

ขั้นสาม :จิตวิญญาณดาบแห่งความรอบรู้ +10

 

สถานะ: พลังโจมตี +300, พละกำลัง +100, ว่องไว +100

 

สกิลพิเศษ :  บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ [คำปลดปล่อย] – จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)

 

สกิลพิเศษ : เก็ทสึงะ เท็นโช (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์) — เมื่อใช้สกิลนี้ จะเกิดคลื่นพลังเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฟาดฟันดาบออกไป

 

สเตมิน่า: 510/220

 

เมื่อโรจาเห็นแต้มสเตมิน่าที่จู่ๆก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาล ในตอนแรกเขาถึงกับตกตะลึง และนึกว่าตนเองตาฝาดไป แต่เมื่อลองยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆแล้วเพ่งมองดู เขาก็พบว่าเขาไม่ได้อ่านผิด แต่แต้มสเตมิน่ามันเพิ่มขึ้นจนถึง510 จริงๆ!

 

“หรือว่า .. จะเป็นเพราะฉันได้ปลุกฮาคิราชันย์ให้ตื่นขึ้นมา?”

 

ใบหน้าของโรจาอดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความรู้สึกประหลาดใจ นี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน!

 

หลังจากที่จมลงสู่ห้วงความคิด

 

ไม่นานนักโรจาก็ได้ข้อสรุปว่าแต้มสเตมิน่านั้นบางทีอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับพลังทางจิตวิญญาณ หรืออีกความหมายนึงก็คือมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับแรงดันวิญญาณนั่นเอง

 

“การวิวัฒนาการขั้นต่อไปไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม  ..”

 

โรจาจ้องมองหน้าต่างสถานะ เมื่อเห็นว่าการวิวัฒนาการเป็นขั้นสี่ก็เหมือนกับขั้นสาม มันไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ และสามารถวิวัฒนาการได้เลย ไม่เหมือนกับในตอนวิวัฒนาการไปเป็นขั้นสอง

 

บางทีเวลานั้นโรจาอาจจะยังไม่ได้เข้าสู่เส้นทางแห่งดาบ ดังนั้นเมื่อได้โฮโนะสึกิมาไว้ในครอบครองเขาจึงสามารถปลดล็อคเงื่อนไขในการวิวัฒนาการได้

 

แม้แต่ในเวลานี้โรจาก็ยังรู้สึกว่าการวิวัฒนาการไปยังขั้นห้าเพื่อปลดล็อค ชิไค ริวจินจักกะนั้นก็ยังไม่มีเงื่อนไข และในที่สุดก็โรจาก็เข้าใจว่าทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงรู้สึกว่าแต้มสเตมิน่านั้นเพิ่มขึ้นช้าลง

 

นั่นก็เพราะระบบจิตวิญญาณแห่งดาบกำลังพยายามปกป้องเขา! เพราะหากเขารีบวิวัฒนาการเร็วเกินไปทั้งๆที่ยังมี ‘แรงดันวิญญาณ’ ต่ำอยู่แล้วล่ะก็ ..ร่างกายของเขาคงไม่สามารถทนรองรับพลังของริวจินจักกะได้!

 

และหากใช้มันในการต่อสู้ เขานี่แหละที่จะเป็นคนตายเสียเองเนื่องจากถูกสูบแรงดันวิญญาณออกไปจนหมด แทนที่จะเป็นศัตรูของเขา!

 

โรจาจ้องมองไปยังหน้าต่างสถานะ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก แววตาของเขาเป็นประกายและไม่ลังเลใจเลยที่จะกดเลือกวิวัฒนาการไปเป็นขั้นที่สี่!

 

ฟุ้ม–!

 

และแทบจะในทันทีแสงสว่างสีทองก็สว่างวาบขึ้นในพื้นที่ของระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ มันสว่างไสวระยิบระยับไปทั่วจนโรจาไม่อาจมองเห็นสิ่งใดๆได้เลย

 

ทันใดนั้นประกายระยิบระยับก็เริ่มหมุนวนอยู่ตรงกลางพื้นที่ ก่อนที่จะหมุนวนเร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเริ่มหลั่งไหลเข้าไปในดาบที่ล่องลอยอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

ฟุ้ม–!

 

ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าแปลกประหลาดขึ้น แสงสีทองค่อยๆจางหายไปก่อนที่จะเผยให้เห็นสิ่งที่โรจาไม่เคยเห็นในพื้นที่ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขามาก่อน!

 

ไม่มีดาบเล่มไหนเลยในความทรงจำของเขาที่สามารถเทียบได้กับดาบที่กำลังล่องลอยอยู่ตรงหน้า! ราวกับว่าดาบที่ล่องลอยอยู่ในพื้นที่จิตวิญญาณเล่มนี้ กลายเป็นดาบจริงๆ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงภาพลวงตาเหมือนกับเล่มก่อนๆ!

 

แม้กระทั่งดาบขาวฮิรุในมือของเขาที่สมบูรณ์แบบจนถูกเรียกว่า 12 ดาบชั้นเลิศ ก็ยังดูด้อยกว่าดาบที่ล่องลอยอยู่ในพื้นที่ของระบบจิตวิญญาณของเขาเล่มนี้!