2/4

 

Ep.886 – วีรบุรุษหนุ่ม

 

เลเวล S เผ่ามังกรตนนี้ ไม่นึกฝันเลย ว่าทิศทางที่มันมุ่งหน้ามา จะเป็นตำแหน่งที่ฉินเฟิงกับไป๋หลีหลบหนีออกมาตั้งหลัก

 

ฉินเฟิงพอออกจากมิติลับ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเผ่ามังกรกำลังตรงมาทางนี้ พาลคิดไปว่าศัตรูจะบุกเข้ามาสังหารตน

 

“คิดฆ่าฉัน ราคาที่แกต้องจ่าย คือชีวิต!” ฉินเฟิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่ภายใต้น้ำเสียงเรียบสงบนี้ ลึกลงไปเป็นทะเลลาวาที่พร้อมปะทุทุกเมื่อ มันอัดแน่นไปด้วยความโกรธ!

 

“ตาย!”

 

ฉินเฟิงวูบไหวเป็นเงา ปรี่เข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วสูง โดยมิได้ปลดปล่อยทักษะหมื่นภูติออกมา

 

ฉินเฟิงเคลื่อนไหวว่องไว ร่างเงาพร่ามัวเลือนลาง หลังจากก้าวขึ้นสู่เลเวล A ทั้งพละกำลัง , ความเร็ว ทั้งหมดเพิ่มพูดขึ้นเป็นอย่างมาก ยิ่งถูกสนับสนุนด้วยอาวุะเทวะอย่างมีดกษัตริย์คราม ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง

 

ณ ขณะนี้ฉินเฟิงเคลื่อนไหวดั่งภูติผี นี่แหละคือวิถีแห่งการลอบสังหารอย่างแท้จริง!

 

แต่ทางฝั่งเลเวล S เผ่ามังกร อีกฝ่ายตระหนักได้ถึงเงาร่างของฉินเฟิงแล้ว มันทิ้งน้ำหนักตัวเอี้ยวหลบไปด้านข้างในคราวเดียว สามารถหลีกเลี่ยงคมมีดไม่ให้กระทบจุดสำคัญ

 

ฟัฟฟฟ!

 

แขนอันทรงพลัง สะท้อนไปด้วยเกล็ดมังกรปลิวไปในอากาศ เลือดทะลักกระเซ็นเต็มฟ้า ถูกสะบั้นโดยฉินเฟิง

 

เผ่ามังกรเลเวล S แม้สามารถเลี่ยงการโจมตีร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ แต่เมื่อถึงจุดนี้ ระยะห่างระหว่างทั้งสอง ถือว่าใกล้กันมาก!

 

“อ๊ากกก!! สารเลว! ไปลงนรกซะ!” เผ่ามังกรโกรธสุดขีด ด้วยระยะประชิดเช่นนี้ มันตระหนักดีว่าฉินเฟิงอาจใช้กระบวนท่าสังหารถึงตายได้อีกครั้ง ขณะเดียวกัน แม้ตัวมันจะแขนขาดข้างหนึ่ง ยังไงก็ต้องสังหารฉินเฟิงให้จงได้

 

กรงเล็บแหลมตรงเข้าคว้าฉินเฟิงทันที อำนาจเลเวล S ระเบิดออก ปกคลุมพื้นที่รอบกายฉินเฟิง ตรึงเขาให้ชะงักอยู่ในตำแหน่งนั้น

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

สีหน้าของอาวุโสตระกูลหลงแปรเปลี่ยนทันใด ในความเป็นจริงแล้ว เขาหวังว่าฉินเฟิงจะไม่เสนอหน้าออกมาในเวลานี้ เพราะด้วยสถานะผู้ใช้พลังเลเวล B แต่กลับสามารถสังหารเลเวล S ได้ คนผู้นี้ย่อมมีอนาคตไร้ขีดจำกีด คนหนุ่มสาวเช่นนี้ ไม่สมควรตกตายที่นี่

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ผู้ใช้พลังคนอื่นๆ ทุกคนต่างรู้สึกหัวใจบีบรัด เฝ้ามองทั้งสองที่ต่อสู้กันกลางอากาศ พวกเขาทั้งหลายทราบดี ว่าเหตุผลที่ฉินเฟิงปรากฏตัวออกมา เพราะต้องการหยุดเผ่ามังกรเลเวล S มิให้เข่นฆ่ามนุษย์

 

กระนั้น การก้าวออกมาขัดขวางเช่นนี้ ก็ถือเป็นการโยนชีวิตตัวเองไปตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน

 

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงได้กลายเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา หรือมากยิ่งกว่า ฉินเฟิงได้กลายเป็นวีรบุรุษในใจพวกเขา!

 

อย่างไรก็ตาม วีรบุรุษหนุ่มที่ว่า กำลังจะตาย!

 

แต่ในเวลานั้นเอง ผู้คนที่กำลังวิตกกังวล การแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขาพลันแข็งค้างไป จากนั้น ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสับสน จากสับสนไปประหลาดใจ และจากประหลาดใจไปไม่อยากจะเชื่อ

 

ฉินเฟิงแม้ถูกกดดันโดยอำนาจของเผ่ามังกรเลเวล S มิได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย เพราะอำนาจที่โถมทับเข้ามา มันก็เป็นแค่พลังงาน ในขณะที่กำลังภายในก็คือพลังงานรูปแบบหนึ่ง ฉินเฟิงลองเทียบดูแล้ว ก็ตัดสินได้ทันที ว่ากำลังภายในของเขา เมื่อเทียบกับพลังงานของเผ่ามังกรแล้ว เป็นฝ่ายตนที่เยอะกว่าหลายเท่า!

 

ในเมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ งั้นก็คงไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดหลบเลี่ยงหรอกกระมัง?

 

“ฆ่า!!”

 

ฉินเฟิงคำรามเกรี้ยวกราด มีดกษัตริย์ครามในมือเขาตัดสังหารออกไป

 

แสนจิตวิญญาณปะทุออกมา

 

กรงเล็บแหลมคมของอีกฝ่าย ถูกการโจมตีของฉินเฟิงฟาดใส่ แหลกเป็นผงในพริบตา

 

ยังไม่พอ อานุภาพของวิญญาณแสนตน ยังคงถาโถมไปข้างหน้า

 

กระบวนท่าสังหารของฉินเฟิง เผยโฉมอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม กระบวนท่านี้เคยถูกใช้ออกมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเผ่ามังกรเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า เมื่อเห็นแสนวิญญาณพรั่งพรู มังกรอ้าปากใหญ่ขึ้นทันใด พ่นรังสีแสงออกมา ชั่ววินาทีต่อมา ร่างนั้นเอี้ยวหลบทันใด พร้อมกระโจนเข้าข้างกายฉินเฟิง ตระเตรียมสังหาร

 

ความว่องไวของเลเวล S มันรวดเร็วเกินไป!

 

เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล B ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเผ่ามังกรตนนี้ได้เลย

 

ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

 

หรืออาจพูดได้ว่า เป็นการรับรู้ที่สามารถ ‘มองเห็น’ อย่างชัดเจนก็ได้

 

“ทักษะหมื่นภูติ!”

 

ฉินเฟิงเข้าในซ่อนตัวท่ามกลางเงาร่างนับพันหมื่น ภายในเงาอัดแน่นไปด้วยอบิลิตี้มืด อัดฉีดไปด้วยกำลังภายใน ทุกเงากระโจนเข้าสกัดกั้นเผ่ามังกรชนิดหัวชนฝา

 

สถานการณ์ในสนามรบ พลิกผันทันใด

 

ทุกคนที่เฝ้ามอง ยามนี้อ้าปากค้าง ไม่นึกฝันว่าภาพตรงหน้าเป็นเรื่องจริง

 

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง ฉินเฟิงคนนี้ สามารถต่อกรกับเลเวล S ได้?”

 

“จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ฉินเฟิงดูเหมือนจะเหนือกว่า ไปเลยฉินเฟิง!”

 

“ฆ่ามัน! ล้างแค้นให้พวกเรา!!!”

 

ทหารรักษาการณ์โห่ร้องคำราม คนอื่นๆต่างกำหมัดแน่น พุ่งสมาธิทั้งหมดไปยังสนามรบของฉินเฟิง แม้ยากที่จะเชื่อ แต่ในใจของพวกเขา ปรารถนาสุดแสนให้ผู้ชนะเป็นฉินเฟิง

 

และมิใช่การชนะในรูปแบบลอบสังหาร แต่เป็นการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามตรงๆ

 

เวลานี้ อาวุโสตระกูลหลงไล่ตามมาทันในที่สุด ทั้งสองผนึกกำลังกัน เผ่ามังกรเดิมได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เมื่อถูกโจมตีบ่อยครั้งเข้าก็ทนไม่ไหว

 

“อย่า!!”

 

เผ่ามังกรอาละวาดคลั่ง มันไม่อยากตายแบบนี้ ทั้งยังเกิดจิตพยาบาท คิดสังหารมนุษย์รอบๆที่กำลังรับชมสภาพน่าสมเพชของมัน หรือไม่ก็ตรงเข้าไปจับเป็นตัวประกัน

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง แสงสีเงินสว่างไสว กักขังเผ่ามังกรไว้ภายในพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส

 

“เทคนิคเขตแดนมิติ : มิติล่มสลาย!”

 

ไป๋หลีชี้นิ้ว เขตแดนมิติทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จู่ๆก็ยุบตัวลงในคราเดียว

 

ตูม!

 

มุมหนึ่งของมิติจัตุรัส เกิดการระเบิดขึ้น ตัวตนทรงอำนาจเผ่ามังกรหนีออกมาจากข้างใน แต่สภาพของมันในตอนนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่ว่าส่วนใดล้วนอาบไปด้วยเลือด

 

เมื่อถูกผนึกกำลังโจมตีถึง 3 คน มันหมดแรงสู้แล้ว!

 

วูซซซ!

 

เงาร่างดั่งภูติผีไร้กลิ่นอายปรากฏขึ้นอีกครั้ง จะเป็นใครอื่นไปได้อีก หากไม่ใช่ฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงกรีดมีดกษัตริย์ครามตัดผ่านร่างเผ่ามังกร หลังจากเขาลอยห่างออกมาราวๆ 20 – 30 เมตร กายกำยำของเผ่ามังกร จู่ๆก็แยกออกเป็นสองซีกทันใด ร่วงหล่นลงจากฟ้า

 

ชั่วเวลาราวกับหยุดนิ่งชั่วขณะ แต่สิ่งที่ตามมาติดๆ คือเสียงโห่ร้องยินดีของผู้คนจำนวนมาก

 

ทว่าเสียงไชโยนี้ ไม่กี่วินาทีก็ถูกกลบกลืนโดยแรงสั่นสะเทือนอันรุนแรง

 

การสั่นสะเทือนดังกล่าว แท้จริงแล้วคือการสั่นสะเทือนของชั้นพลังงาน

 

“รีบไปช่วยทางฝั่งนู้นเร็ว!” อาวุโสตระกูลหลงกระตุ้นเตือนทันที ตอนนี้ เขามิได้มองฉินเฟิงเป็นแค่ลูกรักของพระเจ้าอีกต่อไป แต่มองในฐานะเดียวกันกับผู้ใช้พลังเลเวล S เป็นชายที่สามารถเชื่อถือ เป็นพันธมิตรร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันได้

 

“ไป๋หลี พาฉันไปที!” ฉินเฟิงเอ่ยคำหนึ่ง ไป๋หลีปรากฏกายขึ้นต่อหน้าฉินเฟิง จากนั้นพาเขาเทเลพอร์ตออกไป

 

ชั่วพริบตาเดียว ฉินเฟิงก็ได้พบกับเผ่ามังกรเลเวล S

 

อย่างไรก็ตาม เผ่ามังกรตัวนี้ มิใช่ตัวที่สั่นสะเทือนโล่พลังงาน แต่มันคือตัวอ่อนที่สุด ที่เคยสู้กับหวันชิชาง

ก่อนหน้านี้หวันชิชางได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันเมื่อทั้งสองสู้กัน กำลังรบเลยค่อนข้างเท่าเทียม หวันชิชางสามารถหยุดฝ่ายตรงข้ามจากการหลบหนีได้ แต่ไม่สามารถสังหารได้

 

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฉินเฟิงไป๋หลี สร้างความตื่นตกใจแก่เผ่ามังกร ทว่าทั้งสองมีความแข็งแกร่งอยู่เพียงเลเวล A เท่านั้น ความตื่นตระหนกของเผ่ามังกรตนนี้ผ่อนคลายลงทันที ขณะเดียวกัน ความโกรธเริ่มเข้ามาแทนที่

 

“มีความแข็งแกร่งแค่นี้ยังกล้าเข้ามา ข้าจะทำให้สมหวัง ส่งพวกเจ้าไปลงนรกเอง!”

 

ก่อนหน้านี้ มังกรตนนี้ถูกกระหน่ำยิงจนล่าถอยออกไป มันเลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉินเฟิงเป็นคนสังหารสหายตน เพราะเมื่อรีบกลับมาตอนนั้นทุกอย่างก็จบลงแล้ว

 

อีกอย่างในสมรภูมิ ระหว่างสู้รบ มันไม่มีใครหรอกที่มัวเสียเวลาสำรวจใบหน้าของศัตรู เผ่ามังกรเพียงใช้การรับรู้เท่านั้น และฉินเฟิงเวลานี้มิใช่คนเดิม! ความแข็งแกร่งของเจ้าตัวต่างออกไปจากสิ้นเชิง

 

ปัจจุบันเขามีความแข็งแกร่งเลเวล A ระดับเทวะ ร่วมกับการสนับสนุนของดาราทั้งเก้าดวง ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ทรงพลังขึ้นเป็นอย่างมาก

 

“แสนสับสังหาร!”

 

ดารากำลังภายในสว่างวาบ ดาวทั้งเก้าดวงโคจรอย่างบ้าคลั่ง อัดฉีดกำลังภายในแก่เหล่าวิญญาณ พวกมันโห่ร้องหวีดหวิว เคลื่อนกองทัพเข้าหาฝ่ายตรงข้าม

 

“ว๊ากกกก!” แม้จดจำหน้าตาไม่ได้ แต่เผ่ามังกรจดจำกระบวนท่านี้ของฉินเฟิงได้เป็นอย่างดี ทันทีที่วิญญาณสัตว์ร้ายโผล่ออกมา มันจึงปรารถนาที่จะหันหลังและวิ่งหนีไป

 

แต่ตอนนี้เมื่อมีไป๋หลีกับหวันชิชางคอยสกัดกั้น บวกกับการปิดล้อมเป็นสามทิศทางของฉินเฟิง ตัวมันจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างไร?

 

วินาทีถัดมา ร่างเผ่ามังกรเริ่มถูกวิญญาณกัดกิน ราวกับตุ๊กตาที่แหลกสลาย ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

 

“ไปเถอะ”

 

ฉินเฟิงไม่เสียเวลารั้งอยู่แม้เพียงครู่ เร่งไป๋หลีให้พาออกจากที่นี่ทันที

 

–ยังเหลือเผ่ามังกรอีกสามตัว!