1/4

 

Ep.885 – ลงมืออีกครั้ง

 

ด้วยพลังงานจากผลึกโลหิต น่ากลัวว่าหากฉินเฟิงยังคงอยู่ในเลเวล B ร่างกายเขาคงตอบรับพลังของมันไม่ไหว ตัวของฉินเฟิงอาจบวมเป่ง กลายเป็นคนอ้วนฉุเนื่องจากเกิดการพองของเซล์ และสุดท้ายระเบิดตัวแตกเหมือนลูกโป่ง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะในปัจจุบันนี้ เขาได้ยกระดับขึ้นเป็นเลเวล A แล้ว เซลล์บนร่างกายของเลยสามารถจุพลังงานได้มากขึ้น

 

ดั่งสัตว์ยักษ์ตะกละตะกลาม ฉินเฟิงกลืนกินพลังงานอย่างต่อเนื่อง กลิ่นอายของเขา เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งขึ้นอีกระลอก

 

มันคือกลิ่นอายที่ผู้คนต้องโค้งคำนับ กลิ่นอายของเทพเจ้าเล็ดลอดออกมาจากร่างของฉินเฟิง

 

พลังงานอันทรงประสิทธิภาพ ชะล้างสิ่งสกปรกที่อยู่บนตัวเขามลายหายไปทันที เปลี่ยนให้ทั้งร่างเขา มีออร่าเปล่งประกายออกมา!

 

ผิวของฉินเฟิงละเอียดละออมากขึ้น ใบหน้าคมคาย ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ทุกองศาล้วนสมบูรณ์แบบ

 

นี่มิใช่หมายความว่าฉินเฟิงจะกลายเป็นหญิง แต่มันคือความองอาจในฐานะชายชาตรี สุขุม และเปี่ยมไปด้วยความสง่างาม

 

ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเกิดใหม่ ทุกคนล้วนไม่เคยพบเคยเห็นฉินเฟิงในสภาวะแบบนี้มาก่อน แต่ตอนหลังผ่านการชำระล้าง เขากลับกลายเป็นสภาพนี้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม

 

ฉินเฟิงยังไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา ผลึกโลหิตที่อยู่ในมือถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขายกระดับจนมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับสัตว์เทวะ

 

ฉินเฟิงลืมตาขึ้น ประกายแสงสว่างวาบในดวงตาเขา แม้ยังไม่ได้ส่องกระจก แต่ฉินเฟิงรู้สึกได้ ว่ากลิ่นอายของเขาแข็งแกร่งกว่าเดิมมากนัก

 

ความรู้สึกของการดำรงอยู่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นนี้ แม้จะยังคลุมเครือ แต่กลิ่นอายของกำลังภายในที่เล็ดลอดออกมา กลับดูซับซ้อนเป็นอย่างมาก

 

มองเผินๆ ฉินเฟิงเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล A ทว่าหากมองกลิ่นอายกำลังภายในของเขา มันคือเลเวล S

 

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉินเฟิงต้องการสำแดงให้ใครชม

 

ฉินเฟิงเก็บกลิ่นอายของเขา ดาวเคราะห์มืดเริ่มหมุนวน กลิ่นอายแห่งความมืดอันทรงพลัง ปกคลุมร่างกายของฉินเฟิงอีกครั้ง ผสานไปกับการสวมใส่เกราะทมิฬ ฉินเฟิงสามารถเร้นกายตนได้อีกครั้ง

 

“ทุกอย่างโอเคแล้ว!” ฉินเฟิงเรียกไป๋หลีผ่านพันธสัญญา

 

ไป๋หลีเปิดประตูมิติขึ้นทันใด ฉินเฟิงกระโจนออกมาจากข้างใน

 

เขาใช้เวลาในมิติเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งภายในมิติที่ถูกควบคุมโดยไป๋หลี อัตราการไหลของเวลาคือ 1 : 365 วัน ดังนั้นหลังจากออกมา เวลามันผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ รวมกับระยะเวลาที่ไป๋หลีพาฉินเฟิงหนี ทั้งหมดทั้งมวล เพิ่งผ่านพ้นไปแค่ 1 นาทีเท่านั้น

 

ท่ามกลางสนามรบ สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่รอให้ฉินเฟิงกลับไป หลงถิงก็เกือบสังหารเผ่ามังกรได้อีกหนึ่ง

 

ปัจจุบัน ในสนามรบ เหลือเผ่ามังกรอยู่เพียงห้าตนเท่านั้น

 

แรกเริ่มในตอนที่เผ่ามังกรก้าวเข้ามา มันแสดงออกถึงความภาคภูมิในตัวเองอย่างสูง กระทั่งคิดว่าตนสามารถเหยียบย่ำมิตินี้ได้อย่างอิสระ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ข่าวที่พวกมันได้รับมา ผู้แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือเลเวล S และพบเจอตัวได้ยากมาก แต่ไม่คาดฝันเลย ว่าแค่พวกมันมาถึงก็มีเลเวล S มารอต้อนรับกว่า 5 คนแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้พลังเลเวล B แปลกๆ ที่สามารถสังหารพรรคพวกของมันได้ในกระบวนท่าเดียวอีก

 

เอาจริงๆเลยนะ ถ้าเผ่ามังกรเลือกเปิดประตูมิติลงในตำแหน่งอื่น ตำแหน่งใดก็ได้ในมิติของฉินเฟิง แผนการของพวกมัน อย่างไรย่อมสำเร็จ

 

แต่น่าเสียดาย ที่พวกมันดันบุกมายังหัวเซี่ย ใจกลางเมืองหลวงมังกร ตำแหน่งที่ซึ่งตลอดทั้งมิติ มีการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งรวมตัวกันมากที่สุด

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่ามีตัวแปรสำคัญอยู่ที่นี่!

 

มิใช่ใครอื่น เป็นฉินเฟิง!

 

ปรากฏการผีเสื้อขยับปีกที่ฉินเฟิงเป็นคนก่อ สร้างความเปลี่ยนแปลงมากเกินไป เกรงว่าหากการรุกรานนี้เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีเขา ไม่แน่ว่าหัวเซี่ยหรือกระทั่งพันธมิตรมนุษยชาติ อาจยอมประนีประนอม กับตัวตนทรงอำนาจต่างมิติ กัดฟันขายมนุษย์ให้แก่พวกมัน

 

แต่ปัจจุบัน สิ่งนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!

 

อย่างน้อยในชีวิตนี้ หากมนุษย์คิดต่อต้านการรุกรานจากต่างมิติ หนึ่งคนที่จะยืนหยัดอยู่เบื้องหน้า

 

คือฉินเฟิง!

 

เผ่ามังกรทั้งห้าตัวที่เหลือ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงถิงและคนอื่นๆอีกแล้ว หากการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป แล้วหลงถิงฆ่าได้อีกตนหนึ่ง เมื่อต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าเจ้าเมืองหลวงมังกรจะโค่นพวกมันลงได้ทีละตน ทีละตน

 

“โฮกกกก!”

 

เผ่ามังกรคำรามดุร้าย แต่ครั้งนี้เป็นเสียงแปลกๆ เห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นภาษาของชาวเผ่ามังกร สิ้นเสียงนี้ สมาชิกเผ่ามังกรทั้งห้า พลันชักฝีเท้ากลับ ก่อนแยกย้ายกระจายกันออกเป็นห้าทิศทาง

 

คาดว่าพวกมันต้องการหลบหนี

 

หลงถิงตะโกนขึ้นทันใด “อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้! ทุกคนจงช่วยกันปิดกั้นชั้นสิบของเมืองหลวงมังกร ต่อให้ต้องสู้นองเลือดก็ห้ามถอย จงยื้อพวกมันเอาไว้!”

 

หากปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ จะเกิดอะไรขึ้น คงไม่มีใครสามารถบอกได้

 

ในความเป็นจริงแล้ว แม้ไม่มีเผ่ามังกรพวกนี้ แต่ในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็จะมีเผ่าพันธุ์อื่นๆบุกมาอีกอยู่ดี ดังนั้นหลงถิงรู้แจ้งแก่ใจ ว่าเธอต้องไม่พลาดโอกาสกำจัดภัยอันตรายนี้

 

ดังนั้น ต่อให้วันนี้ต้องนองเลือด เธอก็ยอม

 

สิ้นคำประกาศของหลงถิง ชั้นโปร่งใสพลันผุดขึ้นอีกครั้ง เหรียญพลังงานถูกดึงเข้าสู่ระบบกลาง ก่อสร้างโล่พลังงานที่แข็งแกร่งทนทานอย่างยากจะหาที่เปรียบ ปิดกั้นทั้งชั้นสิบของเมืองหลวงมังกร

 

ยังไงก็ตาม เผ่ามังกรยังไม่ทราบข้อมูลนี้ พวกมันสลัดผู้ใช้พลังเลเวล S ที่ตามมาข้างหลัง พยายามวิ่งหลบหนีออกไปข้างนอก

 

“หยุดพวกเขาไว้! ต่อให้เลือดเจิ่งนองเป็นสายก็ห้ามถอย!”

 

กองทัพทหารรักษาการณ์ จัดตั้งขบวนเป็นทิวแถว พากันยกปืนพลังงานขึ้นมาบนไหล่

 

ปืนพลังงานเหล่านี้ล้ำยุคมาก และประเด็นคือมีตราของกลุ่มเฟิงหลีติดไว้อยู่ด้วย คาดว่านี่คืออาวุธปืนที่ทรงพลังที่สุด เมืองหลวงมังกรช่างมั่งคั่งร่ำรวยสมดั่งเป็นเมืองหลวง กองทัพ ทุกคนถึงได้รับการจัดสรรอาวุธพวกนี้

 

“ยิงได้!”

 

หัวหน้ากองทหารรักษาการณ์เอ่ยสั่ง ลำแสงพลังงานถูกยิงออกไป เส้นแสงพลังงานนับไม่ถ้วนกลบกลืนผืนฟ้า ยามแหงนมองดูคล้ายตาข่ายขนาดใหญ่ ปิดเส้นทางเผ่ามังกรที่กำลังคิดหลบหนี

 

เผ่ามังกรตนหนึ่งถูกโจมตีจนกระเด็ดถอยหลังกลับมา แต่สุดท้ายสามารถหยุดฝีเท้าเอาไว้ได้

 

อาวุโสตระกูลหลงที่จากเบื้องหลัง เริ่มไล่ตามใกล้เข้ามาติดๆ

 

ทว่าเผ่ามังกรน่ะรวดเร็วมาก เมื่อตั้งหลักได้ สุดท้ายสามารถสลัดหลุดอาวุโสตระกูลหลงได้อีกครั้ง

 

อีกทั้งมันยังจดจำได้ ว่าผู้ใดที่ทำร้ายตน ปัจจุบันคนเหล่านั้นอยู่บนดาดฟ้าของอาคารสูง

 

“ตายซะ!”

 

เผ่ามังกรฟาดตบด้วยฝ่ามือเดียว ทันใดนั้นพลังงานมหาศาลพลันก่อตัวเป็นกรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ ตะปบเข้าใส่อาคารสูง 20 ชั้น

 

ตูมมมม!

 

อาคารสูงถล่มลงมาทันที เศษหินเศษปูนแหลกเป็นเสี่ยงๆ และภายใต้กระบวนท่ากรงเล็บนี้ มีทหารรักษาการณ์ในเลเวล A B โดนจับได้กันหลายคน

 

โผล๊ะ! คนที่อยู่ข้างในกรงเล็บถูกบีบคั้นให้เสียงเหมือนกระเทาะไข่ไก่ กลายเป็นเลือดสดสีแดงฉาน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ”

 

เผ่ามังกรหัวเราะเสียงดัง จากนั้น ร่างของมันวูบไหวดั่งสายฟ้าฟาด บุกเข้าหากองทหารรักษาการณ์ที่คอยสกัดกั้นไม่ให้หลุดออกไป

 

และกองทหารรักษาการณ์ จะสามารถหยุดยั้งตัวตนทรงอำนาจเลเวล S ได้อย่างไร เมื่อถูกจับได้ พวกเขาล้วนถูกบีบเป็นก้อนเนื้อเละเหลวทันที

 

“เดรัจฉาน หยุดมือเดี๋ยวนี้!”

 

อาวุโสตระกูลหลงคำราม ปรากฏร่องรอยของความโกรธแค้นและโศกสลดในแววตาเขา ภายใต้การต่อสู้นองเลือดเช่นนี้ ผู้ใช้พลังเลเวล A B สามารถตกตายได้ทุกเมื่อ

 

ตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา เป็นเผ่ามังกรที่ถูกกระสุนพลังงานลอบโจมตี คราวนี้พวกมันเลยเอาคืนบ้าง

 

เผ่ามังกรเสมือนหมาป่ากระโจนเข้าฝูงแกะ เปิดเผยเขี้ยวเล็บของมัน

 

“ยอดเยี่ยม! นี่ต่างหากคือสถานการณ์รบที่ควรจะเป็น ข้าจักสังหารพวกเจ้าให้หมด!”

 

เผ่ามังกรหัวเราะสะใจ การต่อสู้ก่อนหน้านี้มันรู้สึกอึดอัดมาก ถูกกดดันจนเกินไป เวลานี้ได้สังหารซะบ้าง ค่อยบรรเทาความตึงเครียดลง

 

และยิ่งได้เป็นอาวุโสตระกูลหลงโกรธ เผ่ามังกรก็ยิ่งสดชื่นสะใจ

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ณ ภายในอาคารเบื้องหลังเผ่ามังกร ร่างเงาของบุคคลหนึ่งปรากฏขึ้นทันใด

 

ถึงจุดนี้ เกล็ดทั่วทั้งร่างของมังกรลุกชัน คล้ายบังเกิดลางสังหรณ์อัปมงคลจากในส่วนลึกของจิตใจ

 

มันหันขวับกลับมา และพบเห็นมนุษย์ในชุดเกราะสีดำ

 

และมนุษย์ผู้นี้ คือคนๆเดียวกับที่เพิ่งลอบสังหารหนึ่งในพรรคพวกของตนไป

 

ฉินเฟิงเตรียมลงมือลอบสังหารอีกครั้งแล้ว!