1/5

Ep.771 – ลอบสังหารเลเวล S

เพียงแต่ฟีนิกซ์เพลิงเลือกที่จะปกปิดในเรื่องความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ไม่อธิบายออกมา

เพราะในความคิดของเธอ ฉินเฟิงอย่างไรย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหอเทียนสิง!

เวลานี้ในหัวใจของเหอเทียนสิงคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ

โม่ลี่คือสัตว์ยักษ์มังกร ขณะที่เกาะนรกมีขนาดใหญ่มาก แต่แท้จริงแล้วถ้าให้พูดอย่างรวบยอดสั้นๆ มันถือได้ว่าเป็นเพียงอาณาเขตของโม่ลี่

นั่นหมายความว่าโม่ลี่ยังเหลือที่พักพิงในมิติเผ่าพันธุ์ของตัวเอง

เหอเทียนสิงไล่ตามไป แต่สุดท้ายถูกรุมล้อมโดยมังกรเทวะเลเวล A หลายตัว เขาสัมผัสได้กระทั่งกลิ่นอายของมังกรยักษ์เลเวล S สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายตนที่ต้องหลบหนีอย่างทุลักทุเล เกือบเอาชีวิตไม่รอดในมิตินั้น

หลังจากเขากลับมา ก็เห็นลูกน้องตนกำลังต่อสู้กับเหล่าผู้ใช้พลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและตายไปมาก ยิ่งพอได้ยินคำอธิบายของฟีนิกซ์เพลิง แววตาของเขาก็ยิ่งทอประกายสังหาร!

ฉินเฟิงถูกอีกฝ่ายตรึงสายตา รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันน่าขนลุกส่งตรงเข้ามา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉินเฟิงบังเกิดความรู้สึกเช่นนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ในครั้งที่ตาปีศาจพยายามสังหารเขา

ทว่าในคราวนี้ มันเป็นการเผชิญหน้าแบบตาต่อตา แรงกดดันของเหอเทียนสิงน่าหวาดกลัวไม่แพ้กัน

ฉินเฟิงคิดว่าตนไม่น่าจะทำอะไรให้เหอเทียนสิงขุ่นเคือง แต่ท่ามกลางฉากอันวุ่นวายนี้ เรื่องขุ่นเคืองหรือทำอะไรล่วงเกินคงไม่เกี่ยว อีกฝ่ายคงมีความคิดแค่เพียงเข้าสังหารคนและชิงสมบัติมาเท่านั้น

เหอเทียนสิงเริ่มเคลื่อนไหว

ดาบในมือเขาถูกเขวี้ยงลงจากอากาศ หมุนควงเป็นวงตรงเข้าสับฉินเฟิง

“ทักษะหมื่นภูติ!”

ฉินเฟิงปลดปล่อยวิชาตัวเบาทันที หลบหนีอย่างบ้าคลั่ง

เหอเทียนสิงมองไปยังเงาร่างนับไม่ถ้วนของฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะทุกร่าง ตราตรึงไว้ซึ่งกลิ่นอายของฉินเฟิง ยากจะระบุได้ว่าตัวไหนจริงหรือปลอม

เพียงแต่ว่ากลิ่นอายนี้ หากคิดให้เลเวล  A เกิดความสับสน บอกเลยว่ามันได้ผล แต่หากคิดให้เหอเทียนสิงสับสน ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไรนัก

ดาบขว้างของเหอเทียนสิงหยุดลง สับเปลี่ยนจากหมุนควงแนวตั้งเป็นแนวขนาน ควงกวาดไปทั่ว

ระยะตัดกวาดกว้างไกลถึง 100 เมตร

เงาร่างของฉินเฟิง ทั้งหมดถูกอำนาจทำลายนี้กวาดไปในคราวเดียว

เพล้งงง!

โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงถูกโจมตี แตกเป็นเสี่ยงๆทันที

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์คราม เอี้ยวตัวเผชิญกับการโจมตีที่ใกล้เข้ามา

“กระบวนท่าวรยุทธ : พลุไฟสงคราม!”

เปลวเพลิงทมิฬยาวเป็น 100 เมตรทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ฟาดสวนดาบยักษ์ที่ไล่ตามฉินเฟิง

อาวุธทั้งสองปะทะกัน

กำลังภายในของฉินเฟิงถูกสูบออกไปเป็นจำนวนมหาศาลทันที!

ความแข็งแกร่งของ 10 ทะเลสาบ เทียบเท่ากับ 1 มหาสมทุร , ความแข็งแกร่งของ 10 มหาสมทุร จึงค่อยเทียบเท่ากับความจุกำลังภายในของผู้ใช้พลังเลเวล S

ฉินเฟิงในเวลานี้ กระตุ้นหนึ่งในห้ากำลังภายในจากร่างเขา งัดออกมาเป็น 100 ทะเลสาบกำลังภายใน

โชคดีที่เส้นลมปราณของเขากว้าง มิฉะนั้น คิดปลดปล่อยกำลังภายในมหาศาลเช่นนี้ในคราเดียว คงเป็นไปไม่ได้

อำนาจนี้ สามารถลบล้างอำนาจโจมตีทั้งหมดจากดาบของเหอเทียนสิงได้สำเร็จ

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ตัวมีดกษัตริย์ครามยังไม่หยุดวิ่ง ฟันลงใส่ดาบหนักของเหอเทียนสิง

เคร้งง!

ดาบหนักถูกปัดสะท้อนออกไป

ช่วงเวลานี้ สีหน้าของเหอเทียนสิงกลายเป็นหม่นทะมึน สายตาที่เขาใช้มองฉินเฟิง มิใช่ความหมายว่ากำลังมองมดที่กำลังกัดฟันสู้แต่สุดท้ายก็ต้องตายอีกต่อไป เจ้าตัวระเบิดรังสีสังหารที่ยิ่งกว่าในตอนแรกออกมา

เขาเหยียดมือออกไป คิดเรียกดาบหนักของตนกลับคืน

แต่ในจังหวะนั้นเอง พลันปรากฏรอยแยกดำสนิทโผล่ออกมาจากด้านข้างของดาบหนัก และกลืนมันลงไปอย่างไม่มีใครได้ทันตั้งตัว

–เป็นฝีมือของไป๋หลี!

เธอใช้อักษรรูนมิติ ปล้นอาวุธของเหอเทียนสิง!

เหอเทียนสิงแม้มีความสามารถในการฉีกมิติ แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาสามารถฉีกมิติของไป๋หลีได้

สามารถกล่าวได้ว่า หากเข้าไปในพื้นที่มิติของไป๋หลีแล้ว มันจะไม่มีทางกลับมา!

เฝ้ามองไปยังฉากนี้ เหอเทียนสิงตะลึงเล็กน้อย

ฉินเฟิงเองก็นึกไม่ถึงว่าไป๋หลีจะทำแบบนี้ แต่หลังจากได้สติ ฉินเฟิงนึกออกได้แค่คำเดียว–

–ทำได้ดี!!

ต้องรู้นะว่า เหอเทียนสิงทรงพลังมากก็จริง แต่กระบวนท่าวรยุทธที่มีชื่อเสียงของเขาคือดาบ และถึงขั้นได้สมญาว่าดาบอสูร

ดาบเล่มนี้ แน่นอนว่าเป็นอาวุธเทวะ หลังจากถูกชิงไป ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเหอเทียนสิงย่อมลดลงอย่างน้อยหนึ่งส่วน!

ขณะเดียวกัน เมื่อเขารู้สึกตัว ดั่งภูเขาไฟปะทุออก ความโกรธอันรุนแรงระเบิดออกมา

“คืนดาบของข้ามา! มิฉะนั้น … ” เหอเทียนสิงร้องคำราม

ผู้ใช้พลังเลเวล S จู่ๆก็สูญเสียดาบของตัวเองไปอย่างกะทันหัน หยามกันเช่นนี้ เหอเทียนสิงตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ว่าจักต้องสังหารทั้งสองคนนี้ให้ได้

ร่างของเหอเทียนสิงเขม็งเกร็ง ไล่ตามพวกฉินเฟิง

เหอเทียนสิงในฐานะผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S ย่อมมีวิชาตัวเบาเลเวล S เป็นธรรมดา และมันว่องไวมาก

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้ฉินเฟิงจะวิ่งเร็วแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ยังไม่อาจไวกว่าเหอเทียนสิงไปได้

กำลังภายในของเขา ยังไม่สูงส่งเท่าของเหอเทียนสิง

ระหว่างการไล่ล่า ฉินเฟิงกระทั่งเห็นถึงฉากอันประหลาดตา

เหอเทียนสิงที่กำลังไล่ตามมา กลิ่นอายของอีกฝ่ายทรงพลังมาก กำลังภายในพลุ่งพล่าน ส่งผลให้รอบกายเขา ปรากฏร่างเงาดาบผุดขึ้นในความว่างเปล่า

สภาพของดาบเหล่านี้ แม้ถูกปักอยู่บนพื้นดิน แต่เมื่อเหอเทียนสิงวิ่งผ่านไป ดาบเหล่านั้นจะเคลื่อนตามไปด้วย

ฉินเฟิงสามารถรู้สึกถึงมันได้ แต่เขาไม่อาจใช้พลังสมาธิล็อคเป้ามันได้

“หรือนี่จะเป็นเขตแดนกำลังภายในของเลเวล S ? นี่น่ะหรือคือผลลัพธ์หลังจากยกระดับกำลังภายใน เปลี่ยนสถานะมันเข้าสู่รูปแบบของแข็ง?”

สำหรับเรื่องนี้ฉินเฟิงเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะในชีวิตก่อน ไม่เคยมีเลเวล S คนใดโจมตีเขา

ณ เวลานี้ เขาถึงค่อยได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเลเวล S กับตาตัวเอง

เหอเทียนสิงเหยียดมือออกไป เงาดาบมากมายในความว่างเปล่า ทั้งหมดเริ่มสะกดข่มฉินเฟิง

นี่คือแรงกดดันอย่างแท้จริงที่กำลังจะกลายเป็นการโจมตีขั้นเด็ดขาด!

เมื่อถึงจุดนี้ ไป๋หลีไม่ลังเลเลยทีจะเคลื่อนไหว มิติรอบตัวเธอกลายเป็นพร่ามัว แรงกดดันจากเงาดาบ ทั้งหมดถูกสกัดไว้โดยไป๋หลีอย่างสมบูรณ์

ทว่าอำนาจแรงกดดันที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบให้ตรงขมับของฉินเฟิงผุดไปด้วยรอยเส้นเลือดเส้นเอ็น เขารู้ตระหนักดีว่า เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แน่นอน ไป๋หลีสู้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว เธอคงเหนื่อยไม่น้อย

แต่ในจังหวะนั้นเอง ในหัวใจฉินเฟิงคล้ายมีประกายแสงบางอย่างวาบผ่านเข้ามา เมื่อฉุกคิดได้ก็ทำตามทันที!

ตูม!

บังเกิดเสียงหนักทึบ คั่นกลางระหว่างทั้งสอง ปรากฏโลงศพทมิฬขึ้นอย่างกะทันหัน

และโลงศพ จะสามารถต้านทานแรงกดดันอันน่าสยองขวัญของทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร มันระเบิดออกทันที!

ภายในโลงศพ ปรากฏมนุษย์ร่างหนึ่ง ทว่าร่างนี้ไม่มีลมหายใจแห่งชีวิต แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมายังเป็นเลเวล S

“ไปเลย!”

พลังสมาธิของฉินเฟิงเข้าควบคุมร่างนี้ ทันใดนั้นร่างเลเวล S ผุดลุกขึ้น เทคนิคโอบกอดทมิฬเข้าปกคลุมร่างกายเขา และเนื่องจากยังหลงเหลือเศษเสี้ยวภูมิปัญญาอยู่ ทำให้ร่างนี้ตรงเข้าสังหารเหอเทียนสิงทันที!

นี่คือสิ่งที่ฉินเฟิงได้มาตอนอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เป็นหุ่นเชิดเลเวล S ที่ได้รับมาหลังการสังหารคุนซาร์

ณ เวลานี้ หุ่นเชิดสามารถระเบิดอำนาจของมันออกมา สำแดงออกถึงขีดสุด!

มันสามารถทะลุผ่านเขตแดนกำลังภายในของเลเวล S พรวดเข้าประชิดเหอเทียนสิงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนใช้กริซจ้วงแทงร่างของเหอเทียนสิงทันที

ฉัวะ!

เลือดทะลักออกมา

ดวงตาของเหอเทียนสิงเบิกกว้าง

ช่วงหน้าท้องเขาถูกเจาะเปิดเป็นรูใหญ่

หากไม่ใช่เพราะเหอเทียนสิงรู้สึกถึงอันตรายมาก่อน แล้วหลบเลี่ยงจุดสำคัญได้ทัน เขาคงบาดเจ็บมากกว่านี้

“ตาย!!”

เหอเทียนสิงคำรามด้วยความโกรธ ยกนิ้วขึ้น ชี้ไปทางหุ่นเชิดเลเวล S

ในพริบตาเดียว เงาดาบนับพันหมื่นพลันปรากฏ ตรงเข้าสับเข้าฟัน ทำลายกระดูกหุ่นเชิดตัวนี้ลง!

แต่ช่วงจังหวะที่เสียสมาธิไปนั้นเอง เมื่อกระตุกศีรษะกลับมาอีกที ก็พบว่าตำแหน่งเดิมที่ฉินเฟิงกับไป๋หลีเคยยืนอยู่ มันถูกปกคลุมด้วยรูนมิติแล้ว และวินาทีต่อมา ทั้งสองก็หายวับไปอย่างสิ้นเชิง

“บัดซบบบบ!!!”

เหอเทียนสิงกระอักเลือดด้วยความเดือดดาล เจตน่าฆ่าฟุ้งในแววตาของเขา เจ้าตัวก้าวตรงเข้าไป แต่เมื่อตรวจสอบถึงร่องรอยพิกัดมิติที่ทั้งสองคนทิ้งเอาไว้ ก็ชะงักไปอย่างสมบูรณ์

“เจ็บแสบ .. ทำกันได้เจ็บแสบนัก!” เหอเทียนสิงตวาดคลั่ง หากแต่เขาไม่คิดไล่ล่าอีกต่อไป

เพราะสถานที่ที่ฉินเฟิงและไป๋หลีมุ่งไป เป็นตำแหน่งที่เหอเทียนสิงหวาดกลัวสุดแสน–

–เมืองหลวงมังกร!

เขาไม่สามารถไปที่นั่นได้อีกแล้ว!

“สองคนนั้นเป็นใครกัน รีบตรวจสอบให้ฉัน!” เหอเทียนสิงออกคำสั่ง พลางลดมือลงปาดหน้าท้องของตนเอง พริบตานั้นเลือดเนื้อได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ดูจากภายนอก เหมือนไม่เป็นอันตรายใดๆ

เพียงแต่ว่า เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆน่ะหรือ–

–ใครเล่าจะรู้!?