1/3

Ep.319 – เริ่มสงคราม

ฮังอวี่ตรวจสอบหินสกิล

ก้อนแรกมีชื่อว่า : ‘คอมโบต่อเนื่องฉับไว’

อีกก่อนชื่อว่า : ‘จิตวิญญาณนักสู้’

ทั้งคู่คือหินสกิลขั้น 2 เป็นมรดกของ ‘ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้’

ฮังอวี่ประหลาดใจมาก

สกายเน็ตเข้าใจความต้องการของฮังอวี่อย่างชัดเจน

ถึงกับเตรียมหินสกิลเขาต้องการไว้โดยเฉพาะ

หากเป็นของสิ่งอื่น ฮังอวี่อาจไม่ยอมรับเพราะมันเท่ากับเป็นการรับน้ำใจจากสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง

แต่หินสกิลทั้งสองนี้ไม่เหมือนของชิ้นอื่น พวกมันสามารถช่วยเพิ่มพูนพลังรบของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในช่วงเวลานี้ พวกมันมีค่ามาก กล่าวได้ว่าเป็นเสมือนอาหารที่คว้ามาได้ยามอยู่ท่ามกลางฤดูหนาว

ฮังอวี่ไม่มีเหตุผลที่ต้องเกรงใจ

“หินสกิลทั้งสองนี้มีความจำเป็นต่อผมจริงๆ ต้องขอบคุณผู้บัญชาการเล่ยและสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงมากๆ ถ้ามีพวกมัน ผมมั่นใจว่าจะมีโอกาสชนะมากขึ้น”  ฮังอวี่น้อมรับอย่างไม่ลังเล “ส่วนของอย่างอื่น ผมยังไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษในตอนนี้”

เอาจริงๆ

ของฟรีมีราคาแพงที่สุด

ตอนนี้ความจริงฮังอวี่ต้องการวัสดุบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์หลังจากได้ครอบครองอาณาเขต แต่เขาอยากรวบรวมด้วยตัวเองมากกว่า ไม่ก็ใช้แต้มบุญแลกเปลี่ยนจากแบทเทิลเน็ตเอา

ผู้บัญชาการเล่ยพยักหน้าด้วยความพอใจ “ที่ฉันเรียกนายมาวันนี้ ยังมีอีกเรื่องที่อยากขอร้อง … สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงหวังว่านายจะยอมรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษของเรา”

ฉูเทียนหัวกล่าวเสริมว่า “วางใจได้ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษเป็นแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเข้ามารายงานตัวกับสกายเน็ต และจะไม่ถูกบังคับให้เข้าร่วมในปฏิบัติการ แต่ยังคงมีการจ่ายแต้มบุญรายเดือน และรางวัลเพิ่มเติมเวลามีผลงานโดดเด่น”

ฮังอวี่ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจกับการต้องเข้าร่วมสกายเน็ต

แต่เขาแค่ไม่ชอบถูกผูกมัดด้วยข้อจำกัด

แม้จะมีผลประโยชน์มากมายในระบบอย่างเช่น ความเอนเอียงของทรัพยากร การฝึกฝนเรียนรู้ที่สำคัญ หรือแม้กระทั่งอิทธิพลก็จริง

แต่เมื่อกลายเป็นสมาชิกของกองกำลังอย่างสกายเน็ตแล้ว เขาจะเสียอิสรภาพส่วนใหญ่ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทีมอย่างเป็นทางการ

ข้อกำหนดด้านวินัยสูงเกินไป

หากอยู่ใต้ร่มธงของสกายเน็ต

ฮังอวี่จะไม่สามารถฝึกฝนทีมของตัวเองได้อย่างอิสระ

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีสิทธิ์เลือกหรือปฏิเสธคำสั่งของผู้บัญคับบัญชา เรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหามาก และไม่เหมาะกับนิสัยของฮังอวี่

“ตกลง ถ้าแค่ที่ปรึกษา ผมยอมรับตำแหน่งนี้ได้”

เมื่อเล่ยหยิงกับฉูเทียนหัวเห็นว่าฮังอวี่ไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งคู่พอใจและมีความสุขมาก

ถึงแม้ไม่อาจดึงเขาเข้าร่วมได้อย่างเต็มที่

แต่แค่สามารถทำให้ฮังอวี่ยืนเคียงข้างสกายเน็ตอย่างมั่นคง มันก็ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงได้มากโขแล้ว เอื้อต่อการปกครองและความมั่นคงในอนาคตมาก ซึ่งเท่านี้ก็เกินพอ

ทุกวันนี้มียอดฝีมือมากมายจากทุกสายอาชีพ

อำนาจผูกมัดของรัฐบาลไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่เคยเป็นมา

พวกเขาไม่สามารถคาดหวังให้ทุกอย่างหรือทุกคนอยู่ภายใต้การควบคุมได้  100% ดังเดิม

ความมั่งคง ความปรองดอง คือสิ่งที่รัฐบาลทั่วโลกเป็นกังวลให้ความสำคัญมากที่สุด

ฮังอวี่รั้งอยู่อีกพักหนึ่งเพื่อพบปะกับผู้บริหารสกายเน็ต หลักๆเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ แต่ถ้าให้พูดชัดๆคือแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองให้สมาชิกสกายเน็ตมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับโลกวิญญาณ และรู้ว่าควรทำยังไงต่อไป

เมื่อฮังอวี่กลับมาถึงบ้าน ซูหยุนปิงช่วยหาคัมภีร์สกิลระดับสูงที่สามารถใช้งานได้จริงมาส่งถึงมือเขา ด้านฮังเสี่ยวไป๋ เธอสามารถกลั่นโพชั่นฟื้นฟูระดับกลางได้มากกว่า 200 ขวด สิ่งที่ควรเตรียมตอนนี้พร้อมเกือบหมดแล้ว

เที่ยงคืนตรง

เวลาได้รีเฟรชใหม่

ฮังอวี่เข้าสู่โลกวิญญาณ

สิ่งแรกที่เขาทำก็คือ : เรียนรู้หินสกิลทั้งสองก้อน!

คอมโบต่อเนื่องฉับไวและจิตวิญญาณนักสู้ ทั้งคู่เป็นหินสกิลที่มีประโยชน์มาก

คอมโบต่อเนื่องฉับไวคือการผสมผสานระหว่างสกิลขั้น 1 ‘จู่โจมฉับไว’ และ ‘โจมตีต่อเนื่อง’

เมื่อฮังอวี่เป็นใช้งานคอมโบต่อเนื่องฉับไว สกิลขั้น 1 ทั้งสองจะเข้าสู่สถานะคูลดาวน์

เอฟเฟกต์ของคอมโบต่อเนื่องฉับไวนั้นแข็งแกร่งกว่าเวลาใช้สกิลขั้น 1 ทั้งสองพร้อมกัน

และมันเป็นสกิลต่อเนื่อง

ตราบใดที่เปิดใช้งานคอมโบต่อเนื่องฉับไว

การโจมตีครั้งต่อไปของฮังอวี่ ในแต่ละครั้งจะมีความฉับไวและต่อเนื่อง ตราบใดที่พลังจิตของเขายังไม่หมด เอฟเฟกต์เสริมประสิทธิภาพนี้จะไม่หายไป

ไม่ต้องสงสัยเลย

เจ้าสิ่งนี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้ที่แท้จริงของฮังอวี่ได้เป็นอย่างมาก!

หากเขาอยู่ในสภาวะควงอาวุธคู่ การโจมตีจะรุนแรงดุจพายุ สามารถระเบิดการโจมตีได้อย่างโหดเหี้ยม

อย่างไรก็ตาม

สกิลนี้

ข้อกำหนดในการใช้งานค่อนข้างสูง

ถ้าให้พูดตรงๆก็คือมันต้องใช้พลังจิตเป็นจำนวนมากเพื่อคงสถานะเปิดใช้งานสกิลไว้

ส่วนสกิลที่สอง ‘จิตวิญญาณนักสู้’ เป็นสกิลแบบติดตัว

แต่ละเลเวลสามารถเพิ่มพละกำลัง 1 หน่วยและความว่องไว 2 หน่วยได้อย่างถาวร

หากอัพเลเวลสกิลเต็ม มันจะเพิ่มพละกำลังได้ถึง 3 หน่วยและ ความว่องไว 6 หน่วย

เมื่อสืบทอดมรดกได้ เอฟเฟกต์ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นพละกำลัง 4 ความว่องไว 8 !

แม้จะเป็นสกิลแบบติดตัว แต่ก็มีประโยชน์มาก สกิลใดๆที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติอย่างถาวรนั้นล้วนมีค่า เพราะสุดท้ายแล้ว การเพิ่มค่าคุณสมบัติใดๆมักนำมาซึ่งความสามารถรอบด้านที่เพิ่มขึ้น

การเรียนรู้สกิลทั้งสองต้องใช้แต้มวิญญาณมากกว่า 500 แต้ม

และหากต้องการอัพสกิลทั้งสาม ‘คอมโบต่อเนื่องฉับไว’ ‘จิตวิญญาณนักสู้’ และ ‘ควงอาวุธคู่’ จนเต็มเพื่อสืบทอดมรดก จำเป็นต้องใช้แต้มวิญญาณมากกว่า 2000 แต้ม

ตอนนี้แต้มวิญญาณสะสมในตัวฮังอวี่มีอยู่ที่ราวๆ 1000 แต้ม ดังนั้นยังไม่สามารถสืบทอดมรดกได้ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีอะไรผิดพลาด หลังจบศึกนี้ เขาน่าจะสามารถสืบทอดมรดกขั้น 2 นี้ได้

ฮังอวี่ในตอนนี้ ต่อให้ไม่ใช้หอกคลื่นมังกรปฐพี  แต่ด้วยสกิลขั้น 2 ทั้งสองที่ได้รับมา เขาก็สามารถรับมือแบบตัวต่อตัวกับโอนุได้อย่างเท่าเทียม

และหากสามารถสืบทอดมรดก

ฮังอวี่ไม่จำเป็นต้องใช้สกิลคลื่นมังกรปฐพีก็สามารถโค่นโอนุลงได้!

ประมาณสิบนาทีต่อมา

ในฐานที่มั่นของถ้ำแน่นขนัดไปด้วยผู้คน

ทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่นี่

จ้าวหมิงส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังฮังอวี่ล่วงหน้า

จำนวนผู้เข้าร่วมสงครามมีประมาณ 680 คน กลุ่มที่อ่อนแอที่สุดคือเลเวล 6 หลายสิบคน สาเหตุที่พวกเขาได้เข้าร่วมก็เพราะส่วนใหญ่เป็นนักบวช ดังนั้นแม้เลเวลต่ำแต่ก็ยังพอมีบทบาทได้

ส่วนจำนวนคนในเลเวล 7 8 มีประมาณ 70%

คนกลุ่มนี้คือกำลังหลักในการต่อสู้

และมีมากกว่า 40 50 คนที่เป็นเลเวล 9 และมีเพียงสิบคนนิดๆเท่านั้นที่อยู่ในเลเวล 10

ตอนนี้ ตราบใดที่คุณสามารถขึ้นมาถึงเลเวล 8 ได้ คุณจะถือว่าเป็นชนชั้นยอด และสมาชิกที่มีเลเวล 9 ขึ้นไปล้วนเป็นหัวกะทิในหมู่ชนชั้นยอด

สำหรับเลเวล 10?

นั่นคือพลรบที่อยู่บนยอดพีรามิด!

ปัจจุบันผู้ที่มีพลังรบอยู่ในเลเวล 10 ได้แก่ ฮังอวี่ จ้าวหมิง และฉูเทียนหัว ส่วนคนอื่นๆ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากผู้นำระดับสูงในหยานจิง เจียงหนานจึงสามารถขึ้นเป็นเลเวล 10 เรียบร้อยแล้ว เป็นรองเพียงสามผู้นำกลุ่มเท่านั้น

ลุค คริส ไดอาน่า ทั้งสามคนเคยอยู่ใกล้เลเวล 10 มาก่อน แต่เพราะลุค คริส เสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งเดียวเลยสูญเสียแต้มวิญญาณนับพัน

แต่หลังจากได้รับชัยชนะจากการกวาดล้างกองทัพมนุษย์จิ้งจอก

แต้มวิญญาณส่วนใหญ่ก็ถูกเติมเต็มกลับมา

หลังจากพวกเขากลับไปนิวยอร์ก ผู้บริหารระดับสูงของอเมริกาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะครั้งก่อนที่พวกเขาต่อสู้กับมนุษย์จิ้งจอก ความพ่ายแพ้ของสำนักกระบี่วิญญาณสร้างความเสียหายต่อหน้าตาของประเทศอย่างใหญ่หลวง ดังนั้นเมื่อกลับมา ทางนิวยอร์กจึงทุ่มทรัพยากรไม่อั้นให้พวกเขา เพื่อที่จะได้กลับไปเรียกชื่อเสียงกลับมา

ทำให้มีหลายคนสามารถกระโดดขึ้นเป็นเลเวล 10 ได้อย่างรวดเร็ว

และตอนนี้ทุกคนยังสวมใส่อุปกรณ์ใหม่ที่สร้างโดยช่างฝีมือคนแคระ

พลังรบของพวกเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

ผู้บริหารระดับสูงของสำนักกระบี่วิญญาณได้ออกคำสั่งว่าพวกเขาต้องชนะการต่อสู้ครั้งนี้ และจะเป็นการดีที่สุดหากข่มชื่อเสียงของฮังอวี่ลงได้

คนฝั่งอเมริกาได้ลับมีดในมือ

กลับมาครั้งนี้เรียกได้ว่าลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

นอกเหนือจากเลเวลอัพ อุปกรณ์ และสกิลแล้ว ทุกคนพยายามอย่างมากเพื่อคว้าโพชั่นระดับสูง คัมภีร์สกิลระดับสูง หรือไอเท็มเฉพาะอื่นๆมาครอบครอง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

ศึกครั้งนี้พวกเขาต้องชนะ!

ฮังอวี่ออกคำสั่ง

กองทัพมนุษย์เริ่มออกเดินทางอย่างเป็นทางการ

ภายใต้การนำของฮังอวี่ พวกเขาจะมุ่งตรงไปยังเมืองหุบเขาเดียวดาย

การต่อสู้ในศึกนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างน้อยหลายร้อยล้านคน มันเทียบได้เลยกับการแข่งขันฟุตบอลโลก … และการต่อสู้ทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดสดไปยังโลกจริงโดยคนจากแต่ละฝ่าย

ทุกสายตาต่างจับจ้อง!

นี่คือสงครามชิงดินแดนแห่งแรกในโลกวิญญาณของเผ่าพันธุ์มนุษย์!

ในโลกจริง ณ ตอนนี้ ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่กำลังรอลุ้นด้วยความประหม่า!