1/2

 

Ep.242 – สายพันธุ์ทรงภูมิปัญญาพยายามแทรกซึม

 

หวงหยุนหลงคิด

 

ว่าที่ฮังอวี่พูดแบบนี้ก็เพื่อสั่นคลอนจิตใจตนเอง

 

แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้เขาใจสั่น

 

“พรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ลิซคือการสร้างกล่องวิญญาณ สำหรับลิซแล้ว กล่องวิญญาณคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการฟื้นคืนชีพซึ่งมีหน้าที่คล้ายๆกับแผ่นศิลาฟื้นคืนชีพ ผมคิดว่าลิซตัวนี้คงอ่อนแอมากหรือร่างกายถูกทำลายหลังจากข้ามมิติมา ดังนั้นมันจึงสูบเอาร่างของตัวเองเข้าไปในกล่องวิญญาณและรอโอกาสเหมาะๆที่จะฟื้นคืนชีพ”

 

“และหวงจื่อหมิงคงบังเอิญไปเปิดกล่องวิญญาณเข้าโดยไม่รู้เรื่อง สุดท้ายถูกลิซยึดร่างและขโมยความทรงจำ …. ”

 

“ส่วนหลักฐานก็คือ”

 

“หวงจื่อหมิงสูญเสียความสามารถในการเดินทางเข้าสู่โลกวิญญาณ”

 

“นั่นเพราะเจ้าของเสียงน่าเกรงขามอนุญาตให้มนุษย์เท่านั้นที่สามารถเข้าสู่โลกวิญญาณได้ แต่ลิซไม่ใช่มนุษย์เขาจึงไม่มีคุณสมบัตินั้น!”

 

หวงหยุนหลงได้ยินแบบนี้

 

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที

 

ในอดีต กว่าจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่แห่งเจียงเฉิงอย่างทุกวันนี้ เขาใช้เวลากว่า 20 ปีไต่เต้าจากจุดต่ำสุด

 

ในทุกๆปี

 

เพื่อที่จะปีนป่ายขึ้นไปให้สูงขึ้น

 

เขาได้ทำหลายสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย

 

หากเรื่องเหล่านั้นถูกเปิดโปงในยุคที่กฏหมายยังเข้มแข็ง นั่นมากพอแล้วที่จะทำให้เขาถูกยิงประหารชีวิตในเรือนจำ

 

หวงหยุนหลงคือคนชั่วร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เขายินดีเล่นไม่ซื่อทุกรูปแบบ

 

อย่างไรก็ตาม ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดชั่วร้ายอย่างสมบูรณ์ ในหยินย่อมมีหยาง และในหยางย่อมมีหยิน ต่อให้เป็นคนดีแค่ไหน แต่ในอดีตอาจเคยทำสิ่งเลวร้ายมาบ้างเช่นกัน และคนชั่วเองก็ยังเหลือข้อดีบางประการที่ยึดถืออยู่ในใจ

 

ในชีวิตของหวงหยุนหลง เขามีผู้หญิงเพียงคนเดียว

 

แม้ธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เป็นคนๆเดียวที่เต็มใจอยู่กับเขาในช่วงเวลาที่ชีวิตมืดมนที่สุด และระหว่างที่เขากำลังเริ่มรุ่งโรจน์ในอาชีพ ทิศทางชีวิตเริ่มดีขึ้น เธอก็ดันชิงป่วยตายไปซะก่อน

 

เขาเหลือลูกชายเพียงคนเดียว

 

และนับตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมา 22 ปีแล้ว

 

หวงหยุนหลงประสบความสำเร็จในอาชีพ กลายเป็นมหาเศรษฐี แต่ไม่เคยติดพันผู้หญิงคนไหนเลย ในโลกนี้ ถ้าจะมีซักคนที่เขาห่วงใย คนๆนั้นก็คือหวงจื่อหมิงลูกชายของตนเอง

 

หวงหยุนหลงมองไปทางจื่อหมิงที่สวมเสื้อคลุมดำและแผ่ออร่าแปลกๆออกมา ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องฆ่าศัตรูของตัวเอง พยายามสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า “จื่อหมิง บอกพวกเขาไปสิว่าลูกยังคือหวงจื่อหมิง!”

 

“กิ กิ กิ … ถูกจับได้ซะแล้ว”

 

หวงจื่อหมิงที่ไม่เคยพูดอะไรมาก่อนเลย

 

จู่ๆก็หัวเราะเสียงแปลกๆออกมา

 

เขาวาดไม้เท้าในมือ ปลดปล่อยเพลิงสีเขียวยิงใส่หวงหยุนหลง

 

ไฟสีเขียวพุ่งเป็นเส้นตรงบริเวณหว่างคิ้ว

 

ทะลุออกหลังศีรษะ

 

เนื่องจากเอฟเฟกต์ของสกิลเสริมพลังป้องกันได้หายไปแล้ว

 

หวงหยุนหลงจึงไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากสกิลขั้น 3 อันทรงพลังเช่นนี้ ดวงตาเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ และเริ่มหมองลงเผยให้เห็นถึงความโศกเศร้า

 

เสียงแหบพร่าของลิซดังขึ้นอีกครั้ง

 

“เดิมข้าต้องการหลอกใช้มนุษย์ผู้นี้ แต่ใครจะคิดว่าดันถูกจับได้”

 

“แต่นั่นไม่สำคัญ ตราบใดที่ข้าฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด ข้าก็จะยังคงเป็นหวงจื่อหมิงต่อไป”

 

ซูหยุนปิง ซูเจิ้งเฉิงสั่นสะท้าน

 

สกิลของลิซไม่เพียงสามารถช่วงชิงร่างกายเท่านั้น แต่เห็นได้ชัดว่าสามารถฉกฉวยความทรงจำของอีกฝ่ายได้เกือบทั้งหมด หลักฐานคือภาษาที่มันใช้ตอนเอ่ยออกมานั้นเป็นภาษาจีนกลางอย่างชัดเจน

 

เจ้าหมอนี่

 

มันต้องการซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเผ่าพันธุ์มนุษย์ตั้งแต่แรก

 

ไม่ใช่แค่ปลอมตัวเป็นหวงจื่อหมิง แต่ยังตั้งใจควบคุมกองกำลังของตระกูลหวง และใช้หวงจื่อหมิงเพื่อกวาดล้างสมาคมโลกวิญญาณ สุดท้ายเข้ายึดทั้งสมาคม

 

หากแผนการของลิซตัวนี้สำเร็จจริงๆ

 

ใครจะรู้ว่าตอนจบของเรื่องราวจะเป็นอย่างไร?

 

โครงกระดูกถูกอัญเชิญอีกรอบเพื่อโจมตีทั้งสามอีกครั้ง และคราวนี้ลิซเริ่มร่ายมนต์บางอย่าง หวงหยุนหลงที่พึ่งตายไปลุกขึ้นยืนอีกครั้ง หยิบอาวุธและพุ่งมาข้างหน้า

 

เขาได้รับการฟื้นคืนชีพขึ้นใหม่ด้วยสกิลประเภทอันเดธ

 

ฮังอวี่และเจ้าต้นหนึ่งกับต้นสองสื่อสารกันผ่านความคิด

 

ต้นไม้วิญญาณทั้งสองได้รับการเลี้ยงดูในลานบ้านมาเป็นเวลานาน มันได้รับการหล่อเลี้ยงมาเกือบหนึ่งเดือน ในที่สุดก็มีบทบาทสำคัญเสียที ด้วยพลังรบของต้นไม้ทั้งสอง นั่นมากพอแล้วที่จะสกัดกั้นพวกโครงกระดูกได้หลายตัว

 

ร่างฮังอวี่ทอแสง

 

เปิดใช้งานสกิลก้าววายุและล่องหนหายวับไปจากจุดนั้น

 

เขาพุ่งทะยานเข้าหามอนสเตอร์ลิซด้วยความเร็วสูง

 

เทคนิคล่องหนของฮังอวี่นั้นไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าลิซ เพราะมันมีค่าคุณสมบัติจิตรับรู้ที่สูงมาก ดังนั้นสามาาถจับเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ได้อย่างดายและปล่อยมือกระดูกออกไปเพื่อฉุดรั้งทันที

 

ประจัญบาน!

 

ฮังอวี่ระเบิดสกิลเพื่อทำลายพันธนาการ

 

ลิซปล่อยทะเลเพลิงสีเขียวออกมา พวกมันจับตัวกันอย่างรวดเร็ว ค่อยๆก่อร่างเป็นกำแพงเพลิง

 

ความว่องไวของฮังอวี่พุ่งทะยานอีกครั้ง ใช้สกิลโจมตีลมกรดปะทะคู่ต่อสู้ ในขณะที่กำแพงยังไม่ปิดสนิท พุ่งฟุบเข้ามาและแทงลงที่คอของลิซ แต่ความรู้สึกที่ส่งผ่านมากลับเหมือนแทงลงบนไม้เนื้อแข็งอันทนทาน

 

อย่างไรก็ตาม

 

หอกประกายแสงคืออาวุธสีเขียวใส

 

และฮังอวี่แทงในตอนที่เขาเปิดใช้งานสกิลโจมตีเสริมพลัง

 

หอกแทงทะลุคอหอยของลิซ สร้างอาการบาดเจ็บตรงกระดูกสันหลังช่วงคอ หากเป็นคนธรรมดาถูกโจมตีในลักษณะนี้ ต่อให้ไม่ตายทันทีก็คงเป็นอัมพาตอย่างสิ้นเชิง

 

แต่ลิซดูเหมือนไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

 

มันแทงปลายด้านล่างของไม้เท้าสวนกลับมา แม้พละกำลังและความไวจะไม่รุนแรงเท่าชนชั้นยอดขั้นโกลด์อย่างฮังอวี่ แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบได้ เกราะอกเขาถูกกระแทกยุบเป็นหลุม

 

โจมตีต่อเนื่อง!

 

ฮังอวี่ตอบโต้กลับ

 

หอกยาวพริ้วไหวเป็นภาพติดตา

 

ทิ้งหลุมเลือดไว้บนร่างของมอนสเตอร์ลิซ

 

ทว่าแม้จะทำถึงขนาดนั้น แต่มันก็ยังเหมือนไม่ใส่ใจกับอาการบาดเจ็บที่ได้รับอยู่ดี

 

ในเวลาเดียวกัน ซูหยุนปิง ซูเจิ้งเฉิงและหวังเอ๋อในสภาพร่างแปลงเข้าโจมตีพร้อมกัน

 

ปิดล้อมทุกทิศทาง!

 

ขณะเดียวกัน โครงกระดูกสามตัวใหม่ถูกรากไม้จำนวนมากเข้าพัวพัน ไม่อาจย้อนกลับไปช่วยได้

 

ลิซไม่คาดคิดเลยว่าต้นไม้วิญญาณทั้งสองจะมีพลังรบถึงขนาดนี้

 

มันตัดสินใจงัดหลากหลายสกิลที่มีออกมา บังคับให้ทุกคนถอยกลับไป จากนั้นระเบิดร่างซอมบี้ของหวงหยุนหลง

 

ศพหวงหยุนหลงแตกเป็นเสี่ยงๆ เศษซากศพเหล่านั้นติดไฟและกระจายออกไปทุกทิศทางพร้อมปล่อยควันพิษออกมา

 

ฮังอวี่ออกคำสั่งทันที “เสี่ยวไป๋!”

 

ฝุ่นละอองจำนวนมากปรากฏขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่าบริเวณลานบ้าน

 

และฝุ่นขนาดเล็กเหล่านี้สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของควันพิษได้เป็นอย่างดี

 

ในเวลาเดียวกัน ยังหอบเอาละอองสายหนึ่งพัดมา เข้าปกคลุมร่างของลิซอย่างรวดเร็ว

 

ลิซสัมผัสได้ทันที : นี่มันสกิลระดับสูง! ที่แท้ยังมีตัวตนทรงพลังอีกคนซ่อนตัวอยู่!

 

เห็นได้ชัดว่าลิซเป็นตัวตนที่มีสถานะไม่เล็กจ้อยในโลกวิญญาณ มันครอบครองความรู้มากมาย เพียงแวบแรกที่เห็นก็สามารถระบุได้ว่านี่คือสกิลฝุ่นลวงตา มันเข้าใจได้ทันที ว่าถ้าติดอยู่ในฝุ่นลวงตาโดยสมบูรณ์ โอกาสหนีคงยากแล้ว

 

ฮังอวี่อย่างน้อยมีพลังรบในระดับชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 7

 

ต้นไม้วิญญาณทั้งสองเองก็มีพลังรบในระดับชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 7 – 8 เช่นกัน

 

ซูหยุนปิง ซูเจิ้งเฉิงมีพลังรบเทียบเท่ากับชนชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ในเลเวล 6

 

หากยังต้องรับมืออีกตัวตนที่ยังไม่ทราบตื้นลึกหนาบาง แต่ที่แน่ๆมีพลังรบในระดับสูงต่อให้ลิซจะมั่นใจในพลังรบของตัวเอง แต่เวลานี้มันไหนเลยจะกล้าหยิ่งผยอง

 

ถอนตัว!

 

ลิซกระโดดขึ้นฟ้า

 

เปลี่ยนร่างเป็นอีกาดำตัวใหญ่

 

บินหลบหนีไปก่อนที่จะถูกโอบล้อมด้วยฝุ่นลวงตาในเวลาฉิวเฉียด

 

พริบตาเดียวพุ่งหายเข้าไปในตรอกที่ห่างไกล หลุดรอดจากสายตาของทุกคน

 

หวังเอ๋อวิ่งมาหยุดข้างฮังอวี่ “ฮ่ง เจ้านาย ต้องไล่ตามไหม?”

 

“ปฏิกิริยาของเจ้าหมอนั่นเฉียบแหลมมาก ดูท่ามันจะไม่ใช่ตัวตันที่ง่ายจะรับมือ” ฮังอวี่ย่นคิ้วเล็กน้อย ก่อนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ อย่าไล่ต้อนคนจนตรอก ปล่อยให้มันมีชีวิตต่อไปอีกซักหน่อยแล้วกัน”

 

พลังรบของลิซนั้นทรงพลังมาก

 

มันไม่เพียงมีพลังงานมหาศาลเท่านั้น แต่ยังมีสติปัญญา ครอบครองไหวพริบและกลยุทธ์ที่ไม่อาจประมาทได้ ดังนั้นจึงอันตรายเกินไปหากคิดผลีผลามไล่ตาม

 

แล้วอีกอย่าง หากต้องต่อสู้กันบนท้องถนนเกรงว่าคงเอะอะเกินไป

 

หากทำแบบนั้น มีโอกาสสูงที่สถานะของเสี่ยวไป๋จะถูกเปิดเผยเช่นกัน