Ep.21 

 

“ยังคงเป็นตันหลินที่มีสายตาอันยอดเยี่ยม!” เฉาหรานถอนหายใจด้วยอารมณ์

 

ในตอนที่ตันหลินตัดสินใจคบซูเฉิน เฉาหรานก็คิดเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตันหลินถึงไปตกหลุมรักซูเฉินได้

 

นั่นเพราะในอดีตซูเฉินอ่อนแอ แถมยังไม่มีภูมิหลัง เป็นแค่คนธรรมดาไม่พิเศษอะไร

 

แต่ตอนนี้ พอมาลองย้อนคิดดูแล้ว ต้องบอกว่าวิสัยทัศน์ของตันหลินไม่เลวเลยจริงๆ

 

ใครจะไปคิดกัน ว่าซูเฉินที่ดูธรรมดาจะสามารถซ่อนตัวตนได้แนบเนียนขนาดนี้

 

ตันหลินยิ้มหวาน มองไปยังซูเฉินด้วยความเสน่หา ขณะเดียวกันก็แอบดีใจอยู่เงียบๆ โชคดีจริงๆที่ซูเฉินซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ มิฉะนั้น สาวๆสวยๆในสถานชุมชนเทียนหนานคงแย่งกันพลีกายถวายตัวให้เขา

 

และหากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เธอคงไม่สามารถทนอยู่กับซูเฉินได้

 

ซูเฉินลูบจมูกแก้เขิน แต่จู่ๆก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เอ่ยถามว่า “หัวหน้าหวู่ ทำไมวันนี้จู่ๆถึงมีฝูงซอมบี้บุกเข้ามาในฐานได้?”

 

กำแพงของสถานชุมชนเทียนหนานทั้งสูงและหนา มันถูกเสริมการป้องกันอย่างแน่นหนา ตามหลักเหตุผลแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะโดนซอมบี้ทำลาย

 

ซูเฉินลองนึกความเป็นไปได้หลายอย่างแล้ว แต่ยังไงก็นึกไม่ออกว่าสถานชุมชนเทียนหนานล่มสลายลงได้อย่างไร

 

“เพราะจิ่นเฟยซีกลายเป็นซอมบี้” หวู่หยางกล่าว สีหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม

 

“อะไรนะ!?” ซูเฉินตกใจ จับต้นชนปลายไม่ถูก

 

จิ่นเฟยซีไม่เพียงเป็นผู้นำของสถานชุมชนเทียนหนาน แต่คนผู้นี้ยังเป็นผู้วิวันาการเลเวล 2 อีกด้วย ครอบครองความแข็งแกร่งชนิดไร้ที่เปรียบ ทรงพลังขนาดนี้ จู่ๆจะติดเชื้อ กลายเป็นซอมบี้ได้อย่างไร?

 

หวู่หยางถอนหายใจ อธิบายว่า “จิ่นเฟยซีดูเหมือนจะจงใจเปลี่ยนตัวเองให้เป็นซอมบี้ เพราะเขาใกล้หมดอายุขัยแล้ว เขายอมเสี่ยงเพราะไม่มีอะไรจะเสียอีก”

 

การกลายเป็นซอมบี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว เพราะอย่างน้อยคุณจะได้รับอายุขัยไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่ไม่ถูกฆ่า คุณก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล

 

“แต่การกลายเป็นซอมบี้จะทำให้เขากลายเป็นศพเดินได้ไร้จิตสำนึก แบบนั้นมันเลวร้ายยิ่งกว่าตายซะอีก แล้วทำไมเขาถึงตัดสินใจเป็นซอมบี้กัน?” ซูเฉินไม่เข้าใจ

 

“ข้อสรุปนั้นไม่ใช่ความจริงเสมอไป” หวู่หยางสูดหายใจลึก กล่าวต่อว่า “ระหว่างกระบวนการกลายร่างเป็นซอมบี้ มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสามารถเก็บความทรงจำและสติเอาไว้ได้ แต่แน่นอน โอกาสที่ว่ามีน้อยมาก”

 

“แต่ก็เพราะสามารถคว้าโอกาสอันน้อยนิดนั่นได้ จิ่นเฟยซีเลยกลายเป็นซอมบี้ที่มีสติปัญญาไป?” เปลือกตาของซูเฉินกระตุก

 

หากซอมบี้ที่มีสติปัญญาถือกำเนิดขึ้น ศักยภาพของมันย่อมไม่พ้นกลายเป็นราชาซอมบี้ สามารถควบคุมและสั่งการซอมบี้จำนวนมากได้ กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของมนุษยชาติ

 

“ไม่น่าจะผิดพลาดแล้ว แต่ฉันก็พึ่งรู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเหมือนกัน เลยตัดสินใจรีบหนีออกจากสถานชุมชนเทียนหนานทันที เลยรอดชีวิตมาได้” หวู่หยางกล่าวด้วยความอกสั่นขวัญแขวน

 

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้” ซูเฉินเข้าใจในที่สุด

 

จิ่นเฟยซีเดิมเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 หลังจากกลายร่าง ความแข็งแกร่งของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น

 

ควบคู่ไปกับสติปัญญาที่ยังคงอยู่ เขาย่อมสามารถทำได้ทุกอย่างตามใจปรารถนา ชนิดที่ว่าสามารถทำลายสถานชุมชนเทียนหนานได้

 

“หัวหน้าหวู่ พวกเราจะทำอย่างไรต่อไปดี?” หลังจากถอนหายใจระงับอารมณ์ ซูเฉินก็เอ่ยปากถาม

 

สถานชุมชนเทียนหนานถูกจิ่นเฟยซีและซอมบี้จำนวนมากยึดไปแล้ว ฉะนั้นไม่สามารถกลับไปได้

 

ขณะเดียวกัน หากไม่มีที่พักพิงอย่างสถานชุมชน และเอาแต่เอ้อระเหยอยู่ข้างนอก ถ้าบังเอิญเจอซอมบี้ฝูงใหญ่เข้า มันจะอันตรายมาก

 

“ไปเมืองจิงกังกันเถอะ” หวู่หยางคิดสักพัก แล้วตอบกลับไป

 

เมืองจิงกังเป็นสถานชุมชนใหญ่ ขนาดของมันมากกว่าสิบเท่าของสถานชุมชนเทียนหนาน มีประชากรอยู่มากถึง 200,000 คน

 

นอกจากมีผู้แข็งแกร่งเป็นจำนวนมากแล้ว ภายในเมืองยังมีผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 อย่างหวงคังเป็นเจ้าเมืองอีกด้วย

 

กล่าวได้อย่างเต็มปากว่าเมืองจิงกังเป็นสถานชุมชนที่ปลอดภัยที่สุดในบริเวณนี้ แม้จะเผชิญกับกองทัพซอมบบี้ที่นำโดยราชาซอมบี้ ก็ไม่น่าจะถูกสั่นคลอนได้

 

“ฉันว่าพวกเราไปสถานชุมชนหลานไห่ไม่ดีกว่าหรอ?” เฉาหรานเสนอแนะ

 

เพราะแม้เมืองจิงกังจะปลอดภัย แต่ก็อยู่ห่างไกลจากพวกเขา ขณะที่สถานชุมชนหลานไห่อยู่ใกล้กว่ามาก

 

ซูเฉินรู้จักสถานชุมชนหลานไห่ เพราะทีมของชายหนวดเฟิ้มที่เขาฆ่าในคราวก่อน ก็มาจากชุมชนแห่งนั้นเช่นกัน