2/4

 

Ep.191 – ชายผู้ไม่อาจล่วงเกิน

 

[หินสกิลของนักรบ : ศรซุ่มยิง] (ชิ้นส่วนมรดกของนักธนู) , สีขาวคุณภาพสูง , เงื่อนไขการเรียนรู้ : 50 แต้มวิญญาณ

 

นี่คือหนึ่งในสกิลมรดกของนักธนู

 

พลังของมันไม่ได้รุนแรงเท่าศรจู่โจม แต่ก็มีข้อดีที่ค่อนข้างชัดเจน

 

นั่นคือศรซุ่มยิงที่พิสัยไกลมาก เหมาะสำหรับการลอบยิงเป้าหมายในระยะไกล

 

คนทั่วไปอาจใช้สกิลนี้ได้ไม่ดีนัก แต่ถ้าเป็นฮังอวี่ล่ะก็สบายมาก เนื่องจากเขามีเทคนิคตาเหยี่ยวคอยช่วยเหลือ

 

หินสกิลนี้คงเป็นหนึ่งในสินสงครามของฉูเทียนหัวในครั้งนี้

 

เดิมที ในฐานะหินสกิลของนักรบ ฉูเทียนหัวสามารถเก็บมันไว้กับตัวก็ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าคนๆนี้เน้นการต่อสู้ระยะประชิด

 

ส่วนเหตุผลที่ฮังอวี่เลือกเรียนรู้สกิลทั้งระยะใกล้ไกลนั้น

 

หลักๆก็เป็นเพราะ ฮังอวี่มักลงมือเพียงลำพัง

 

และเนื่องจากต้องทำอะไรคนเดียว ดังนั้นจึงต้องมีสกิลหลากหลาย จะได้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม

 

ซึ่งฉูเทียนหัวไม่เหมือนฮังอวี่

 

เขามีทีมเป็นของตัวเองในโลกวิญญาณ

 

และมีกลุ่มสหายที่ทรงพลังในโลกจริง

 

และนี่คือเหตุผลที่ฉูเทียนหัวสามารถเรียนรู้สกิลที่ต้องการได้มากกว่าคนอื่นๆ ดังนั้น แม้ศรซุ่มยิงจะเป็นสกิลที่ดี แต่ฉูเทียนหัวอยากเก็บมันไว้และเอาออกไปแลกเปลี่ยนกับเหล่าสหายของเขามากกว่า

 

ฉูเทียนหัวหยิบกระบี่หนักคุณภาพสีขาวอ่อนเลเวล 7 ออกไป จากนั้นเลือกอุปกรณ์สีขาวเลเวล 7 ไปหนึ่งชิ้น สีขาวเลเวล 6 สามชิ้น และอุปกรณ์สีเทาอีกหลายชิ้น

 

สกิลต่อสู้น่ะมีมูลค่าสูง

 

แม้บนแผงลอยจะมีอุปกรณ์หายไปหลายชิ้น แต่การแลกเปลี่ยนนี้ยังคุ้มค่าสำหรับฮังอวี่

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกับฉูเทียนหัวเสร็จ เขาสังเกตว่าคนที่ควรมาก็มากันเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจึงนำหินสกิลที่เก็บได้ออกมา

 

“ฉันมีหินสกิลขั้น 2 ของผู้พิทักษ์ต้นไม้”

 

“และยินดีแลกเปลี่ยนมันกับหินสกิล”

 

“ใครก็ตามที่มีหินสกิลเบอร์เซิร์กเกอร์หรือนักท่องวายุ สามารถใช้พวกมันมาแลกได้เลย!”

 

หินสกิลที่อยู่ในมือของฮังอวี่

 

มันคือสกิลขั้น 2 ‘พฤกษาสังหาร’ ที่ดรอปจากผู้พิทักษ์ต้นไม้ยักษ์ นี่คือสกิลโจมตีระยะไกล + หน่วงเหนี่ยว แม้จะมีคุณภาพสีขาว แต่มูลค่าไม่ต่ำแน่นอน

 

ฮังอวี่ต้องการแลกเปลี่ยนมันกับสกิลของเบอร์เซิร์กเกอร์หรือสกิลนักท่องวายุ

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศต่อหน้าทุกคน และสามฮัสกี้ช่วยทวนซ้ำ แต่ก็ไม่มีใครก้าวออกมาเลย

 

เรื่องนี้ทำให้ ฮังอวี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่นี่เป็นเรื่องปกติ

 

หินสกิลขั้นสองเป็นอะไรที่หาได้ยากมากในช่วงต้นเกม และฮังอวี่ยังกำหนดว่าต้องเป็นแค่หินสกิลมรดกของเบอร์เซิร์กเกอร์และนักท่องวายุเท่านั้น ขณะที่มีคนอยู่ที่นี่เพียงพันคนหรือมากกว่านั้นนิดหน่อย โอกาสที่พวกเขาจะมีจึงน้อยมาก

 

ไม่มีทางเลือก

 

คงได้แต่ยอมแพ้

 

อย่างไรก็ตาม ในใตอนนั้นเอง

 

เสียงของผู้หญิงที่ค่อนข้างพูดเร็วเล็กน้อยดังขึ้น “หินสกิลเบอร์เซิร์กเกอร์กับนักท่องวายุฉันไม่มี แต่ฉันมีหินสกิลที่เหมาะกับนาย ไม่รู้ว่าจะใช้แลกเปลี่ยนหินสกิลได้นั่นได้รึเปล่า”

 

เป็นบอสเฉิน

 

ฮังอวี่ไม่ปฏิเสธ “ผมขอดูหินสกิลก่อน”

 

เฉินหยูหามันพักหนึ่ง และหยิบหินสกิลออกมา

 

กลายเป็นว่ามันคือมรดกของนักสู้

 

[โจมตีต่อเนื่อง] (ชิ้นส่วนมรดกของนักสู้) , สีขาวคุณภาพสูง , เงื่อนไขการเรียนรู้ : 30 แต้มวิญญาณ

 

มรดกของนักสู้ประกอบไปด้วยสามสกิล

 

ปะทะเดือด , โจมตีต่อเนื่อง และจู่โจมฉับไว

 

หรือย่อๆว่า ปะทะ , ต่อเนื่อง , ฉับไว

 

ฮังอวี่เคยเรียนสกิลปะทะเดือดแล้ว

 

ดังนั้นต้องการหินสกิลนี้อย่างแท้จริง

 

และเฉินหยูย่อมสังเกตเห็นถึงจุดนี้

 

เมื่อเทียบกับศรซุ่มยิง

 

สกิลโจมตีต่อเนื่องนั้นมีค่ามากกว่าสำหรับฮังอวี่

 

เนื่องจากรูปแบบการต่อสู้ของฮังอวี่ส่วนใหญ่เน้นการต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก การยิงธนูระยะไกลและการขว้างอาวุธในระยะกลางเป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น เมื่อเทียบกับศรซุ่มยิงแล้ว สกิลนี้เห็นได้ชัดว่ามีประโยชน์กับเขามากกว่า

 

นอกจากนี้ แม้สกิลของฮังอวี่จะมีมาก

 

แต่สกิลที่เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดยังมีไม่มากนัก

 

โจมตีต่อเนื่องไม่เพียงเป็นสกิลประชิดเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยเสริมจังหวะและแรงกดดันในการรุกระหว่างต่อสู้ได้อีกด้วย ซึ่งหากได้มันมา ประสิทธิภาพการต่อสู้ของฮังอวี่จะเพิ่มขึ้น

 

นักสู้เป็นอาชีพมรดกที่ดีมาก

 

สามารถใช้งานได้หลากหลาย

 

และสามสกิลนี้ไม่เพียงร่ายผ่านอาวุธได้

 

แต่ยังสามารถร่ายผ่านกำปั้นเหมือนกับของเฟิงกัง

 

แม้ไม่มีสกิลของนักท่องวายุและและเบอร์เซิร์กเกอร์

 

แต่สกิลโจมตีต่อเนื่องก็ถือว่ายังพอใช้ได้

 

“หินสกิลของบอสเฉินมีประโยชน์ต่อผมมากจริงๆ แต่ … ”

 

“แต่อะไร?”

 

“ฮ่ง ถึงเปิ่นหวังจะไม่ฉลาดเท่าเจ้านาย แต่ก็ยังมองเห็นได้ ว่าถึงสกิลพฤกษาสังหารจะมีคุณภาพแค่สีขาว แต่ก็เป็นมรดกขั้น 2 ขณะที่โจมตีต่อเนื่องเป็นมรดกขั้นแรกเท่านั้น”

 

ฮังอวี่ยังไม่อ้าปากพูด

 

ฮัสกี้ผู้หลักแหลมก็เอ่ยแทน

 

มันกระดิกหางและก้าวไปข้างหน้า

 

“พี่สาวอยากใช้หินสกิลขั้น 1 แลกเปลี่ยนกับหินสกิลขั้น 2 เอาเปรียบกันแบบนี้ฮัสกี้ไม่เห็นด้วย นับประสาอะไรกับเจ้านายผู้ชาญฉลาดของเปิ่นหวัง กรีดเลือดกรีดเนื้อกันแบบนี้ มันดูถูกสติปัญญากันชัดๆ!”

 

สุนัขดี!

 

ฮังอวี่ค้นพบว่า

 

หมาหวังเอ๋อกับเขาเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น

 

เฉินหยูขมวดคิ้วและพูดว่า

 

“ฉันไม่คิดว่านี่คือการเอาเปรียบ ของแต่ละสิ่งจะมีค่าหรือไม่ มันไม่เกี่ยวกับขั้นสูงต่ำ แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด”

 

“พฤกษาสังหารเป็นสกิลขั้น 2 ก็จริง แต่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้สกิลนี้ได้ ขณะที่โจมตีต่อเนื่องเป็นสกิลขั้น 1 ต่อให้เอาไปที่ไหน ก็มีคนมากมายยินดีจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแลกมัน”

 

สุนัขตอบโต้กลับ

 

“ฮ่ง ของหายากย่อมมีราคาแพง”

 

“สกิลขั้น 1 สามารถหาได้จากหีบสมบัติทั่วไป หรือดรอปจากมอนสเตอร์ชั้นยอด ขณะที่หินสกิลขั้น 2 สามารถดรอปจากมอนสเตอร์เจ้าถิ่นและหีบสมบัติขั้นสูงเท่านั้น”

 

“เจ้านายไม่จำเป็นต้องซื้อหินสกิลโจมตีต่อเนื่องกับบอสเฉินก็ได้ เขาสามารถติดต่อรับซื้อจาเถ้าแก่ใหญ่คนอื่นๆ ตรงกันข้ามกับกรณีของหินสกิลพฤกษาสังหารของเจ้านาย มันยากที่จะหาซื้อจากคนอื่น อย่างน้อยถ้าไม่ซื้อตอนนี้ก็อาจไม่ได้ซื้อมันอีกเลยในช่วงสั้นๆ”

 

ฝูงชนมองหน้ากัน

 

ก็มีเหตุผลนะ

 

สมกับเป็นเทพเจ้าฮัสกี้!

 

ฮังอวี่กระแอมและสรุปว่า “อืม ผมคิดว่าหวังเอ๋อพูดถูก ถ้าพี่สาวเฉินต้องการหินสกิลนี้จริงๆ ผมว่าควรแสดงความจริงใจอีกสักเล็กน้อย”

 

สุนัขและมนุษย์ประสานเสียงกัน

 

กดดันให้อีกฝั่งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ

 

หินสกิลพฤกษาสังหารนี้เธอไม่ได้จะซื้อไว้ใช้งานเอง แต่เธอมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับหัวหน้าทีมสกายเน็ตในเมืองที่อาศัย และได้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังรวบรวมมรดกของจอมเวทย์แห่งป่า ดังนั้นจึงคอยมองหาหินสกิลขั้น 2 ที่สอดคล้องกัน

 

และจอมเวทย์แห่งป่าคือหนึ่งในมรดกที่สามารถเลื่อนขั้นสู่ผู้พิทักษ์ต้นไม้ได้

 

หากเฉินหยูได้หินสกิลนี้ และมอบมันแก่เขา เธอจะสามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรที่มีประโยชน์มากมายจากมือหัวหน้าทีม เพราะท้ายที่สุดแล้ว อีกฝ่ายมีสกายเน็ตอยู่เบื้องหลัง

 

“ฮ่ง เปิ่นหวังขอเสนอให้บอสเฉินใช้หินคริสตัลขาว 200 ก้อนเติมเต็มส่วนต่าง” ฮัสกี้หยิบยกความเห็น

 

ช่างไร้ยางอาย!

 

พ่นข้อเสนอจ่ายเพิ่มอีก 200 หินคริสตัลขาวออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย!

 

นั่นคือหินคริสตัลขาว 200 ก้อนเชียวนะไม่ใช่เงิน 200 หยวน!

 

แน่นอน เฉินหยูไม่มีหินคริสตัลขาวมากมายขนาดนั้น หรือต่อให้เธอมี เธอก็ไม่ยอมแลกอย่างแน่นอน แต่สุดท้าย หลังจากต่อรองกันนิดๆหน่อยๆ เฉินหยูก็ยอมจ่ายหินคริสตัลขาวมากกว่า 100 ก้อนบวกกับหินสกิลโจมตีต่อเนื่องเพื่อแลกกับหินสกิลพฤกษาสังหาร

 

นี่มันเกือบจะเรียกว่าเป็นการปล้นกันอยู่แล้ว!

 

ขูดรีดหินคริสตัลขาวมากกว่า 100 ก้อนจากเฉินหยู

 

สำหรับผู้เล่นช่วงต้นเกม

 

100 หินคริสตัลขาวไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย

 

“เสี่ยวฮัง นายยังมีหินสกิลเหลืออยู่อีกไหม?” เหล่าจ้าวเอ่ยขึ้นในเวลานี้ “ตัวอย่างเช่นมรดกขั้นต่อไปของนักรบโล่!”

 

ดูเหมือนเหล่าจ้าวจะรวบรวมมรดกของนักรบโล่ได้ครบแล้ว

 

ขณะนี้เขากำลังมองหามรดกขั้นต่อไปของสายอาชีพนักรบโล่

 

“ผมก็อยากช่ววยลุงจ้าวนะ” ฮังอวี่ยิ้มขม “แต่ตอนนี้ผมไม่มีจริงๆ”

 

แม้จะปราศจากความหวังอยู่แล้ว

 

แต่เมื่อได้ยินฮังอวี่พูดแบบนี้ จ้าวหมิงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

“ถึงจะไม่มีหินสกิล แต่ผมมีอุปกรณ์ชิ้นนึงที่เหมาะกับลุงจ้าวมาก”

 

ระหว่างกล่าวคำ

 

ฮังอวี่หยิบ ‘โล่ยักษ์ผู้พิทักษ์’ ออกมา

 

โล่ยักษ์นี้คืออุปกรณ์สองมือสีเขียวคุณภาพกลางเลเวล 6 แม้ตอนใส่มันจะไม่สามารถถืออาวุธได้ แต่ก็มีความสามารถในการป้องกันที่ดีมากๆ

 

เหล่าจ้าวมีมรดกของนักรบโล่

 

นอกจากนี้ยังมีสกิลพรสวรรค์สายป้องกันที่ทรงพลัง

 

หากได้ถือโล่ยักษ์นี้ ต่อให้เป็นมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นก็ยังสามารถต้านทานได้

 

“โล่สีเขียวอ่อนเลเวล 6? พลังป้องกันของมันสูงถึงขนาดนี้เชียว!” แม้แต่คนอย่างจ้าวหมิงก็ยังตกใจเมื่อเห็นข้อมูลของโล่ยักษ์ “นายได้ของดีมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”

 

“นั่นไม่สำคัญหรอก ถ้าลุงจ้าวมีของดีๆมาแลกเปลี่ยน โล่ยักษ์นี้ผมยินดีขายให้ลุงในราคาถูก”

 

จ้าวหมิงคิดทบทวนพักหนึ่ง

 

ก่อนถอดเกราะไหล่ที่สวมอยู่ออก

 

“อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นเกราะไหล่สีเขียวที่ฉันพึ่งได้มา”

 

[เกราะไหล่ผู้กล้าแห่งป่าสภาพเก่า] อุปกรณ์เลเวล 4 , สีเขียวคุณภาพต่ำ , พละกำลัง +1 , ร่างกาย +1 , พลังป้องกันทางกายภาพ +2 , ป้องกันเวทย์ +2 , ความเสียหายจากสกิลทางกายภาพ +1 , ค่าความทนทาน 20

 

“หืม นอกจากเพิ่มพละกำลังและค่าร่างกายแล้วยังช่วยเพิ่มดาเมจจากสกิลทางกายภาพ 1 หน่วย … นี่มันของดี!” ฮังอวี่กล่าว “อุปกรณ์ส่วนไหล่ของผมยังว่างอยู่พอดี เกราะไหล่ของลุงจ้าวมีประโยชน์กับผมมาก”

 

“ถึงเกราะไหล่นี้จะดี แต่ก็ยังห่างไกลจากโล่ยักษ์ของนาย อยากได้หินคริสตัลขาวกี่ก้อนล่ะ?” จ้าวหมิงกล่าว “หวังว่าฉันจะเตรียมไว้มากพอ”

 

“เรื่องนั้นช่างเถอะ ลุงจ้าวเอาไปได้เลย ผมมีแผนในใจ และโล่ยักษ์นี้จะมีบทบาทสำคัญมากในแผนการเมื่อมันอยู่ในมือของลุงจ้าว” ฮังอวี่หยุดพักหนึ่งแล้วกล่าวต่อว่า “ลุงจ้าวช่วยผมมามากแล้ว และผมยังจำน้ำใจเหล่านั้นได้ไม่ลืม”

 

จ้าวหมิงเผยท่าทีประหลาดใจ

 

คนอื่นๆเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

 

ฮังอวี่ผู้นี้กรีดเลือดฉูเทียนหัว เฉือนเนื้อเฉินหยูไปไม่น้อย แต่พอเป็นจ้าวหมิกับ เจียงหนาน เห็นได้ชัดว่าเขาใส่ใจและทำตัวต่างออกไป

 

ฉูเทียนหัวกับเฉินหยูลอบมองหน้ากัน

 

ทั้งคู่เกิดความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับบุคลิกของฮังอวี่

 

ชายผู้นี้ใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็นที่ตั้ง เขาใส่ใจกับคนสนิท

 

หากไม่คุ้นเคยกัน เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม

 

แต่หากมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาจะหยิบยื่นน้ำใจและกลายเป็นคนที่คอยดูแลเทคแคร์ดีมากๆ

 

คนประเภทนี้จำเป็นต้องสนิทด้วยเท่านั้น ห้ามล่วงเกินเด็ดขาด!