3/3

 

Ep.133 – สกิลก้าววายุ

 

หินคริสตัลแต่ละก้อนมีราคาแพงมาก

 

ตอนนี้หินคริสตัลในมือทุกคนมักขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่เสมอ

 

ทว่าคนๆหนึ่งกลับสามารถรวบรวมหินคริสตัลได้มากมายขนาดนี้ นับว่าหาได้ยากจริงๆ

 

หากมีการจัดอันดับผู้ครอบครองทรัพย์สินของโลกวิญญาณ ฮังอวี่เชื่อว่าเขาติดอันดับต้นๆแน่นอน และคงได้ครอบครองฉายาเศรษฐีโลกวิญญาณอันดับหนึ่งแห่งเมืองเจียงเฉิง!

 

ทำกำไรได้มากพอแล้ว

 

เอาล่ะ

 

ปิดร้านได้!

 

ฮังอวี่เก็บอุปกรณ์ที่เหลือ

 

นอกจากอุปกรณ์เลเวล 5 ที่ขายไม่ออกแล้ว เขามีอุปกรณ์สีเทาเลเวล 2 และ 3 อยู่ในมือประมาณ 10 ชิ้น ที่เหลือก็เป็นอุปกรณ์สีขาวเลเวล 2 ซึ่งของพวกนี้ส่วนใหญ่ได้จากโจรโลกวิญญาณ และของจากทั้งสามค่ายที่แลกเปลี่ยนมา คุณภาพจัดอยู่ในระดับปานกลาง ฮังอวี่ตั้งใจว่าจะส่งเจ้าพวกนี้ไปให้เหล่าเซี่ยง

 

เนื่องจากอุปกรณ์พวกนี้เป็นแค่ซี่โครงไก่สำหรับฮังอวี่ มีแต่กระดูกแทบไม่มีเนื้อ กินไปก็ไม่อร่อย แต่ถ้าจะให้ทิ้งก็เสียดาย

 

ซึ่งแน่นอน เงื่อนไขเบื้องต้นในการแลกเปลี่ยน ยังคงเป็นการซื้อขายกันด้วยหินคริสตัล

 

จ้าวหมิงสังเกตเห็นโอกาส อาศัยจังหวะที่ฮังอวี่กำลังเก็บแผงลอย แยกออกมาพูดคุยกับฮังอวี่แบบส่วนตัว

 

“เสี่ยวฮัง ฉันรู้หรอกว่านายน่ะร้ายกาจ แต่อย่างน้อยช่วยไว้หน้าพวกเราหน่อยจะได้ไหม? ครั้งนี้นายเล่นแรงเกินไปนะ แบบนี้มันจะสั่นคลอนจิตใจของพวกเลเวลต่ำคนอื่นๆเอา”

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะผลงานวันนี้ของฮังอวี่บ้าบิ่นและน่าเหลือเชื่อมากเกินไป

 

ชายคนเดียวโค่นด่านหน้ามนุษย์หมูป่า แล้วแบบนี้ครั้งต่อไปเขาจะไม่บุกเดี่ยวไปลุยค่ายมนุษย์หมูป่าเพียงลำพังเลยหรือ?

 

แบบนี้ต่อไปไม่ใช่ว่าเจ้าหนุ่มนี่จะอาจหาญถึงขั้นท้าทายเจ้าของเสียงอันน่าเกรงขามเลยรึ!

 

เหล่าจ้าวเกิดความรู้สึกไร้กำลังอย่างลึกล้ำ

 

เดิมตนประเมินฮังอวี่ไว้สูงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ต้องประเมินใหม่ให้สูงยิ่งกว่าเดิม

 

คนแบบนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจล่วงเกิน มีทางเดียวคือต้องรักษาสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเอาไว้

 

“ลุงจ้าวไม่จำเป็นต้องคิดมาก ที่ผมทำแบบนี้ได้ อันที่จริงแล้วเล่นตุกติกนิดหน่อย ไว้หลังจากนี้จะเล่าให้คนอื่นๆฟัง ทุกคนจะได้เตรียมตัวสำหรับการบุกโจมตีค่ายมนุษย์หมูป่าในครั้งหน้า”

 

ลูกเล่นนี้ยากที่จะทำซ้ำสอง

 

มันเป็นไปไม่ได้ที่ฮังอวี่จะใช้วิธีการเดียวกับด่านหน้าในการบุกยึดค่ายมนุษย์หมูป่า

 

จากการบุกถล่มด่านหน้าในครั้งนี้ น่าจะทำให้สัดส่วนมอนสเตอร์ชั้นยอดในค่าย มนุษย์หมูป่าลดลงระดับหนึ่ง แต่ต้องมีอย่างน้อยเป็นร้อยตัวแน่นอน ไม่ต้องกล่าวถึง BOSS ระดับเจ้าถิ่น

 

ครั้งต่อไปหากให้ลุยเดี่ยวจริงๆ เว้นแต่ฮังอวี่จะแฮ็คระบบของโลกวิญญาณจริงๆ มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะมีโอกาสชนะ

 

ศึกต่อไปต้องเป็นการต่อสู้ในรูปแบบทีมใหญ่ หากไม่รวบรวมคนหลายร้อยคนจากทั้งสามค่าย เกรงว่าแค่หน้าประตูคงไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้

 

และถึงแม้จะรวบรวมคนได้ตามจำนวน แต่หากใช้ไม่ถูกวิธี คงได้ม้วนเสื่อกลับด้วยความพ่ายแพ้ โอกาสชนะมีน้อยมาก

 

“ลุงจ้าวคงไม่ได้มาหาผมเพราะอย่างจะพูดแค่เรื่องนี้หรอกใช่ไหม?” ฮังอวี่เหลือบมองจ้าวหมิงและกล่าวต่อว่า “ว่าไงครับ ต้องการซื้ออุปกรณ์ชิ้นไหน ผมยังพอมีเหลืออยู่ ถ้าอุดหนุนกันซักชิ้นสองชิ้น ผมมีส่วนลดให้ 10%!”

 

“เจ้าเด็กนี่พอรวยแล้วเอาใหญ่เลยนะ แต่เสียใจด้วยตอนนี้หินคริสตัลในกระเป๋าฉันแทบไม่เหลือแล้ว … ฉันไม่ได้มาหานายเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่วางขายบนแผงลอย” เหล่าจ้าวหันซ้ายหันขวา มองไปรอบๆ ก่อนลดเสียงลง “ฉันตั้งใจมาซื้อชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์จากนาย”

 

ฮังอวี่ตะลึงไปครู่หนึ่ง

 

เขายังมีชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์อีกชุดจริงๆ และครั้งนี้ไม่ได้นำมันออกมาวางแผงขาย

 

“แต่ผมเคยบอกไปแล้วนะ ว่าอุปกรณ์ชุดเซ็ทนี้ รับเฉพาะแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น ลุงจ้าวไปเจอของอะไรดีๆมางั้นหรอ?”

 

“กลับไปโลกจริงครั้งก่อน ฉันทุ่มเทเต็มที่ จนได้รับของสิ่งหนึ่งมา และนายน่าจะสนใจ”

 

“โอ้? มันคืออะไรหรอครับ รบกวนเอาออกมาให้ผมดูหน่อย”

 

เหล่าจ้าวเป็นคนทำอะไรจริงจัง เขาไม่ชอบทำอะไรที่เสียเวลาเปล่า หากกล้าเข้ามาคุยกับฮังอวี่เพื่อขอแลกเปลี่ยนชุดเซ็ท แสดงว่าสิ่งที่จะใช้แลกนั่นต้องไม่ใช่อะไรเรียบง่ายแน่นอน

 

จ้าวหมิงหยิบหินสกิลออกมา

 

เป็นหินสกิลอีกแล้ว

 

การผจญภัยในโลกวิญญาณวันนี้ ฮังอวี่ได้เจอหินสกิลหลายก้อน

 

ก้อนแรกคือหินสกิลเล่นแร่แปรธาตุที่เปิดได้จากหีบสมบัติในสวนแห่งความมืด ก้อนต่อมาคือหินสกิลศรจู่โจมที่ดรอปจากนักธนูมนุษย์หมูป่าขนเขียว และต่อมาคือหินสกิลเทคนิควิเคราะห์ที่แลกเปลี่ยนกับเฉินหยู

 

มาตอนนี้เหล่าจ้าวหยิบมันออกมาอีกก้อน

 

ต้องขอบอกว่าการเข้าสู่โลกวิญญาณครั้งนี้กอบโกยกำไรได้มหาศาลจริงๆ!

 

แต่เขายังต้องการดู ว่าหินสกิลที่เหล่าจ้าวนำออกมา มันมีค่ามากพอที่จะใช้แลกชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์ไหม

 

หินสกิลแต่ละก้อนน่ะไม่เหมือนกัน ฉะนั้นมูลค่าย่อมแตกต่าง เช่นหินสกิลสายการผลิตจะมีมูลค่าต่ำ หินสกิลมรดกสายต่อสู้และการรักษาจะมีมูลค่าแพงขึ้นมา

 

อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาข้างต้นใช่ว่าจะถูกเสมอไป ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเอฟเฟกต์ของมันและสถานการณ์

 

เมื่อฮังอวี่ตรวจสอบหินสกิลที่เหล่าจ้าวหยิบออกมา แวบแรกเขาตะลึง พอได้สติแสดงสีหน้ามีความสุข เอ่ยทันทีว่า “หินสกิลนี้มีค่าพอที่จะแลกจริงๆ!”

 

[หินสกิลนักรบ : ก้าววายุ] สีขาวคุณภาพสูง ชิ้นส่วนมรดกของนักท่องวายุ เป็นอาชีพขั้นต่อไปของนักสอดแนม เงื่อนไขการเรียนรู้ : จ่าย 100 แต้มวิญญาณ

 

นี่คือชิ้นส่วนมรดกขั้น 2!

 

นักท่องวายุเป็นอาชีพขั้นต่อมาของนักสอดแนม

 

นักท่องวายุประกอบด้วยสามสกิล หนึ่งหินสกิลสีเขียว และสองหินสกิลสีขาวใส

 

ก้าววายุคือหนึ่งในสามสกิล แม้มันจะไม่ใช่หินสกิลสีเขียว แต่ก็มีมูลค่าสูงมากเช่นกัน

 

ฮังอวี่ไม่รู้ว่าเหล่าจ้าวได้รับหินสกิลนี้มาจากไหน แต่นี่เป็นถึงหินสกิลขั้น 2 หากเหล่าจ้าวอดทน และเก็บมันไว้กับตัวซักหนึ่งหรือสองเดือน แค่หินสกิลนี้เพียงก้อนเดียวก็สามารถใช้แลกเปลี่ยนชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์ได้ถึงสองสามชุด!

 

แม้ชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์จะมีราคาแพงมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วมันยังคงเป็นแค่ชุดเซ็ทเลเวลต่ำ ไม่สามารถรักษามูลค่าไว้ได้ในระยะยาว

 

ขณะที่หินสกิลขั้น 2 น่ะไม่เหมือนกัน ก้าววายุเป็นสกิลที่ดีมาก และมีค่าเป็นอย่างยิ่งสำหรับฮังอวี่

 

การที่เหล่าจ้าวขอแลกเปลี่ยนมันกับชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์เพียงชุดเดียว สำหรับฮังอวี่แล้วนับว่าเป็นกำไรก้อนใหญ่!

 

แต่โชคดีก็คือเหล่าจ้าวต้องการชุดเซ็ทนี้จรืงๆ!

 

ทั้งสองฝ่ายต่างพอใจ แลกเปลี่ยนสิ่งที่ต่างคนต่างต้องการ

 

ฮังอวี่ได้รับหินสกิลก้าววายุ

 

เหล่าจ้าวได้รับชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์สามชิ้น

 

เนื่องจากฮังอวี่พึ่งเรียนรู้สกิลศรจู่โจมมา แต้มวิญญาณในตัวจึงมีไม่ถึง 100 แต้ม ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในตอนนี้

 

เขาตัดสินใจเก็บมันไว้ก่อน ยังไม่สายเกินไปที่จะเรียนรู้มันหลังจากสะสมแต้มวิญญาณได้มากพอแล้ว

 

เหล่าจ้าวเปลี่ยนมาสวมชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์ ค่าคุณสมบัติร่างกายเพิ่มขึ้นทันที 6 หน่วย

 

สีหน้าของเขาดูพอใจมาก

 

เดิมเหล่าจ้าวมุ่งเน้นไปทางสายป้องกัน ตอนนี้เมื่อมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม บวกกับสกิลพรสวรรค์ดีๆ โอกาสในการรอดชีวิตและพลังรบของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า!

 

จ้าวหมิงไม่เพียงสวมชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์เท่านั้น แต่เขายังมีอุปกรณ์สีขาวใสอย่างโล่กูลธาตุไฟ

 

ด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ ขอแค่มีผู้รักษาซักคนคอยช่วยเหลือ ก็เพียงพอแล้วที่จะบุกวิหารเนโครแมนเซอร์

 

หากไม่นับเนโครแมนเซอร์ที่ยังตึงมืออยู่บ้าง พวกกูลหรือโครงกระดูกนักเวทย์คงไม่ต่างอะไรจากอาหารว่าง

 

ฮังอวี่และจ้าวหมิงต่างสวมใส่ชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์ทั้งคู่ แต่หากเทียบกันจริงๆ เกราะอกของฮังอวี่จะดีกว่าเพราะดรอปจาก BOSS ต้นไม้ แต่ชุดเซ็ทนี้เหมาะกับความสามารถของจ้าวหมิงมากกว่า เมื่อสวมใส่มันบางทีอาจระเบิดประสิทธิภาพออกมาได้ยิ่งกว่าของฮังอวี่ก็ได้!

 

แล้วอีกอย่าง ลักษณะของอุปกรณ์ชุดเซ็ททั้งสองเหมือนกันแทบทุกประการ

 

หากทั้งสองยืนใกล้กัน แล้วคนไม่รู้จักเดินมาเห็น คงคิดว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน

 

เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น ฮังอวี่สวมเสื้อคลุมซ่อนราตรีทันที

 

เสื้อคลุมขาดๆจากค่ายก็อบลินถูกแทนที่ด้วยเสื้อคลุมซ่อนราตรี อย่างหลังไม่ใช่แค่ใหญ่ขึ้นจนสามารถปกปิดอุปกรณ์บนร่างกายได้แทบจะมิดชิดเท่านั้น แต่ยังมีฮู้ดอยู่ข้างหลัง สามารถยกขึ้นมาคลุมหัวปิดบังหน้าตาได้ ให้ความรู้สึกเหมือนพวกนักฆ่าหรือนักลอบวางเพลิงเป็นอย่างยิ่ง

 

“เงียบก่อน!”

 

“ทุกคนเงียบ!”

 

“ฉันว่าทุกคนน่าจะเห็นแล้ว”

 

“พวกเราสามารถยึดด่านหน้าบนยอดเขาได้สำเร็จในครั้งนี้ พูดได้เลยว่าเป็นเพราะ ฮังอวี่คนเดียว”

 

“ตามข้อตกลงที่เคยสัญญากันไว้ ฉันขอแนะนำให้เลือกฮังอวี่เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของทั้งสามค่าย ทุกคนไม่น่าจะมีข้อโต้แย้งใช่ไหม?”

 

จ้าวหมิงตะโกนเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน

 

เขาเสนอฮังอวี่ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าของสามค่ายพันธมิตร!