3/8

 

Ep.603

 

“ฮะ .. ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานและชาวอมตะหันมองหน้ากัน จากนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

เป็นแค่ผู้ฝึกตนเลเวล 7 แต่กลับกล้าข่มขู่พวกเขาซึ่งหน้า ช่างจองหองและน่าขันนัก!

 

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงหัวเราะก็หยุดลง

 

ชาวอมตะมองซูเฉินด้วยความสนใจ แค่นเสียงเย็น “เด็กน้อย เรียกผู้แข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังเจ้าออกมาดีกว่า ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก”

 

ซูเฉินปาดจมูกเขา พลางพยักหน้า “ในเมื่อพวกแกยืนกรานถึงขนาดนี้ งั้นฉันจะจัดให้สมปรารถนา!”

 

ทันทีที่สิ้นเสียง ซูเฉินสะบัดข้อมือ เรียกสัตว์เลี้ยงวิญญาณสี่ตัวและต้นหลิววัชระออกมาเคียงข้างเขาในเวลาเดียวกัน

 

“สัตว์เลี้ยงวิญญาณกับซอมบี้ .. นี่น่ะหรอไพ่ตายของเจ้า?” ชาวอมตะชะงักไปครู่หนึ่ง

 

ผู้ช่วยที่ซูเฉินเรียกออกมามีหลายตัวก็จริง แต่เลเวลสูงสุดอยู่ที่ขั้น 8 เท่านั้น หรืออีกฝ่ายต้องการเน้นเอาปริมาณเข้าสู้กับพวกเขา?

 

แต่ต้องรู้นะว่า พวกเขาคือผู้แข็งแกร่งขั้น 9 ที่แท้จริง หรือก็คือแข็งแกร่งกว่าพวกปกติในเลเวลเดียวกัน

 

เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ด้อยกว่าตนเอง เกรงว่าจะสามารถฆ่าได้ในกระบวนท่าเดียว

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า พวกเขาถึงไม่เข้าใจการกระทำของูซเฉิน

 

ทั้งยังแคลงใจว่าเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ถูกซูเฉินฆ่าตายจริงๆน่ะหรอ?

 

“พวกนายเห็นไหม ไอ้หมอนั่นมันดูถูกพวกนาย ไปพิสูจน์ให้เขาเห็นซะ!” ซูเฉินชี้นิ้วไปทางชาวอมตะ กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส

 

หงส์เพลิงเดิมเป็นพวกทะนงตนอยู่แล้ว เช่นนั้นมันจะยอมปล่อยให้คนอื่นดูหมิ่นเอาง่ายๆได้อย่างไร?

 

“ฆ่า!”

 

สัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสี่และต้นหลิววัชระโกรธมาก ไฟโทสะลุกโชนแผดเผา กระโจนเข้าหาชาวอมตะพร้อมกัน

 

“แรงกดดันไม่เลวเลยนี่” ชาวอมตะเดาะลิ้น เลิกดูถูกพวกมัน เข้าต่อกรกับสี่สัตว์เลี้ยงวิญญาณและต้นหลิววัชระ

 

ซูเฉินรู้ดี ด้วยความแข็งแกร่งของสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสี่และต้นหลิววัชระ ต่อให้ไม่สามารถฆ่าเผ่าอมตะได้ แต่หากพัวพันป่วนสมาธิ ไม่มีปัญหาใดๆ

 

ด้วยเหตุนี้ เขาเลยสามารถมุ่งสมาธิไปกับเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานได้อย่างมั่นใจ เจ้าตัวฉีกยิ้มหยามเหยียด “ไหนๆแกก็อุตส่าห์อาสามาตายที่นี่ด้วยตัวเองแล้ว งั้นฉันก็ขอทำให้สมปรารถนาเอง!”

 

สิ้นเสียง แสงสีม่วงกระพริบไหวบนเท้าของเขา พรวดเข้าหาเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานอย่างรวดเร็ว

 

“รนหาที่ตาย!”

 

สีหน้าของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย พลิกฝ่ามือและฟาดออกไป พลังที่มองไม่เห็นสายหนึ่งกวาดไปเบื้องหน้าดั่งมหาสมุทรมันกว้างใหญ่

 

ในความคิดเขา ซูเฉินเป็นเพียงผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 แต่กล้าโจมตีตน นี่เท่ากับเลือกโยนตัวเองลงสู่ความตาย

 

ซูเฉินสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจมหาศาลที่กดเข้ามา เขาไม่ลังเลเลยที่จะเปิดใช้งาน [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] จากนั้นปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณ

 

พลังจิตสองสายปะทะกันดุเดือด ภาพอันบิดเบี้ยวปรากฏขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า

 

อย่างไรก็ตาม ต้านกันได้ไม่กี่ลมหายใจ พลังจิตของซูเฉินก็ถูกทำลาย

 

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ซูเฉินไม่ตื่นตระหนกใดๆ ยังคงก้าวไปข้างหน้า

 

พริบตานั้นเอง เห็นแค่เพียงภูเขาห้าสีปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ปิดกั้นพลังจิตทั้งหมดที่กำลังกระทบลงบนร่างเขา

 

“สิ่งประดิษฐ์เทวะ”

 

สีหน้าของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานกลายเป็นมืดมนผิดปกติ จำต้องลอบสำรวจซูเฉินอีกครั้ง

 

แม้ซูเฉินจะอยู่แค่เลเวล 7 แต่หลังจากใช้เทคนิคแปลงร่างแล้ว ระดับฐานฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 8 ในพริบตา แล้วอีกอย่าง พลังแห่งจิตวิญญาณยังเหนือกว่าในเลเวลเดียวกัน บวกพวกเรื่องที่มีสิ่งประดิษฐ์เทวะ

 

ด้วยกลวิธีมากมายที่นำออกมาใช้ อันที่จริงถือว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะต่อสู้กับเขาได้

 

“มนุษย์ ข้าเห็นไพ่ตายของเจ้าแล้ว ต่อไปเจ้าจะได้เห็นไพ่ตายของข้าบ้าง!”

 

เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานทำสีหน้าเคร่งขรึม ทันใดนั้นแสงสีม่วงสะท้อนออกมาจากดวงตาเขา ดั่งกระสุนพุ่งขึ้นกลางอากาศ แล้วผสานเข้ากับพลังแห่งจิตวิญญาณอย่างรวดเร็ว ก่อนกวาดไปยังซูเฉินอีกครั้ง

 

ซูเฉินไม่ประมาท ควบคุม [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] แล้วทุบไปข้างหน้าสุดแรง

 

หึ่ง หึ่ง!

 

ความว่างเปล่าเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับว่ามีบางอย่างแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

วินาทีถัดมา ซูเฉินรู้สึกว่าตาตัวเองพร่ามัว ฉากทิวทัศน์โดยรอบแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว–

 

–จู่ๆก็พบว่าตัวเองมาโผล่กลางทะเลทรายอันแห้งแล้งแห่งหนึ่ง

 

4/8

 

Ep.604

 

“ภาพลวงตา?”

 

ซูเฉินหรี่ตาและกวาดมอง ปากบ่นพึมพำ

 

การโจมตีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญกับมัน

 

“ไอ้หนู เจ้าได้ถูกส่งเข้าไปในค่ายกลจิตลวงตาของข้าแล้ว ต่อให้แข็งแกร่งเทียมฟ้า วันนี้อย่าหวังว่าจะรอดไปจากที่นี่ได้”

 

ระหว่างนั้นเอง เสียงของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานดังก้องอยู่ในหูของซูเฉิน

 

“กับอีแค่ค่ายกลลวงตา คิดว่าจะกักขังฉันได้หรือ?”

 

ซูเฉินยิ้มดูแคลน เหยียดมือกางออก ยิงเทคนิคพายุสายฟ้า

 

ได้ยินเพียงเสียงตูม!

 

สายฟ้าแลบบนพื้นทะเลทรายที่ห่างออกไปไม่ไกล บนท้องฟ้าปลิวว่อนไปด้วยกรวดทราย ภาพเบื้องหน้าคล้ายอยู่ในห้วงภวังค์ แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

 

“ฮี่ ฮี่ ถ้าเจ้าคิดว่าจะทำลายค่ากลจิตลวงตาด้วยเวทมนต์ล่ะก็ … ฝันไปเถอะ!”

 

เสียงเยาะเย้ยของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานดังสะท้อนเข้ามาอีกครั้ง

 

ซูเฉินไม่เชื่อเรื่องเพ้อเจอนี้ เขาปลดปล่อยเวทมนต์อีกหลายชุดติดต่อกัน บังเกิดเสียงอึกทึกครึกโครม แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายกำแพงภาพลวงตาที่อยู่ตรงหน้าได้

 

“น่าสนใจดีนี่”

 

ซูเฉินหรี่ตาลง สมองปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว

 

วินาทีถัดมา เจ้าตัวเปิดใช้งาน [ก้าวเมฆามรกต] สองเท้าทะยานขึ้นไปในอากาศเบื้องบน

 

กระนั้น หลังจากปีนป่ายขึ้นไปได้หลายร้อยเมตร เขาก็ต้องพบกับเรื่องน่าประหลาดใจ เพราะในสายตา ยังคงเห็นภาพของพื้นทรายปรากฏอยู่เบื้องหน้า มิใช่เบื้องล่าง

 

“อย่าพยายามโดยไร้ประโยชน์เลย เจ้าไม่สามารถหนีจากเงื้อมมือของข้าได้ จงยอมรับชะตากรรมแต่โดยดีเถอะ!”

 

ระลอกคลื่นจางๆผุดขึ้นในอากาศ ไม่ช้าภาพหลอนของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานก็ปรากฏขึ้น

 

เวลานี้ ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยประกายดุร้าย มุมปากยกโค้งดูสาแก่ใจ

 

ซูเฉินจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ง้างแขนและชก [หมัดดาวตก] ออกไป ทำลายภาพหลอนของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมาน

 

กระนั้น อีกไม่กี่วินาทีต่อมา ภาพหลอนของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาแสยะยิ้มและกล่าวว่า “เอาสิ จงทุบตีข้าต่อไป!”

 

ซูเฉินไม่ได้ลงมือต่อ จุดประสงค์ของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานคือต้องการให้เขาสิ้นเปลืองพลังงาน รอจนหมดแรง ถึงเวลานั้นเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานจะต้องโจมตีเขาอย่างแน่นอน

 

และซูเฉินจะไม่ยอมให้แผนการของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานสำเร็จ

 

หลังจากไตร่ตรองครู่หนึ่ง ซูเฉินก็ยิ้มบางและกล่าวว่า “ว่าแต่แกเองเถอะ ใช้วิชาลวงตานี้ คงสิ้นเปลืองพลังงานไปไม่น้อยเลยสิใช่ไหม?”

 

นี่ก็ผ่านมาชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมาน ทำได้ดีที่สุดคือกักขังเขาไว้ มิอาจทำร้ายเขาแม้เพียงปลายเล็บ ฉะนั้น นี่เป็นแค่การแข่งความอดทนกัน ว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากันเท่านั้น

 

“เจ้าไม่กังวลว่าระหว่างนี้ สัตว์เลี้ยงวิญญาณจะถูกสังหารหรือ?” เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานเตือน

 

ก็อย่างที่ซูเฉินกล่าว ค่ายกลจิตลวงตานี้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล ต่อให้เป็นเลเวล 9 ก็ไม่อาจคงสภาพมันไว้ได้นาน

 

หากซูเฉินเลือกอยู่เฉยไม่ทำอะไร มันจะส่งผลร้ายต่อเขาเป็นอย่างมาก

 

ซูเฉินเยาะหยัน “ฉันว่าแกควรกังวลว่าเพื่อนของแกจะรอดไปได้รึเปล่าดีกว่านะ”

 

หากสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสี่และต้นหลิววัชระร่วมมือกันยังไม่สามารถกำจัดผู้ฝึกตนเลเวล 9 ได้ พวกมันก็ไม่ควรค่าที่จะให้เขาชุบเลี้ยงอีกต่อไป

 

ได้ยินคำซูเฉิน สีหน้าของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานกลายเป็นมืดมน

 

ซูเฉินมองไม่เห็นสถานการณ์ภายนอกก็จริง แต่ตัวเขาเห็นแจ้งแจ่มชัด

 

ช่วงเวลานี้ ชาวอมตะตกอยู่ภายใต้การปิดล้อมของสัตว์เลี้ยงวิญญาณ และเริ่มแสดงอาการอ่อนล้าออกมาแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ

 

หากชาวอมตะพลาดท่า เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานจะตกอยู่ในสถานะเสียเปรียบอย่างไม่มีวันพลิกฟื้นกลับมา

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เขาไม่สามารถรอให้สถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นได้ คงต้องกำจัดซูเฉินให้เร็วที่สุดเท่านั้น จึงจะพลิกวิกฤต

 

“เจ้าคิดหรือว่าเราราชาจะพ่ายแพ้? ช่างฝันเฟื่อง! ถ้าเช่นนั้นเราราชาจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้!”

 

เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งหนันหมานหัวเราะเหี้ยมโหด

 

สิ้นเสียง ภาพหลอนทั้งตัวเกิดการระเบิดออก กลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย จมลงไปในทะเลทราย

 

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ทั่วทั้งพื้นทรายเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

ตามมาด้วยร่างทีละร่างผุดขึ้นมาจุกกรวดทราย

 

“ซูเฉิน! จงมอบชีวิตมา!”

 

พริบตานั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากปากยักษ์สูง 100 จั้ง

 

ซูเฉินแหงนมอง หลังจากเห็นหน้าศัตรูชัดๆ เปลือกตาของเขากระตุกทันใด ร้องตะโกนเป็นชื่อของศัตรูคู่แค้นผู้หนึ่ง–

 

“–หลี่เหลียง!