1/10

 

Ep.581

 

เสียงปืนใหญ่ดึงกึกก้องหน้าประตูเมืองเป่ยลู่

 

จากนั้น เห็นแค่เพียงหัวของชาวเต่าเขียวตนหนึ่งระเบิดออก เลือดสาดกระจายไปทั่ว

 

ชาวเต่าเขียวตนอื่นๆหน้าประตูเมืองต่างตะลึงงัน นิ่งค้างอยู่กับที่

 

ไม่รอให้พวกมันตอบสนอง เสียงปืนใหญ่ดังสนั่นก็สะท้อนเข้ามาในหู

 

ตูม ตูม ตูม

 

ปัง ปังปังปังปังปังปังปังปัง

 

[ปืนใหญ่เพาส์] และ [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] ระดมยิงพร้อมกัน ก่อพายุนองเลือดที่หน้าประตูเมือง

 

พวกเต่าเขียวที่อยู่หน้าประตูเมือง มีเลเวลสูงสุดอยู่แค่ 2 เท่านั้น ไม่อาจต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังนี้ได้เลย พริบตาเดียวบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วน

 

“วิ่ง!”

 

ชาวเต่าเขียวที่ยังรอดร้องตะโกน พากันหนีเข้าไปในเมือง

 

[รถศึกอัจฉริยะ] ขับเคลื่อนไปตลอดเส้นทาง ราวกับบริเวณโดยรอบเป็นดินแดนที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใด

 

เกิดการสังหารหมู่ขึ้น รถศึกขับไปทางไหน ทางนั้นจะกองไปด้วยซากศพชาวเต่าเขียว และไม่มีตัวใดเลย ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ทั้งหมดแหลกเป็นชิ้นๆ

 

เมืองเป่ยลู่ ณ ขณะนี้ ค่อยๆกลายเป็นนรกอเวจีเหมือนเมืองหลวงตะวันออก

 

ซูเฉินกวาดสายตามองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เอ่ยถามเสียงต่ำ “เสี่ยวจือ ในเมืองเป่ยลู่มีเผ่าเต่าเขียวอยู่กี่ตน?”

 

“ราวๆ 23,000 ตน” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที

 

เมืองเป่ยลู่ก็นับว่าเป็นเมืองใหญ่ แต่จำนวนเผ่าเต่าเขียวกลับน้อยนิด นี่ทำให้ซูเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์หลักของเขาคือทางผ่านเขตแดน ดังนั้นฆ่าได้น้อยก็ไม่เป็นไร ยังพอรับได้

 

หลังจากนั้น เขาก็เรียกสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งหมดออกมา เอ่ยบัญชา

 

“สังหารล้างเมือง! อย่าปล่อยให้พวกต่างเผ่ารอดไปได้!”

 

การสังหารล้างเมือง เป็นอะไรที่โหดร้ายและนองเลือดมาก แต่ทุกครั้งที่นึกถึงอาชญากรรมที่พวกเต่าเขียวกระทำบนเกาะเฉียนหยู ซูเฉินรู้สึกว่าแค่นี้ไม่มากเกินไป

 

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง แค่จะช้าจะเร็วก็เท่านั้น

 

เผ่าเต่าเขียวสังหารมนุษย์ในเมืองจิงกัง เวลานี้ซูเฉินสังหารล้างเมืองเป่ยลู่ ถือว่าสาสมกัน

 

สัตว์เลี้ยงวิญญาณน้อมรับคำสั่งซูเฉิน ตรงเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว เปิดโหมดสังหาร

 

หวู่หยางและคนอื่นๆก็ลงจากรถเช่นกัน เข้าร่วมการล่าครั้งนี้

 

“เสี่ยวจือ ค้นหาผู้แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเป่ยลู่ แล้วล็อคตำแหน่งมันไว้” ซูเฉินสั่ง

 

เขายังไม่ทราบตำแหน่งที่แน่นอนของทางผ่านเขตแดน ดังนั้นตั้งใจจะจับตัวเป้งมาทรมานสอบปากคำ

 

“เจ้านาย มีชาวเต่าเขียวเลเวล 3 กำลังพยายามหลบหนี ขณะนี้อยู่บนกำแพงทาตะวันตกของเมือง” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ

 

ซูเฉินกวาดสายตามองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง จากนั้นไล่ตามชาวเต่าเขียวเลเวล 3 ไป

 

ไม่กี่นาทีต่อมา ชาวเต่าเขียวตนนั้นก็ถูกโยนลงกับพื้น ซูเฉินเอ่ยถามเสียงเย็นว่า “ทางผ่านเขตแดนที่นำไปสู่เผ่าราชวงศ์อสูรอยู่ที่ไหน?”

 

ชาวเต่าเขียวกราบกรานกับพื้น ตอบด้วยความหวาดกลัวว่า “ผู้อาวุโส ทางผ่านเขตแดนอยู่ในตำหนักว่านเหอทางตะวันออกของเมือง”

 

“เสี่ยวจือ ค้นหาตำหนักว่านเหอ แล้วล็อคตำแหน่ง”

 

ซูเฉินออกคำสั่ง ระหว่างนั้นเอ่ยถามชาวเต่าเขียวต่อว่า “ผู้ฝึกตนที่สามารถข้ามทางผ่านเขตแดนแห่งนั้น ต้องมีเลเวลไม่เกินระดับไหน?”

 

หากทางผ่านเขตแดนยังไม่สมบูรณ์ มักมีเงื่อนไขในการเข้าออกอยู่

 

หากว่ากันตามปกติแล้ว ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าออกได้ยากขึ้นเท่านั้น

 

ซึ่งปัจจุบันซูเฉินเลเวล 7 แล้ว ไม่ต่ำต้อยอีกต่อไป เขากังวลมากจริงๆว่าจะไม่สามารถข้ามทางผ่านเขตแดนได้

 

ชาวเต่าเขียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบว่า “ผู้ฝึกตนเลเวล 7 แทบไม่สามารถเข้าออกได้ หากเลเวลสูงกว่านั้น ทางผ่านเขตแดนจะไม่อาจทนไหว”

 

ซูเฉินถอนหายใจโล่งอก

 

จากนั้น เขาระเบิดหัวชาวเต่าเขียว แล้วเริ่มเก็บชิ้นส่วน

 

2/10

 

Ep.582

 

ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ชาวเต่าเขียวทั้งหมดในเมืองเป่ยลู่ก็ถูกสังหาร

 

ซูเฉินเก็บชิ้นส่วนจนครบ ก็นำทุกคนไปยังตำหนักว่านเหอ

 

ทางผ่านเขตแดนของตำหนักว่านเหอ แทบไม่ต่างไปจากทางผ่านเขตแดนที่เขาเคยเห็นมาก่อน อันที่จริงแล้วทางผ่านเขตแดนก็คล้ายกับค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่

 

แค่เนื่องจากเป็นการเคลื่อนย้ายข้ามทวีป เงื่อนไขที่ต้องการจึงสูงกว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายทั่วๆไปมาก

 

มาถึงทางผ่านเขตแดน ซูเฉินสามารถมองเห็นสถานการณ์ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน

 

ปลายทางของทางผ่านเขตแดน เหมือนว่าจะเป็นหุบเขา และมีชาวราชวงศ์อสูรหลายตนกำลังเฝ้ายามอยู่

 

อย่างไรก็ตาม ดูจากท่าทางของพวกมันแล้ว ค่อนข้างเกียจคร้าน คล้ายไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าจะมีใครมาทำลายทางผ่านเขตแดนแห่งนี้

 

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ซูเฉินเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปในทางผ่านเขตแดน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนเดินทางผ่านค่ายกลเคลื่อนย้าย

 

หลังจากวิสัยทัศน์พร่ามัวและโลกหมุน ซูเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นในปลายทางอีกด้านของทางผ่านเขตแดน หรือก็คือทวีปเผ่าราชวงศ์อสูร

 

พอมีตัวอย่าง หวู่หยางและคนอื่นๆก็ไม่ลังเลใจ ก้าวเข้าไปทีละคน

 

“พวกเจ้าเป็นใครกัน?”

 

“ดูเหมือนจะเป็นเผ่ามนุษย์?”

 

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซูเฉิน ทำให้ชาวเผ่าราชวงศ์อสูรร้องโวยวายด้วยความตกใจ

 

พวกมันกรูกันเข้ามา ล้อมรอบซูเฉิน

 

และในเวลานั้นเอง หวู่หยางกับคนอื่นๆก็ตามมาถึง ทยอยกันปรากฏตัวขึ้นข้างกายซูเฉินทีละคน ทีละคน

 

เห็นมนุษย์จำนวนมากปรากฏขึ้นพร้อมกัน ชาวราชวงศ์อสูรรอบๆต่างตกตะลึง

 

ทั้งหมดบังเกิดความสับสน เพราะทางผ่านเขตแดนแห่งนี้นำไปสู่เผ่าเต่าเขียวชัดๆ ฉะนั้นผู้มาเยือนสมควรเป็นเผ่าเต่าเขียว แล้วไหงกลายเป็นมนุษย์ไปได้?

 

อย่าบอกนะว่าทางผ่านเขตแดนของเผ่าเต่าเขียวถูกมนุษย์ยึดไปแล้ว?

 

“มนุษย์ เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? จงตอบตามความจริง! มิฉะนั้น ..ตาย!”

 

ชาวราชวงศ์อสูรที่ขี่หมูป่า กวาดสายตาตรวจสอบซูเฉินและคนอื่นๆอย่างระแวดระวัง ขึ้นเสียงตะโกน

 

ซูเฉินเบ้ปาก หัวเราะเบาๆว่า “แกไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รู้ ”

 

สิ้นเสียง เขาปลดปล่อยพลังจิตออกมาระเบิดร่างชาวราชวงศ์อสูรรอบๆ เหลือเพียงตัวที่ขี่หมูป่าถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

“ปรมาจารย์พลังจิต!”

 

เห็นแค่เพียงหัวของพวกพ้องรอบๆ ระเบิดโผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ ทีละตน ชาวราชวงศ์อสูรที่ขี่หมูป่าตื่นตกใจ

 

มันรู้ได้ในทันที ว่าชายหนุ่มฝั่งตรงข้าม คือปรมาจารย์พลังจิตอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งยังเป็นปรมาจารย์พลังจิตที่ทรงพลังมากอีกด้วย

 

ไม่อย่างนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าชาวเผ่าจำนวนมากในพริบตาเดียว

 

“ที่นี่คือที่ไหน? ตอบตามตรง อย่าเล่นตุกติก” ซูเฉินหรี่ตา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

ชาวราชวงส์อสูรกัดฟันร้องคำรามขึ้นใด “มนุษย์ กล้าดียังไงถึงมาอาละวาดที่นี่? เจ้าไม่กลัวตายหรือ”

 

ความแข็งแกร่งของซูเฉิน มากพอที่จะทำให้มันหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง

 

แต่เมื่อฉุกคิดได้ว่าที่แห่งนี้คือทวีปเผ่าราชวงศ์อสูร ต่อให้ซูเฉินแข็งแกร่งซักแค่ไหน แต่ก็มีพรรคพวกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แล้วแบบนี้จะต้านทานเผ่าราชวงศ์อสูรได้หรือ?

 

เมื่อคิดได้แบบนี้ มันก็สลัดความยำเกรง ตวาดสวนออกมา

 

คนที่กล้าอวดดีต่อหน้าซูเฉิน ไม่เคยพบจุดจบที่ดี และชาวราชวงศ์อสูรเบื้องหน้า ก็ไม่มีข้อยกเว้นน!

 

ได้ยินเพียงเสียงดังโผล๊ะ

 

ทั้งตัวหมูป่าและสองขาของชาวราชวงศ์อสูรที่แนบอยู่กับลำตัวมัน ระเบิดเป็นละอองเลือดไปพร้อมๆกัน

 

“อ๊ากกกก”

 

ชาวราชวงศ์อสูรล้มลงกับพื้น กลิ้งไปมาไม่หยุด สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด

 

เนื่องจากเกิดเสียงเอะอะค่อนข้างดัง ไม่นาน ชาวราชวงศ์อสูรก็กรูกันเข้ามา จำนวนราวๆ 100 ตน

 

เห็นผู้มาเยือน ซูเฉินง้างแขน แล้วซัด [หมัดดาวตก] ทันที

 

บังเกิดเงาหมัดสีทองพรั่งพราวเต็มท้องฟ้า ตามมาติดๆด้วยเสียงกระดูกแตกหักดังเป็นชุด

 

ชาวราชวงศ์อสูรทั้ง 100 ตน ถูกทำลายกระดูก ถูกเปลี่ยนกลายเป็นกองเนื้อเหลว