1/10
Ep.401
“ข้าได้ยินคำร่ำลือมานานแล้ว ว่าเจ้าเป็นคนมุทะลุไม่หวั่นเกรงสิ่งใด บ้าบิ่นผิดมนุษย์มนา ได้พบกันวันนี้ ข้าก็ยิ่งมั่นใจว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นความจริง!”
ชายนิรนามหรี่ตาลง เขาไม่โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา
“ซูเฉิน เด็กน้อยผู้กล้าหาญเอ๋ย วันนี้อย่าหวังเลยว่าจะหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเราไปได้” มหาจักรพรรดิเฮยหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มมืดมน
“หนี?”
ซูเฉินแค่นเสียงเบาๆ กล่าวหยามเหยียด “ฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกแกโดยเฉพาะ แล้วทำไมฉันต้องหนีด้วย?”
“เจ้านี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ! เช่นนั้นเราราชาจะมอบบทเรียนให้เอง!” เค่อเสวียนซั่วหัวเราะดุร้าย แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ฝีเท้าขยับวูบไหว ทั้งตนทั้งร่างทะยานเข้าหาซูเฉิน
ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพในฐานะผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ส่งผลให้ความว่องไวของเขารวดเร็วปานสายฟ้า พริบตาเดียวก็สามารถประชิดตัวซูเฉิน
“ไปลงนรกซะ!”
เค่อเสวียนซั่วร้องคำราม เกร็งกำปั้นจนเห็นเส้นเลือด ซัดเข้าตรงใบหน้าของซูเฉิน
ซูเฉินสัมผัสได้ถึงลมกรรโชกปะทะใบหน้าเขา ระเบิดกำปั้นสวนกลับไปอย่างไม่ลังเล
หวืออออ!
บังเกิดเสียงหวีดหวิวสะท้อนไปรอบด้าน
วินาทีนั้น หมัดทองคำนับร้อยปรากฏขึ้นกลางอากาศ
พวกมันเชื่อมต่อกันจนดูเหมือนภูเขาทอง เปล่งอานุภาพรุนแรงชนิดหาผู้ใดเทียบเปรียบได้
“นี่มันอะไรกัน!”
เค่อเสวียนซั่วตกตะลึง สิ่งที่สะท้อนอยู่ในแววตาเขา คือหมู่มวลเงาหมัดเจิดจรัสสีทองกำลังกดทับลงมา
“ช่างเป็นเทคนิคหมัดอันร้ายกาจ!”
หัวใจของมหาจักรพรรดิเฮยหยุนหนาวสะท้าน เทคนิคหมัดอันน่าสะพรึงเช่นนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้พบเจอในชีวิต จิตใจถูกสั่นคลอนไม่มากก็น้อย
เค่อเสวียนซั่วคิดหลบเลี่ยงก็ไม่ทันการณ์แล้ว ทำได้เพียงฝืนเผชิญหน้ากับมัน
วินาทีถัดมา ตลอดทั้งร่างของเค่อเสวียนซั่วก็ถูกกลืนหายไปกับเงาหมัดสีทอง
กึ้ง กึ้ง กึ้ง!
เสมือนห่าฝนกระทบลงบนแผ่นเหล็ก กระแทกย้ำๆจนร่างของเค่อเสวียนซั่วจมหายลงไปใต้พื้นดิน
เฝ้ารอจนกระทั่งเงาหมัดสีทองหายไปอย่างสิ้นเชิง วิสัยทัศน์ถึงค่อยกลับมา และพบว่าเค่อเสวียนซั่วนอนแผ่อยูกับพื้น ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดเนื้อเลอะเลือน กระดูกตามร่างกายหักหลายชุดด แม้แต่ลมหายใจก็ขาดห้วงไป
ซู๊ดดดด!
ได้เห็นฉากนี้ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจเย็นเยียบ
มหาจักรพรรดิเฮยหยุนและผู้แข็งแกร่งอีกสองคนสีหน้าซีดเผือด
แค่หมัดเดียว ..! ผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 แห่งเผ่าราชวงศ์อสูรถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย!
นี่แสดงให้เห็นว่า เทคนิคหมัดของซูเฉินททรงพลังเพียงใด
“แข็งแกร่งมาก!”
มหาจักรพรรดิเฮยหยุนถึงกับอ้าปากค้าง เหงื่อเย็นผุดพรายบนหน้าผากเขาโดยไม่รู้ตัว
เขาลอบถามตัวเอง ว่าหากตนสลับตำแหน่งกับเค่อเสวียนซั่ว คนที่นอนแผ่เป็นหมาตายอยู่บนพื้น ก็ย่อมเป็นเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
“เฮยหยุน เซินหลาง ชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป พวกเราต้องลงมือพร้อมกัน” ชายนิรนามแนะนำ
เขาตระหนักดี ว่าความแข็งแกร่งที่ซูเฉินเพิ่งสำแดงออกมาอาจเป็นแค่ปลายยอดของภูเขาน้ำแข็ง แต่ถึงกระนั้น มันก็มากพอที่จะใช้บดขยี้ผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ได้อย่างง่ายดาย
ความแข็งแกร่งของพวกเขากับเค่อเสวียนซั่วไม่ได้ต่างกันมาก หากตัวต่อตัวกับซูเฉิน ผลลัพธ์คงมีเพียงถูกสังหาร
และหากต้องการฆ่าซูเฉิน ทั้งสามจำเป็นต้องร่วมมือกัน ถึงจะพอมีโอกาสขึ้นมาบ้าง
“พวกเราลงมือ!” มหาจักรพรรดิเฮยหยุนคำรามออกมา
เหล่าปรมาจารย์มนตราและปรมาจารย์พลังจิตที่อยู่รอบๆเริ่มโจมตีทันที ในชั่วพริบตา ทั้งเวทมนต์และพลังจิตหลายสิบสายโถมลงบดขยี้ซูเฉิน
ทว่าร่างของซูเฉินมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] เวทมนต์หรือพลังจิตในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าไม่สามารถทำร้ายเขาได้
อย่างไรก็ตาม เวทย์น้ำแข็งที่ชายนิรนามกำลังปลดปล่อยออกมา มันทำให้เขารู้สึกใจสั่น
สัญชาตญาณบอกเขา ว่าเทคนิคหอกน้ำแข็งนี้น่าจะเหนือยิ่งกว่าเลเวล 6 อาจเทียบได้เลยกับเวทมนต์เลเวล 7
“สมแล้วที่เป็นเผ่ามายา พลังเวทย์ของพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ”
สองตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ในจังหวะที่หอกน้ำแข็งพุ่งแหวกอากาศเข้ามา ดาบเล่มหนึ่งก็ตวัดสวนกลับไปในแนวนอน
เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นสีขาวไหลออกมาจากใบดาบ ปะทะเข้ากับหอกน้ำแข็งอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ได้ยินเสียงดัง ‘เปรี๊ยะ’
เทคนิคหอกน้ำแข็งซึ่งเทียบได้เลยกับเลเวล 7 ถูกผ่าครึ่ง อำนาจทำลายกระจัดกระจายหายไป
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”
เห็นภาพนี้ ชายนิรนามตื่นตะลึงจนขวัญกระเจิง
2/10
Ep.402
ด้วยสถานะเผ่ามายา การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดคือการโจมตีด้วยเวทมนตร์
ซึ่งเหตุผลที่เผ่ามายาสามารถกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ได้ ก็เพราะพรสวรรค์ทางเวทมนต์นั่นเอง
เผ่ามายาทุกคน ไม่ว่าจะร่ายเวทย์แบบใด พลังเวทย์ของพวกเขาจะเหนือกว่าคนในระดับเดียวกันมาก หรือสามารถบดขยี้ปรมาจารย์มนตราในเลเวลเดียวกันได้อย่างง่ายดาย
ชายนิรนามเป็นอัจฉริยะเผ่ามายา ดังนั้นเวทมนต์ที่ปลดปล่อยออกมาจึงมีระดับสูงกว่าเลเวลเดียวกันถึงขั้นหนึ่ง
ซึ่งตลอดมา นี่คือสิ่งที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด
แต่ไม่นึกฝันเลย ว่าวันนี้จักพ่ายแพ้ให้แก่มนุษย์วัยเยาว์
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่ยอมรับมากที่สุดก็คือ ซูเฉินมีเลเวลแค่ 5 เท่านั้น แต่เวทมนต์ที่ปลดปล่อยออกมา มันเหนือกว่าเลเวล 7 ไปแล้ว
นี่แสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์ด้านเวทมนต์ของซูเฉินมีมากกว่าตน
ซึ่งเบื้องหน้านี้ คือการระเบิดโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเขา
ในความเป็นจริงแล้ว ชายนิรนามไม่ทราบว่าพลังเวทย์ของซูเฉินอยู่ในเลเวล 5 เท่านั้น
ส่วนเหตุผลที่มันทรงพลังมากๆ ก็เนื่องจากเวทย์ธาตุน้ำแข็งของเขา ได้หลอมรวมเอาวัตถุไร้รูปสองชนิดอย่าง [เหมันต์เก้าเร้นลับ] และ [เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] ควบคู่ไปกับถูกปลดปล่อยผ่าน [ดาบเสริมมนตรา]
แน่นอน ว่าซูเฉินจะไม่บอกเรื่องนี้ออกไป
หลังจากทำลายหอกน้ำแข็งของชายนิรนามได้แล้ว เวทมนต์และพลังจิตจากทุกทิศทางได้ถล่มโจมตีลงบนร่างเขา แต่ไม่ว่าจะการโจมตีใด ล้วนถูกสะท้อนออกไปสิ้น
ช่วงเวลานี้ มหาจักรพรรดิเฮยหยุนและเซินหลางได้บุกมาถึงเบื้องหน้าซูเฉินแล้ว
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเวทมนต์และพลังจิตทั้งหมดไม่สามารถทำร้ายซูเฉินได้ ทั้งสองคล้ายเกิดอาการช็อค ฝีเท้าเชื่องช้าลง
สามารถเพิกเฉยต่อเวทมนต์และพลังจิตทั้งปวง ศัตรูเช่นนี้มันฝันร้ายชัดๆ!
นี่ไม่เท่ากับว่าอย่างไรซูเฉินก็ฆ่าไม่ตายหรอกหรือ?
ขณะที่ทั้งสองตกอยู่ในห้วงภวังค์ ซูเฉินสะบัดมือข้างหนึ่ง ลำแสงสีทองและสีแดงอย่างละสายพุ่งออกมาจากมือเขา
โครม!
หลังจากที่ลำแสงสีทองส่องประกาย มันก็ก่อรูปเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่โตดั่งขุนเขา สี่เท้าย่ำพื้นดินจนสะเทือนเลือนลั่น แรงกดดันที่ปลดปล่อยออกมาคล้ายวังวนพายุกวาดพัดไปทั่วบริเวณ
อีกด้านหนึ่ง หลังจากแสงสีแดงจางหายไป ปรากฏเป็นยุงสีเลือดตัวหนึ่ง มีขนาดเท่ากำปั้นแค่นั้น มันขยับปีกเสียงหึ่งหึ่ง บินโฉบไปมารอบกายซูเฉิน
“สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 ! แมลงกลายพันธุ์เลเวล 6 !!”
สัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากเต่าทรราชปราณฟ้าและ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ใบหน้าของเฮยหยุนและเซินหลางแปรเปลี่ยนไปอย่างร้ายแรง หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้าน
โดยเฉพาะลูกน้องของพวกเขา ภายใต้แรงกดดันสองสายนี้ ยิ่งสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
“ฆ่าพวกมัน!” ซูเฉินตวาดเสียงเย็นชา
เขาเรียกสัตว์เลี้ยงวิญญาณเลเวล 6 สองตัวออกมา ก็เพื่อให้การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว
ตราบใดที่เขาสามารถรั้งเฮยหยุนและเซินหลางเอาไว้ได้ จากนั้นก็จักใช้เทคนิคสายฟ้ากำจัดพวกมันทีละคน
“ฮู้มมมม!”
เต่าทรราชปรารฟ้าร้องคำราม พุ่งตรงเข้าหาเซินหลาง
[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] กระพือปีกอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง หายวับจากจุดเดิมในพริบตาเดียว เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็มาโผล่อยู่เบื้องหน้ามหาจักรพรรดิเฮยหยุนแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินพุ่งเป้าไปที่ชายนิรนาม เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] เปลี่ยนทั้งคนทั้งร่างเป็นสายลมหอบหนึ่งลอยเข้าไป
“หยุดเขาไว้!” ชายนิรนามตะโกนเสียงดัง
เขาเป็นปรมาจารย์มนตรา ร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากต้องเผชิญหน้ากับผู้วิวัฒนาการที่ทรงพลังเช่นซูเฉิน ผลที่ตามมาคงสามารถจินตนาการได้
เผ่ามายาคนอื่นๆรีดเร้นพลังเวทย์ ปลดปล่อยเวทย์มนออกมาสุดชีวิต พยายามที่หยุดยั้งซูเฉิน
ซูเฉินไม่สนใจ ยังคงวิ่งต่อไป ใครก็ตามที่ขวางทางเขา ล้วนถูกฟาดฟัน ปลิดชีพจนสิ้น
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ มุมปากของชายนิรนามสั่นระริก แต่เขาไม่มีวันนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ เรียกใช้งานเวทมนต์ทันที
แต่ในขณะนั้นเอง พลังที่มองไม่เห็นกระทบลงบนร่างเขา บีบคั้นจนหายใจไม่ออก
“พลังจิต!”
ชายนิรนามหน้าซีดเผือด ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง ดาบทมิฬในมือซูเฉินก็ตวัดลงมาแล้ว
ฟัฟฟฟฟ
หัวชายนิรนามพลิกหงาย จบชีวิตลงไปทั้งๆสภาพอย่างนั้น
