9/10

 

Ep.383

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรที่ถือมีดในมือ พุ่งเข้าประชิดตัวซูเฉินจากเบื้องหลัง ตัดคมมีดกวาดไปที่เอว

 

ซูเฉินรับรู้ถึงการมาเยือนของมันตั้งแต่แรกแล้ว แสงสีม่วงกระพริบไหวใต้ฝ่าเท้าเขา ทั้งคนทั้ร่างหายวับไปจากสถานที่เดิม

 

ความรวดเร็วนี้ ฉับไวดั่งภูติผี มันเหนือกว่าความเร็วของผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 อย่างสิ้นเชิง

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรสับมีดตัดโดนแค่อากาศที่ว่างเปล่า หัวใจมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

 

แต่ในจังหวะนั้นเอง ซูเฉินได้ปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังมัน [ดาบเสริมมนตรา] ถูกชูสูงขึ้นด้วยสองมือ

 

“ระวัง!”

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรตนอื่นๆรีบกระโจนเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็สายเกินไป

 

ได้ยินเพียงเสียง ฟัฟฟฟฟ

 

ดาบทมิฬที่ง้างสูง สับฟันลงมา ตัดศีรษะเผ่าราชวงศ์อสูรตนนั้นทันที

 

“อ๊าาา! มนุษย์ เจ้าต้องชดใช้!”

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรที่ใช้ขวานเป็นอาวุธโกรธมาก มันร่ายระบำขวานยักษ์ในมือ กวาดใส่ซูเฉิน

 

ในเวลาเดียวกัน นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรอีกสี่ตนก็พร้อมใจกันโจมตี ลงมือเฉกเช่นเดียวกัน กวาดฟันจากหลากหลายทิศทาง ล้อมซูเฉินเอาไว้ตรงกลาง

 

ซูเฉินยังคงสงบ ไม่ตื่นตระหนกใดๆ [ดาบเสริมมนตรา] ตวัดไปข้างหน้า พลังไอเย็นอันน่าสยดสยองพัดกระพือตามออกไปติดๆ

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรทั้ง 5 ตนที่โจมตีเข้ามา พริบตาเดียวทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง ไม่เพียงสูญสิ้นความสามารถในการเคลื่อนไหว แต่กระทั่งลมหายใจแห่งชีวิตก็ดับหายไปพร้อมกัน

 

“จังหวะนี้แหละ รีบกำจัดเขาเร็ว!”

 

ได้เป็นสักขีพยาน เห็นซูเฉินสังหารนักรบเผ่าราชวงศ์อสูรห้าคนในกระบวนท่าเดียว เผ่าราชวงศ์อสูรอีกตนร้องคำราม กางฝ่ามือ ยิงลูกไฟอันร้อนแรงออกไป

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรที่เหลือได้สติ เปล่งเสียงร้องตะโกน มุ่งเข้าสังหารซูเฉินอีกครั้ง

 

พวกมันต่างรู้ดี ว่าอาศัยแค่ลูกไฟเลเวล 5 ไม่มากพอที่จะสังหารซูเฉินได้ แต่อย่างน้อยก็ยังทำให้ซูเฉินพะว้าพะวง เสียสมาธิไปกับการสลัดพลังเวทย์

 

และพวกมันก็จะใช้โอกาสนี้สังหารซูเฉินในคราวเดียว

 

เมื่อเผชิญหน้ากับเทคนิคลูกไฟ ซูเฉินแค่นลมหายใจเบาๆ รังสีแสงสีทองปรากฏขึ้นบนฝ่ามือเขา ลุกลามไปทั่วแขน เอื้อมคว้าลูกไฟดวงนี้ไว้

 

“นั่นเขาคิดจะทำอะไร?”

 

มองไปยังการเคลื่อนไหวของซูเฉิน นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรทั้งหมดต่างตกใจจนเผลอชะงักฝีเท้า

 

ด้วยอำนาจของลูกไฟเลเวล 5 ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ก็ยังจำเป็นยอมหลบเลี่ยง

 

ขณะที่ซูเฉินเป็นเพียงผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 แต่ดันเลือกเผชิญหน้ากับเหล็กแข็ง นี่ไม่เท่ากับเป็นการแสวงหาความตายหรือ?

 

แต่เมื่อคิดได้แบบนี้ นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรทั้งหมดก็เริ่มตื่นเต้น

 

คล้ายสามารถเดาอนาคตล่วงหน้า ว่าอีกไม่กี่วินาทีซูเฉินจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

อย่างไรก็ตาม ฉากต่อมาที่ปรากฏขึ้น ทำให้พวกมันต้องตกตะลึง

 

เห็นแค่เพียงซูเฉินสามารถคว้าลูกไฟได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว จากนั้นบีบมันแรงๆ และ–ตูมมมมม! ลูกไฟดวงนั้นระเบิดคามือ

 

แม้ลูกไฟจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ผลพวงที่กระเซ็นออกมา มิอาจมองข้ามได้

 

ทว่าสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ซูเฉินกลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย ในมือเขามีเพียงขี้เถ้าเล็กๆติดอยู่ตามซอกนิ้วเท่านั้น

 

สถานการณ์นี้มันอะไรกัน?

 

เทคนิคลูกไฟเลเวล 5 เป็นแค่ของปลอม?

 

หรือเป็นร่างกายของซูเฉินที่แข็งแกร่งมากพอที่จะเพิกเฉยต่อเวทย์เลเวล 5 ?

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรที่เดิมคิดฉวยโอกาสนี้ตรงเข้าสังหารซูเฉิน ชะลอฝีเท้า หันมามองหน้ากัน

 

ความแข็งแกร่งของซูเฉินทำให้พวกมันรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

 

สามารถเพิกเฉยต่อเวทย์เลเวล 5 นี่มิใช่ว่าเขาสำเร็จวิชาร่างวัชระคงกระพันแล้วหรือ?

 

หากพวกมันยังคงรั้นสู้ต่อไป สุดท้ายไม่ใช่ตายฟรีหรอกหรอ?

 

“ก็แค่พวกกลุ่มนักรบขยะ!”

 

ซูเฉินพ่นคำดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นหันไปมองนักรบเผ่าราชวงศ์อสูรที่ยิงลูกไฟออกมา กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “โจมตีมาโจมตีกลับไม่โกง เดี๋ยวฉันจะให้แกได้ลิ้มรสดูบ้าง ว่าเทคนิคลูกไฟที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร!”

 

ว่าจบ เขาก็ยกมือขึ้น ลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นถูกยิงออกไป

 

จากรูปลักษณ์ภายนอกที่ปรากฏ ลูกไฟนี้ไม่ต่างไปจากลูกไฟเลเวล 4 ทั่วๆไป

 

อย่างไรก็ตาม คลื่นความผันผวนทางพลังเวทย์ธาตุไฟที่ลุกโชนอยู่ข้างใน ช่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง อันที่จริงอำนาจของมัน เหมือนจะเหนือล้ำยิ่งกว่าเทคนิคลูกไฟเลเวล 5 ซะอีก เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าใครได้มองก็ต้องบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว

 

“นี่มันลูกไฟเลเวลอะไรกันแน่!?”

 

ดวงตาของนักรบเผ่าราชวงศ์อสูรที่ใช้เวทย์เบิกกว้าง ภายในแววตาสะท้อนไปด้วยความสยองเกล้า

 

10/10

 

Ep.384

 

ราวกับตระหนักได้ถึงเงื้อมมือยมทูตที่เอื้อมเข้ามา ปรมาจารย์มนตราเผ่าราชวงศ์อสูร ไม่ได้นั่งรอความตายอยู่เฉยๆ มันกัดฟันกรอด รีดเร้นพลังเวทย์ทั้งหมดที่มี ปลดปล่อยลูกไฟสวนกลับไป

 

ในชั่วพริบตา ลูกไฟสองดวงประสานงากัน

 

บังเกิดเสียงระเบิด ตูม! ดังกึกก้อง สะเก็ดไฟสาดกระเซ็นไปทั่วท้องฟ้า

 

ปรมาจารย์มนตราเผ่าราชวงศ์อสูรถูกคลื่นไอร้อนแผดเผา ส่งตัวลอยออกไป

 

เมื่อตกถึงพื้น ร่างครึ่งหนึ่งของมันได้ถูกย่างจนไหม้เกรียมไปแล้ว

 

คุณสมบัติทางกายภาพของเผ่าราชวงศ์อสูรนั้นดีกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆมากก็จริง แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงระดับนี้ อย่างไรก็ไม่มีทางรอดชีวิตไปได้

 

มองไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาที่ค่อยๆถูกปลิดชีพลงทีละตน เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าราชวงศ์อสูรแหงนคอกู่คำรามก้องฟ้า “มนุษย์! ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป พวกเจ้าทั้งหมดจงลงมือพร้อมกันในคราวเดียว ต้องสังหารเขาให้จงได้!”

 

นักรบที่เหลือของเผ่าราชวงศ์อสูรต่างรู้สึกหวาดกลัวในความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงของซูเฉิน

 

แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ได้ลั่นวาจาไปแล้ว พวกมันทำได้เพียงรวบรวมความกล้า วิ่งเข้าสังหารซูเฉินต่อไป

 

ดวงตาสุกสกาวของซูเฉินกวาดออกไป ทันใดนั้นแสงสีทองอร่าม ฉายแสงวาววับขึ้นบนข้อมือเขา แทบจะในทันทีหลังจากนั้น เบื้องหน้าเขาพลันปรากฏเงาร่างใหญ่โตที่มีรูปทรงคล้ายขุนเขาขนาดเล็ก

 

ช่วงเวลานี้ ซูเฉินได้อัญเชิญเต่าทรราชปราณฟ้าเข้าสู่สนามรบแล้ว!

 

ยังเหลือนักรบเผ่าราชวงศ์อสูรอีก 13 ตน จริงอยู่ว่าซูเฉินสามารถใช้พลังของตัวเองสังหารพวกมันทั้งหมดลงได้ แต่เกรงว่านั่นคงต้องใช้เวลาพอสมควร

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดเวลา ก็แค่ใช้ไพ่ในมือออกไป จะได้จบการต่อสู้ซักที

 

นอกจากนี้เขาจะได้คอยตรวจสอบไปในตัวด้วย ว่าเต่าทรราชปราณฟ้า มีกำลังรบเพียงใดหลังจากเลื่อนขั้นแล้ว

 

“นั่นมัน … สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 !”

 

ทันทีที่เต่าทรราชปรากฏตัว มันก็ปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมาอย่างไม่คิดเก็บงำ ส่งผลให้เหล่านักรบเผ่าราชวงศ์อสูรตกตะลึงอย่างไม่อาจควบคุม

 

ในเวลานี้ ทั้งหมดต่างรู้สึกได้ถึงความไร้กำลังของตนเอง

 

เดิมแค่ซูเฉินคนเดียว พวกมันก็ยากที่จะสู้แล้ว

 

ตอนนี้มีผู้ช่วยเป็นสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 อีกตัว แล้วพวกมันจะสู้ได้อย่างไร?

 

เกรงว่าหากยังดื้อรั้น ศึกนี้จะตายฟรีเอา

 

“เสี่ยวปา กำจัดพวกมันให้หมด!”

 

ซูเฉินกระซิบบอก ระหว่างที่พวกเผ่าราชวงศ์อสูรยังคงตะลึง

 

“ขอรับเจ้านาย”

 

เต่าทรราชเชิดหน้า อ้าปากพ่นเทคนิคลูกศรน้ำออกไป

 

แม้ว่าพลังโจมตีของลูกศรน้ำจะไม่รุนแรงเท่าธาตุอื่นๆ ทว่าหากเป็นในเลเวล 6 มันต่างออกไป

 

คลื่นความผันผวนอันน่าสะพรึงที่แฝงอยู่ในพลังเวทย์ สะกดจิตวิญญาณของนักรบเผ่าราชวงศ์อสูรจนอยู่หมัด

 

“ลงมือพร้อมกัน!”

 

เมื่อตกอยู่ท่ามกลางความเป็นความตาย และจะหนีก็ไม่ได้ นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรตัดสินใจหันหลังกลับมา ร่วมกันรับมือลูกศรน้ำ

 

ภายใต้การระดมโจมตีของผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 นับสิบตน อำนาจทำลายนี้มิอาจดูแคลน สามารถยันการโจมตีจากลูกศรน้ำได้สำเร็จ

 

“ก๊าซซซซ!”

 

เต่าทรราชปราณฟ้าคำรามด้วยความโกรธ

 

ในฐานะสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 มันเองก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน

 

ทว่าต่อหน้าต่อตาซูเฉิน มันกลับคว้าน้ำเหลวในการสังหารพวกมดปลวกเลเวล 5

 

แล้วแบบนี้ เจ้านายอย่างซูเฉินจะมองมันยังไง?

 

ดังนั้น แม้ศัตรูจะอ่อนแอหรืออะไรก็ช่าง มันจักต้องบดขยี้มดปลวกกลุ่มนี้ให้แหลกละเอียดให้จงได้

 

คราวนี้ เต่าทรราชปราณฟ้าไม่ได้ปลดปล่อยลูกศรน้ำอีกต่อไป แต่ตัดสินใจวิ่งเข้าหานักรบเผ่าราชวงศ์อสูร เหยียบย่ำพวกมันแทน

 

เนื่องจากมันเป็นสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 และบวกกับที่มีร่างกายใหญ่โตเหมือนขุนเขาลูกเล็กๆ แรงเหยียบย่ำนี้รุนแรงเพียงใดไม่จำเป็นต้องอธิบายถึง

 

บังเกิดเสียงสนั่นสะท้านสะเทือนดังกึกก้อง

 

นักรบเผ่าราชวงศ์อสูรสามตัวไม่ทันได้หลบเลี่ยง ถูกเหยียบแบนกับพื้น กลายเป็นแอ่งเลือดสามกอง

 

“ให้ตายเถอะ!”

 

ปรมาจารย์พลังจิตเผ่าราชวงศ์ที่อยู่ห่างที่สุด ร้องอุทานด้วยความสยดสยอง ตัดสินใจหันหลังวิ่งหนีทันที

 

คุณสมบัติทางกายภาพของปรมาจารย์พลังจิตนั้นอ่อนแอกว่าใครเพื่อน หากเจ้าเต่ายักษ์ไล่ตามทัน เกรงว่าแค่สัมผัสโดน กระดูกมันคงแหลกไม่มีเหลือ

 

ซูเฉินเคยถูกปรมาจารย์พลังจิตตนนี้ลอบโจมตีมาก่อน ดังนั้นเขาจะปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างไร?

 

แทบจะในทันที เขาเหยียดมือออกไป แสงสีทองสว่างไสวบนข้อมือเขา ยุงสีแดงขนาดเท่ากำปั้นบินออกมา มิใช่ใดอื่น เป็น [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ]

 

“เสี่ยวจิน จัดการเจ้าหมอนั่นซะ!” ซูเฉินชี้นิ้วไปทางปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5 กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

 

หึ่ง หึ่ง!

 

[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] กระพือปีกอย่างรุนแรง จากนั้นวูบไหวเป็นเส้นแสงสีแดงไล่ตามไป