Ep.352

 

ได้ยินแบบนั้น พนักงานตะลึงงัน จ้องมองซูเฉินอย่างโง่งม

 

เขาได้แต่ลอบถอนหายใจ ‘จบสิ้นแล้ว ทำไมเขาถึงคิดสั้นแบบนี้?’

 

แม้ที่นี่จะไม่ใช่อาณาเขตของนิกายวูหยิน แต่ถึงอย่างไรนิกายวูหยินก็ยังถือเป็นขุมกำลังใหญ่ กระทั่งในเมืองทงเทียนก็ยังมีอิทธิพลอย่างมาก

 

หมายความว่าอะไรรู้ไหม? ก็หมายความว่าการที่ซูเฉินกล่าววาจาดูหมิ่นผู้อื่นต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น นี่ไม่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ?

 

ช่วงเวลานี้ พนักงานได้มองซูเฉินราวกับคนที่ตายไปแล้ว

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว จุดจบของการล่วงเกินนิกายวูหยิน มิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับไหว

 

ต่อให้ซูเฉินร่ำรวยล้นฟ้า แต่ในโลกใบนี้ เงินไม่ใช่ทุกอย่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งต่างหาก

 

ต้องแข็งแกร่งเท่านั้น จึงจะมีทุนรอนให้สามารถหยิ่งผยองได้

 

ขณะที่ซูเฉินดูยังไงก็อายุน้อยกว่า 20 ปี ต่อให้ฝึกฝนตั้งแต่ท้องแม่ ก็ไม่น่าจะมีกำลังรบแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นอย่างแน่นอน

 

ดันเลือกไปเตะแผ่นเหล็กเช่นนิกายวูหยิน ผลที่ตามมาหลังจากนี้คงสามารถจินตนาการได้

 

“แกมันรนหาที่ตายแท้ๆ!”

 

ชายหนุ่มนิกายวูหยินโกรธจัด กำหมัดแน่น ซัดเข้าใส่ซูเฉิน สาบถสาบานว่าต้องฆ่าซูเฉินให้ตายด้วยหมัดนี้

 

ตัวเขาเป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 และขณะชก เขารีดเร้นพละกำลังทั้งหมดที่มี ก่อให้เกิดแรงกดดันอันคุกรุ่นรุนแรง

 

พนักงานสั่นสะท้านไปทั้งตัว ราวกับว่าเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นจุดจบน่าสังเวชของซูเฉิน หลุบตาลง

 

มุมปากของซูเฉินโค้งงอเล็กน้อย ปลดปล่อยพลังจิตออกมาทันที

 

เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่ยอมหลบเลี่ยง ชายหนุ่มก็คิดว่าซูเฉินคงหวาดกลัวจนสมองหยุดสั่งการ รอยยิ้มโหดร้ายปรากฏขึ้นบนมุมปากเขา กล่าวด้วยเสียงหัวเราะว่า “ไปลงนรกซะ!”

 

แต่ในวินาทีต่อมา เขากลับพบว่าทั้งคนทั้งร่างถูกตรึงไว้ด้วยพลังมหาศาลที่มองไม่เห็น ไม่ต้องกล่าวถึงการสังหารซูเฉิน กระทั่งกระพริบตายังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

‘พลังจิต ..?’

 

ประโยคนี้ผุดเข้ามาในหัวของชายหนุ่ม สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปทันที

 

เขาตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า คงไม่พ้นเป็นปรมาจารย์พลังจิต แถมยังเป็นปรมาจารย์พลังจิตที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย

 

“ท่านอาวุโส … ”

 

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะร้องขอความเมตตา ร่างของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยว

 

กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ …เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นต่อเนื่อง สุดท้ายไม่เหลือสภาพมนุษย์อีกต่อไป กลายเป็นแค่กองพายเนื้อ

 

เมื่อเห็นฉากนี้ อีกสองคนที่อยู่ข้างหลังชายหนุ่มหวาดกลัวจนฉี่ราด เหงื่อเย็นๆไหลออกมา

 

ทั้งสองมองหน้ากัน หันหลังหนีทันที

 

อย่างไรก็ตาม คนที่คิดหนีจากเงื้อมมือของซูเฉิน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถทำได้

 

ได้ยินเพียงเสียงดัง โผล๊ะ โผล๊ะ! ติดๆกัน

 

สองคนยังไม่ทันได้วิ่งเกินสามก้าว หัวของพวกเขาก็ระเบิด ตายคาที่ไปซะก่อน

 

หลังจากสังหารสมาชิกสามคนของนิกายวูหยิน ซูเฉินหันไปมองพนักงานและกล่าว “ฝากทำความสะอาดด้วย”

 

ว่าจบ เขาก็หันหลังกลับและปิดประตูห้องทันที

 

ได้ยินประโยคนี้ พนักงานรู้สึกสับสนเล็กน้อย

 

นั่นเพราะเขาได้ยินชัดเจนว่าเจ้าของเสียงคือชายหนุ่มที่เป็นเศรษฐี

 

สถานการณ์นี้มันอะไรกัน?

 

คนๆนั้นน่าจะถูกฆ่าตายแล้วไม่ใช่หรอ?

 

หรือว่าเป็นคนของนิกายวูหยินที่เมตตา ยอมปล่อยเขาไป?

 

แต่ถ้างั้น … เสียงเอะอะเมื่อกี้มันอะไรกัน?

 

ความสงสัยมันจุกอยู่ในอก พนักงานตั้งสติ ค่อยๆลืมตาขึ้น แต่เมื่อเห็นศพไร้หัวนอนอยู่บนพื้น และกองเนื้อเหลวที่อยู่ข้างๆ หัวใจของเขาก็แทบหยุดเต้น!

 

มีสามคนตายในที่เกิดเหตุ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาคือสามคนจากนิกายวูหยิน

 

ว่าแต่พวกเขาตายได้อย่างไร?

 

จะเป็นใครไปได้อีกหากไม่ใช่ฝีมือของเศรษฐีหนุ่มคนนั้น

 

โอ้พระเจ้า!

 

เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?

 

แล้วประเด็นก็คือ เขากล้าฆ่าคนของนิกายวูหยินจริงๆ!

 

จิตใจของพนักงานสั่นสะท้าน หลังจากนิ่งงันไปพักหนึ่ง เขาก็หันหลังกลับและวิ่งลงไปชั้นล่าง

 

นิกายวูหยินไม่ใช่ไก่ใช่กา พวกเขาเสียชีวิตพร้อมกันถึงสามคนในคราเดียว นี่เป็นปัญหาร้ายแรงมาก รุนแรงเกินกว่าจะจินตนาการได้

 

เกรงว่าถ้ารายงานเรื่องนี้ไม่ทันการ กระทั่งชีวิตน้อยๆของตนก็คงไม่อาจรักษาเอาไว้ได้