Ep.349

 

ทันใดนั้น ชิ้นส่วนสิบชิ้นก็ตกลงมาจากกลางอากาศพร้อมกับ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี]

 

เห็นภาพนี้ มุมปากของซูเฉินยกสูงขึ้นเล็กน้อย สัมผัสแห่งความสุขปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆบนใบหน้าเขา

 

เหตุผลน่ะหรือ ก็หลังจากสังหารพวกต่างเผ่าแล้ว ชิ้นส่วนดรอปลงมาถึงสิบชิ้นไหนจะเรื่องพลังของ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] ที่ได้รับการพิสูจน์จนมั่นใจแล้วอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไร?

 

เมื่อเทียบกับ [หินบดดาราเทียนกัง] ดูเหมือนว่า [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] จะมีพลังทำลายล้างมากกว่า

 

ซูเฉินวิ่งเหยาะๆไปข้างหน้าด้วยความสุข คว้า [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] ใส่ลงในถุงเก็บของ จากนั้นเริ่มเก็บชิ้นส่วนอื่นๆ

 

“คุณได้รับ [ก้าวเมฆามรกต] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/50) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”

 

“ไม่แลก”

 

ว่าจบ ซูเฉินก็เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] เพื่อตรวจสอบราคาแลกเปลี่ยนของ

 

เมื่อเห็นว่าใช้ 5,000 แต้มพลังงาน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา

 

[ก้าวเมฆามรกต] น่าจะเป็นเทคนิคทางกายภาพ ราคาแลกเปลี่ยนเทียบได้กับ [ใบมีดแห่งจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์]

 

แต้มพลังงานนี้ยังพิสูจน์ได้ว่า ความสามารถของมันนั้นสูงมาก

 

หลังจากระงับความคิดในจิตใจได้แล้ว ซูเฉินก็เริ่มเก็บชิ้นส่วนต่อ

 

ชิ้นที่สองเป็นสีม่วง

 

“คุณได้รับ [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/100) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”

 

“ไม่แลก”

 

หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นระรัว เพราะจำนวนของมัน มี 100 ชิ้นเท่ากับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์]

 

นอกจากนี้ ในร้านค้าวันสิ้นโลก มันต้องใช้แต้มพลังงาน 10,000 ในการแลกเช่นกัน

 

ซึ่งความสามารถของเทคนิคที่ต้องแลกด้วยแต้มพลังงาน 10,000 แต้มไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย [กายาเทพอสูรรินัรดน์] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] คือเครื่องยืนยันอย่างดี

 

หลังจากได้รับเทคนิคทางกายภาพทั้งสองอย่างนี้แล้ว ความแข็งแกร่งของซูเฉินก็เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก หากคิดสังหารผู้วิวัฒนาการที่เลเวลสูงกว่าตนหนึ่งขั้น มันง่ายดายพอๆกับการหั่นผักหั่นแตง

 

เมื่อลองนึกถึงสิ่งที่กล่าวมา เป็นผลให้ซูเฉินตั้งตารอที่จะปลดล็อค [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ]

 

อย่างไรก็ตาม 10,000 ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรายการรอวันแลกเปลี่ยน

 

ไม่ว่าจะเป็น [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] ,​ [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] และ [อุปกรณ์เร่งเวลา] ล้วนเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะปลดล็อคทั้งสิ้น ฉะนั้นต่อให้สะสมแต้มพลังงานครบหมื่น แต่ [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ] คงต้องรอไปก่อน

 

“ดูเหมือนฉันคงต้องรีบหาชิ้นส่วนให้เร็วกว่านี้” ซูเฉินถอนหายใจเนิบๆ ก้มเก็บชิ้นส่วนต่อ

 

ชิ้นส่วนที่เหลือไม่มีมูลค่าอะไรนัก พวกมันทั้งหมดถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน

 

พอเก็บชิ้นส่วนครบ ซูเฉินกับคนอื่นๆก็กลับเข้ามาใน [รถศึกอัจฉริยะ] และมุ่งหน้าสู่เมืองทงเทียนต่อ

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ก็มาถึงหน้าเมืองทงเทียน

 

ด้วยประชากรนับล้านคน ทำให้เมืองทงเทียนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุดบนเกาะเฉียนหยูล

 

ความประทับใจยามแรกพบ มันให้ความรู้สึกที่ดูยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันให้ความรู้สึกกดดัน

 

เนื่องจากรถฐานทัพไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมือทงเทียน ซูเฉินจึงเก็บ [รถศึกอัจฉริยะ] และ [นักรบจักรกล] ลงในถุงเก็บของ

 

หมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสามถูกปล่อยลงไปใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]

 

หลังจากจ่ายค่าเข้าเมืองเป็นหินพลังงาน ซูเฉินและกลุ่มของเขาก็ก้าวเข้าสู่เมืองทงเทียน

 

ในเมืองหลั่งไหลไปด้วยผู้คน มีร้านค้ามากมาย มีสินค้าทุกชนิด สมบูรณ์และคึกคักยิ่งกว่าตลาดที่ราบเทียนซางหลายเท่า

 

หยางฮ่าวและคนอื่นๆหันรีหันขวางจนดวงตาพร่ามัว

 

ซูเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ รับชมบรรยากาศอันมีชีวิตชีวา แต่ในตอนนั้นเอง เขาคล้ายเกิดเห็นภาพลวงตา ราวกับว่าตัวเองได้กลับมายังมหานครในชีวิตก่อนอีกครั้ง

 

“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?”

 

เมื่อเห็นซูเฉินนิ่งงันไป ตันหลินเอ่ยถาม

 

ซูเฉินได้สติกลับมา หยุดคิดชั่วครู่ ก่อนกล่าวว่า “ไปที่ร้านยู่หลินก่อนเป็นที่แรก ”

 

ต้นผลแก่นแท้และหินดาราชีพจรปฐพี ล้วนอยู่ที่นั่น เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายขายให้ผู้อื่น ซูเฉินตัดสินใจรีบไปยังร้านยู่หลินโดยเร็วที่สุด