Ep.347

 

เมื่อทราบที่อยู่ของหินดาราชีพจรปฐพี ซูเฉินก็ไม่คิดรั้งอยู่อีกต่อไป กลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

 

และแน่นอน ว่าจุดหมายต่อไปคือเมืองทงเทียน

 

เมืองหยวนหยางและเมืองทงเทียนอยู่ห่างกันไม่ถึงร้อยไมล์ ด้วยความเร็วของ [รถศึกอัจฉริยะ] ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงก็ถึงที่หมาย

 

แต่ใครจะคิด ว่าหลังจากขับรถไปได้สิบนาที เขาจะถูกรถฐานทัพสามคันขวางทางเอาไว้

 

ซูเฉินมีศัตรูอยู่มากมาย เลยไม่รู้ว่าผู้มาเยือนครั้งนี้คือใคร

 

แต่จะยังไงก็ช่าง เขาไม่คิดมากอยู่แล้ว ก้าวลงจากรถพร้อมกับ [นักรบจักรกล]

 

หากศัตรูคิดขุดคลองขวางกั้น เขาก็จะถมดินกลบมัน แม้ยังไม่ทราบว่าฝั่งตรงข้ามคือใคร แต่ตราบใดที่มันกล้าหาเรื่อง ก็เท่ากับแส่หาความตาย

 

ชายนับสิบเดินลงจากรถฐานทัพ ผู้นำคือชายวัยกลางคนย้อมผมแดงเต็มศีรษะ ท่าทางดูน่าเกรงขาม

 

บุคคลผู้นี้มีลักษณะท่าทีหยาบกระด้าง ในดวงตาเต็มไปด้วยความดุดัน ไม่ต่างจากสิงโตที่กำลังโกรธจัด จิตสังหารอันรุนแรงแผ่ซานไปทั่วร่างกายเขา

 

“เจ้าหนู แกใช่ไหมที่ฆ่าลูกชายฉัน และยังเป็นคนฆ่าเหล่าลูกศิษย์ของนิกายขวงฉีในตลาดที่ราบ?” ชายผมแดงกวาดมองซูเฉิน เอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชา

 

“อ้อ งั้นแกคงเป็นหลี่จ้านเทียนสินะ” ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างไม่แยแส “ถูกต้อง ฉันนี่แหละที่ฆ่าไอ้ขยะพวกนั้น ส่วนแก ถ้าอยากตายตามพวกมันไป ฉันก็ยินดีสนองให้!”

 

“บังอาจ!”

 

หลี่จ้านเทียนส่งเสียงฮึดฮัด โบกมือใหญ่ให้สัญญาณ “ทุกคนไป! ช่วยกันฆ่ามัน!”

 

ทันใดนั้นเอง นอกจากชายร่างสูงผอมผิวขาวซีดที่ยังอยู่เฉยไม่ขยับเขยื้อนใดๆแล้ว คนอื่นๆล้วนหยิบอาวุธ ตรงเข้าสังหารซูเฉิน

 

เมื่อเห็นว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเลเวล 3 เท่านั้น ซูเฉินผุดยิ้มดูแคลน “เสี่ยวตี๋ ฆ่าพวกมัน”

 

“รับทราบ”

 

ดวงตาของ [นักรบจักรกล] ทอปะกายเย็นวาบ ทะยานออกไปเบื้องหน้าราวกับสัตว์ร้าย

 

ฟัฟ ฟัฟ ฟัฟฟฟ!

 

[นักรบจักรกล] กวัดแกว่งดาบโค้งไม่หยุด ทุกครั้งที่คมดาบสัมผัสโดนเนื้อ จะมีหนึ่งชีวิตถูกผ่าเป็นสองซีก

 

ฝ่ายตรงข้ามมีคนเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครสู้มันได้เลย ทั้งหมดกลายเป็นลูกแกะเฝ้ารอถูกเชือด

 

ในฐานะหุ่นเชิดเลเวล 4 [นักรบจักรกล] มีกำลังรบที่แท้จริงเทียบได้กับผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ดังนั้นการกำจัดผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 หรือต่ำกว่า ไม่ต่างจากการพลิกฝ่ามือ

 

“ช่างเป็นหุ่นเชิดที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!”

 

ได้เป็นสักขีพยานของฉากตรงหน้า เปลือกตาของหลี่จ้านเทียนกระตุกไม่หยุด

 

ใบหน้าของชายผิวซีดขาวที่อยู่ไม่ไกลก็หม่นลงเช่นกัน

 

ทั้งสองหันมาสบตา ก่อนเปิดฉากโจมตีซูเฉินพร้อมกัน

 

ทั้งคู่ต่างรู้ดี ว่าหุ่นเชิดตัวนี้น่าจะอยู่ในเลเวล 4 ลูกน้องของพวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ หากปล่อยไว้ ไม่นานคงถูกไล่สังหารจนหมด

 

และเมื่อลูกน้องทั้งหมดตายลง หุ่นเชิดตัวนี้ก็จะร่วมมือกับซูเฉิน ถึงเวลานั้นพวกเขามีแต่จะเสียเปรียบ

 

ดังนั้น พวกเขาจึงต้องร่วมมือกันสังหารซูเฉิน ก่อนที่ลูกน้องเหล่านั้นจะตายกันหมด

 

หลี่จ้านเทียนกุมค้อนใหญ่ไว้ในมือ ทะยานไปเบื้องหน้าซูเฉิน ง้างค้อนหวดลงมา สร้างแรงกดดันดั่งภูเขาไท่ซาน

 

ชายผิวขาวยืนอยู่กับที่ แต่ในมือกุมธนูยาวสีเงินเอาไว้

 

ระหว่างหลี่จ้านเทียนกำลังเข้าประชิดเป้าหมาย เขาหยิบลูกศรสีเงินออกมา

 

แทบจะในทันที ลูกศรถูกตั้ง สายธนูถูกดึงจนตึง เล็งเป้าไปทางซูเฉิน

 

มองไปยังฉากตรงหน้า ซูเฉินยกยิ้มมุมปาก ในจังหวะที่ค้อนใหญ่หวดลงมา เขาเอื้อมมือไปคว้ามัน

 

เห็นแค่เพียงค้อนใหญ่ประทับลงมา วาดเส้นโค้งดั่งอุกกาบาตจากฟากฟ้า ประทับบนฝ่ามือที่เจิดจรัสไปด้วยสีทองของซูเฉิน แต่ในพริบตานั้นเอง อานุภาพทำลายของมันพลันเลือนหาย ค้อนใหญ่หยุดกึกลงทันที กลายเป็นนิ่งงันไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน!”

 

ใบหน้าของหลี่จ้านเทียนแปรเปลี่ยนไป ร้องอุทานด้วยความตกใจ

 

รู้อะไรไหม ว่าค้อนใหญ่นี้มีน้ำหนักเป็นพันจิน ยิ่งเมื่อรวมกับพละกำลังของเขาในฐานะผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 แล้ว มันยิ่งทรงพลังเป็นเท่าทวี

 

อย่างไรก็ตาม เขากลับถูกอีกฝ่ายคว้าจับไว้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะกดลงไปหรือถอนกลับ ก็ทำไม่ได้เลยซักอย่าง

 

นี่มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!