Ep.325

ซูเฉินกลับไปที่ [รถศึกอัจฉริยะ] ค่อยๆขับออกไปจากที่นี่

ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีรถฐานทัพอีกหลายคันขับเข้ามา ในกลุ่มพวกเขา มีรถฐานทัพสีดำจากเมืองทงเทียนด้วยเช่นกัน

ชายชราหงอกขาวก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเหลียวมองสถานที่เกิดเหตุ ชะลอความเร็ว ค่อยๆขับผ่านโดยไม่คิดจอด

มองไปยังซากศพกองทั่วพื้น เจ้าตัวเดาะลิ้น “โม่เฉิงกงคนนี้บ้าจนฉุดไม่อยู่แล้วจริงๆ นี่เขากะจะฆ่าไปตลอดทางเลยรึไง”

เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนที่ตาย ณ ที่แห่งนี้ ล้วนมาจากเมืองทงเทียน

ก่อนเข้าอุโมงค์ ผู้ที่ลงมืออาละวาดก็ยังเป็น ‘โม่เฉิงกง’

ชายชราเลยอดสงสัยไม่ได้ ว่าเรื่องนี้คงเป็นฝีมือของโม่เฉิงกงอีกใช่หรือไม่

“ใครเป็นคนทำ กระทั่งชาวเมืองทงเทียนยังกล้าสังหาร พวกมันต้องตาย!”

ข้างกองศพ มีชายหนวดเฟิ้มยืนอยู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้ มืดมนหม่นหมอง ขณะเดียวกันกวาดสายตามองไปรอบๆ ในคู่ดวงตาทอประกายเย็นเยียบ

ชายชราหงอกขาวรีบถอนสายตาออกทันที ไม่อย่างข้องเกี่ยวใดๆ

เขาตระหนักดีว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ แต่มีหรือจะกล้าพูดออกไป?

หากเอ่ยออกไปแล้ว ด้วยอุปนิสัยของโม่เฉิงกง คงไม่มีทางไว้ชีวิตเขา

อย่างไรก็ตาม ชายหนวดเฟิ้มสังเกตเห็นพฤติกรรมของชายชราอย่างไม่คาดคิด

“ตาแก่ ทำไมทำตัวหลบๆซ่อนๆ ยังไม่รีบไสหัวลงมาให้บิดาอีก!”

ชายชราหงอกขาวตกใจ ใช้สมองปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจได้ ก็รีบวิ่งลงจากรถฐานทัพ

“นายท่าน ไม่ทราบมีอะไรให้รับใช้ถึงตะโกนเรียกเราผู้เฒ่า ”

วิ่งมาถึงหน้าชายหนวดเฟิ้ม ชายชราหงอกขาวกล่าวด้วยความหวาดกลัวและกังวล

ชายชราหนวดเฟิ้มชำเลืองมองชายชราหงอกขาว แค่นเสียงเย็น “ตาแก่ แกรู้เรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหม? รีบบอกความจริงมา! จะได้ไม่ถูกทรมาน ถลกเนื้อหนังให้เจ็บตัว!”

ชายชราหงอกขาวกัดฟัน ยอมสารภาพว่า “เราผู้เฒ่าได้แต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของโม่เฉิงกงจากภูเขาฉีหลิน”

“นี่แกรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังพูดถึงใคร”

ชายหนวดเฟิ้มเบิกตากว้าง เกือบคิดว่าตัวเองหูฝาดไป

นั่นเพราะเขาไม่เพียงรู้จักภูเขาฉีหลินเท่านั้น แม้แต่โม่เฉิงกงก็ยังสนิทกันดี ประเด็นก็คือตอนนี้อีกฝ่ายกำลังนั่งอยู่บนรถฐานทัพของเขา

หลายวันที่ผ่านมา เขาออกตามหาที่อยู่ของโม่ไฉ่เหลียน ดังนั้นโม่เฉิงกงไม่มีเวลาไปฆ่าคนของเมืองทงเทียนแน่ๆ

ชายชราหงอกขาวผู้นี้กำลังโกหกอย่างแน่นอน กล้าโกหกกันหน้าด้านๆ ช่างไม่รู้จักที่ตาย!

ชายชราตัวสั่นเทา เอ่ยตะกุกตะกัก “ผู้น้อยแค่คาดเดา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเขารึเปล่า”

“ถ้ายังไม่รู้ แล้วทำไมถึงกล้าโกหกใส่ความคนอื่น!”

ใบหน้าของชายหนวดเฟิ้มหม่นหมอง เอื้อมมือออกไป บีบคอชายชราหงอกขาว แสยะยิ้มเยาะ

“สหายซุน ใจเย็นก่อนเถอะ”

ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มอายุราวๆ 27 ปีได้ลงจากรถฐานทัพ เขาสวมชุดหรูหราแบบจีน รูปร่างหน้าตาดูหล่อเหลามาก

จะติดก็ตรงระหว่างคิ้วมีรอยดำ คล้ายช่วงนี้มันขมวดอยู่บ่อยๆ เลยชวนให้คนอื่นๆที่มอง รู้สึกถึงความโหดร้าย

“อาเฮียโม่ ตาแก่นี่กล้าใส่ร้ายเฮีย ให้ฉันมอบบทเรียนดีๆให้มันเถอะ!” ชายหนวดเฟิ้มกัดฟันกรอด

ชายหนุ่มในชุดจีน จะเป็นใครอื่นไปได้อีกหากไม่ใช่โม่เฉิงกงแห่งภูเขาฉีหลิน

เขาเดินมาหยุดข้างๆชายหนวดเฟิ้ม โบกมือให้อีกฝ่ายใจเย็นลง

“ไม่ต้องรีบร้อน ฉันมีเรื่องบางอย่างจะถามเขา”

“ก็ได้ ถามถึงที่มาที่ไป เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรดีๆ” ชายหนวดเฟิ้มผละมือ โยนชายชราหงอกขาวลงกับพื้น

โม่เฉิงกงจับจ้องชายชรา เอ่ยเสียงขรึม “เอาล่ะ คุณรู้จักโม่เฉิงกงได้ยังไง เคยเห็นเขาที่ไหน?”

“นายท่าน เป็นเช่นนี้ … ” ชายชราหงอกขาวรีบอธิบายถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ของซูเฉินอย่างรวดเร็ว

ได้ยินแบบนั้น โม่เฉิงกงกับชายหนวดเฟิ้มสบตากัน สีหน้าของพวกเขากลายเป็นมืดมนและเย็นชาในเวลาเดียวกัน

“น่าสนใจจริงๆ มีคนกล้าใช้ชื่อฉันออกอาละวาด!”

โม่เฉิงกงยิ้มโหดเหี้ยม หันไปกล่าวกับชายหนวดเฟิ้มว่า “สหายซุน เจ้าหมอนั่นน่าจะไปได้ไม่ไกล พวกเรารีบไล่ตามไปดีกว่า”

“ให้ตายเถอะ ฉันจะจับเจ้าเด็กนั่นถลกหนังทั้งเป็น!”

ชายหนวดเฟิ้มสบถด่า หันหลังกลับไปที่รถฐานทัพพร้อมโม่เฉิงกง

และเร่งขับออกไปตามถนน