Ep.293

 

“เมืองทงเทียนสำหรับฉัน ไม่นับเป็นตัวผายลมอะไร!” ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวติดตลกว่า “แล้วอีกอย่าง ฉันชอบฆ่าคนของเมืองทงเทียนมากที่สุด แถมยังฆ่าไปไม่น้อยแล้วด้วย”

 

กล่าวถึงจุดนี้ เขาหรี่ตาลง ใช้สายตาจิกกัดกวาดมากชายที่มีแผลเป็นและสหาย

 

ดวงตาของเขาช่างเย็นชา คล้ายกับว่าปฏิบัติต่อทั้งสามเหมือนคนที่ตายไปแล้ว

 

“นะ … นี่แกคิดจะทำอะไร?”

 

ถูกจับจ้องโดยซูเฉิน ชายที่มีแผลเป็นเย็นสันหลังวาบ ชักฝีเท้าถอยไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

 

อีกสองคนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ถอยด้วยเช่นกัน

 

รูปลักษณ์ภายนอกของซูเฉินแม้ดูไม่เป็นอันตรายใดๆต่อมนุษย์และสัตว์ แต่รอบกายเขา กลับคุกรุ่นไปด้วยจิตสังหารอันโหดร้ายรุนแรง

 

จิตสังหารเช่นนี้ มีเฉพาะบุคคลที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษเท่านั้นถึงจะครอบครองมันได้

 

ช่วงเวลานี้ พวกเขาทั้งหมดกระจ่างแล้ว ว่ากำลังรบของซูเฉินไม่ธรรมดา เป็นคนที่แข็งแกร่งมาก

 

“ก็จะต้องการอะไรซะอีก แน่นอน ว่าฆ่าแกไง!”

 

ซูเฉินเผยรอยยิ้มบาง กวาดพลังจิตกระจายออกไปทันที

 

ได้ยินเพียงเสียง โผล๊ะ โผล๊ะ! โผล๊ะ!! ชายที่มีแผลเป็นและสหาย ภายใต้แรงกดดันของพลังจิต ทั้งสามระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด

 

มองไปยังฉากนี้ มุมปากของโจวหยุนสั่นระริกอย่างอดไม่ได้

 

เขารู้สึกได้ตั้งแต่เจอกันอีกครั้ง ว่าซูเฉินเหมือนจะมีพลังมากกว่าคราวก่อนที่เจอกัน

 

ครั้งที่แล้วซูเฉินอยู่ในเลเวล 3 แต่ตอนนี้เขาขึ้นเป็นเลเวล 4 แล้ว แถมกำลังรบยังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

 

ส่วนเหตุผลที่โจวหยุนตระหนักได้ เป็นเพราะความรู้สึกจากสัญชาตญาณ

 

“ขึ้นรถก่อนเถอะ” ซูเฉินแนะ เดินนำขึ้นไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

 

โจวหยุนก้าวตามไปติดๆ หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาก็ทักทายทุกคนอย่างสุภาพ “ยินดีที่ได้พบผู้อาวุโสทุกท่าน”

 

สือตั้วตั้วพยายามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต แอบพูดว่า “ฉันอายุแค่เจ็ดขวบ แล้วไหงกลายเป็นอาวุโสไปได้?”

 

เฉาหรานกระแอมในลำคอ แสร้งทำน้ำเสียงหนักแน่นสุขุม “โจวน้อย ไม่เลวเลยนี่ ไม่เจอกันแปปเดียว นายกลายเป็นผู้วิวัฒนาการแล้ว”

 

โจวหยุนมองไปทางซูเฉิน กล่าวอย่างซาบซึ้ง “ต้องขอบคุณขวดยาที่ผู้อาวุโสมอบให้ มิฉะนั้น ตลอดชีวิตผมคงไม่มีวันได้เป็นผู้วิวัฒนาการ”

 

พอได้ยินแบบนั้น เฉาหรานและคนอื่นๆพลันรู้สึกตื้นตัน คล้ายเป็นตัวเองที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา

 

นั่นเพราะพรสวรรค์ของพวกเขาแย่มาก แต่เหตุผลที่พวกเขาสามารถกลายเป็นผู้วิวัฒนาการได้ ล้วนต้องยกเครดิตนี้ให้ซูเฉิน

 

“เรียกฉันว่าพี่เฉินเถอะ เปิดปากแต่ละทีเรียกอาวุโสๆ ได้ยินแล้วมันรู้สึกจั๊กจี้”

 

ซูเฉินกล่าวหยอกล้อ จากนั้นถามต่อว่า “คนของพวกเมืองทงเทียนบุกมาเท่าไหร่? แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน?”

 

“พี่เฉิน พวกเขายกคนมาเป็นสิบ หนึ่งในนั้นมีผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 รวมอยู่ด้วย” โจวหยุนรีบตอบอย่างรวดเร็ว

 

เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ซูเฉินให้ตัวเองเรียกว่า ‘พี่เฉิน’

 

แม้จะเป็นแค่การเปลี่ยนคำเรียกขาน แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาย่อมใกล้ชิดกันมากกว่าแต่ก่อน ดูเป็นมิตรจริงใจกว่าเดิม

 

“พวกมันมาทำอะไรที่นี่? อย่าบอกนะว่าเพราะหินรวมดารา?” ซูเฉินอุทานออกมาเบาๆ

 

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อาจกล่าวได้ว่าเป็นกำลังรบระดับสูงสุดของเมืองทงเทียน คนประเภทนี้มักไม่ถูกส่งออกมาข้างนอกกันง่ายๆ

 

เพราะหากเจอกรณีไม่คาดฝันขึ้นมา จะนับเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

 

“ดูเหมือนเพื่อจะรวบรวมหินรวมดาราจริงๆ เพราะทันทีที่มาถึง พวกเขาก็ไล่ค้นหาหินรวมดาราทุกที่” โจวหยุนคิดสักพักแล้วตอบ

 

ซูเฉินถูจมูก เริ่มครุ่นคิด

 

แม้คุณค่าของหินรวมดาราจะสูงมาก แต่ก็ไม่น่าจะมากถึงขนาดนี้รึเปล่า?

 

ถึงขั้นต้องส่งผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ออกมาค้นหาเชียวหรือ?

 

ซูเฉินรู้สึกได้รางๆ ว่าเรื่องนี้อาจไม่ธรรมดา ดังนั้นสั่ง [รถศึกอัจฉรืยะ] “เสี่ยวจือ ไปสถานชุมชนฮั่วหลางเดี๋ยวนี้”

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่อง เร่งความเร็วไปข้างหน้า

 

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ก็เคลื่อนถึงหน้าประตูสถานชุมชนฮั่วหลาง

 

เช่นเดียวกับครั้งก่อน มีผู้คนจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอยู่ตรงทางเข้าออกประตูเมือง

 

การปราฏตัวของ [รถศึกอัจฉริยะ] สร้างความโกลาหลในหมู่พวกเขา