Ep.28

 

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เฝ้ารอจนกระทั่งรอบๆรถฐานทัพกลับคืนสู่ความเงียบงันอีกครั้ง ตันหลินก็หันไปมองหวู่หยาง เอ่ยถามด้วยความกังวล “หัวหน้าหวู่ ซูเฉินจะไม่เป็นไรใช่ไหม”

 

คนๆเดียวต้องรับมือกับซอมบี้นับหมื่น คงจะมีแต่ความเร็วของผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เท่านั้นจึงจะหลบหนีได้ 

 

เดิมหวู่หยางคิดว่าซูเฉินคงต้องตายอย่างแน่นอน แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ เขาสังเกตเห็นว่าความเร็วของซูเฉินว่องไวมาก แทบไม่ด้อยไปกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เลย

 

เป็นแบบนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงซอมบี้ธรรมดา ต่อให้ศัตรูที่ไล่ตามเขาเป็นซอมบี้เลเวล 1 หรือกระทั่งซอมบี้เลเวล 2 ก็คงตามไม่ทัน

 

ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งและอาวุธอันทรงพลังของซูเฉิน มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะหนีพ้น

 

“วางใจเถอะ ด้วยความแข็งแกร่งและความเร็วของซูเฉิน ซอมบี้ไม่มีวันจับตัวเขาได้” หวู่หยางช่วยยืนยันแก่เธอ

 

พอได้ฟังน้ำเสียงหนักแน่นของหวู่หยาง ตันหลินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“เฉาหราน ไปซ่อมรถต่อ พวกเราจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” หวู่หยางสั่ง

 

หลี่เหลียงถูกซูเฉินเตะเป็นลมไปแล้ว จนตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่น ดังนั้นหน้าที่ซ่อมรถเลยตกเป็นของเฉาหรานแต่เพียงผู้เดียว

 

“หัวหน้าหวู่  ที่พูดหมายความว่ายังไง ทำไมพวกเราไม่รอซูเฉิน?” ตันหลินขมวดคิ้ว

 

เฉาหรานพอได้ยินก็ฉุกคิดขึ้นได้ ชะงักไปเช่นกัน

 

ในความคิดของเขา ซูเฉินยินดีเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพวกตน

 

แต่ตอนนี้ คลื่นซอมบี้จากไปแล้ว หากพวกเขาเลือกทิ้งซูเฉิน มันคงไร้ยางอายเกินไป

 

“ซูเฉินบอกให้พวกเราไปรอเขาที่เมืองจิงกัง พวกเราก็แค่ต้องทำตาม ” หวู่หยางอธิบาย

 

ปัจจุบันนี้ หวู่หยางเทิดทูนซูเฉินเป็นอย่างมาก เขาเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่ายสุดหัวใจ

 

ก่อนหน้านี้ซูเฉินชักชวนเขาร่วมมือกันสังหารซอมบี้ 80 ตัว หวู่หยางยังหลงคิดว่าซูเฉินเป็นบ้าไปแล้ว ทว่าผลลัพธ์น่ะหรือ? กลับเป็นซูเฉินสามารถทำมันได้จริงๆ!

 

ต่อมา ตอนรับมือกับซอมบี้หมาป่า เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าซูเฉินจะทำอย่างที่พูดได้สำเร็จ จนกระทั่งซูเฉินชักอาวุธออกมา แล้วสังหารซอมบี้หมาป่าได้ง่ายดายราวกับบีบมดให้ตาย

 

และในคราวนี้ ก่อนซูเฉินจากไป เขาเอ่ยว่าจะช่วยล่อคลื่นซอมบี้ และเขาก็ทำได้อย่างที่พูดอีกครั้ง

 

ด้วยสามสิ่งที่กล่าวมา หวู่หยางสามารถวางใจได้ ไม่ว่าซูเฉินจะตัดสินใจอย่างไร อีกฝ่ายไม่ได้ทำไปอย่างไร้จุดหมายแน่นอน แต่มั่นใจว่าตัวเองสามารถทำได้จริงๆ

 

อาจกล่าวได้ว่าทุกคำพูดของซูเฉินยังสดใหม่ ก้องกังวานอยู่ในความทรงจำเขา

 

ในเมื่อซูเฉินบอกให้พวกเขาไปรอที่เมืองจิงกัง แล้วยังจะมีอะไรให้ลังเลอีกเล่า? แค่ทำตามก็พอแล้ว

 

 

ท้องฟ้าเริ่มทอแสง ซูเฉินนำคลื่นซอมบี้ทิ้งห่างออกมาหลายร้อยไมล์ หนีมาจนถึงขอบทิวเขาอันทอดยาวไร้ที่สิ้นสุด

 

ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เขาปลดปล่อยเวทมนต์ไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็น ลูกไฟ ,ใบมีดสายลม , พายุสายฟ้า , หอกน้ำแข็ง ฯลฯ ผสานไปกับการสนับสนุนจาก [ปืนพกเพาส์] ทำให้มีซอมบี้อย่างน้อยหลายร้อยตัวถูกสังหาร

 

และเขายังใช้โอกาสนี้กอบโกยเศษชิ้นส่วนนับสิบ ได้รับ [รถศึกอัจฉริยะ] มา 2 ชิ้น , [เมล็ดพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล] 3 ชิ้น , [เมล็ดพันธุ์ไม้ผลแข็ง] 2 ชิ้น , [โพชั่นต้านไวรัส] 2 ชิ้น และชิ้นส่วนของ [ดาบเสริมมนตรา] 1 ชิ้น

 

แน่นอน จริงๆแล้วมีชิ้นส่วนดรอปมากกว่านี้ แต่เป็นเพราะมีซอมบี้อยู่มากเกินไป ทำให้ไม่สามารถเก็บพวกมันทั้งหมดได้

 

หลังจากล่อศัตรูมาหลายชั่วโมง ใช้กลยุทธ์พลิกแพลงต่างๆมากมาย ต่อให้เป็นซูเฉิน เขาก็อ่อนล้า หมดแรงเป็นเหมือนกัน

 

นอกจากนี้ หินพลังงานใน [ปืนพกเพาส์] ก็ว่างเปล่า พลังเวทมนต์เหือดแห้งถึงจุดต่ำสุด เขาไม่อยากยุ่งกับพวกซอมบี้อีกต่อไป 

 

ด้วยความเร็วสูงสุดของ [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ไม่นานซูเฉินก็สลัดหลุดการไล่ล่าของซอมบี้ มุ่งหน้าเข้าสู่ทิวเขาอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

 

เมื่อซูเฉินหายลับไปจากสายตา พวกซอมบี้โกรธมาก แต่ก็ทำได้แค่แผดร้องไม่กี่ครั้ง เพื่อระบายความคับแค้น

 

อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินปีนขึ้นไปบนยอดเขา และมองลงไปยังคลื่นซอมบี้เบื้องหลังเขา

 

หลังจากซอมบี้หลายหมื่นตัวไม่พบร่องรอยของซูเฉิน พวกมันก็ค่อยๆแยกย้ายกันไป

 

เห็นฉากนี้ ภายในใจของซูเฉินรู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยความภาคภูมิ

 

สามารถรับมือกับซอมบี้นับหมื่นเพียงลำพัง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แถมระหว่างทางยังกำจัดซอมบี้ได้อีกหลายร้อยตัว

 

ความสำเร็จเช่นนี้ คงไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน และในอนาคตคงไม่มีใครสามารถทำมันได้เช่นกัน