Ep.217

 

“ผู้นำฟาง เป็นพวกเขา พวกเขาคือคนที่ฆ่าหัวหน้าฟาง!”

 

สีหน้าของเฉินตงไม่น่าดู เมื่อเห็นฟางเฉิงอู่ทะยานมาพร้อมผู้วิวัฒนาการกลุ่มหนึ่ง เขาก็พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล ชี้ไปทางซูเฉินและคนอื่นๆ แล้วร้องตะโกน

 

อีกคนที่อยู่กับเขาก็วิ่งไปสมทบเช่นกัน

 

คนเดียวที่ยังไม่ขยับคือโจวหยุน

 

สีหน้าของโจวหยุนแปรเปลี่ยนไป ตะโกนสวนเฉินตง “หัวหน้าทีม นั่นคุณคิดจะทำอะไร?”

 

การกระทำของเฉินตง ไม่ต่างจากการขายพวกเขา ทำให้โจวรู้สึกรังเกียจ แถมยังโกรธมากอีกด้วย

 

ส่วนซูเฉิน แม้เขาไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าของเขาหม่นหมองราวแอ่งโคลน

 

นั่นเพราะเขาคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเฉินตงเอาไว้

 

หากไม่มีพวกเขา เกรงว่าทั้งสามคงติดอยู่ในวงล้อมซอมบี้จนตาย

 

แต่เจ้าเฉินตงตัวดี ไม่รู้จักกตัญญูก็ช่างประไร ทว่าตอนนี้ยังกล้าลอบกัดพวกเขา!

 

“โจวหยุน หยุดทำอะไรโง่ๆซะ รีบมาทางนี้เร็ว!” เห็นโจวหยุนยังยืนนิ่ง เฉินตงร้องตะโกน

 

เหตุผลที่เฉินตงต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาคิดว่าแม้ซูเฉินและคนอื่นๆในกลุ่มจะเป็นผู้วิวัฒนาการทั้งหมด แต่ก็ไม่มีทางที่จะต่อกรกับกลุ่มของฟางเฉิงอู่ได้

 

หากไม่เปลี่ยนฝ่ายก่อน เกรงว่าจะไม่รอดชีวิต

 

“หัวหน้าทีม คุณมันเลอะเลือนไปแล้ว!” โจวหยุนสั่นเทาด้วยความโกรธ

 

เห็นอยู่ชัดๆว่าซูเฉินมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเขา แต่เฉินตงกลับเลือกที่จะยืนเคียงข้างฟางเฉิงอู่ ทรยศกันเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

สำหรับโจวหยุน แม้ตัวเขาจะไม่มองโลกในแง่ดี ไม่คิดว่าซูเฉินจะสามารถต่อกรกับฟางเฉิงอู่ได้เหมือนกันก็ตาม และตัวเขาอาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่ก็ไม่คิดจะเป็นคนกลับกลอกเช่นเฉินตง

 

 

ฟางเฉิงอู่เป็นชายชราที่มีใบหน้าหยาบกระด้างยิ่งกว่าฟางปิน

 

ร่างกายของเขาใหญ่โตราวกับหอคอยเหล็ก พอฟัดพอเหวี่ยงกับสือต้าหนิวได้เลย

 

ช่วงเวลานี้ สีหน้าของเขากำลังมืดมน ถลึงตากวาดมองไปที่ร่างของเฉินตง จากนั้นค่อยๆเลื่อนไปทางซูเฉินและคนอื่นๆ กล่าวเสียงขรึมว่า “ใครเป็นคนฆ่าฟางปิน? ออกมารับโทษตายซะ!”

 

“ท่านปู่ผู้นี้เป็นคนลงมือเอง อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะทำอะไรฉันได้!” สือต้าหนิวก้าวไปข้างหน้า แค่นเสียงเย็น

 

พอได้อยู่กับซูเฉินนานเข้า ก็ได้รับการถ่ายทอดนิสัยมาโดยไม่รู้ตัว บุคลิกของต้าหนิวมิใช่คนขลาดกลัวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่เขาแข็งแกร่งขึ้น และมั่นใจมากขึ้น การแสดงออกมีกระทั่งร่องรอยของความเย่อหยิ่ง

 

“เจ้าเด็กนี่สงสัยได้เปิดโลกใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

 

ซูเฉินมองสือต้าหนิว ปาดจมูกเขา ลอบพึมพำกับตัวเอง

 

เขายังจำได้แม่น ในตอนที่ให้สังหารฉินหลางในเมืองจิงกัง สือต้าหนิวยังไม่กล้าลงมืออยู่เลย

 

แต่ผ่านไปไม่นาน ตอนนี้อีกฝ่ายกล้ายืนหยัด และเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งแล้ว

 

ต้องขอบอกว่าสือต้าหนิวเปลี่ยนไปมาก

 

อย่างไรก็ตาม นี่แหละคือสิ่งที่ซูเฉินต้องการจะเห็น

 

เพราะในวันสิ้นโลก บางครั้งการยอมเป็นแค่คนก้มหน้ารับกรรม สุดท้ายอาจเจอหนทางตัน มีแต่ถูกสังหารเท่านั้น

 

มีเพียงต้องแสดงความห้าวหาญของผู้แข็งแกร่งออกมา ถึงจะสะกดข่มศัตรูได้

 

“ไอ้หนู ช่างรนหาที่ตาย!” ชายหนุ่มหน้าตาดุร้ายข้างๆฟางเฉิงอู่ เลียริมฝีปากเขา ชักมีดยาวออกมาพุ่งเข้าหาสือต้าหนิว

 

นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้แสดงฝีมือให้ทุกคนเห็น ตราบใดที่เขาสังหารสือต้าหนิว ก็จะสามารถสร้างความประทับใจต่อฟางเฉิงอู่

 

เป็นผลให้สถานะของเขาในสถานชุมชนฮั่วหลางสูงขึ้น

 

สือต้าหนิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ยก [ค้อนสวรรค์] แล้วกวาดเหวี่ยงออกไป

 

เมื่อมันปะทะกับคมมีด ได้ยินเพียงเสียง กริ๊ก

 

มีดของชายหนุ่มถูกทุบแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“ได้ไงกัน!”

 

ชายหนุ่มหวาดกลัวอกแทบแตกตาย ผละมือจากมีด ดีดตัวถอยกลับไปข้างหลัง

 

แต่ค้อนของสือต้าหนิวนั้นทรงพลังและมีน้ำหนักมหาศาล!

 

ไม่เพียงทำลายมีดแหลกเป็นเสี่ยง แต่ [ค้อนสวรรค์] ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ยังคงฟาดตรงไปยังร่างชายหนุ่มตรงหน้า

 

ได้ยินเพียงเสียงปัง!

 

ชายหนุ่มไม่ทันได้หลบเลี่ยง ค้อนยักษ์ก็ทุบลงบนร่างเขา ส่งทั้งคนทั้งร่างปลิวกระเด็นออกไป