Ep.196

 

[กายาเทพอสูรนิรันดร์] หรือเรียกอีกอย่างว่าร่างอันคงกระพันในระดับเดียวกัน

 

หากอยู่ในเลเวลเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยเวทมนต์ , โจมตีด้วยพลังจิต สับด้วยมีด ดาบ และขวาน ใดๆล้วนมิอาจสร้างความเสียหายแก่ซูเฉินได้

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตัวซูเฉินในปัจจุบัน ต่อให้ยืนนิ่ง แล้วปล่อยให้ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 หรือปรมาจารย์พลังจิต ทุ่มโจมตีไปเรื่อยๆจนแก่ตาย ซูเฉินก็ไม่มีทางได้รับอันตรายใดๆ

 

แม้ว่าจะมีคนที่เลเวลสูงกว่าหนึ่งขั้นโจมตีใส่เขา แต่เทคนิคลับนี้ก็ยังช่วยลดทอนพลังโจมตีของคู่ต่อสู้ลงได้เป็นอย่างมาก

 

ไม่มีทางสังหารซูเฉินได้ในกระบวนท่าเดียว อย่างมากที่สุดทำให้ซูเฉินได้รับบาดเจ็บเท่านั้น

 

แน่นอน ว่าที่กล่าวมาคือในกรณีที่ซูเฉินยืนเฉย ปล่อยให้ผู้อื่นโจมตีเท่านั้น หากเขาตอบโต้กลับ อีกฝ่ายที่กล่าวๆมาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้

 

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ซูเฉินที่ได้รับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] บุคคลที่สามารถคุกคามชีวิตเขาได้ ต้องมีเลเวลเหนือกว่าถึงสองขั้น

 

นอกจากนี้ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ยังคงมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายทนทานต่อเชื้อร้าย หมื่นพิษมิอาจรุกราน ก่อภูมิคุ้มกันต่อต้านพิษใดๆในโลก รวมถึงพิษจากพวกศพด้วย

 

อยู่ยงคงกระพันในเลเวลเดียวกัน! หมื่นพิษมิอาจย่างกราย!

 

ด้วยสองสิ่งนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะประกาศว่า [กายาเทพอสูรนิรันดร์] เป็นเทคนิคร่างเทวะอันดับหนึ่งของโลก!

 

นับแต่นี้ไป ถือว่าซูเฉินได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความไร้เทียมทานอย่างแท้จริงแล้ว!

 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากหินพลังงานถูกขุดเสร็จ หวู่หยางและคนอื่นๆก็ทยอยกันขึ้นไปบน [รถศึกอัจฉริยะ]

 

ซูเฉินรวบรวมหินพลังงาน และเติมหินพลังงานธรรมดากับหินเลเวล 1 เข้าด้วยกัน บรรจุลงใน [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)]

 

จากนั้นนำ [อัญมณีอัพเกรด] ออกมา อัพเกรด [ปืนใหญ่เพาส์] เป็นเลเวล 2 และเติมหินพลังงานและหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 2 ทั้งหมดที่เหลือลงไป

 

ด้วยวิธีนี้ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จะสามารถเลือกฆ่าซอมบี้ได้ หากเป็นซอมบี้ธรรมดาหรือเลเวล 1 ก็ใช้แค่ [(ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] แต่เมื่อเจอซอมบี้เลเวล 2 ก็จัดหนักมันด้วย [ปืนใหญ่เพาส์ เลเวล 2 ] อันทรงพลัง

 

“ซูเฉิน พวกเราจะไปไหนกันต่อ?” หวู่หยางถาม

 

ภารกิจทุกวันนี้ของพวกเขา ไม่ล่าซอมบี้ ก็เดินทางไปล่าซอมบี้

 

เนื่องจากซอมบี้ที่นี่ถูกฆ่าตายหมดแล้ว ฉะนั้นพวกเขาก็น่าจะออกค้นหาซอมบี้ในจุดต่อไป

 

หวู่หยางเริ่มปรับตัวให้ชินกับกิจวัตรประจำวันแล้ว

 

“วันนี้พวกเราจะพักที่นี่หนึ่งคืน และพรุ่งนี้จะออกเดินทางไปยังเทือกเขาเหยกู่เพื่อสังหารสัตว์กลายพันธุ์” ซูเฉินตอบกลับ

 

เทือกเขาเหยกู่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก หากขับเคลื่อนเต็มกำลังน่าจะใช้เวลาครึ่งวัน

 

นอกจากนี้ วันนี้มีซอมบี้จำนวนมากถูกฆ่าตาย ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะได้พักผ่อนและผ่อนคลาย

 

“พี่เฉิน สัตว์กลายพันธุ์ชนิดไหนอยู่ในเทือกเขาเหยกู่หรอ?” หยางฮ่าวถามด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย

 

เมื่อเทียบกับซอมบี้แล้ว เขาชอบล่าสัตว์กลายพันธุ์มากกว่า

 

เพราะนอกจากเรื่องหินพลังงาน สัตว์กลายพันธุ์สามารถนำไปใช้ทำบาร์บีคิวได้

 

เมื่อคิดถึงเนื้อย่างกลิ่นหอมหวล มุมปากของหยางฮ่าวก็น้ำลายไหลโดยไม่รู้ตัว

 

เขาเลยอยากรู้เป็นอย่างมาก ว่าสัตว์กลายพันธุ์ชนิดใดกันหนอที่ตั้งรกรากอยู่ในเทือกเขาเหยกู่?

 

ตอนเค้นสอบข้อมูล ซูเฉินก็ไม่ได้ถามละเอียดขนาดนั้น จึงกล่าวว่า “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง”

 

“โอ้ .. ” หยางฮ่าวรับคำ ไม่ซักไซ้ต่อ

 

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่มันเป็นสัตว์กลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ล้วนสามารถย่างกินได้

 

ขอแค่รู้ว่าสามารถเสียบาร์บีคิวได้ก็พอแล้ว

 

ต่อมา ซูเฉินหยิบ [เตาอเนกประสงค์] ออกมาแล้วเริ่มเตรียมอาหาร

 

ทุกคนกินดื่มกันอย่างหนำใจ มองหาที่พักผ่อนของตัวเอง

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างค่ำคืน วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าทอแสงสดใส

 

“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเหยกู่ด้วยความเร็วเต็มพิกัด” ซูเฉินออกคำสั่งทันทีที่ลืมตา

 

ตามการคำนวณของเขา ถ้าออกไปตอนนี้ น่าจะเกือบถึงเทือกเขาเหยกู่ราวๆเที่ยง

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่อง ขับเคลื่อนด้วยความเร็วเต็มที่

 

ระหว่างทางไม่มีอะไรทำ ซูเฉินจึงเลือกที่จะอยู่กับตันหลินและหยางเฉียน

 

ก่อนหน้านี้ เขาได้ประกาศว่าตันหลินและหยางเฉียนเป็นผู้หญิงของตน ดังนั้นไม่คิดปิดบังอีกต่อไป