วันนี้ลง 157 158

Ep.157

ครึ่งชั่วโมงต่อมา กองกำลังซอมบี้ก็บุกเข้ามาถึง

ใบหน้าอันน่าสะพรึงปรากฏสู่สายตาซูเฉินและคนอื่นๆ

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ กองกำลังซอมบี้ที่วิ่งใกล้เข้ามา พวกมันกลับชะลอฝีเท้า และหยุดลงทิ้งระยะห่างสิบเมตรอย่างน่าฉงน

หากว่ากันตามปกติแล้ว ตราบใดที่ซอมบี้พบมนุษย์ พวกมันจะกระโจนเข้าหาอย่างบ้าคลั่งทันที ไม่เว้นระยะกันเช่นนี้

นี่แสดงให้เห็นว่า ในฝูงซอมบี้ต้องมีตัวใดตัวหนึ่งที่สามารถออกคำสั่งได้

และซอมบี้ตัวนั้นก็ต้องมีความแข็งแกร่งมหาศาล เพียงพอที่จะสั่งซอมบี้ตัวอื่นเช่นกัน

“ทำไมซอมบี้ถึงไม่โจมตีพวกเราล่ะ” หยางฮ่าวกลืนน้ำลาย เอ่ยงึมงำ

คนอื่นๆก็ได้แต่มองหน้ากัน นอกจากความสับสนแล้ว ที่มากกว่านั้นคือความตึงเครียดที่ยิ่งนานยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แม้พวกเขาจะเตรียมรับมือมาอย่างดีแล้ว แถมยังมีซูเฉินยืนอยู่เคียงข้าง ทำให้รู้สึกว่าไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับคลื่นซอมบี้ขนาดเล็ก เมื่อถูกแรงกดดันมหาศาลโถมเข้ากดดัน  ก็อดหวั่นใจไม่ได้

ต่างฝ่ายต่างเผชิญหน้ากันนิ่งงันไปพักหนึ่ง จากนั้นไม่นาน ชายชราผมที่มีผมสีเงินเต็มหัวก็ก้าวออกมาจากฝูงซอมบี้

คนๆนี้ แม้ดูแก่มากแล้ว แต่ในความเป็นจริงกลับก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉง ทุกย่างก้าวให้ความรู้สึกหนักแน่นและเปี่ยมไปด้วยพลัง

ตลอดทั้งร่างเขาแผ่กลิ่นอายของความน่าเกรงขามออกมา ราวกับจักรพรรดิกำลังเสด็จมาเยือนปวงประชา

“จิ่นเฟยซี ที่แท้ก็เป็นคุณ!”

เมื่อชายชราปรากฏตัวขึ้น หางตาของหวู่หยางกระตุกทันใด ร้องอุทานเสียงหลง

เขาทำงานกับจิ่นเฟยซีในสถานชุมชนเทียนหนานมาหลายปี ดังนั้นเมื่อพบเจอ ก็สามารถจดจำได้ทันที

แน่นอน ว่าจิ่นเฟยซีต่างจากเมื่อก่อน

ความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุด คือใบหน้า บนใบหน้าของเขาในเวลานี้ปูนโปนไปด้วยเส้นเลือดสีดำและสีน้ำเงิน ไม่เพียงแต่ดูน่าสยดสยองเท่านั้น แต่มันยังไม่เผยถึงร่องรอยของชีวิตแม้แต่น้อย

“ฮ่า ฮ่า .. ” จิ่นเฟยซีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มองไปทางหวู่หยาง และกล่าวด้วยน้ำเสียงอันลึกล้ำว่า “หวู่หยาง ไม่นึกเลยว่านายจะยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้เราราชากำลังขาดผู้รับใช้ที่มีความสามารถ ฉะนั้นจงมาอยู่เคียงข้างฉันเหมือนแต่ก่อน ร่วมกันสร้างขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันอีกครั้ง!”

ปัจจุบันจิ่นเฟยซีอยู่ในสภาพซอมบี้แล้ว ดังนั้นใครก็ตามที่อยู่เคียงข้างเขา สมควรเป็นซอมบี้เช่นกัน

หรือความหมายก็คือ เขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนหวู่หยางให้กลายเป็นซอมบี้

หวู่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่นเสียงเย็นชา “จิ่นเฟยซี คุณยอมกลายเป็นซอมบี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่รู้ว่ามีมนุษย์กี่คนแล้วคุณฆ่าไป แล้วแบบนี้ฉันจะยอมไปอยู่กับคุณได้อย่างไร!”

หากเปลี่ยนเป็นตัวเขาคนเดิม หวู่หยางจะไม่กล้าใช้คำพูดเช่นนี้กับจิ่นเฟยซีอย่างแน่นอน

แต่ปัจจุบันมันต่างออกไป ตอนนี้เขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ดังนั้นมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสู้กับจิ่นเฟยซี

อีกอย่างเขามีซูเฉิน!

ต่อให้จิ่นเฟยซีแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ภายใต้เงื้อมมือขอซูเฉิน อีกฝ่ายไม่มีทางก่อระลอกคลื่นใดๆได้

“ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน น้ำเสียงดูยโสขึ้นนะ” จิ่นเฟยซียิ้มอย่างขุ่นเคือง ดวงตาเขาทอประกายเย็นชา จ้องมองหวู่หยาง “ในเมื่อแกไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เช่นนั้นเราราชาจะปราบพยศแกเอง!”

สิ้นเสียง จิ่นเฟยซีกระทืบเท้าอย่างแรง บดขยี้ทรายและดินบนพื้น

เสมือนสัตว์ป่าในทุ่งล่า กระโจนเข้าหาหวู่หยางหมายสังหารเขา

ก่อนที่จิ่นเฟยซีจะลงมือ อีกฝ่ายระงับกลิ่นอายสังหารเอาไว้ แต่ตอนนี้มันถูกเปิดเผยออกมาแล้ว

“ซอมบี้เลเวล 3!” สีหน้าของหวู่หยางแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก

ความเร็วของจิ่นเฟยซีนั้นว่องไวเกินไป ซอมบี้เลเวล 2 เทียบเขาไม่ติดเลย

ด้วยความแข็งแกร่งของซอมบี้เลเวล 3 มิใช่อะไรที่หวู่หยางสามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน เพราะเขาเพิ่งวิวัฒนาการเป็นเลเวล 2 เมื่อไม่นานนี้เอง

ณ จุดนี้ ความหวาดกลัวของหวู่หยางพุ่งทะยานถึงขีดสุด หันไปมองซูเฉินราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ

หลังจากเห็นจิ่นเฟยซีระเบิดความเร็วของซอมบี้เลเวล 3 ออกมา ซูเฉินก็ตกใจ

เพราะเขายังจดจำได้ ว่าก่อนที่จิ่นเฟยซีจะกลายเป็นซอมบี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 แต่ปัจจุบันหลังกลายร่าง กลับสามารถยกระดับขึ้นเป็นเลเวล 3 ได้ในระยะเวลาอันสั้น

ความเร็วในการยกระดับนี้ ทำให้ซูเฉินประหลาดใจเล็กน้อย

“เสี่ยวตี๋ ไปสู้กับมัน” ซูเฉินสั่ง [นักรบจักรกล]

[นักรบจักรกล] เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3 แล้ว แต่ยังไม่ได้แสดงฝีมือเลย เขายังไม่ได้เห็นความแข็งแกร่งของมันกับตา

ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะตรวจสอบ