3/8

 

Ep.135

 

เพล้งงง!

 

บริเวณโดยรอบแตกสลาย ราวกับว่าโลกแห่งจิตสำนึกไม่อาจทานทนต่อการโจมตีของแมลงกลืนวิญญาณ เกิดเสียงหึ่ง หึ่ง ดังสะท้อนไปทั่ว

 

ยังไงก็ตาม สายตาที่ฉู่เซวียนมองไปยังการโจมตีนี้ช่างเฉยเมย เขาเพียงเฝ้ามองมันเงียบๆ ไม่ได้ขยับเขยื้อนตัวเลย

 

วินาทีถัดมา แสงสีขาวอันไร้ที่สิ้นสุด ปรากฏขึ้นในโลกแห่งจิตสำนึกของเขา จากนั้นเสียงเย็นชาพลันดังขึ้น “ตรวจพบผู้บุกรุก เปิดใช้งานฟังก์ชันผนึกโดยอัตโนมัติ”

 

ต่อมา แสงสีขาวรอบด้านไหลมารวมตัวกันบนร่างของแมลงกลืนวิญญาณ จากนั้นห่อหุ้มมันไว้เป็นบอลแสงสีขาว และค่อยๆบีบตัวลงอย่างต่อเนื่อง

 

“อ๊ากกกกก! นี่มันอะไรกัน! โลกแห่งจิตสำนึกของเจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร!”

 

เสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของแมลงกลืนวิญญาณดังขึ้น ร่างใหญ่โตของมันพยายามดิ้นรนอย่าบ้าคลั่งข้างในบอลแสง

 

บอลแสงถูกแมลงกลืนวิญญาณโจมตี แต่ทุกครั้งมันจะนูนขึ้น ก่อนกลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่เหลือร่องรอยว่าเกิดความเสียหายขึ้นเลย

 

ภายในบอลแสง แมลงกลืนวิญญาณรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงอย่างสุดโต่ง กระทั่งยามอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิแมลงมิติก็ยังไม่เคยรู้สึกถึงขนาดนี้มาก่อน

 

ณ จุดนี้ แมลงกลืนวิญญาณต่อให้อยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา มันแค่ต้องการสังหารจิตวิญญาณของฉู่เซวียน แต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเด็กนี่ดันมีสิ่งที่น่าสะพรึงซ่อนอยู่ในจิตใจ

 

เชื่อเถอะว่าหากให้โอกาสแมลงกลืนวิญญาณอีกครั้ง มันจะไม่เลือกโจมตีฉู่เซวียนอย่างแน่นอน แต่จะหลบหนีออกไปให้ไกลที่สุดแทน

 

แต่ยารักษาความเสียใจมันไม่มีในโลก สิ่งใดที่ทำลงไปแล้ว ผลของสิ่งนั้นจะคืนสนอง

 

บอลแสงขาวยังคงหดตัวลงด้วยความเร็วอันน่าตกใจ ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ มันก็เล็กลงจนเหลือเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงไม่กี่เมตร

 

‘ไม่ได้การ ขืนยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ถึงเวลาคงไม่มีโอกาสหนีอีกแล้ว’

 

สัมผัสได้ถึงพลังจิตของตนที่อ่อนแอลง แมลงกลืนวิญญาณไตร่ตรองในใจ

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดผนึกข้า รอชาติหน้าเถอะ! เป็นเจ้าเองนะที่บังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้ ถูกกลบฝังอยู่ที่นี่ซะเถอะ!”

 

ต่อมา ร่างของแมลงกลืนวิญญาณพองตัวขึ้นอย่างผิดปกติ รอยปริร้าวเริ่มลุกลามตามตัวมัน

 

“คำเตือน! คำเตือน! พลังงานเกิดนขีดจำกัดที่ระบบจะสามารถผนึกได้ เจ้าของร่างโปรดเตรียมรับแรงกระแทก!”

 

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจฉู่เซวียน และฟังจากน้ำเสียงคล้ายแฝงความจริงจังที่ยากจะได้ยินอยู่ข้างใน

 

ได้ยินคำนี้ ฉู่เซวียนมองไปยังบอลแสงขาวที่ค่อยๆเริ่มขยายตัวขึ้น สีหน้าเขาอดหมองลงไม่ได้

 

เดิมทีสิ่งที่เขาสามารถพึ่งพาได้คือการมีอยู่ของระบบ ทว่าตอนนี้ ไม่ว่าจะมองยังไงฉากเบื้องหน้ามันก็อยู่เหนือการควบคุมของระบบแล้ว

 

“อย่าบอกนะว่า มันคิดระเบิดตัวเอง?”

 

บรึ้มมมมม!

 

วินาทีถัดมา พร้อมกับเสียงคำรามดังก้อง บอลแสงสีขาวระเบิดในคราเดียว พายุจิตวิญญาณอันรุนแรงกวาดฮือไปทั่วทั้งโลกแห่งจิตสำนึก

 

และไม่ใช่แค่ดวงดาราเหล่านั้น แต่กระทั่งร่างของฉู่เซวียนที่อยู่ข้างในก็แหลกสลายลงทันทีที่สัมผัสมัน

 

หลังจากทุกอย่างสงบลง เงาร่างโปร่งใสที่สามารถมองเห็นได้รางๆว่าเป็นแมลงกลืนวิญญาณได้ปรากฏตัวขึ้น มันกวาดสายตามองโลกแห่งจิตสำนึกด้วยความเกลียดชัง ก่อนหายวับไปจากที่นี่ทันที

 

หลังจากโลกแห่งจิตสำนึกถูกพายุพลังจิตกวาดทำลาย มันก็ไม่เหลือร่องรอยของสิ่งใดอยู่อีกต่อไป

 

มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา พบเห็นได้เพียงความว่างเปล่า เป็นความเงียบที่ตายไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม โลกแห่งจิตสำนึกไม่ได้ถูกทำลายภายใต้อิทธพลของพายุจิตวิญญาณนี้ ตรงกันข้าม มันกลับขยายใหญ่ขึ้นเป็นสิบเท่าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

 

แม้จะไม่มีดวงดาราอีกต่อไป ทว่าพื้นที่โดยรอบกลับแทรกซึมไปด้วยพลังจิตอันไร้ที่สิ้นสุด

 

หากในสถานการณ์ปกติ เมื่อแมลงกลืนวิญญาณระเบิดพลังจิตระดับนี้ออกมา ไม่ต้องกล่าวถึงฉู่เซวียนที่เป็นแค่ซอมบี้เลเวล 5 แต่กระทั่งซอมบี้ลอร์ดก็ยังมีโอกาสที่จะกลายเป็นคนเลอะเลือน

 

อย่างไรก็ตาม โลกแห่งจิตสำนึกของฉู่เซวียนได้รับการปกป้องโดยระบบ เพราะเหตุนี้จึงไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับสามัญสำนึกตามปกติได้

 

โลกแห่งจิตสำนึก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือที่อาศัยของวิญญาณในสิ่งมีชีวิต และนั่นหมายความว่า ตราบใดที่สถานที่แห่งนี้ยังไม่แตกสลาย–

 

–วิญญาณของฉู่เซวียนก็ยังคงไม่พินาศ!

 

อย่างไรก็ตาม ร่างจิตวิญญาณของฉู่เซวียนเวลานี้ถูกทำลาย เขาจะฟื้นคืนสติกลับมาอีกครั้งหรือไม่นั้นยังไม่อาจทราบได้

 

4/8

 

Ep.136

 

ในเวลาเดียวกัน ณ น่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก คนกลุ่มหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่กลางอากาศ

 

พิจารณาจากกลิ่นอายที่เล็ดลอดออกจากร่างของพวกเขา ทั้งหมดล้วนเป็นเทพสงครามหรือขุมกำลังที่เหนือยิ่งกว่านั้น!

 

ในกลุ่มคน ผู้นำเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เธอสวมชุดยาวสีขาว นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนดูเย็นชา คล้ายไม่แยแสต่อสิ่งสรรพชีวิตใดในโลก

 

ผมสีเงินขาวยาวลงมาถึงช่วงเอว ร่ายระบำไปกับสายลม ราวกับนางฟ้าบนสวรรค์ที่หลงเข้ามาแปดเปื้อนในโลกมนุษย์โดยไม่ตั้งใจ

กลิ่นอายที่เล็ดลอดจากร่างเธอเปรียบเสมือนน้ำแข็งหมื่นปี ให้ความรู้สึกแปลกแยกจากผู้คน คล้ายอยู่ห่างไกลกันเป็นพันไมล์

 

หากฉู่เซวียนมาอยู่ที่นี่ เขาจะพบว่ารูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้มีส่วนคล้ายกับแฟนของเขาเจียงชิงเซว่ถึง 7-8 ส่วน!

 

ในตอนนั้นเอง หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ร่างอันงดงามของเธอหยุดกึกกลางอากาศ บังเกิดความรู้สึกปวดร้าวขึ้นในใจ ราวกับถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นกำแน่น

 

ความรู้สึกโศกเศร้าที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเธอ คล้ายบางสิ่งบางอย่างที่แสนสำคัญกำลังจะสูญหายไป

 

“ชิงเซว่ เป็นอะไรไป?” ด้านหลังเธอ ชายหนุ่มรูปหล่อสังเกตเห็นท่าทีแปลกไปของหญิงสาว เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

 

ได้ยินคำนี้ ใบหน้าของหญิงสาวกลับมาเฉยเมยอีกครั้ง เธอตอบเบาๆว่า “ไม่มีอะไร”

 

ว่าจบ เธอก็เริ่มก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง โดยไม่แม้จะเหลียวมองชายคนนั้น

 

เห็นภาพนี้ นัยนต์ตาของชายคนนั้นทอประกายเจตนาร้าย เขาพึมพำกับตัวเองว่า “เหอะ! แสร้งทำตัวสูงส่งต่อไปเถอะ ไม่ช้าก็เร็ว เธอจะต้องตกเป็นของฉัน”

 

“ชางหมิง นายมัวทำอะไรอยู่ รีบตามคนอื่นๆไปเร็วเข้า!” หนึ่งในกลุ่มเห็นเขาลอยนิ่ง ก็ตะโกนเสียงดัง

 

“เข้าใจแล้ว จะรีบไปเดี๋ยวนี้” ได้ยินคำนี้ ใบหน้าของชายคนนั้นสลับกลับมาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มสดใส เขาตอบแล้วรีบตามคนอื่นๆไป

 

 

ในโลกแห่งจิตสำนึกของฉู่เซวียน ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบกริบ แต่ในตอนนั้นเอง คลื่นความผันผวนน้อยๆพลันปรากฏขึ้น

 

“เฮ้ เฮ้ เอะอะใหญ่โตแบบนี้ แล้วจะให้ข้าหลับลงได้ยังไง?”

 

ต่อมา เสียงกังวานเล็กน้อยดังขึ้น มังกรจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏกายอย่างช้าๆ

 

“อ้าวเวร! มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันล่ะเนี่ย? ใครมาทำลายโลกแห่งจิตสำนึกของเจ้า?”

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้ว วิญญาณมังกรก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างกะทันหัน มันเริ่มร้องโวยวาย แต่ก็ยังไม่มีเสียงใดตอบสนอง

 

วิญญาณมังกรเกิดความสับสน สุดท้ายตัดสินใจส่งคลื่นที่มองไม่เห็นกวาดออกจากร่างตน แผ่กระจายออกไปรอบๆ

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนที่หลงเหลือ วิญญาณมังกรเดาะลิ้นขึ้นมา “จิตวิญญาณของเผ่าเซิร์กระดับลอร์ดระเบิดตัวเองในโลกแห่งจิตสำนึก แต่ก็ยังฆ่าเจ้าไม่ได้ เด็กน้อย เจ้าช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าสติของเจ้าจะตกอยู่ในสภาวะหลับลึก … ”

 

วิญญาณมังกรไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ “เอาตามนี้แล้วกัน ไหนๆเราเทพเจ้าก็ยังต้องพึ่งพาร่างเจ้าเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่ง ข้าจะช่วยเจ้าอีกสักครั้ง”

 

จากนั้น บาดแผลเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนเกล็ดมังกรจิ๋ว เลือดสีทองหยดหนึ่งไหลออกมาจากมัน กลิ่นอายไม่ธรรมดาแพร่กระจายไปทั่วบริเวณทันที

 

แม้ที่นี่จะเป็นโลกจิตสำนึก แต่เลือดนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นของจริง และมันสามารถลอยล่องอยู่ที่นี่ได้อย่างอิสระ บ่งบอกชัดว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่ธรรมดา

 

“ค้นพบเลือดมังกร อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ … ”

 

“ตรวจสอบเสร็จสิ้น ความบริสุทธิ์ของเลือดมังกร คือ 98.9%”

 

ได้ยินอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากโลกแห่งจิตสำนึก วิญญาณมังกรสะดุ้งตกใจ แต่ต่อมาเขาก็นึกขึ้นได้ว่าในร่างของฉู่เซวียนมีอีกตัวตนอาศัยอยู่ จึงถอนหายใจโล่งอก

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังคงงอดโวยวายด้วยความขุ่นเคืองขึ้นมาไม่ได้ว่า “เราเทพเจ้าคือเผ่ามังกรเลือดบริสุทธิ์ เหตุใดยังขาดความบริสุทธิอีก 1% ไปได้?”

 

โดยไม่สนใจเสียงของวิญญาณมังกร เสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้ง

 

“ตรวจพบว่าสติของเจ้าของร่างหายไป ทำการเปิดฟังก์ชั่นระบบ เปิดโหมดฟิวชั่นอัตโนมัติ”