Ep.130

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยางฮ่าวและคนอื่นๆขุดหินพลังงานเสร็จก็ทยอยกลับไปที่รถ

ซูเฉินรวบรวมหินพลังงานทั้งหมด เติมลงใน [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] และกลับไปที่เหมืองอีกครั้งเพื่อล่อซอมบี้

คราวนี้หวู่หยางและคนอื่นๆไม่มีใครทักท้วง

หลังจากได้เห็นอำนาจทำลายล้างของ [รถศึกอัจฉริยะ] ไม่ว่าซอมบี้จะโผล่ขึ้นมากี่ตัว สุดท้ายพวกมันทั้งหมดจะถูกฆ่า ดังนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร

ซูเฉินเดินไปข้างหน้าเหมือง กวาดมองลงไป และเห็นว่าไม่มีซอมบี้อยู่ตามรายทางของอุโมงค์ถ้ำอีกต่อไป

ลึกลงไปเบื้องล่าง ปูไปสู่เส้นทางอันมืดมิด แต่ก็ยังมีซอมบี้จำนวนมากรวมตัวกันอย่างหนาแน่น

ซูเฉินสร้างลูกไฟบนฝ่ามือ ขว้างมันลงไป

ลูกไฟค่อยๆตกลึกลงไป ทว่าขณะที่กำลังจะถึงก้นหลุม มันกลับถูกขวางเอาไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น จากนั้นเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง สะเก็ดแตกออกเป็นดอกไม้ไฟส่องสว่างขึ้นทันใด

อย่างไรก็ตาม แม้แรงระเบิดของเวทมนต์ลูกไฟจะไม่ธรรมดา แต่มันกลับไม่สามารถทำอันตรายใดๆต่อพวกซอมบี้ที่อยู่ด้านล่างได้เลย

“อำนาจเขตแดนแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย

เวทมนต์ลูกไฟถูกสกัดกั้น เป็นผลมาจากอำนาจเขตแดนที่ขวางทางเอาไว้

ซูเฉินยังคงไม่ยอมแพ้ แต่ในขณะที่เขาตั้งใจจะปล่อยพายุสายฟ้านั้นเอง เสียงคำรามด้วยความโกรธพลันสะท้อนขึ้นมาจากเบื้องล่าง

“ซิลิกัว .. ทูริคชิลา … ”

ภาษาที่คำรามขึ้นมา ไม่ใช่ภาษาของโลกใบนี้ หากเป็นคนอื่น คงไม่มีทางเข้าใจมัน

แต่ซูเฉินน่ะต่างออกไป เขาเพิ่งได้รับ [หมื่นภาษาและคำศัพท์] เลยบังเอิญสามารถเข้าใจความหมายของมัน

แต่ทว่า หลังจากที่เขาแปลประโยคนั้นออกมา สีหน้าของเขากลับกลายเป็นมืดมน

เพราะเสียงคำรามก้องเมื่อครู่ เป็นวาจาดูหมิ่นเขา

ความหมายที่แปลได้ก็คือ

“หัวขโมยน้อยจอมโอหัง เจ้าฆ่าคนรับใช้ของเผ่าเราไปมากมาย แต่ยังไม่ยอมเลิกรา ถ้ายังไม่ไสหัวไป ข้าจะฉีกเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้น!”

และคนเช่นซูเฉิน จะยอมถูกดูหมิ่นและข่มขู่เช่นนี้ได้อย่างไร?

เขาตอบโต้ด้วยภาษาของอีกฝ่ายกลับไปทันที

“เก็บปากไว้ด่าป้าแกเถอะไอ้บ้า! คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถ้าแน่จริงก็คลานขึ้นมา ท่านปู่จะเลาะหนังถลกเส้นเอ็นให้แกเอง!”

หลังจากโดนซูเฉินด่ากราดกลับไป ชนต่างเผ่าตนนั้นก็ตกใจเป็นอันดับแรก ได้สติร้องอุทานว่า “ไอ้หนู เจ้าเป็นใครกัน? เหตุใดถึงสามารถเอ่ยภาษามนุษย์เต่าเขียวของพวกเราได้?”

“แล้วมันสำคัญด้วยหรือ?” ซูเฉินหัวเราะหยัน ด่าต่อว่า “ไม่ว่าแกจะเป็นเต่าเขียวหรือเต่าแดง ในสายตาฉัน แกมันก็เป็นแค่เต่าหัวหด!”

เหตุผลที่เขากระตุ้นอีกฝ่ายเช่นนี้ หลักๆเป็นเพราะต้องการล่อมนุษย์เต่าเขียวให้ขึ้นมา

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวมาก่อนเลย ดังนั้นเลยอยากหาโอกาสทดสอบความแข็งแกร่งของพวกมัน

“โอหัง!” มนุษย์เต่าเขียวโกรธ คำรามขู่อีกครั้ง “ถ้าไม่ใช่เพราะข้าถูกขวางกั้นไว้ด้วยอำนาจเขตแดน ข้าคงไปสังหารเจ้าตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เจ้าส่งเสียงเจี๊ยกๆเช่นนี้หรอก”

พอได้ยินแบบนั้น ซูเฉินก็เริ่มขบคิด กล่าวอย่างไม่มั่นใจว่า “ถ้าอย่างนั้น หมายความว่าแกจะไม่ขึ้นมาหรอ?”

“ฮ่า ฮ่า … ” เต่าเขียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง กล่าวเสียงเย็นชา “อย่าได้โล่งใจไป อีกไม่นานอำนาจเขตแดนจะกลับมาคงที่ ถึงเวลานั้นเผ่าเต่าเขียวของพวกเรา จักสังหารมนุษย์ทุกคนอย่างแน่นอน”

“ก็แค่คำพูดผายลม ขี้โม้เชื่อถือไม่ได้!” ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นลอบถามว่า “เผ่าเต่าเขียวของพวกแก แข็งแกร่งสุดก็แค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 จะเป็นคู่ต่อสู้ของมนุษย์อย่างพวกเราได้ยังไง”

เขาไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าเต่าเขียวเลย ดังนั้นตะโกนถามเช่นนี้เพื่อเป็นการลองเชิง

“เจ้ากบก้นบ่อ!”

มนุษย์เต่าเขียวกล่าวด้วยความรังเกียจและดูแคลนว่า “เผ่าเต่าเขียวของเรา ผู้อ่อนแอที่สุดคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 หัวหน้าเผ่าเป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ที่ทรงพลัง มนุษย์อย่างพวกแก อ่อนแอที่สุดในทุกชนเผ่า  จะเอาอะไรมาต้านทานพวกเรา?”

‘ที่แท้ผู้แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันก็คือเลเวล 4 ’ ซูเฉินแสดงท่าทีเหยียดหยามเล็กน้อย

ตอนแรก ฟังจากคำพูดของอีกฝ่าย เขาคิดว่าเผ่าเต่าเขียวเป็นเผ่าพันธุ์ทรงพลัง ที่ไหนได้ แข็งแกร่งสุดแค่เลเวล 4 เท่านั้น

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ถือเป็นกำลังรบระดับสูงสุดของเกาะเฉียนหยูก็จริง แต่สำหรับซูเฉิน พวกเขาไม่ต่างจากสิ่งของที่สามารถฆ่าได้ตามใจชอบ ไม่คณามือแต่อย่างใด