Ep.118
“ซูเฉิน แล้วคุณมีแผนที่จะทำอะไรต่อไป?” หวู่หยางถาม
แม้เขาจะแก่กว่าซูเฉิน แต่ในวันสิ้นโลก ผู้ที่ได้รับความเคารพคือผู้แข็งแกร่ง
หลังจากเห็นถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน เขาก็ได้วางตำแหน่งซูเฉินในฐานะผู้นำ รับหน้าที่เป็นหัวขบวนเป็นที่เรียบร้อย
“นับจากนี้ไป ผมจะออกล่าซอมบี้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งจำนวนซอมบี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด จะดีกว่าถ้าเป็นคลื่นฝูงซอมบี้ขนาดเล็ก” ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างหนักแน่น
สำหรับเขา การล่าซอมบี้และไล่เก็บชิ้นส่วน เป็นวิธีที่ตรงและสะดวกที่สุดในการเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง
“ออกล่าคลื่นฝูงซอมบี้ขนาดเล็ก?” หวู่หยางเบิกตากว้าง จ้องมองซูเฉินอย่างตกตะลึง ลอบร้องในใจว่า ‘ซูเฉินใช่ละโมบเกินไปหรือไม่? คลื่นซอมบี้ขนาดเล็กที่ว่า มันเท่ากับซอมบี้นับหมื่นตัวเลยนะ’
“พี่หวู่ ด้วยความแข็งแกร่งของซูเฉิน ประจวบกับที่มีพวกเราคอยหนุนหลัง การออกล่าคลื่นซอมบี้ขนาดเล็กไม่ใช่ปัญหาใหญ่” เมื่อเห็นถึงความกังวลของหวู่หยาง หยางหลิงเทียนอธิบาย
ฟังจากคำพูดของหยางหลิงเทียน มันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเชื่อมั่นในตัวซูเฉินอย่างสุดหัวใจ
หลิงจากได้ยินคำยืนยันจากปากหยางหลิงเทียน หวู่หยางก็นึกย้อนไปถึงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวของซูเฉิน ที่อาศัยกำลังของตนเพียงลำพังสะกดข่มทั้งเมืองได้
“คลื่นซอมบี้อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง อีกอย่างแถวนี้ยังมีกองกำลังซอมบี้ของจิ่นเฟยซีอยู่ใกล้ๆ”
แต่เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ สีหน้าของหวู่หยางแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่า “ซูเฉิน อย่าบอกนะว่าคุณสนใจที่จะล่าจิ่นเฟยซี?”
จำนวนซอมบี้ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของจิ่นเฟยซีมีมากกว่าแสนตัว รีบร้อนออกไปล่า เป็นเรื่องอันตรายมาก
“ปล่อยจิ่นเฟยซีให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักสองสามวัน ตอนนี้ผมมีที่ๆดีกว่านั้นแล้ว” ซูเฉินกล่างด้วยรอยยิ้ม
“หรือคุณกำลังหมายถึงอุโมงค์เหมือง?” ดวงตาของหยางหลิงเทียนเป็นประกาย
มีซอมบี้อยู่หลายหมื่นตัวในเหมือง และปริมาณของมัน ผ่านเกณฑ์ที่จะถูกเรียกว่าคลื่นซอมบี้ขนาดเล็ก
นอกจากนี้ การล่าซอมบี้ที่นั่นมีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือแทนที่จะต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้ทีเดียวนับหลายพัน ซูเฉินสามารถล่อพวกมันออกมาทีละฝูงได้ เรื่องนี้ช่วยให้พวกเขามีเวลาเตรียมตัวและพักหายใจได้อย่างเต็มที่
ด้วยวิธีนี้ จะสามารถล่าซอมบี้ได้เป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องพบเจออันตรายใดๆ
หลังวางแผนกันดีแล้ว ทั้งสามสนทนากันอีกครู่หนึ่ง ก่อนซูเฉินจะลุกขึ้นและเดินไปหาตันหลิน
เดิมเขาต้องการคุยกับตันหลินคนเดียวสักพัก แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตันหลินกับหยางเฉียนตัวติดกันตลอดเวลา ทั้งสองดีต่อกันเหมือนพี่สาวน้องสาว
หยางเฉียนมีใจให้เขา ซูเฉินตระหนักถึงมันได้ไม่มากก็น้อย คราวนี้หากปล่อยให้เวลาผ่านไป ไม่ทราบว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างไร
แต่เมื่อโอกาสไม่เป็นใจ เขาจึงหันไปเข้าร่วมวงกับพวกสือต้าหนิวแทน
….
พักผ่อนหนึ่งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น [รถศึกอัจฉริยะ] ก็เริ่มขับเคลื่อน มุ่งหน้าไปยังทางเข้าอุโมงค์เหมือง
เนื่องจากมีคนเยอะมากเกินไป ซูเฉินรู้สึกว่าพื้นที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงอัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] อีกรอบ
[รถศึกอัจฉริยะ] หลังจากที่อัพเกรดแล้ว ความยาวของมันเพิ่มเป็น 20 เมตร กว้าง 5 เมตร และสูง 3 เมตร มีสภาพเดียวกับตู้ขบวนรถไฟ
หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จอดลงที่ป่าเล็กๆ ห่างจากอุโมงค์เหมืองหลายร้อยเมตร
ซูเฉินยังคงจำได้ ว่าในตอนที่เขามาที่นี่ครั้งแรกเพื่อล่าซอมบี้ เขาก็อยู่ในป่าโปร่งแห่งนี้
พอลงจากรถ ซูเฉินเหลือบมองไปรอบๆ แต่กลับไม่พบซอมบี้เลย
บริเวณโดยรอบเงียบสงัด วังเวงจนดูน่าขนลุกเล็กน้อย
“ทำตามแผน ฉันจะไปล่อซอมบี้ พวกคุณรออยู่ที่นี่” หลังจากกำชับ ซูเฉินกับ [นักรบจักรกล] ก็ค่อยๆเดินเข้าไปในเหมือง
ระหว่างทางมาที่นี่ พวกเขาทั้งหมดได้ตกลงกันแล้ว ว่าซูเฉินกับ [นักรบจักรกล] จะรับหน้าที่สังหารซอมบี้ทั้งหมด ส่วนคนอื่นๆรับผิดชอบในการขุดหินพลังงาน และซ่อนตัวเท่านั้น
มาถึงขอบอุโมงค์เหมือง ซูเฉินกวาดสายตามองลงไป แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้ว พึมพำเล็กน้อย “ทำไมจำนวนของพวกมันถึงลดลง ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน”