7/10

 

Ep.1101

 

ฐานฝึกตนของนกสำรวจเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความสามารถในการรับรู้ถึงสมบัติยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ใช้เวลาไม่นาน ซูเฉินก็หาหินแก่นแท้พลังงานเจอ รวมถึงศิลาดารามรกตอีกสองก้อน

 

ได้แร่ทั้งสามมา มุมปากของซูเฉินยกยิ้มอย่างอดไม่ได้

 

ด้วยหินแก่นแท้พลังงานในมือ เขาสามารถปลุกหุ่นเชิดในขอบเขตเทพเจ้าได้แล้ว

 

ยิ่งถ้านับรวมศิลาดารามรกตที่ได้มากับตอนแรก ทั้งสิ้นเป็นสามก้อน ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยยกระดับให้อสูรเทพปลุกพลังเลื่อนขั้นสู่เทวะขั้น 10

 

และหลังจากให้มันกลืนกินโครงกระดูกของพยัคฆ์วิญญาณสีชาด มันก็จะเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถวิวัฒนาการ ปลุกสุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เขาได้ และยังมอบพวกมันแก่สมาชิกคนอื่นๆได้อีกด้วย

 

ซึ่งเรื่องนี้ เป็นอะไรที่ซูเฉินตั้งตารอมาก

 

วัตถุประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ นับว่าจบลงแล้ว แต่ซูเฉินยังไม่หยุด เขาเดินกลับไปยังที่ตั้งของตราหยกกำเนิดเซียนอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือออกไปคว้ามัน

 

วินาทีที่สัมผัสโดน ตราหยกกำเนิดเซียนหายวับไปกลางอากาศ

 

ไม่นาน ประตูแสงก็ปรากฏขึ้นแทนที่มัน

 

ซูเฉินเพ่งสายตาสำรวจดู แล้วก้าวไปข้างใน

 

หลังจากเกิดอาการโลกหมุน ซูเฉินพบว่าตัวเองกลับมายังสถานที่สาบสูญแล้ว และยังมาโผล่ในทะเลสาบที่เดิม

 

“ซูเฉิน นี่เจ้ารวบรวมตราหยกกำเนิดเซียนได้ครบแล้วหรือ?” ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวน เอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น

 

ซูเฉินพยักหน้า นำตราหยกกำเนิดเซียนทั้งหมดออกมา

 

“ดี ดีมาก! ว่าแต่เจ้าต้องการเข้าสู่เขตแดนลับตอนนี้เลย หรือต้องการรออีกสักสองสามวัน?” เสิ่นหยวนเอ่ยถาม

 

เมื่อเขตแดนลับถูกเปิดขึ้น จะไม่สามารถออกมาได้ระหว่างทาง จำเป็นต้องรอให้ครบกำหนดสามเดือน

 

“ไปเลย” ซูเฉินตอบอย่างมั่นใจ

 

เวลาไม่คอยท่า หวูซางเอ่ยว่าสามารถยื้อเวลาให้ได้มากที่สุดแค่ไม่เกินครึ่งปี ซูเฉินไม่อาจเกียจคร้าน

 

“ได้ ข้าจะเปิดเขตแดนลับให้เดี๋ยวนี้”

 

เสิ่นหยวนก็ไม่พูดพล่ามทําเพลงเอื้อมมือออกไปแตะที่แผ่นหยกกําเนิดเซียน ท่องงึมงำอยู่หลายคำ

 

เห็นแค่เพียง ตราหยกกำเนิดเซียน ลอยขึ้นไปในอากาศ เปล่งรัศมีแสงอันน่างดงามตระการตา

 

ไม่กี่อึดใจต่อมา ตราหยกกำเนิดเซียน ก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย และปรากฏประตูแสงขึ้นแทนที่มัน

 

“ซูเฉิน จงใช้เวลาของเจ้าให้คุ้มค่า” เสิ่นหยวน กล่าว

 

“ผู้อาวุโส เช่นนั้นผมขอตัว”

 

ซูเฉินสูดหายใจลึก ก้าวหนึ่งเท้าย่างเข้ากลางประตูแสง

 

วินาทีถัดมา เขาพบว่าตัวเองมาโผล่ท่ามกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้บานสะพรั่ง อากาศสดชื่นเป็นพิเศษ ทั้งยังส่งกลิ่นอายพลังวิญญาณจางๆไปทั่ว

 

ซูเฉินหรี่ตาแล้วกวาดมองไปรอบๆ

 

เมื่อสายตาไปหันไปถึงกลางหุบเขา การแสดงออกทางสีหน้าเขากลายเป็นแข็งค้างไป

 

เห็นแค่เพียงใจกลางภูเขาสองลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางหุบเขา แท้จริงแล้วนั่นมิใช่ภูเขาธรรมดา แต่เป็นสมบัติทั้งสิ้น!

 

ลูกแรกคือภูเขาแร่ชั้นยอด มันอุดมไปด้วยหินพลังงานและทรัพยากรสำหรับฝึกตน

 

ส่วนอีกลูก ล้วนเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะทั้งสิ้น

 

กระทั่งซูเ​ฉินที่เคยได้ครอบครองสิ่งประดิษฐ์เทวะมามากมาย เวลานี้ยังอดกระสับกระส่ายไม่ได้

 

ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนเคยกล่าวเอาไว้ว่า มีทรัพยากรฝึกตนมากมายในเขตแดนลับ

 

แต่เขาไม่คาดหวังว่ามันจะมากขนาดนี้ สามารถพูดได้เลย ว่าด้วยทรัพยากรฝึกตนเบื้องหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ หรือคนใน [มิติสันโดษ] ทั้งหมดย่อมสามารถยกระดับไปขั้นสูงได้แน่นอน

 

หลังจากจมอยู่ในภวังค์มาพักหนึ่ง ซูเฉินเปิด [มิติสันโดษ] และ [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เรียกทุกคนออกมา

 

เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ตอนแรกฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆต่างสับสน

แต่เมื่อพวกเขาพบทรัพยากรฝึกตน และสิ่งประดิษฐ์เทวะกองเท่าภูเขา ทุกคนตะลึงงัน

 

“ซูเฉิน ที่นี่มันที่ไหนกัน? เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

 

ฉีชิงเฉวียนเดินมาข้างซูเฉิน ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

ซูเฉินไม่ได้ปิดบัง บอกเล่าเรื่องราวของเขตแดนลับให้ฟัง

 

เมื่อรู้ว่าสามารถฝึกฝนที่นี่ได้เป็นเวลา 100 ปีโดยไม่ต้องระวังสิ่งใด ทุกคนตื่นเต้นเกินบรรยาย

 

คุณสามารถลองจินตนาการดูได้ ว่าเมื่อมีทรัพยากรฝึกตนให้ใช้สอยอย่างไม่สิ้นสุด ควบคู่ไปกับระยะเวลา 100 ปี กำลังรบของพวกเขาย่อมพุ่งทะยานติดปีกอย่างแน่นอน

 

8/10

 

Ep.1102

 

ต่อมา ซูเฉินเริ่มจัดสรรทรัพยากรฝึกตน และให้แต่ละคนเลือกสิ่งประดิษฐ์เทวะที่พวกเขาสามารถใช้ได้

 

ทุกคนในกลุ่มต่างได้รับทรัพยากรฝึกตน แยกย้ายกันมองหาสถานที่ฝึกฝนของตัวเอง ร้อนวิชาอย่างลองของใหม่กัน

 

ซูเฉินเดินมาข้างอู๋หยาจื่อ ถามเสียงต่ำว่า “ผู้อาวุโส เรื่องสร้างกระบี่เทวะคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?”

 

[หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] คือวิชาในระดับสุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์ อำนาจทำลยาล้างของมันเกินกว่าร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่งไม่รู้ตั้งกี่เท่า ติดก็ตรงต้องมีกระบี่เทวะทั้ง 5,000 เล่มที่เป็นปัญหาใหญ่

 

แต่ด้วยระยะเวลาร้อยปี การสร้างมันก็น่าจะมีปัญหา

 

“สร้างเพิ่มได้อีก 312 เล่ม ” อู๋หยาจื่อกล่าวเสียงขรึม

 

กระบี่เทวะไม่ใช่อาวุธธรรมดา หลายวันมานี้เขานำปรมาจารย์ด้านหลอมอุปกรณ์หลายสิบคนช่วยกันสร้างทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ได้แค่เท่านี้

 

ซูเฉินค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะหากอู๋หยาจื่อและคนอื่นๆสามารถสร้างกระบี่เทวะได้ขนาดนี้ด้วยระยะเวลาไม่ถึงปี บวกกับกระบี่อีก 100 เล่มก่อนหน้านี้ เท่ากับว่าผลิตได้ 400 กว่าเล่มแล้ว

 

ด้วยอัตราเร็วนี้ คิดว่าใช้เวลาแค่ 10 ปีก็คงสร้างกระบี่ได้ครบทั้ง 5,000 เล่ม

 

“ผู้อาวุโส ลำบากท่านแล้ว” ซูเฉินกล่าวอย่างซาบซึ้ง

 

“คนกันเอง ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ” อู๋หยาจื่อหัวเราะ

 

ซูเฉินมีบุญคุณยิ่งใหญ่ต่อเขา เรื่องแรกเลยคือมอบผลอายุวัฒนะ ช่วยให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป

 

หลังจากนั้นได้มอบ [โพชั่นกายภาพ] ช่วยยกระดับเขา ทั้งยังช่วยฆ่าจี้ชางจื่อ แก้แค้นได้สำเร็จ

 

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม เขาถึงยอมช่วยซูเฉินสร้างกระบี่เทวะอย่างเต็มใจ

 

หลังจากนั้น ซูเฉินส่งอู๋หยาจื่อกับพวกปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์ทั้ง 10 จากเผ่าคนแคระเข้าไปใน [มิติสันโดษ] และเริ่มจัดการชิ้นส่วน

 

สามชั่วโมงต่อมา ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกคัดแยกเรียบร้อย และจำนวนแต้มพลังงานสะสมคือ 1,000,000 จุด!

 

แม้ดูเหมือนเยอะ แต่มันสามารถใช้แลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 19 อย่างเต็มรูปแบบ] ได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น เพราะชิ้นส่วนดังกล่าว ต้องการแต้มพลังงานสูงถึง 700,000 จุด !

 

อย่างไรก็ตาม ในถุงเก็บของยังมีสิ่งประดิษฐ์เทวะอีกไม่น้อย บวกกับข้างในเขตแดนลับ

 

หลังจากจับไปย่อยสลายทั้งหมด น่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานได้อีกล้านนึง

 

ซึ่งนั่นเพียงพอที่จะใช้แก้ปัญหาในการยกระดับสู่ ระดับเทวะขั้น 9

 

แต่หลังจากนั้นเล่า? เมื่อไม่อาจหาแต้มพลังงานได้แล้ว การเลื่อนขั้นสู่เทวะขั้น 10 จะเอายังไงดี

 

ซูเฉินเค้นสมองอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานก็คิดวิธีแก้ปัญหาได้

 

เขามีศิลาสายฟ้าต้นเชี่ยนที่มีน้ำหนักหลายแสนจินอยู่นี่นา ซึ่งแม้จะใช้สร้างกระบี่เทวะได้ครบทั้ง 5,000 เล่มแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเหลืออีกมาก

 

ส่วนที่เหลือ เขาจะมอบให้อู๋หยาจื่อช่วยสร้างสิ่งประดิษฐ์เทวะต่อไป จากนั้นนำไปแปลงใน [เครื่องย่อยสลายสิ่งประดิษฐ์เทวะ] เพิ่มแต้มพลังงาน

 

ก็จะตัดปัญหาใหญ่เรื่องไม่มีแต้มใช้แลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 21 อย่างเต็มรูปแบบ] ทันที

 

นึกได้แบบนี้ หัวใจของซูเฉินค่อยผ่อนคลายลง

 

หลังจากนั้น เขาไม่รีบร้อนปิดด่านฝึกตน ตั้งใจขึ้นเตียงกับตันหลินและหยางเฉียนสักสองสามคืน แล้วค่อยว่ากันใหม่

 

ด้วยกระแสเวลาที่ไหลช้าของเขตแดนลับ ได้พักผ่อนสักนิดไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

 

 

กาลเวลาดั่งกระแสน้ำที่ไม่อาจไหลย้อนกลับ วัน เดือน ปี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

เสมือนชั่วพริบตาเดียว ร้อยปีก็ผ่านพ้นไป

 

หลังจากร้อยปีของการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทุกคนราวกับติดปีกโผบิน

 

ฉีชิงเฉวียน และซางฉุยซานได้เลื่อนขั้นเป็น ระดับเทวะขั้น 10 แล้ว

 

ส่วนฉีมู่เฟิงและฉีมู่เล่ยต่างเลื่อนขั้นเป็น ระดับเทวะขั้น 9

 

กระทั่งพวกหานเฟิงและคนอื่นๆที่มีฐานฝึกตนต่ำสุดก็ยังสามารถก้าวสู่ระดับเทวะได้สำเร็จ

 

ด้วยประการฉะนี้ ทำให้กำลังรบในกลุ่มของซูเฉินสามารถเรียกได้ว่าเป็นกองทัพระดับเทวะได้แล้ว!

 

ทางด้านสัตว์เลี้ยงวิญญาณ หากไม่นับหมาป่ากลายพันธุ์สามตัวที่อยู่ใน ระดับเทวะขั้น 3 อสูรเทพปลุกพลัง สามารถหวนคืนสู่ขอบเขตเทพเจ้าได้สำเร็จ

 

นอกจากนี้ [รถศึกอัจฉริยะ] , หุ่นเชิดทองคำ และ [นักรบจักรกล] ต่างก็ได้อัพเกรดเป็น ระดับเทวะขั้น 10 กันถ้วนหน้า

 

สำหรับหุ่นเชิดในขอบเขตเทพเจ้า หลังจากติดตั้งหินแก่นแท้พลังงาน มันก็ตื่นจากนิทรา