ไซตามะต่างโลก Ep.7 – ออกสู่ทะเล

“เหอะ! ช่างหัวนาย ฉันไม่สนแล้ว!”

เอสกำหมัดแน่น ร้องตะโกน “ไม่ว่ายังไงฉันก็จะออกทะเลอยู่ดี จากนั้นก็จะต่อสู้และเอาชนะ ชนะ และชนะไปเรื่อยๆ! ต่อให้ชื่อของฉันมันจะกลายเป็นความหมายของความน่าสะพรึงกลัวก็ตาม แต่สุดท้ายฉันก็จะได้ครอบครองวันพีช! กลายเป็นราชาโจรสลัดที่ทุกคนนับถือ ถึงเวลานั้นถ้าฉันไปเยาะเย้ยนายก็อย่ามาตำหนิกันก็แล้วกัน!”

“ทำไมถึงต้องเป็นราชาโจรสลัดด้วย?”

ไซตามะเหลือบมองไปทางเอส และค่อยๆกล่าวอย่างช้าๆ “เจ้าหนู ถ้านายต้องการเป็นที่นับน่าถือตาของคนอื่น งั้นนายมาเป็นฮีโร่ไม่ดีว่าหรอ? ฮีโร่น่ะขอแค่ทุ่มเทความพยายามทำสิ่งดีๆให้มากพอ ก็จะได้รับการยอมรับแล้ว แต่โจรสลัดน่ะมันตรงกันข้าม พวกมันต้องทำให้ทุกคนหวาดกลัวถึงจะได้รับการนับถือ … ลองคิดดูดีๆอีกครั้งเถอะเอส”

เอสตัดจบบทสนทนา “นายมันไม่เข้าใจอะไรเลย” และเดินจากไปด้วยความผิดหวัง

ลูฟี่ไล่ตามเอสไป ส่วนการ์ปก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย สุดท้ายก็เลือกเดินตามหลานของตนไปอย่างเงียบๆ

สำหรับซาโบ้ …

ในวันต่อมา

เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเยาว์วัยก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ได้โปรดรับฉันเป็นลูกศิษย์ด้วยเถอะนะ อาจารย์ไซตามะ!!”

อย่างไรก็ตาม ไซตามะไม่ได้ตอบกลับไป เขายังคงนอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนพื้น แต่จู่ๆเจ้าตัวก็เห็นว่ามีใบหน้าเล็กๆค่อยๆมุดเข้ามาจากหลังหนังสือพิมพ์จนเขาตกใจ

หลังจากที่เห็นว่าเป็นซาโบ้ ไซตามะก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “แค่คิดก็น่ารำคาญแล้ว ฉันขอปฏิเสธ!”

“อาา-”

ใบหน้าน้อยๆของซาโบ้เต็มไปด้วยความผิดหวัง “ได้โปรดเถอะ ฉันจะขยันฝึกให้มากเข้าไว้ ถ้าลุงยินดีเป็นอาจารย์ให้ ฉันในฐานะลูกศิษย์ขอรับรองเลยว่าจะไม่ทำให้ลุงต้องขายหน้า!”

‘เฮ้อ … ’

‘มันไม่เกี่ยวกับเรื่องขยันไม่ขยันหรอกนะเจ้าหนู แต่มันเป็นเพราะฉันไม่อยากรับศิษย์อีกแล้วต่างหาก’

‘แค่มีเจนอสคนเดียวก็น่าปวดหัวพออยู่แล้ว … ’

“ไม่ ไม่ ไม่!!”

ไซตามะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เขาลุกขึ้น หยิบหนังสือพิมพ์เดินหนีเข้าไปในห้องน้ำ และปิดประตูลงเพื่อที่จะได้ตั้งใจอ่านมันอย่างช้าๆ

ยังไงก็ตาม หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีกว่าๆ หัวเล็กๆที่สวมหมวกทรงสูงก็ค่อยๆห้อยลงมาจากเพดาน

“อาจารย์ไซตามะ ได้โปรดรับฉันเป็นลูกศิษย์ด้วยเถอะ!”

“ไม่โว้ย!”

มุมปากของไซตามะกระตุกเล็กน้อย “ยังไงก็เหอะ ทั้งๆที่ห้อยหัวลงมาแท้ๆ แต่ทำไมหมวกเอ็งมันถึงไม่ตกลงมากันฟะ! ”

ในเช้าวันที่ 2

แสงยามรุ่งยังไม่ทันโผล่พ้นจากท้องฟ้า

แต่จู่ๆก็มีร่างเล็กๆคลานเข่าเข้ามานั่งข้างเตียงของไซตามะที่กำลังหลับ ยื่นหน้าไปกระซิบข้างหู “อาจารย์ไซตามะ ได้โปรดยอมรับฉันเป็นศิษย์ … ”

‘ผึง!’

เสียงเส้นเอ็นบนหน้าผากขาดออกจากกัน

ไซตามะลุกขึ้นนั่ง จ้องมองไอ้เด็กดื้อรั้นด้วยอาการปวดหัว

“ฟังนะซาโบ้ ฉันบอกว่า ..”

แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจอย่างกระทันหัน เอ่ยถามออกไปแทน “ปีนี้นายอายุเท่าไหร่?”

“ซัก .. สิบขวบเห็นจะได้”

“อายุแค่นี้แต่ก็มีความคิดที่จะแข็งแกร่งขึ้นซะแล้ว”

ไซตามะถอนหายใจ เอ่ยให้กำลังใจอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก “ส่วนฉันน่ะ กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะต้องแข็งแกร่ง อายุก็ปาเข้าไปตั้ง 22ปีแล้ว เอาเถอะ ในเมื่อนายต้องการจะรู้เคล็ดลับของความแข็งแกร่ง งั้นฉันจะบอกนายก็ได้ แต่มันยากมากเลยนา ไม่แน่ใจว่าเด็กอย่างนายจะสามารถทนได้ไหม ..”

ซาโบ้แสดงออกถึงความสุขทันที “ไหวอยู่แล้ว! ต่อให้ไม่ไหวฉันก็จะพยายาม! บอกมาได้เลยอาจารย์ไซตามะ”

“ฟังให้ดีนะซาโบ้ … ฉันใช้เวลากว่าสามปีถึงจะแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างในวันนี้ ..”

ไซตามะสูดหายใจเข้าลึกๆ ร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าอยากจะให้ฉันสอน งั้นจากนี้ไปนายนายจะต้องทำแบบฉัน นั่นก็คือ-”

“วิดพื้น 100 ครั้ง!”

“ซิทอัพ 100 ครั้ง!”

“ลุกนั่ง 100 ครั้ง!”

“แล้วก็วิ่งอีก 10 กิโลเมตร!”

“ทำแบบนี้ทุกวัน โดยไม่มีวันหยุด!”

หา?

ซาโบ้กลายเป็นว่างเปล่า

เด็กน้อยถึงขั้นกระทั่งคิดว่าหูตัวเองกำลังมีปัญหา

“แน่นอนว่าต้องไม่ลืมที่จะกินให้ครบวันละ 3 มื้อ! ส่วนในเรื่องการฝึกฝนจิตใจ ไม่ว่าจะฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ก็ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศโดยเด็ดขาด!”

ไซตามะไม่ทันได้ตระหนักถึงสีหน้าโง่งมของซาโบ้ เขายังคงพูดต่อ “ในช่วงแรกๆ ฉันทรมานชนิดเจ็บปวดเจียนตาย และเผลอคิดว่าน่าจะหยุดสักวันหนึ่งขึ้นมาเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะได้เป็นฮีโร่ผู้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะทรมานแค่ไหน หรือเลือดสาดกระเซ็นเพียงใดก็ต้องทำมันต่อเนื่องทุกๆวัน! ”

“ต่อให้กระดูกทั้งร่างกายส่งเสียงลั่นเปรี๊ยะๆออกมาก็ห้ามหยุด! จงกัดฟันสู้ แล้วสุดท้ายหลังจากนั้นอีกปีครึ่งต่อมา … ”

“ฉันก็หัวล้าน -แต่ขณะเดียวกันก็แข็งแกร่งขึ้นสมปรารถนา”

“นี่ … นี่ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม?”

ซาโบ้เท้าคางด้วยความสงสัย พูดในสิ่งที่คิด “ในเรื่องการออกกำลังกายอย่างหนัก ทุกๆวันฉันกับเอสก็ออกไปสู้อยู่แล้ว แถมบางทียังออกแรงมากกว่าที่อาจารย์ไซตามะบอกมาซะอีก .. แต่ทำไมกัน ทำไมฉันถึงไม่สามารถแข็งแกร่งได้เหมือนกับอาจารย์ไซตามะ … เอ๊ะ? ใช่เพราะว่าหัวไม่ได้ล้านรึเปล่านะ?”

“ เดิมทีฉันคิดว่ามันเป็นเพราะพลังจากผลปีศาจซะอีกที่ทำให้อาจารย์แข็งแกร่งขึ้นและหัวล้าน”

หลังจากที่ได้อ่านหนังสือพิมพ์มาหลายวัน ไซตามะก็รู้ว่าผลปีศาจคืออะไร

“อย่ามาล้อเล่นนะ!”

ไซตามะยกมือขึ้นมากดค้างไว้ที่หน้าอกตัวเอง กล่าวด้วยความชอบธรรม “ไม่ว่าจะเป็นการดัดแปลงร่างกายมนุษย์ หรือเพราะพลังของผลปีศาจ แน่นอนว่ามันย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะยกระดับขึ้นมาได้เท่าเทียมกันกับฉัน! นี่คือความแข็งแกร่งที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นความแข็งแกร่งของมนุษย์! เข้าใจรึเปล่าซาโบ้!”

“เข้าใจแล้วครับอาจารย์!”

ซาโบ้ผุดลุกขึ้นจากพื้น “ถ้างั้นจากนี้ไปฉันจะใช้วิธีการฝึกนี้เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! แล้วสุดท้ายฉันก็จะกลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งเหมือนกับอาจารย์! … ถึงแม้ว่าจะต้องหัวล้านก็ตามที … ”

ว่าจบ ซาโบ้ก็เปิดหน้าต่าง แล้วกระโจนลงไปทันที

ได้ยินแค่เพียงเสียง ‘หนึ่ง , สอง , สาม … ’ ดังขึ้นมาจากด้านล่าง ไซตามะก็ถอนหายใจ และล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง

อาาาา

ในที่สุดก็จัดการกับลูกตื๊อของเจ้าเด็กบ้านั่นได้ซักที

เจนอสเป็นไซบอร์ก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยวิธีออกกำลังกาย แต่เด็กคนนี้แตกต่างออกไป … ฉันหวังว่าวิธีการฝึกนี้จะจะช่วยเขาได้จริงๆนะ

ด้วยเหตุนี้เอง 3 วันจึงผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว

ไซตามะตามการ์ปขึ้นเรือรบ และออกจากที่นี่ไป

ในวันออกเดินทาง ซาโบ้ยืนอยู่ตรงท่าเรือ โบกไม้โบกมือให้กับไซตามะ และมีมากิโนะออกมาเตรียมสัมภาระและอาหารสำหรับเขา

ส่วนเอส เขานั่งอยู่บนหลังคาบ้านรังโจร สายตาเฝ้ามองออกไปในท้องทะเล ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ชั้นล่างของบ้าน ลูฟี่ยังคงร้องตะโกนออกมาดดังๆ “เอสสสส! มาเป็นเพื่อนกันเถอะ!”

ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น

ยังไงก็ตาม ตั้งแต่วันนี้ไป

ชายหัวล้านที่แกร่งพอจะเขย่าสวรรค์ สั่นสะเทือนปฐพี ก็ได้ออกเดินทางสู่แกรนไลน์แล้ว!

….

เรือรบขับเคลื่อนด้วยลมและคลื่น แล่นไปตามทะเลอย่างต่อเนื่อง

โดยมีจุดหมายปลายทางก็คือ – ศูนย์ใหญ่กองทัพเรือมารีนฟอร์ด!

ด้วยการแนะนำของการ์ป และหนังสือข้อมูลของทางกองทัพเรืออีกหลายฉบับ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกใบนี้ของไซตามะจึงเพิ่มมากยิ่งขึ้น

‘เรดไลน์ คือเทือกเขาสูงขนาดใหญ่ที่คอยปิดกั้น แบ่งท้องทะเลออกเป็นสองส่วน โดยครึ่งแรกถูกปกครองโดยรัฐบาลโลก ขณะที่อีกส่วนหนึ่งถูกปกครองโดยกลุ่มอำนาจโจรสลัดที่เรียกตัวเองว่า ‘สี่จักรพรรดิ’ ’ ซึ่งโจรสลัดที่เข้ามาในดินแดนส่วนนี้ ถ้าไม่อยากถูกทำลาย ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะยอมอยู่ใต้อาณัติพวกเขาเท่านั้น!

“ในปัจจุบัน กองทัพเรือและรัฐบาลโลกไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนอย่างที่เคยเป็น … ”

บนดาดฟ้าเรือ ไซตามะกับการ์ปยืนพิงราวระเบียง พูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ “เป็นเพราะว่าโรเจอร์ได้ตายลง โจรสลัดนับไม่ถ้วนเลยเหิมเกริม พากันออกทะเล ทั้งปล้น ทั้งฆ่า เมื่อวันเวลาผ่านไป ทั่วทั้งท้องทะเลก็ตกอยู่ในความปั่นป่วน ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาสมดุลเอาไว้ จึงถือกำเนิดสิ่งที่น่ารังเกียจอย่าง ‘เจ็ดเทพโจรสลัด’ ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

ไซตามะเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า “อาาา ถ้าเรื่องนั้นฉันเองก็พอจะเข้าใจความรู้สึกนะ เพราะทางสมาคมฮีโร่เองก็ยังต้องคอยรับสมัครพวกหน้าใหม่ที่นิสัยไม่ดีเพื่อมาจัดการกับมนุษย์ประหลาดอยู่เหมือนกัน … ”

“รัฐบาลโลกได้ยอมรับอาชญากรรมของเจ็ดเทพโจรสลัด ความยุติธรรมได้ถูกทำให้ต้องอับอาย”

การ์ปหันมามองไซตามะ สายตาของเขาคล้ายสามารถเจาะทะลุ มองเข้าไปได้ถึงจิตวิญญาณที่อยู่ภายใน “แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ตั้งแต่แวบแรกที่ฉันได้เจอนาย ฉันกลับรู้สึกว่านายจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้ … ด้วยความยุติธรรมของนาย , ด้วยความแข็งแกร่งของนาย ในยุคที่เต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายนี้มันนับว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าอย่างแท้จริง!”